พอได้รับสายจากทางโรงพยาบาล เจตน์ก็รีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็เห็นคุณหมอกำลังคุยกับอาของพร้อมที่หน้าห้องพักของหญิงสาว เขาก็เดินก้าวเท้ายาวๆ ตรงไปทางทั้งสามคนด้วยความเดือดดาล
“ใครให้พวกคุณมาที่นี่” เสียงห้วนแข็งดังลอดจากริมฝีปากหนา
“ก็ไหนบอกว่าพวกเราไม่มาเยี่ยม วันนี้ก็มาเยี่ยมแล้วไงล่ะ”
“ใช่! ถ้าก่อนหน้านี้ผมไม่ว่า แต่มาทำไมตอนนี้ กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับเธอ”
“ทำไมเราจะยุ่งไม่ได้ ยัยพร้อมเป็นหลานเรา” วิภาเอ่ย
“แน่ใจว่าคิดอย่างที่พูดจริงๆ เท่าที่ผมรู้ พวกคุณอาหลานความสัมพันธ์ไม่ดีเท่าไหร่นี่ พวกคุณจะดูแลพร้อมได้จริงเหรอ” เจตน์เอ่ยเสียงเข้มสบตาทั้งสองสลับกันและทั้งสองก็หลบสายตา
“นั่นไง พวกคุณก็แค่หวังทรัพย์สมบัติของเธอเท่านั้น ไปซะ! อย่าทำให้ผมต้องทำรุนแรงกับพวกคุณสองคน ถ้ารู้ว่ามาวุ่นวายกับเธออีก เห็นดีกันแน่” พูดจบเจตน์ก็เปิดประตูห้องเข้าไปหาคนที่อยู่ข้างใน
วิภากับวันดีมองหน้ากันแล้วขบเม้มปากแน่นแล้วเดินสะบัดหน้าหนีไปทันที ด้วยรู้ดีว่านายหัวเจตน์เป็นคนยังไง ถึงไม่เคยเจอ แต่ก็ได้ฟังเรื่องราวของนายหัวหนุ่มมาบ้าง
พอประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้อง คนที่นอนหลับตานิ่งบนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาทันที พอเห็นว่าเป็นใครก็ดีดตัวลุกขึ้นเรียกอีกฝ่ายด้วยความดีใจ
“นายหัว!”
“ตกใจมากใช่ไหมเมื่อกี้ คุณพยาบาลไปทำงานเถอะครับ ผมดูแลพร้อมต่อเอง” เจตน์เดินมาหยุดข้างเตียง
พยาบาลพยักหน้ารับคำสั่งแล้วลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องไป ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงนายหัวหนุ่มกับสาวอวบอยู่กันตามลำพัง
“ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่ ใครก็มาทำอะไรเธอไม่ได้พร้อม” เขานั่งลงบนเตียงของเธอแล้วเธอก็โผเข้ากอดเขาแน่น
“สองคนนั้นน่ากลัวมากเลยค่ะ พวกเขาบอกว่าเป็นอาของพร้อม” เธอบอกเขา
“เขาเป็นอาของพร้อมจริงๆ แต่ไม่ได้สนิทกัน ฉันเลยไม่ได้เล่าให้เธอฟัง”
“แล้วพ่อของพร้อมล่ะคะ ท่านไปไหนคะ” ใช่ เธอเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองก็ต้องมีครอบครัวอย่างคนอื่นเหมือนกัน
คำถามของพร้อมทำให้เจตน์ลำบากใจที่จะตอบ แต่ยังไงซะ สักวันเธอก็ต้องรู้ความจริง เขาจึงดันสาวอวบออกจากวงแขนตัวเองแล้วก้มหน้าสบดวงตากลมโต
“ฟังฉันนะพร้อม”
“พร้อมฟังค่ะ”
“พ่อของพร้อม นายหัวพลท่านจากไปตอนที่เกิดอุบัติเหตุพร้อมกับพร้อม มีแค่พร้อมที่รอด” เขาบอกเธอพร้อมกับมองจ้องดูปฏิกิริยาของหญิงสาว
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ พ่อของพร้อมเสียแล้วเหรอคะ” เธอถามเสียงสั่นเครือ และก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าของนายหัวตอบกลับ
