คอนโดเจสสิกา
หญิงสาวนอนพลิกตัวไปมาก่อนรู้สึกตัวตื่นเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ เพื่อปรับโฟกัสการมองเห็น เธอค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงกับพนักพิงหัวเตียงด้วยสภาพร่างกายที่ร้าวระบมเพราะยังไม่หายจากการบอบช้ำ
"ตื่นแล้วหรือคะคุณหนู" เจสสิกาหันไปตามเสียงนุ่ม เธอขมวดคิ้วยุ่งเมื่อหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกับถาดข้าวต้ม
หญิงสาวเหลือบตามองไปรอบๆ ห้องเพื่อสำรวจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
เธอก็อยู่ห้องของตัวเองนี่ แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
"ป้าชื่อสมพรเรียกว่าป้าพรก็ได้ นายฝรั่งจ้างป้ามาให้ดูแลคุณหนูค่ะ"
"นายฝรั่ง?" น้ำเสียงแหบแห้งถูกเปล่งออกมาจากลำคอระหง
"ค่ะ นายฝรั่ง ป้าเรียกชื่อไม่ค่อยถูก"
ป้าสมพรวางถาดข้าวต้มที่โต๊ะข้างเตียงของเจสสิกาแล้วรินน้ำเปล่าใส่แก้วยื่นให้เธอดื่ม เธออดเวทนาหญิงสาวไม่ได้เพราะเมื่อคืนเธอเป็นคนดูแลเจสสิกาอย่างใกล้ชิดเมื่อเห็นสภาพร่างกาย และรอยช้ำตามร่างกายของเธอจึงเกิดความสงสารขึ้นในใจแต่เธอเป็นเพียงแค่แม่บ้านตัวเล็กๆ จะทำอะไรได้นอกจากคอยดูแลเธอให้ดีที่สุด
'นายฝรั่งนี่ท่าจะชอบความรุนแรงถึงได้ทำกับผู้หญิงของตัวเองขนาดนี้'
ป้าสมพรดูแลหญิงสาวทุกอย่างเป็นอย่างดี และแน่นอนการกระทำของเธออยู่ในสายตาของออสตินตลอดเวลา
"ออสติน" น้ำเสียงทรงอำนาจของผู้ที่ถูกกล่าวถึงดังเข้ามาทำให้สองสาวต่างวัยหันไปมองตามต้นทางของเสียง
"ออสติน" เจสสิกาเผลอพูดชื่อเขาออกมาอย่างแผ่วเบาหัวใจของเธอหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที ร่างกายของเธอแข็งทื่อจนยากจะขยับ
เขามาที่นี่ได้ไงยัง
"คะ... คุณมาที่นี่ได้ยังไง อะ ออกไปนะ"
เจสสิกาเอ่ยไล่ด้วยความหวาดกลัว โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอมันทำให้คนที่อดทนอะไรไม่ได้อย่างออสตินอารมณ์ไม่ดี
มาเฟียหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่องทั้งๆ ที่มือสองข้างของเขาก็ยังล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนแต่เจสสิกากลับรู้สึกเหมือนกับว่าถูกเขาบีบคอเธอให้ทุกข์ทรมานทางสายตา เขาทำเหมือนกับว่ากำลังบีบคอของเธอจนหายใจติดๆ ขัดๆ
"ออกไป"
น้ำเสียงราบเรียบของเขาเอ่ยสั่งป้าสมพรที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหญิงสาว ป้าสมพรหันไปมองหน้าหญิงสาวอย่างนึกสงสารในใจ เธอโค้งตัวลงให้กับออสตินเพียงนิดเพื่อทำความเคารพแล้วเดินออกไปโดยสายตายังหันมามองเจสสิกาอย่างห่วงใย
ทันทีที่ประตูปิดลงมาเฟียหนุ่มย่างกรายเข้าหาเจสสิกาอย่างเชื่องช้า สายตาคมไล่สำรวจเรือนร่างของเธอด้วยแววตานิ่งเฉย หญิงสาวที่มีความหวาดกลัวเขาอยู่แล้วพยายามถอยหนี แต่กลับถูกมือหนาของมาเฟียหนุ่ม
จับข้อเท้าเอาไว้ไม่ให้ขยับ
"อะ ออกไปนะ"
"..." ดวงตาคมไล่มองร่างกายของหญิงสาว เขากระชากขาของเธอให้เข้าหาเขาจนร่างบางของเธอเซถลาไปตามแรงดึง มือหนาบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้จนปากของเธอขึ้นรูปตัวโอ
"อืออออ! เอ็บ (เจ็บ) "
"ก็ยังไม่ตายนิ" ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อของชายหนุ่มด้วย
แววตาสั่นระริก เขาต้องการอะไรกันแน่ เธออยากถามออกไป แต่สิ่งที่สงสัยมากกว่านี้คือเขาเข้ามาในห้องเธอได้อย่างไร
"อุนเอ้าอาไอ้ไอ (คุณเข้ามาได้ไง) "
"ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่จะให้เธอตาย หรือให้เธออยู่"
มาเฟียหนุ่มพูดจบเขาสะบัดมือหนาที่จับใบหน้าของเธอออก เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนหยิบเอาการ์ดเชิญเข้างานเลี้ยงออกมา ซึ่งเขาเคยให้เธอไปแล้วเมื่อตอนเจอกันครั้งแรก วันนี้เขาเอามาให้เธออีกครั้งเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง
พรึ่บ!
