"แพท ช่วงนี้ตารางงานแน่นเกินไปแล้วไหม"
ผู้จัดการส่วนตัวที่ณพลส่งมาให้ดูแลแพททริเซียเอ่ยถามเมื่อวันนี้เขาต้องพาเธอวิ่งรอกงานอีเวนต์งานที่สอง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาแพททริเซียรับงานไม่มีวันหยุด อย่างวันนี้เสร็จงานอีเวนต์เปิดตัวโปรตีนผงแบบชงดื่มรสชาไทยที่เตรียมตีตลาดโลกที่ห้างกลางเมืองแล้ว ตอนกลางคืนแพททรีเซียก็มีคิวถ่ายละครที่สตูดิโอย่านชานเมืองอีก
"แพทก็เริ่มคิดว่ามันแน่นไปแล้วพี่เค" เธอบอกอีกฝ่ายเสียงเนือย ๆ คล้ายจะหมดแรง พอขึ้นรถตู้มาหญิงสาวตาปรือแบบพร้อมจะหลับเพราะช่วงที่เดินทางจากห้างไปสตูดิโอถ่ายทำละครเป็นโอกาสทองที่เธอได้พักผ่อนเอาแรง
"หนูเป็นหนี้หรือเปล่าลูก"
นักแสดงสาวทำหน้าเหนื่อย ๆ คำพูดประชดเล่น ๆ ของผู้จัดการไม่ได้หนีความจริงเลย
เธอเป็นหนี้จริง ๆ นั่นแหละ! หญิงสาวมองบนเมื่อนึกถึงเจ้าหนี้ที่เธอบากหน้าไปขอเสนอตัวแลกหนี้เขาก็ปฏิเสธเธอเสียงแข็ง แต่ณพลไม่ได้เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของเธอ เขาเพิ่มคิวการทำงานและเงินค่าจ้างล่วงหน้าก้อนโตจากบริษัท
"เอาเงินไปใช้ก่อน เดี๋ยวพี่จะให้ผู้จัดการรับงานเพิ่ม แล้วค่อยหักจากค่าตัวเราไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด" เขาบอกหลังจากพาเธอไปที่แผนกบัญชีเพื่อออกเซ็นเช็คเงินสดให้เธอในนามของบริษัทพลอยมันตรา
แพททริเซียรู้อยู่แล้วว่าเขาจะไม่ฉวยโอกาสกับเธอ
"แต่แพทไม่อยากได้เงินจากใครฟรี ๆ แพทอยากตอบแทน" หญิงสาวทำสีหน้าลำบากใจ
"ถ้าจะตอบแทนก็ตอบแทนด้วยการตั้งใจทำงาน ไม่ต้องคิดจะมาตอบแทนเป็นการส่วนตัวกับพี่ เพราะพี่ไม่กินไก่วัด"
เขาบอกเน้นย้ำ
เหตุการณ์วันนั้นทำให้เธอเป็นคนที่ต้องทำงานหนักแบบไม่ได้พักอยู่ในตอนนี้
แต่แพททริเซียก็ยังหยุดไม่ได้... หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความหาณพลอีกครั้ง
'แพทลำบากอีกแล้วค่ะ ช่วยแพทอีกสักครั้งได้ไหมคะ'
'ต้องการอีกเท่าไหร่' เขาส่งข้อความกลับมาโดยที่ไม่ถามว่าเธอเอาเงินไปทำอะไร ดูเหมือนว่าณพลจะพอใจกับการแก้ปัญหาแบบนี้ เพราะเขาให้ทนายและนักบัญชีของเขาจ่ายเงินให้เธอก่อนในนามของผู้ให้กู้แบบปลอดดอกเบี้ย โดยเงินรายได้ของเธอห้าสิบเปอร์เซ็นต์จะถูกหักออกจากยอดหนี้ แน่นอนว่ายิ่งเธอยืมมากเท่าไร มันก็เหมือนเป็นการผูกมัดเธอไว้กับบริษัทมากขึ้นเท่านั้น เพราะเธอต้องทำงานเพื่อให้ได้ใช้หนี้ไปเรื่อย ๆ เขาจึงไม่ลังเลที่จะจ่ายเงินให้เธอยืม...
แพททริเซียเม้มปาก นอกจากจะโหดแล้วเขายังเป็นคนที่เขี้ยวที่สุดในปฐพี ความฉลาดแยบยลของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าเธอจะแพ้ไม่ได้...
