แม้เหตุการณ์ในแคว้นเยว่จะกำลังเดือดพล่านด้วยเปลวเพลิงแห่งสงครามที่มีต่อเนื่องมายาวนาน ทว่าภายในจวนเจ้ากรมสินแร่ซึ่งอยู่ห่างไกลถึงแคว้นเฉากลับเงียบสงบยิ่งนัก เสียงขลุ่ยบรรเลงเป็นท่วงทำนองไพเราะดังกังวานมาจากเรือนดวงดาวในเวลาบ่ายคล้อย น่าแปลกที่วันนี้มันกลับเจือด้วยความผิดหวังจางๆ ต่างจากทุกทีที่เหอซิงเคยเป่าโดยสิ้นเชิง ดนตรีสามารถสื่อถึงอารมณ์ของผู้เล่นได้จริงๆ อย่างที่เหออวี่เทียนว่า ครานี้นางเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว “ซิงเอ๋อร์ของข้า เจ้าอย่าได้เศร้านักเลย เขามิใช่เด็กที่เจ้าตามหาอยู่ก็มิเห็นเป็นไร ไว้เราค่อยตามหากันใหม่ก็ได้มิใช่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มนวลมาพร้อมกับกลิ่นหอมประหลาดที่ฟุ้งอยู่รอบกาย เจ้าของเรือนผมสีเงินทรุดตัวลงนั่งข้างๆ หญิงสาวที่ตั่งริมหน้าต่าง มือเรียวบางลดขลุ่ยลง เมื่อคืนนางได้รู้ความจริงแล้วว่าสือฮว้าผู้นั้นมิใช่ ‘ม่อสือฮว้า’ ที่ตนเองตามหา เขามิเคยไปแคว้นเยว่ มิเคยเห็น