อึก! ฮือๆ
เธอปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาพร้อมกับโถมตัวเข้ากอดคนตัวโตอีกครั้ง
ฮือๆๆ
เจตน์ได้แต่กอดสาวอวบพร้อมลูบหลังปลอบประโลมความเศร้าโศกาของหญิงสาว
“พร้อมอยากไปไหว้ท่านค่ะ อยากไปไหว้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย อึก! ฮือๆ”
“ฉันจะพาเธอไปแน่นอน แต่ต้องรอให้หมอสั่งออกจากโรงพยาบาลก่อนทูนหัว”
“ฮือๆ พร้อมเสียใจค่ะ เสียใจที่จำอะไรไม่ได้ แถมท่านก็มาจากไปอีก อึก! ฮือๆ พ่อ...ฮือๆๆ” เธอพึมพำเสียงสั่นเครือพร้อมกอดนายหัวแน่น
เจตน์ได้แต่กอดคนตัวอวบแน่นพร้อมกับเอ่ยปลอบจนเธอร้องไห้จนหลับ เขาจึงผละออกห่างแล้วปล่อยให้เธอนอนราบกับเตียงแล้วตัวเองก็ออกไปคุยกับคุณหมอกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ต่อ
เจตน์พาพร้อมมาที่วัด เพื่อพาหญิงสาวมาไหว้พ่อของเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพากลับบ้าน เขาสั่งให้ที่บ้านจัดแต่งห้องนอนให้กับหญิงสาวและเสื้อผ้าของเธอ เขาก็ให้คนไปเก็บมาจากบ้านของเธอมาไว้ที่ห้องใหม่ที่จัดไว้ให้ พอมาถึงบ้าน เขาก็พาเธอขึ้นมาพักผ่อน เพราะตลอดทางออกจากวัดมาที่บ้าน พร้อมเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย
“พักผ่อนนะเด็กน้อยของฉัน” เจตน์ห่มผ้าให้เธอเสร็จจะจากไป แต่มือน้อยก็คว้าจับข้อมือหนารั้งไว้
“นายหัวจะไปไหนคะ?”
“ฉันจะต้องไปทำงานน่ะ ตอนเย็นจะกลับมาหา”
“อยู่เป็นเพื่อนพร้อมไม่ได้เหรอคะวันนี้” เธอเอ่ยอ้อนพร้อมลุกขึ้นดึงมือเขามาแนบแก้มนวลอวบอิ่มของตนเอง
พอเจอลูกอ้อนของสาวอวบเข้าไปทำเอาเจตน์คนห้าวทำตัวไม่ถูก จากจะเดินหนีก็เปลี่ยนเป็นทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง
“ฉันกลัวว่าพร้อมจะไม่ได้นอนพักผ่อนน่ะสิ อย่าลืมสิว่าตอนนี้ร่างกายของพร้อมหายดีแล้ว จะเหลือก็แต่ความทรงจำเท่านั้นที่ยังไม่กลับมา ถ้ารั้งฉันอยู่ ฉันอาจจัดหนักเธอตั้งแต่ตอนกลางวันก็ได้นะ” เจตน์เอ่ยอย่างไม่ปิดบังและมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย
พร้อมรีบปล่อยมือที่จับข้อมือหนาทันทีเมื่อเจอสายตาหื่นกระหายของนายหัว
หึ!
เจตน์ยิ้มแล้วก็ลุกขึ้นโน้มตัวลงจุ๊บหน้าผากมนของสาวอวบ
“เป็นเด็กดีนะ พักผ่อนรอฉันที่ห้องเนี่ยแหละ เดี๋ยวตอนเย็นฉันก็กลับมาแล้ว แล้วจะแนะนำให้รู้จักพ่อกับแม่ฉันด้วย ตอนนี้ทุกคนออกไปข้างนอกจะกลับมาเย็นเหมือนกัน ส่วนอยากได้อะไร ต้องการอะไรบอกสาวใช้ได้เลยนะ ทุกคนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเธอ” เจตน์บอกคนตัวอวบแสนเดียงสา
อือ!
พร้อมพยักหน้ารับรู้
“เชื่อฟังฉันนะ และจำไว้ ใครพูดอะไรไม่ต้องไปสนใจ เชื่อได้แค่ฉันคนเดียวรู้ไหม”
อือ!
