ไป๋เยว่ชิง ได้แต่จ้องมองไปที่ใบหน้าของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ของตนอย่างเหม่อลอย
"หลัวหยุนซีสามีในอนาคตของฉัน คุณคือพ่อของลูก"
"ชิงเอ๋อร์หลัวหยุนซีคือผู้ใด สามีและพ่อของลูกในอนาคตอันใดกัน เจ้ารีบบอกพี่มาให้หายข้องใจเดี๋ยวนี้ "
"อ๊ะ..เอ่อ ไม่มีอันใดจริงๆ เจ้าค่ะพี่ใหญ่ ชิงเอ๋อร์เพียงแค่เดินทางมาเหนื่อยๆ อาจจะพูดอะไรเพ้อเจ้อไปบ้าง พี่ใหญ่โปรดอย่าใส่ใจเลย"
"จริงหรืออย่าให้พี่รู้นะว่ามันผู้นั้นเป็นผู้ใด ที่คิดจะมาแย่งน้องสาวสุดที่รักไปจากพี่ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วละก็ พี่จะจัดการมันให้สาสม"
"จริงเจ้าค่ะ ดูหน้าน้องสิ หน้าซีดไปหมดแล้วเพราะว่าเหนื่อยเพลียยิ่งนัก ท่านพี่รีบพาน้องเข้าไปพักผ่อนได้แล้วน้องอยากอาบน้ำให้ชุ่มปอดจะแย่อยู่แล้ว พี่ใหญ่ท่านนั่งลงสิเจ้าคะ ข้าจะได้ขึ้นขี่หลังท่านได้ง่ายๆ "
เมื่อมาถึงตรงนี้ไป๋เยว่ชิงก็รีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อที่จะเบี่ยงเบนประเด็นก่อนหน้าในทันที
"อะไรกัน เจ้าโตเป็นสาวถึงขนาดนี้แล้ว จะมาขี่หลังพี่เหมือนสมัยเด็กๆ ได้เช่นไร มิอายคนอื่นเขาบ้างหรือ"
"น้องโตเป็นสาวที่ไหนกันเจ้าค่ะ น้องพึ่งจะอายุแค่ 13 หนาวเท่านั้น และอีกอย่าง น้องก็ยังเป็นน้องน้อยของพี่ใหญ่ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง เร็วเข้าข้าอยากขี่หลังท่านจะแย่อยู่แล้ว"
ว่าแล้วก็ไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นไปขี่หลังบุรุษตัวโตนั้นทันที ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจกับน้องสาวสุดที่รักของตน
'หลัวหยุนซี เวอร์ชั่นผิวเข้มชัดๆ เลยค่าแม่ หนูขอซบสักนิดเถอะนะ หนูรักเขา อร๊าย หน้าท้องไม่ได้ชนกันหนูก็ขอชนกับแผ่นหลังพี่เขาไปก่อนแล้วกันนะแม่'
มือน้อยๆ ของนางนั้นแทนที่จะอยู่เฉยๆ ก็ลูบไล้แผงอกของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายอย่างเคลิบเคลิ้ม
"ชิงเอ๋อร์มือของเจ้าช่วยอยู่นิ่งๆ หน่อยจะได้หรือไม่ พี่รู้สึกแปลกๆ อย่างไรชอบกล"
ผู้เป็นพี่ชายถึงกับคิ้วกระตุก กับความซุกซนของน้องสาวตัวน้อยของเขา
เมื่อเดินทางมาถึงยังที่พัก ซึ่งเป็นจวนของตระกูลไป๋ ที่ได้ซื้อเอาไว้ให้เขาได้เอาไว้ใช้สอย ภายในอาณาเขตของตัวเรือนนั้นถือว่ามีความกว้างขวางเป็นอย่างมาก ภายในยังแบ่งออกเป็นเรือนย่อยหลายๆ เรือน ซึ่งมีการตกแต่งแตกต่างออกไป
เรือนที่ไป๋เยว่ชิงถูกใจมากที่สุด เห็นจะเป็น เรือนที่ติดกับสระเหลียนฮวา ซึ่งอยู่ทางปีกซ้ายของจวน บรรยากาศภายในเรือนร่มเย็น สดชื่นเป็นอย่างมาก
"พี่ใหญ่ ข้าชอบเรือนนี้เป็นอย่างมาก ข้าขอพักที่เรือนนี้จะได้หรือไม่"
"เหตุใดจะไม่ได้เล่า ไม่ว่าเจ้าอยากจะเข้าพักที่เรือนใดพี่ก็อนุญาตเจ้าได้ทั้งนั้นแหละ"
"เอ๋ ถ้าเช่นนั้นน้องขอไปพักที่เรือนของพี่ใหญ่ จะได้หรือไม่เจ้าคะน้องจะได้นอนกอดพี่ใหญ่ให้หายคิดถึง"
ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหน้าในความไร้เดียงสาของน้องสาวตน ที่มิรู้จักโตเสียที
"จะทำเช่นนั้นได้เยี่ยงไรเล่า พี่เป็นบุรุษส่วนเจ้าเป็นสตรี ในตอนนี้เราไม่สามารถที่จะไปนอนด้วยกัน เหมือนอย่างเช่นสมัยที่เจ้า เป็นเด็กได้เหมือนเดิมอีกแล้ว หากมีคนรู้เข้าแล้วเอาไปพูดนินทาให้เสียหาย จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของเจ้ารู้หรือไม่"
