“นี่ลูกทำเองเหรอปรายดาว พ่อบอกแล้วใช่ไหม ถ้าลูกไม่สบายก็ไม่ต้องทำ”ธีราเอ่ยปากดุใส่ปรายดาวที่เธอริอ่านขัดคำสั่ง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นาน ๆ คุณพ่อจะเข้ามาที่บ้านสักที ดาวเลยอยากจะทำอาหารให้คุณพ่อได้ทานค่ะ”
ปรายดาวที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของผู้เป็นบิดาบุญธรรม ในขณะที่ธีรานั่งอยู่หัวโต๊ะ ซึ่งโต๊ะอาหารที่มีนั้นมีที่นั่งทั้งหมดหกตัว รวมซ้ายและขวา โต๊ะอาหารทำด้วยไม้สักราคาแพง รวมไปถึงที่นั่งทานอาหารด้วย
“แล้วนี่เราเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วหรือยัง ถ้ายังก็พักอีกสักวันสองวันนะ ส่วนเรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วง พ่อให้พนักงานทำแทนแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ เรื่องงานต้องมาก่อนค่ะ ส่วนเรื่องของดาวไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะค่ะ”
“พ่อบอกให้พักก็ต้องพัก อย่าขัดคำสั่งพ่อนะปรายดาว พ่อไม่อยากให้คุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์ต้องมาโกรธพ่อที่พ่อไม่ดูแลเราให้ดี” ธีราทำเสียงแข็ง และดุปรายดาวด้วยสายตา
“ก็ได้ค่ะ ดาวเห็นแก่คุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์นะคะ” เมื่อพูดจบปรายดาวก็ยิ้มตอบให้กับธีราที่นั่งส่ายศีรษะไปมาด้วยความอ่อนใจ
“อ้าว ไอ้ธีร์ มาแล้วเหรอ พอดีเลย มาทานข้าวกัน วันนี้พี่สาวเราลงมือทำอาหารเองเลยนะ” ธีราเอ่ยปากชวนบุตรชายแท้ ๆ ของท่านที่เดินเข้ามาในบ้านพอดี
อะไรมันจะช่างเหมาะเจาะได้ขนาดนี้ เธอที่อุตส่าห์หลบหน้าธีวรามาได้ตั้งหลายวัน แต่วันนี้กลับดันมาเจอกันซะได้ ปรายดาวได้แต่ขบคิดอยู่ในใจ สายตาหลบวูบก้มต่ำลง พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
ครืด!
เสียงเก้าอี้ที่ธีวราได้ลากออกมาทำให้ปรายดาวสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองคนข้าง ๆ ที่มานั่งข้างเธอแบบไม่เดือดร้อนอะไรเลย ส่วนบิดาของเขาเองกลับเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ
“ทำไมถึงไปนั่งข้างพี่ล่ะไอ้ธีร์ ปกติแกจะนั่งอีกฝั่งไม่ใช่เหรอ”
“วันนี้มันไม่ปกติไงครับพ่อ ผมเลยอยากเปลี่ยนที่นั่งดูบ้าง” ธีวรายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจว่าคนข้าง ๆ จะรู้สึกยังไง
ในขณะเดียวกันปรายดาวกลับถลึงตาใส่เขาพร้อมกับความนัยที่แอบแฝงว่า ‘มานั่งตรงนี้ทำไม’
“งั้นดาวขอไปนั่งฝั่งโน้นเองค่ะ พอนั่งกันสองคนแล้วมันอึดอัด” ปรายดาวทำสีหน้ากระอักกระอ่วนพร้อมกับรีบลุกออกมาจากที่นั่ง แต่เธอกลับโดนกระชากให้นั่งลงตามเดิมจนตัวเธอเกือบจะเซถลาไปทางธีวรา
“นี่พี่ปรายดาว ผมแค่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งข้างพี่คนสวยไม่ได้เหรอ” ธีวราแสยะยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ของตน ปรายดาวกับกลืนน้ำลายก้อนใหญ่อย่างฝืดคอ
“เอาล่ะ ๆ ทานข้าวกันได้แล้ว อย่ามัวแต่ทะเลาะกันอยู่เลย”ธีราเป็นคนห้ามทัพของพวกเขาทั้งคู่
“ป้าสาคะ” ปรายดาวหันไปหาแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ในห้องครัว