เธอมองคนตัวสูงเดินจากไปจนลับตาและเสียงประตูห้องปิดสนิทก็หลับตาเพื่อพักผ่อน
เจตน์แบกเคียวตัดปาล์มอย่างคุ้นเคย ส่วนไอ้เขียวก็แบกเคียวตัดปาล์มเช่นกัน
“นายหัว”
“ว่าไงไอ้เขียว”
“เรื่องคุณหนูพร้อม ลูกสาวนายหัวพล นายหัวพามาอยู่บ้านจริงๆ เหรอนายหัว”
“จริงสิวะ เธอความจำเสื่อมจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”
“แล้วแนบชิดด้วยไหมนายหัว”
“เดี๋ยวโดนตีนกูไอ้เขียว มึงไปแทงปาล์มต้นนั้นไป”
“ครับ อ้อ...นายหัว วันก่อนผมกับเพื่อนไปร้านประจำนายหัว สาวๆ ที่นั่นถามหา บอกว่านายหัวไม่ไปหานานแล้วนะครับ”
“เดี๋ยวกูแวะไปวันนี้แหละ แม่ง! หิวเป็นบ้า อดอยากมาหลายวันแล้ว มัวแต่ดูแลคนความจำเสื่อม”
“ให้พวกผมไปด้วยไหมครับคืนนี้”
“ไม่ต้อง กูไปคนเดียวได้ ไปจัดสักสองสามยกให้เบาตัวแล้วค่อยกลับมาดูแลคนความจำเสื่อมต่อ”
“ไม่ใช่กลับมาจัดคุณหนูพร้อมต่อเหรอนายหัว”
“รู้มากไอ้เขียว ไปทำงานของมึงได้แล้วไป ตั้งแต่มา กูเห็นมึงพูดมากกว่าทำงานอีกนะไอ้เขียว”
“ครับ นายหัว” แล้วไอ้เขียวก็ไปทำงานของตัวเองต่อ
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
พอไอ้เขียวไปพ้น เสียงสั่นเตือนโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นเตือนจนต้องทิ้งเคียวตัดปาล์มในมือทิ้งแล้วถอดถุงมือที่ใส่ล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาดูว่าใครโทรหาตน พอเห็นเป็นเบอร์โทรที่บ้านก็รีบกดรับสาย
“นายหัวคะ คุณพร้อมอยากไปหานายหัวที่สวนค่ะ”
“พร้อมตื่นแล้วเหรอ”
“ตื่นแล้วค่ะ หยุดก็หาข้าวให้ทานแล้วและก็ทานยาแล้วค่ะ แต่คุณพร้อมบอกอยากเจอนายหัวค่ะ ไม่อยากรอให้ถึงเย็นค่ะ เธอบอกว่าคิดถึงนายหัวค่ะ” หยุดบอกตามที่หญิงสาวบอก
คำว่า ‘คิดถึง’ ทำให้ใจของนายหัวหนุ่มเต้นแรงผิดจังหวะ มุมปากหนาฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันทำเอาคนงานที่มองมาทางเขาพากันยกมือเกาหัว เพราะไม่เคยเห็นนายหัวฉีกยิ้มกว้างแบบนี้สักครั้ง
“ให้ฉันคุยกับพร้อมหน่อยสิหยุด”
“ค่ะ นายหัว”
“นายหัว” พร้อมเอ่ยเมื่อโทรศัพท์แนบหู
“ได้ยินว่าคิดถึงฉันเหรอพร้อม ไม่ดื้อสิ อยู่บ้านรอฉันนะเด็กดี”
“คิดถึงค่ะ อยากเจอตอนนี้ แต่นายหัวทำงาน พร้อมจะไม่ดื้อค่ะ”
“ใช่ เป็นเด็กดีนะ เดี๋ยวเสร็จงานที่สวนแล้วจะรีบกลับไปหา”
“ให้พร้อมไปหาไม่ได้เหรอคะ นายหัวกินข้าวรึยังคะ”
“กินกับคนงานแล้ว อีกอย่างที่นี่ร้อน พร้อมไม่ต้องมาหาฉันเดี๋ยวก็เหนื่อยเพลีย พักผ่อนที่บ้านเก็บแรงไว้จัดหนักกับฉันคืนนี้นะ”
“หื่นกาม”
“เชื่อฟังฉันนะ อยู่กับหยุดนั่นแหละ ไม่อยากนอนพักก็ให้หยุดพาเดินชมบ้านนะ”
“ค่ะ พร้อมเชื่อฟังนายหัว” คนความจำเสื่อมตอบกลับ
