Chapter 4 แค่ใกล้...หัวใจข้าก็หวั่นไหว [2]
“คุณหนูชอบเล่นน้ำตั้งแต่เล็ก จนบัดนี้โตเป็นสาวมีคู่ครองแล้วก็ยังคงชอบเล่นน้ำไม่เปลี่ยนเลยนะเจ้าคะ”
เจียวเจี๋ยไม่ลงเล่นน้ำ นางเดินไปรอบๆ เพื่อตรวจตราดูความปลอดภัยให้เจ้านาย มีเพียงสาวใช้แรกรุ่นสองคนที่ลงไปเล่นน้ำเป็นเพื่อนคุณหนูจิ้งจอกขาว
ทว่าจู่ๆ กลับมีกลีบดอกเหลียนฮวา[1]สีชมพูอ่อนลอยมาตามน้ำ หญิงสาวยื่นมือไปสัมผัสกลีบดอกเหลียนฮวา พลางคลี่ยิ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อกลีบดอกสีชมพูหวานสัมผัสร่างกาย ก่อนจะค่อยๆ รายล้อมร่างนางเอาไว้
นางเข้าใจว่าเจียวเจี๋ยและหลินเผิ่งคงจะแอบนำดอกเหลียนฮวามาด้วย เพื่อทำให้นางประหลาดใจและมีความสุขผ่อนคลายจากความทุกข์ ทว่าผู้ที่โปรยกลีบดอกเหลียนฮวามาจากต้นน้ำหาใช้สาวใช้ทั้งสอง
แต่กลับเป็น...
หานตงนอนอยู่บนต้นไม้สูงใหญ่ทางทิศเหนือของน้ำตก เพียงเป่าลมหายใจเบาๆ ลงบนฝ่ามือ ลมนั้นก็พวยพุ่งมีเปลวแสงสีชมพูอ่อน ลอยละล่องไปยังสายน้ำก่อนจะกลายเป็นกลีบดอกบัวงดงาม
“ไม่มีสตรีนางใด มิพึงใจดอกไม้งาม”
เขาหยักยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะส่ายหน้านิดๆ ไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมต้องมาแอบโปรยดอกไม้จากที่ไกลๆ โดยไม่ให้ใครรู้ ชายยาใจอย่างเขาควรจะทำทุกอย่างเพื่อเอาหน้า ประจบประแจงเพื่อให้เป็นที่โปรดปราน แต่เขากลับทำทุกอย่างตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เห็นทีเขาจะไม่เหมาะกับการเป็นชายยาใจเสียแล้วกระมัง ชายหนุ่มคลี่พัดสีขาวออกแล้วพัดเบาๆ แตะที่ปลายคางอย่างใช้ความคิด ก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงงีบหลับ ทว่าเสียงกระเซ็นของสายน้ำผสานกับเสียงหัวเราะสดใสราวกับระฆังแก้ว ทำให้ชายหนุ่มไม่อาจข่มตาหลับลงได้
มิหนำซ้ำยังลอบมองหญิงสาวจากที่ไกลๆ ดวงตาเจ้าเล่ห์คมชัดมองเห็นทุกสิ่งอย่างได้ถนัดราวกับอยู่ห่างออกไปไม่ถึงคืบ
เย่วสือแหวกว่ายสายน้ำอย่างคล่องแคล่ว ดำผุดดำว่ายมิต่างจากเงือกสาว ผมยาวสยายจดเอวลีบลู่ไปกับใบหน้าและแผ่นหลัง เสื้อสีฟ้าอ่อนมิอาจปกปิดหน้าอกทรงโตอวบอิ่ม ยอดอกสีชมพูชูชันแทบทะลุเนื้อผ้าที่เปียกปอน เมื่อนางขยับกายเดินมายังที่ตื้นทำให้เห็นเอวบางและสะโพกขอดได้อย่างถนัดถนี่
หานตงรู้สึกหายใจสะดุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ควรรู้สึกพึงใจหรือหลงใหลฮูหยินของซ่านฉิน ด้วยเขานั้นมีตำแหน่งหน้าที่เป็นเพียงชายยาใจ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาหลงรักนางแม้เพียงครั้งแรกที่ได้พบ ใจเต้นระส่ำเมื่อได้ยินว่านางมิต้องการรับชายยาใจ ต่อเมื่อนางจำนนยอมรับไว้เพียงหนึ่ง เขาก็เฝ้าภาวนาให้ตนเป็นผู้ถูกเลือก
เขาเป็นชายชาตรีออกท่องไปทั่วยุทธภพ เด็ดดอมเชยชิดหญิงงามมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีสตรีนางใดที่ทำให้เขาประหวั่นหัวใจได้ถึงเพียงนี้ หานตงเบือนหน้าออกไปอีกทางเพื่อละสายตาจากร่างงดงามยวนตา มิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะห้ามใจไม่ให้จดจ่อกับหญิงที่ตนพึงใจ
“กรี๊ด!”
