>ยังไม่ได้แก้คำผิด
'แกร่ก แกร่ก'
ถึงแม้เข็มสั้นของนาฬิกาจะชี้ไปทางเลข12ซึ่งเป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว เลขาอย่างผมก็ยังไม่สามารถลุกไปไหนได้ เนื่องจากงานกองท่วมหัวที่ได้รับ จริงๆตอนนี้ผมควรไปหาอะไรกิน ก่อนที่จะเป็นลมตายห่าคาจอคอม แต่ด้วยสปีริตพนักงานยอดเยี่ยม(จริงๆคือดองงานไว้)ผมเลยจำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เที่ยวกลางคืนเท่าไหร่นัก และถึงจะไปก็ไม่ได้มีเซ็กส์กับใคร อาจจะด้วยผมเครียดกับงานจนไม่มีอารมณ์ไปทำอย่างอื่น หรือจะด้วยงานที่เยอะจนไม่มีเวลาทำอะไรด้วยซ้ำ
บางทีผมก็คิดนะว่าทำงานแบบถวายหัวขนาดนี้มันคุ้มแล้วหรอ หรือผมควรจะกลับไปทำงานบาร์เทนเดอร์ที่ได้เงินน้อยกว่าแต่อิสระและสบายใจกว่าดี
ตามจริงผมก็คิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วล่ะ ถ้าไม่ติดว่า
"คุณบี๋ ในฐานะที่คุณทำงานดีมาตลอดอีกทั้งยังอยู่ทำงานกับผมมานานต่อไปนี้ผมขึ้นเงินเดือนให้คุณอีก10% กับโบนัสอีก20%ทุกๆเดือน"
โอเคกูทำงานต่อก็ได้
ไอ่ที่บ่นตะกี้คือพูดเล่น งานเลขาเป็นอะไรที่ผมชอบมากเลยครับ ประธานสั่งงานมาอีกได้เลย!
"คุณบี๋คะ"
ในขณะที่ผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขมักเขม้น เสียงหวานใสของผู้หญิงคนนึงก็เรียกผมไว้จนทำให้ผมต้องเงยหน้าจากงานที่ทำอยู่
"ครับ?"
เป็นคุณน้ำหวานคนสวยนี่เองที่เรียกผม วันนี้เธอก็ยังสวยและน่ารักเหมือนเคย ทั้งชุดเดรสกระโปรงพริ้วสีฟ้าอ่อนลายดอกไม้ขาว กับใบหน้าสวยๆที่เข้ารูปพร้อมทรงผมหางม้าสูงนั่นอีก
สวยน่ารักสมเป็นนางเอกลูกรักพระเจ้าจริงๆ
"เออ..คือว่าคุณบี๋คะ จะเป็นอะไรรึเปล่าถ้าน้ำหวานจะขอพบท่านประธาน"
"คุณน้ำหวานมีอะไรแจ้งมาทางผมก่อนได้เลยครับเดี๋ยวผมเอาไปแจ้งประธานให้"
"อ่า..แบบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝากบอกกันไม่ได้น่ะค่ะ"
แม่นางเอกคนสวยดูจะประหม่าเล็กน้อยที่จะพูด ทางผมเองก็ลำบากใจเล็กน้อยไม่รู้จะทำยังไงดี ผมควรจะให้นางเอกกับพระเอกได้ใช้เวลาร่วมกันมั้ย หรือผมควรจะเป็นเลขาสุดเนี๊ยบที่เป็นประตูทางผ่านสุดแข็งแกร่งให้พ่อพระเอกแกดี
กระนั้นก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรกับคุณคนสวยตรงหน้า ประตูห้องประธานก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว
"โอ้ะ ท่านประธานคะ"
คุณน้ำหวานเมื่อเห็นท่านประธานเดินออกมาจากห้อง เจ้าหล่อนก็ละจากผมแล้วตรงดิ่งไปหาทันที
ผมคิ้วกระตุกเล็กน้อยกับพฤติกรรมของเธอ แต่ก็ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วปล่อยให้พระนางจัดการคุยกันต่อ
ใช่สิเรามันแค่ตัวคั่นเวลา พอตัวจริงของเธอมาผมก็เป็นแค่หมา ว่าแล้วก็ปาดน้ำตาทิพย์ในใจหนึ่งที
"มีอะไร"
ไม่รู้ว่าประธานแกอารมณ์ไม่ดีหรืออะไรเสียงที่คุยกับคุณน้ำหวานถึงได้ทั้งเรียบและแข็งขนาดนั้น ทว่ากันตามตรงนี่ก็เป็นน้ำเสียงปกติของพี่แกแหละ แต่ว่านะครับ เธอคนนั้นเป็นถึงนางเอกเลยนะ คุณพี่จะไม่อ่อนโยนหน่อยหรอ
อ้อลืมไป เขารักกันด้วยลำแข้ง
"คือ..น้ำหวานอยากจะชวนประธานไปเลี้ยงข้าว แบบว่า..เมื่อคืนเผลอไปทำอะไรไม่งามกับประธานน้ำหวานเลยรู้สึกผิดน่ะค่ะ.."