หญิงสาวอ่านข้อความที่เขาตอบกลับมา แต่ไม่ตอบกลับไปว่าต้องการเงินเท่าไร
งานนี้เธอจะทำให้เขาว้าวุ่นได้บ้างหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้ หึ หึ หึ
ตารางงานยุ่ง ๆ ของแพททริเซียถูกเว้นว่างไว้หนึ่งวัน เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของแดดดี้พอล บิดาของนางเอกสาวเอง ด้วยความที่รู้ว่าลูกสาวคิวงานแน่นมากคนเป็นพ่อเลยเดินทางจากบ้านตากอากาศที่ภูเก็ตขึ้นมาฉลองกับเธอที่กรุงเทพฯ
งานนี้แพทย์หญิงปัทมามารดาของเธอก็ติดตามมาด้วย หญิงสาวนอนงีบเอาแรงในช่วงเช้าแล้วช่วงบ่ายก็ขับรถเอสยูวี
สีไข่มุกชมพูไปรับพวกท่านที่สนามบินแล้วเดินทางมายังโรงแรม
ห้าดาวกลางเมือง
"ฉลองวันเกิดปีนี้พิเศษหน่อยนะคะแด๊ด แพทจองโต๊ะที่วิวดีที่สุดของโรงแรมเอาไว้แล้ว"
"แด๊ดภูมิใจในตัวลูกสาวคนเก่งของแด๊ดมากเลย ขนาดงานยุ่งยังมีเวลาให้แด๊ด"
"แพทเป็นลูกสาวแด๊ด จะมองข้ามได้ไงคะ" หญิงสาวท้วงขึ้นมา แล้วทั้งบ้านก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ว่าแต่มีอะไรพิเศษกว่าปาร์ตี้วันเกิดแด๊ดหรือเปล่าคืนนี้เราถึงได้ชวนพ่อแม่ของแซมไปฉลองด้วย"
แซมที่แด๊ดเธอพูดถึงคือ พี่ษมา พี่ชายคนสนิทที่แพททริเซียมีข่าวด้วยบ่อย ๆ เขาเป็นเพื่อนแก๊งเที่ยวของณพล แต่เธอสนิท
กับษมามากเพราะสตีฟบิดาของษมาเป็นเพื่อนกับแด๊ดพอล และคุณมาลีลินทร์มารดาเลี้ยงของเขายังเป็นเพื่อนสนิทของมารดาของเธออีกชั้นหนึ่งด้วย เรียกได้ว่าตอนอยู่ภูเก็ตเธอโตมากับษมาเลย
ก็ว่าได้ เมื่อย้ายมาเรียนต่อและทำงานในวงการที่กรุงเทพฯ การพบปะระหว่างครอบครัวก็ยังมีเหมือนเดิม
"โอ๊ย ไม่มีหรอกค่ะ แพทกับพี่แซมไม่มีวันเป็นได้มากกว่าพี่น้องแน่นอน แด๊ดอย่าแม้แต่จะคิดเดี๋ยวฟ้าผ่าตาย"
ปัทมาฟังสามีกับลูกสาวคุยกันเงียบ ๆ นางพึงพอใจกับคำตอบของแพททริเซียที่สุด ก่อนหน้านี้ษมาก็เคยยืนยันกับนางและพอลว่าไม่เคยคิดเกินเลยคำว่าน้องสาวแน่นอน 'สาบานให้ฟ้าผ่าตายยังได้เลยครับ' หนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษยืนยันเป็นมั่น
เป็นเหมาะ
ถึงพอลจะงงว่าทำไมพวกเขากล้ายืนยันแบบไม่กลัวว่าจะกลับคำได้ขนาดนั้น แต่นางไม่งงและพอใจมากกับความชัดเจน
แต่นักข่าวในวงการบันเทิงนี่สิ ทำไมเขียนข่าวไกลจากความจริงยิ่งนัก
"แม่เห็นพวกหนูชัดเจนกันมากว่าเป็นพี่น้องกัน แต่ทำไมนักข่าวชอบเขียนข่าวถึงพวกหนูจังเลยล่ะลูก ทำไมไม่แก้ข่าวนะ"
"ไม่อยากแก้ค่ะ แพทเป็นข่าวกับผู้ชายหลายคนจนเอียนแล้ว พอเป็นข่าวกับพี่แซมก็ไม่มีข่าวกับคนอื่นอีก ถึงจะขนลุกที่เป็นข่าวกับพี่แซมหน่อย แต่ก็โอเค"
"อย่าบอกนะว่าเราเป็นฝ่ายให้ข่าวเอง" มารดาเห็นลูกสาวพูดแบบนี้ก็ถามอย่างรู้ทัน
"พี่แซมก็เห็นด้วยค่ะ"
"อยากจะบ้าตายรายวัน" ปัทมามองบน "ลูกสาวกับลูกชายทิพย์คนดีของฉันนี่มันขวางโลกเหลือเกิน..."