“คุณหนู!”
เสียงกรีดร้องมาจากธารน้ำใสทำให้เจ้าของร่างสูงตื่นจากภวังค์ความคิด เมื่อมองไปจึงเห็นสายน้ำแตกกระเซ็น สาวใช้พากันกรีดร้องโวยวาย บ้างก็กระโดดพุ่งลงไปในน้ำ พยายามยื้ดยุดฉุดเจ้านายสาวที่กำลังจมหายไปในสายธาร เร็วกว่าความคิดเขาสะบัดชายแขนเสื้อแล้วทะยานตัวไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียวเขาก็พุ่งลงไปในน้ำ กระชากร่างบางที่กำลังหายใจรวยรินเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แล้วจัดการซัดฝ่ามือเข้าที่กลางอกปีศาจปลาจนหงายหลัง
อ๊าก!
ปีศาจปลากระอักออกมาเป็นเลือด ปวดร้าวกลางอกจนใบหน้าซีดขาว ไม่คิดเลยว่าจะมีชายหนุ่มผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเข้ามาช่วย ในเมื่อเขาเฝ้ามองกลุ่มสาวงามเหล่านี้มานานแรมเดือน หวังใจว่าไม่มีชายติดตามแน่แล้วจึงจะฉุดสาวงามลงไปยังถ้ำบาดาล
รักตัวกลัวตาย! สำนึกนี้ตะโกนก้องในหัว ท้ายที่สุดจึงรีบกระโจนลงไปในน้ำหมายจะว่ายหนี ทว่าหานตงกลับพุ่งตัวเข้าไปซัดฝ่ามือกลางหลังอีกครั้ง มันร้องโวยวายขอชีวิต พลางตะเกียกตะกายพยายามหนีเอาชีวิตรอด หานตงอยากจะตามไปแต่ติดอยู่ที่คนตัวเล็กในอ้อมกอด
“อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก!”
ดวงตาคมกร้าวยามมองปีศาจปลาอ่อนแสงลงทันทีเมื่อหันกลับมามองร่างบางในอ้อมแขน
“ฮูหยิน...ฮูหยิน!”
เย่วสือสลบไสลไม่ได้สติ บุรุษไร้เผ่าเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปบอกแก่สาวใช้ว่า
“พลังปราณของฮูหยินอ่อนแรง หากปล่อยไว้เห็นท่าคงไม่ดีแน่ พวกเจ้าจงรออยู่ที่นี่ ข้าจะพาฮูหยินไปถ่ายพลังปราณ”
พูดจบหานตงก็อุ้มเย่วสือเหอะเข้าไปยังน้ำตกสูงชัน เมื่อพุ่งผ่านม่านน้ำตกซ่ากระเซ็น ด้านในมีถ้ำเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ เขาค่อยวางนางลงบนพื้นถ้ำ สายตาปะทะเข้ากับทรวงอกอิ่มชูสล้าง หัวนมสีชมพูชูชันแทบทะลุออกจากเสื้อสีฟ้าอ่อนแสนบางเบา ที่ไม่อาจปิดบังส่วนสัดของนางได้เลยแม้แต่น้อย
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกทางปากช้าๆ พยายามรวบรวมสมาธิให้จดจ่ออยู่กับการช่วยชีวิตหญิงสาว หาใช่หน้าอกทรงโตและผิวพรรณนวลเนียนสะดุดตา
หานตงจับร่างหญิงสาวให้นั่งขัดสมาธิ ยอบกายลงนั่งด้านหลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวละเอียดราวกับเนื้อหยกชั้นเลิศน่าสัมผัส พยายามบังคับสายตาไม่ให้จ้องจดที่ผิวเนียน ทว่ามันไม่ง่ายเลย
เขาค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกอีกครั้ง ตั้งจิตมั่น เดินลมปราณในร่างกายจนเกิดเป็นพลังคลื่นสีขาวหมุนวน จากนั้นจึงวางฝ่ามือทั้งสองลงบนแผ่นหลังของเยวสือ พลันเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสลงบนเนื้อนวลเย็นเฉียบ มวลพลังสีขาวก็ถูกผลักเข้าไปในร่างของนาง
“อือ...”
เสียงร้องรู้สึกตัวและน้ำไหลออกจากริมฝีปากบางเฉียบแทบจะพร้อมๆ กัน ร่างของนางโงนเงนคล้ายจะล้มลง ชายยาใจขยับเข้ามาใกล้ นั่งซ้อนด้านหลังแล้วกอดนางเอาไว้แนบกาย
“ฮูหยินท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
คุณหนูจิ้งจอกขาวค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น สัมผัสอบอุ่นทำให้นางคลายความหนาวเหน็บไปได้หมดจด แทนที่ด้วยอาการเห่อร้อนเมื่อพบว่านางอยู่ในอ้อมกอดของชายยาใจ ในสภาพที่เกือบจะเรียกได้ว่า
‘เปลือยเปล่า...’
[1] ดอกบัว