“บอกคิดถึงอีกรอบหน่อยสิ อยากได้ยินน่ะ” ก่อนจะวางสาย เขาสั่งให้คนในสายบอก ‘คิดถึง’ ตนอีกครั้ง
“พร้อมคิดถึงนายหัวนะคะ”
“มีแรงทำงานแล้ว เจอกันเย็นนี้” แล้วเจตน์ก็กดวางสาย เห็นทีเย็นนี้ต้องรีบกลับบ้านแล้ว ไม่ไปเที่ยวหาสาวข้างนอกแล้ว ก็ที่บ้านมีสาวอวบรอท่าอยู่ทั้งคน
ทางด้านพร้อม เมื่อนายหัวเจตน์วางสายไปแล้ว เธอก็ขอให้หยุดพาเดินชมในบ้าน เพราะเบื่อจะนอนแล้วอยู่ที่โรงพยาบาลก็นอนตลอด พอได้กลับบ้าน เธอก็อยากทำอย่างอื่นบ้างนอกจากนอน
“พี่หยุดจ๊ะ”
“คะ คุณหนูพร้อม”
“พร้อมกับนายหัว เรารักกันมากไหมคะ พอดีพร้อมจำอะไรระหว่างพร้อมกับนายหัวไม่ได้เลยค่ะ”
คำถามของพร้อมทำเอาหยุดตอบไม่ถูก ได้แต่ยกมือเกาหัวแล้วยิ้มแห้ง
“ทำไมคะพี่หยุด เล่าให้พร้อมฟังได้ไหมคะ”
“คือเรื่องนี้คุณหนูพร้อมรอถามนายหัวดีกว่าค่ะ พอดีเรื่องนี้คนที่จะเล่าได้ดีคือตัวนายหัวเองค่ะ”
“นายหัวก็เล่าให้พร้อมฟังมาเยอะแล้วตอนอยู่โรงพยาบาล แต่พร้อมก็รู้สึกไม่คุ้นเคยกับเรื่องที่ได้ฟังเลยค่ะ เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นกับพร้อมเลยค่ะ”
‘จะเกิดขึ้นได้ยังไงคะ ก็นายหัวเจตน์แต่งเรื่องขึ้นมาทั้งนั้น’ หยุดพึมพำในใจแล้วมองสบตาหญิงสาวคนสวยแล้วยิ้มแห้งๆ ให้
“พี่หยุดจ๊ะ”
“คะ...คุณหนูพร้อม”
“พี่หยุดเล่าให้พร้อมฟังได้ไหมคะว่านายหัวเป็นยังไงมั่งค่ะ”
อีกแล้ว ถามคำถามที่ตอบยากอีกแล้ว นายหัวเจตน์น่ะเหรอ มีเรื่องมากมายให้เล่า แต่เล่าให้หญิงสาวคนนี้ฟังไม่ได้ เพราะแต่ละเรื่องของนายหัว มีแต่เรื่องบันเทิงเริงกามทั้งนั้น แม้จะขยันทำงาน แต่เรื่องฉาวโฉ่ก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะ
“คือคุณหนูพร้อมถามนายหัวเองดีกว่าไหมคะ อีกอย่างเป็นผัวเมียกัน น่าจะรู้จักนายหัวดีกว่าพี่หยุดจ้ะ”
“ก็ได้ค่ะ แต่พี่หยุด พร้อมสงสัยค่ะ ทำไมในห้องถึงมีแต่ข้าวของของพร้อม ไม่มีของนายหัว เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเหรอคะ”
ถามคำถามตอบยากอีกแล้ว
“คือนายหัวให้จัดห้องนอนแยกให้คุณหนูพร้อมเพื่อที่จะได้พักผ่อนเต็มที่ค่ะ นายหัวบอกว่านายหัวนอนกรนเลยกลัวรบกวนการนอนของคุณหนูพร้อมเลยให้จัดห้องแยกค่ะ”
“นายหัวดีกับพร้อมมากเลยค่ะ ใส่ใจพร้อมมาก ดูแลดีตั้งแต่วันแรกที่ตื่นขึ้นมาจนตอนนี้”
‘ดีแบบไม่หวังผล พี่หยุดจะดีใจมากค่ะ กลัวแต่ว่าคุณหนูพร้อมจะโดนรวบหัวรวบหางน่ะสิคะ ยิ่งความจำเสื่อมอยู่ด้วย นายหัวพูดอะไรก็เชื่อไปซะหมดแบบนี้ เฮ้อ!’ หยุดพึมพำในใจ
“ก็ผัวเมียกันนี่คะ”
“ก็จริงค่ะ พาพร้อมไปดูทางโรงเรือนตรงนั้นหน่อยค่ะ” เธอมือชี้ไปทางโรงเรือน
“โรงเรือนกล้วยไม้นายแม่ค่ะตรงนั้น เดี๋ยวพี่หยุดพาไปนะคะ”
“ขอบคุณนะคะ” แล้วสองคนก็พากันเดินไปยังโรงเรือนกล้วยไม้ของนายแม่แหวน