“ช่วยเอาโถข้าวมาให้หน่อยนะคะ ส่วนป้ากับพี่เบิ้มก็มานั่งทานข้าวด้วยกันนะคะ นาน ๆ ทีดาวจะเป็นคนลงมือทำอาหารเอง มาเถอะค่ะ คุณพ่อไม่ว่าหรอกใช่ไหมคะ” ปรายดาวหันไปยักคิ้วให้ผู้อาวุโสของบ้านพร้อมกับรอคำตอบ
“อื้ม มานั่งด้วยกันสิ นาน ๆ ฉันจะได้เข้ามาที่บ้านนี้สักที เรียกเจ้าเบิ้มมาด้วยล่ะ จะได้มาทานพร้อม ๆ กัน”
“ค่ะคุณผู้ชาย” แม่บ้านรับคำ ก่อนจะไปตามคนขับรถที่กำลังเช็ดรถอยู่แถวบริเวณลานจอดรถ
ต่อจากนั้นพวกเขาทั้งห้าคนก็ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ต่างคนต่างก็ออกปากชมอาหารมื้อนี้ว่าอร่อยมากมายเจ้าตัวที่ลงมือทำอาหารเองยิ้มจนแก้มปริ
แต่หารู้ไม่ว่ายังมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ปรายดาวอย่างเสน่หา ส่วนเธอกลับลืมไปเลยว่าคนข้าง ๆ ของตนเองอันตรายมากแค่ไหน
จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนค่ำ แถมคนที่เป็นบิดาของทั้งคู่เมื่อทานอาหารกันเสร็จก็ขอตัวกลับ เพราะท่านมีงานที่ต้องกลับไปทำอีก เหลือแค่ธีวรา ปรายดาว พี่เบิ้ม แล้วก็ป้าแม่บ้าน
ปรายดาวขออาสาจัดการของที่อยู่บนโต๊ะเอง และให้ป้าสากับพี่เบิ้มไปพักผ่อน ส่วนธีวราเมื่อเห็นบิดาได้ขับรถออกไปจากบริเวณบ้านแล้วเขาก็ขอไปพักผ่อนเช่นกัน
ปรายดาวเมื่อเห็นธีวราเดินขึ้นห้องไป เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกว่าตัวเองจะได้ไม่ต้องเจอเรื่องอย่างว่าอีก
ในขณะที่ปรายดาวกำลังจัดแจงล้างถ้วยจาน จู่ ๆ กลับมีแขนของใครบางคนเอื้อมมากอดเอว ปรายาดาวกลับสะดุ้งจนสุดตัว พอเธอหันไปมองก็เจอกับรอยจูบที่ธีวราจงใจจะปิดปากเธอก่อนที่จะส่งเสียงร้องออกมา
“อือ…”
ปรายดาวกลับหลุดเสียงคราง ในขณะที่หน้าตาของเธอกลับตกใจกับสิ่งที่ธีวราได้ทำ เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะบุ่มบ่ามได้ถึงขนาดนี้ แถมที่ตรงนี้มันดันอยู่ใกล้ห้องของป้าสาและก็ห้องพี่เบิ้มอีกต่างหาก เมื่อเธอตั้งสติได้ก็ผลักเขาให้ออกไป
“จะทำอะไร” ปรายดาวทำเสียงแข็งใส่ธีวรา
“ก็ผมคิดถึงของผมนิ พี่เอาแต่หลบหน้าผมมาหลายวันแล้ว”
ปรายดาวหันมาเผชิญหน้ากับธีวรา แต่หารู้ไม่ว่าเธอดันเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มกระชับแขนของตนเพื่อดันให้เธอให้ใกล้ตัวเขามากขึ้น พร้อมกับเอามือล้วงเข้าไปกางเกง
ปรายดาวเมื่อรู้สึกถึงมืออันใหญ่ของธีวราซึ่งกำลังลวนลามเธออยู่ หญิงสาวพยายามดึงมือของเขาออกมาจากสะโพกของเธอ แต่แล้วมันกลับไม่เป็นผล
ยิ่งปรายดาวดิ้นรนมากเท่าไรธีวราก็ยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเธอรังเกียจเขามากเท่าไรเขาก็ยิ่งแกล้งเธอมากกว่าเดิม เอาสิ! ระหว่างเขากับเธอใครมันจะชนะ
“หึ! พี่ไม่มีวันจะชนะผมหรอก” ธีวราโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของปรายดาว จนเธอต้องถลึงตาใส่เขาแทบจะทันที
“ธีร์ ปล่อยพี่นะ พี่ยังล้างจานไม่เสร็จเลย” ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ปรายดาวก็จะใช้ไม้อ่อนล่ะกัน
“ก็ได้” สิ้นเสียงธีวราก็ได้ปล่อยปรายดาวออกจากวงแขนด้วยสายตาและสีหน้าที่สลดเพียงเล็กน้อย แต่มีหรือที่เขาจะปล่อยเธอไปได้ง่าย ๆ เธอคิดผิดมหันต์