"น้องก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเจ้าค่ะ น้องเพียงแค่คิดถึงพี่ใหญ่มากเท่านั้นเอง จนลืมคิดถึงความเหมาะสมไป"
'หมดกันแผนการจะได้หลอกกินเต้าหู้พี่ชายสักหน่อย คนอะไรน่าร๊ากอ่ะ ขอแค่สักครั้งหนูก็นอนตายตาหลับแล้วแม่ โอ๊ยหนูจะทำยังไงถึงจะรอดเนี่ย ไม่ใช่หนูรอดนะแม่! แต่เป็นพี่ชายหนูรอดจากเงื้อมมือหนูต่างหาก ทำยังไงหนูถึงจะอดใจไหว ตอบหนูที'
เมื่อทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วท่านรองแม่ทัพไป๋เลี่ยงซูก็เดินออกไปจากภายในห้อง ให้น้องสาวของตนเองได้พักและจัดการกับเรื่องส่วนตัวให้เรียบร้อย
บนโต๊ะอาหารในตอนเช้าบุรุษหนุ่มรูปงามกำลังถูกสตรีน้อยจับจ้องอย่างไม่วางตา
"ชิงเอ๋อร์ถ้าเจ้าจะจ้องพี่ขนาดนี้ไยไม่จับพี่กินเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเล่า"
"ห๊า! ได้หรือเจ้าคะ"
พร้อมกับจ้องไปที่พี่ชายแท้ๆ ของตนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ก่อนที่นางจะโดนไป๋เลี่ยงซู ใช้ตะเกียบเคาะไปที่ศีรษะน้อยๆ ของนางอย่างหมั่นเขี้ยว
"เจ้านี่นะ กี่ปีต่อกี่ปีก็ไม่รู้จักโตเสียที ยังจะพูดเย้าพี่เป็นเด็กไปได้"
'เอ๊า ว่าแต่หนูเป็นเด็ก ลองกินเด็กแบบหนูดูไหมคะ แล้วพี่ชายใหญ่จะติดใจจนลืมไม่ลงเลยค่ะหนูขอบอก'
"แล้วเมื่อใดเจ้าจะเดินทางไปที่วัดฮุ่ยเหอ พี่ได้เตรียมทหารเอาไว้คอยคุ้มกันเจ้าในระหว่างเดินทางเรียบร้อยแล้ว"
"ใครว่าน้องจะเดินทางไปที่วัดฮุ่ยเหอกัน น้องจะไปที่สำนักจิวฝูต่างหาก"
"เจ้ามีเหตุอันใดที่จะต้องไปที่สำนักจิวฝูกัน พี่เห็นว่าเจ้ามิมีเหตุจำเป็นอันใดที่จะต้องไปที่นั่นเลย"
"ชิงเอ๋อร์ จะไปสมัครเป็นศิษย์สำนักจิวฝู เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองเจ้าค่ะ และชิงเอ๋อร์ก็อยากจะขอร้องพี่ชายใหญ่ ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกกับท่านพ่อจะได้หรือไม่"
"ชิงเอ๋อร์ไม่รู้หรือว่าสำนักจิวฝูใช่ว่าใครอยากเข้า ก็จะสามารถเข้าไปได้โดยง่าย ผู้ที่จะเข้าไปได้นั้นจะต้องผ่านการทดสอบตั้งหลายขั้นตอน ด้วยความสามารถที่เจ้ามีในตอนนี้ พี่คาดว่าคงจะเป็นเรื่องยาก ที่เจ้าจะผ่านเข้าไปเป็นศิษย์ในสำนักได้"
"เอ๋ ไยพี่ชายใหญ่ถึงได้ดูถูกชิงเอ๋อร์เยี่ยงนั้นล่ะเจ้าคะ ภายในสำนักจิวฝู มีการทดสอบความสามารถตั้งหลายด้าน ไม่แน่ว่าน้องอาจจะผ่านสักด้านก็เป็นได้"
"เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ แต่พี่เห็นว่ามิเป็นเช่นนั้นเลย"
ไยเขาจะไม่รู้ในความสามารถของน้องสาวของตนเล่า นางไม่มีวรยุทธและไม่เคยคิดจะร่ำเรียน ยิ่งความสามารถของนาง ที่มีเช่นดังสตรีในห้องหอทั่วไปที่ควรมีเพียงเท่านั้น แล้วเช่นนี้นางจะเอาความสามารถอันใด ในการเข้าไปเป็นศิษย์ยังสำนักจิวฝูที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นสำนักศึกษาอันดับหนึ่งของแคว้นกันเล่า เขาไม่ได้ดูถูกในความสามารถของนาง แต่เขากำลังมองว่ามันไม่มีความเป็นไปได้เลยต่างหากเล่า ที่นางจะผ่านด่านเหล่านั้นไปได้
'อ้าวพี่ชายใหญ่ ถ้าท่านพูดเช่นนี้ก็มาตีกับน้อง ให้มันรู้เรื่องรู้ราวไปเลยเป็นไร รู้หรือไม่ ว่าหนูเนี่ยเกียรตินิยมศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของมหาลัยเลยนะคะ ถ้าไม่เก่งจริงคงไม่สามารถจะจบมาได้ง่ายๆ นะคะ ความสามารถล้วนๆ ค่ะ ถึงหนูจะมั่วเรื่องอื่น แต่เรื่องเรียนนี่หนูทั่วถึงนะค่ะ'