"ไม่ต้อง"
"แต่ว่าประธาน ถ้าน้ำหวานไม่ได้ทำอะไรสักอย่างน้ำหวานจะรู้สึกผิดไม่หายจริงๆนะคะ"
คุณน้ำหวานพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ใบหน้าหวานเองก็ช้อนมองขึ้นอย่างน่ารัก ด้วยดวงตากลมรับกับคิ้วได้รูป จมูกเล็ก ปากกระจับ ใบหน้าจิ้มลิ้ม องค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้คุณน้ำหวานทั้งน่ารักน่าเอ็นดู
เหมือนกับแมวน้อยที่อ้อนขออาหารจากทาส แน่นอนว่าไม่ว่าใครคนไหนโดนลูกอ้อนนี้ไปต้องสยบแทบเท้าทุกราย รวมถึงผมที่มองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลด้วย
ถึงกระนั้นมันก็ยังมีคนที่เป็นข้อยกเว้นอยู่
"คุณจะรู้สึกผิดหรือไม่นั่นคือปัญหาของคุณ ผมไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบสิ่งที่คุณเป็น"
ประธานตอบมาด้วยเสียงเรียบ ไม่มีแววสั่นคลอนทั้งน้ำเสียงและดวงตา เขาทำเหมือนกับว่าที่คนตรงหน้าพยายามมาไม่มีผลอะไรสำหรับเขา และไม่นานเขาก็ตวัดตาหันมามองผมพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้
ทำเอาผมที่แอบ(เสือก)ส่องอยู่เงียบๆสะดุ้งในใจแต่ก็นิ่งไว้เพราะกลัวตัวเองจะกลายเป็นสนามอารมณ์ของพี่แก
"คุณบี๋ครับ ไปกินข้าวเที่ยงกับผม"
"ครับ?"
คุณเพลิงเอกเดินผ่านคุณนางเอกคนสวยมาหาผมพร้อมกับถามผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ผมค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เห็นและได้ยิน แต่ก่อนจะคิดไปเองไกลกว่านี้ท่านประธานก็ก้มลงมาหาผมที่นั่งตรงโต๊ะทำงานแล้วถามอีกครั้ง
"ผมหิวแล้ว ไปเร็วครับคุณบี๋"
ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง อีกทั้งใบหน้าบึ้งตึงก่อนหน้านี้ก็คลายไปหลายส่วน สุดท้ายผมก็พยักหน้าตกลงกับคุณเพลิงเอกเพราะด้วยกลัวว่าจะทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นมาอีก ตัวผมจึงไม่กล้าขัดอะไร
"ได้ครับคุณเพลิงเอก"
คุณน้ำหวานดูจะทำตัวไม่ถูกไปเลยเมื่อจู่ๆตัวเองก็เหมือนกลายเป็นธาตุอากาศ ซึ่งแน่นอนว่าคุณคนสวยไม่ยอมเธอจึงเดินมาหยุดตรงหน้าผมกับประธานที่กำลังจะเดินออกจากโซนห้องทำงาน
"คุณเพลิงเอกคะ แล้วฉันล่ะคะ.."
"ผมมี(นัด)คุณบี๋แล้ว คงไม่สะดวกไปกับคุณ อีกอย่าง กรุณาเรียกผมว่าประธาน คุณไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะมาเรียกชื่อผมห้วนๆในที่ทำงานแบบนี้"