พอลฟังปัทมาที่มองบนแต่ก็ไม่ปริปากบ่นลูกสาวไปมากกว่านี้แล้วก็หัวเราะออกมา... เป็นอันรู้กันว่าลูกสาวของเขาคนนี้มันแสบเหลือร้าย แต่ถึงจะดื้อรั้นแค่ไหนแพททริเซียไม่เคยทำให้ผิดหวัง
เจ้าตัวรับผิดชอบตัวเองได้ในทุกเรื่องแบบที่ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงเขากับภรรยาจะอยู่ภูเก็ต แต่ก็ยังมีษมาคอยช่วยสอดส่องอีกแรง พอมีข่าวฉาว ๆ ในวงการพวกเขาถามแล้วเจ้าตัวบอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล พวกเขาก็เลิกคิดมากและคอยซัปพอร์ตอยู่ห่าง ๆ และปล่อยให้ลูกสาวได้ทำงานที่รักอย่างเต็มที่ ไม่ก้าวก่ายใด ๆ
ช่วงเย็นสตีฟ มาลีลินทร์ และษมาก็มาสมทบกับครอบครัวของแพททริเซียที่ห้องอาหารหลังจากที่กอดทักทายและอวยพร
วันเกิดให้พอลแล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปนั่งบนโต๊ะดินเนอร์ที่เป็นคอร์สของอาหารฝรั่งเศสพร้อมกับไวน์เลิศรส
หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษก็พูดคุยกัน ปัทมากับมาลีลินทร์ก็หันมาคุยกันเอง ษมากับแพททริเซียเองก็นั่งข้างกันแล้วหันมาคุยกันอย่างออกรสพอกัน
"นี่ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นไปเที่ยวผับเลย งานยุ่งเหรอเรา" ลูกครึ่งไทยอังกฤษวัยยี่สิบเจ็ดปีเอาศอกมาสะกิดน้องสาวแล้วเอ่ยถาม
"อื้อ ตารางแน่นมากกก"
"ไอ้ณพลใช้งานเราหนักเกินไปแล้ว"
หญิงสาวย่นจมูกเมื่อนึกถึงบอสของตัวเอง
พอเธอเล่นบทไม่อ่านข้อความของเขา เขาก็เงียบกลับ
ไม่แคร์กันสักนิดเลย...
"แซมแกล้งอะไรน้อง" มาลีลินทร์ถามลูกชายเมื่อเงยหน้ามาเจอคนที่นางรักพอ ๆ กับษมาหน้างอง้ำ
"แม่ครับ ผมแค่ถามว่างานยุ่งเหรอ แพทก็ทำหน้าแบบนี้เลย ผมเปล่านะครับ"
"จริงเหรอหนูแพท"
"จริงค่ะคุณน้ามาลิน แพทแค่เหนื่อยกับงาน" วันนี้แพททริเซียเลือกที่จะไม่เล่นบทโดนแกล้งให้ษมาโดนมารดาดุ
"เธอเป็นใคร ออกไปจากร่างน้องสาวฉันเลยนะ" พอแพททริเซีย
ดูเป็นคนดีขึ้นมาษมาก็จับไหล่หญิงสาวแล้วเขย่าเบา ๆ แล้วพวกผู้ใหญ่ก็หัวเราะกันขึ้นมาอย่างครื้นเครง
ครอบครัวของพวกเขาสนิทกันมานานจนมีโอกาสได้ผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ มาด้วยกัน จนเด็ก ๆ เองก็ทำตัวเหมือนเป็นพี่น้องแท้ ๆ ดูไปอย่างนี้ก็ไม่เหมือนคนที่จะคิดอะไรกันได้ มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่พวกเขาเด็ก ๆ แล้ว สตีฟกับพอลเลยไม่ได้คาดหวังว่าทั้งคู่จะพัฒนาไปมากกว่านี้
ส่วนแม่ ๆ นั้นก็ไม่เคยพูดถึงเลย เพราะต่างคนต่างก็ขีดเส้นให้ทั้งสองอยู่แล้วว่าเป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้น
แชะ!
แพททริเซียกดถ่ายรูปแก้วแชมเปญสีชมพูฟองฟู่โดยมีฉากหลังเป็นจานกระเบื้องเคลือบของร้านอาหารโรงแรมระดับมิชลินสตาร์ แน่นอนว่าติดแขนของษมามานิดหน่อยพอเป็นพิธี จากนั้นก็โพสต์ลงสตอรีในอินสตาแกรม
"น่าสงสารจัง" ษมาเองก็ชะโงกหน้ามาดูหน้าจอมือถือของน้องสาวแล้วเปรยขึ้นมา
แพททริเซียปิดหน้าจอแล้วเลิกคิ้วถามษมาว่าสงสารทำไม สงสารตัวเองที่เธอยืมแขนมาสร้างกระแสงั้นหรือ...
"ไม่มีแฟนเป็นของตัวเองเลยต้องถ่ายติดคนอื่นวับ ๆ แวม ๆ สร้างกระแสไปวัน ๆ ถ้ามีแฟนคงพาขึ้นรถแห่โชว์ตัวตั้งแต่เชียงใหม่ยันสุไหงโกลก"
"ก็แน่อยู่แล้ว ว่าแต่คืนนี้พี่ไปเที่ยวป้ะ" แพททริเซียยักไหล่กับสิ่งที่ษมาพูด เพราะเป็นที่รู้กันแหละว่าเธอกับเขานั้นโสดสนิท
มาตลอดทั้งที่หน้าตาไม่น่าโสด แต่แค่ษมายังไม่เจอคนโปรดและ
แพททริเซียก็ยุ่งเกินกว่าจะมีเวลาไปศึกษาใครจริงจัง
"ไปกับเพื่อนกลุ่มไหน" พอเขาพยักหน้าเธอก็ถามอีก
"กับเพื่อนแก๊งพระเอก" ษมาตอบไปจิ้มหอยทากย่างเนยเข้าปากไป
เพราะเคยเฉียดเข้าวงการบันเทิงเขาเลยมีกลุ่มเพื่อนในวงการ ช่วงวันศุกร์ษมาจะเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนมหา’ลัยที่มีชื่อแก๊งสุดเฉิ่มว่าสี่จตุรเทพ แก๊งนั้นแพททริเซียก็รู้จักแต่ไม่ค่อยสนิทด้วยเพราะพวกเขาชอบไปดื่มกันที่เลาจน์วีไอพีแบบมีสาวมาชงเหล้าให้ แต่เพื่อนแก๊งพระเอกของษมามักจะไปสถานบันเทิงหรูหราที่ผู้คนคับคั่งเพื่อที่จะได้แดนซ์และเช็กเรตติงตัวเองกับผีเสื้อราตรีสาว ๆ เวลาไปที่สถานบันเทิงเลยเห็นษมากับเพื่อนแก๊งนี้อยู่บ่อย ๆ เพราะแพททริเซียเองก็ชอบไปแดนซ์และเช็กเรตติงกับหนุ่ม ๆ เหมือนกัน
"แพทขอไปด้วยคนนะ"
"ได้ดิ แต่อย่าเมาแบบให้หามกลับนะ ไม่งั้นคราวหน้าจะไม่ให้ไปด้วย" ษมาไม่ปฏิเสธ ถึงยายน้องจะเป็นอุปสรรคในการเต๊าะสาวของเขา แต่ก็ดีกว่าให้เจ้าตัวออกไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนดาราที่ข่าวฉาวว่าเป็นนักท่องราตรีตัวยง เพราะคุยกันตลอดเขาเลยรู้ว่าถึงแม้ยายแพทจะมีข่าวเสียหายแต่ก็ไม่ได้ทำตัวฉาวโฉ่เพียงแค่เจ้าตัวเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองเท่านั้น
แต่ษมาก็รีบหันมามองนางเอกสาวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าหรือบางทียายแพทมันจะเป็นหัวโจกพาเพื่อนท่องราตรีแบบไม่แคร์สื่อ
"แพทไม่เคยเมาหรอก ไม่ต้องกังวล" ว่าแล้วก็กระดกแชมเปญเข้าปาก ก่อนวางแก้วลงโดยไม่สนภาพลักษณ์นางเอกร้อยล้าน
ษมาคิดว่าเขาไม่ได้มองยายเด็กนี่ในแง่ร้ายเกินไปแน่นอน
ส่วนนางเอกสาวนั้นหันมาสนใจกับอาหารแล้วก็ชวนผู้ใหญ่คุย ในหัวของเธอนั้นลุ้นอยู่ว่า บอสของเธอที่เป็นหนึ่งในเพื่อนในแก๊งพระเอกของษมาจะออกมาท่องราตรีด้วยหรือไม่...
แพททริเซียหวังว่าเขาจะมานะ...