มาเฟียหนุ่มโยนการ์ดเชิญไปให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะเดินออกไปเขาได้ทิ้งคำพูดเอาไว้ให้เธอได้คิด มันคือทางที่เธอต้องเลือก
"อีกสามเดือนเอาการ์ดนั่นให้พ่อเธอด้วย"
"..." เจสสิกาก้มหน้ามองการ์ดเชิญที่อยู่บนหน้าตักของเธอ แววตาของเธอสั่นระริก เธอกำลังหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าหากเธอเอาการ์ดเชิญนี้ให้พ่อของเธอพ่อของเธอจะเป็นยังไงบ้าง
"มันคงจะเจ็บน่าดู ถ้าลูกสาวมันเป็นคนล่อลวงมันมาให้ฉันฆ่าได้อย่างง่ายๆ "
"ยะ... อย่าทำอะไรพ่อฉันนะ"
"เธอมีอะไรมาแลกรึเปล่าละ"
"..." เจสสิกาก้มหน้าเม้มปากแน่น เธอรีบหยัดกายลุกขึ้นทันทีเพื่อจะไปร้องขอเขา มาเฟียหนุ่มไม่เพียงไม่หยุด แต่ยังเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจหญิงสาวที่ล้มลงข้างเตียงเพราะร่างกายอ่อนแรง
"ถ้าของที่เธอจะแลกมันทำให้ฉันสนใจ บางทีฉันอาจจะยืดเวลาในการฆ่าพ่อเธอออกไปก็ได้นะ"
"ดะ... เดี๋ยวซิ เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป"
มาเฟียหนุ่มเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจหญิงสาวที่พยายามลุกขึ้นจะเดินตามเขาเลย สิ้นเสียงประตูห้องปิดลงเจสสิกาเปิดการ์ดเชิญดูเวลาในอีกสามเดือนข้างหน้าหากเธอเอาการ์ดนี้ให้พ่อ พ่อเธอจะตายเหรอ แต่ถ้าเธอไม่ให้มันจะเกิดอะไรขึ้นไหมนะ
พ่อไปทำอะไรไว้กับเขานะ?
หญิงสาวก้มหน้ามองการ์ดเชิญนั่นด้วยแววตาสั่นระริก ไม่นานนักป้าสมพรก็เปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นว่าเธอล้มลงอยู่ข้างเตียงหญิงวัยกลางคนก็รีบปรี่เข้ามาหาเธอทันที
"คุณหนู!"
"ปะ... ป้า" ดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอเบ้าตาสวยเธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แล้วลุกขึ้นตามแรงพยุงของป้าสมพรที่พยุงร่างเธอให้ไปนั่งบนเตียงนอน
"กินข้าวนะคะเดี๋ยวป้าป้อน"
เจสสิกาก้มหน้าเม้มปากแน่นเธอจะทำยังไงดี เธอจะปกป้องพ่อเธอยังไงไม่ให้เขาฆ่าพ่อเธอได้ หรือเธอควรจะตัดสินใจบอกพ่อเธอดีว่ามีคนกำลังปองร้ายท่าน แต่จะบอกพ่อยังไงในเมื่อเธอไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีแค่เพียงร่างกายที่บอบช้ำ และรอยรักที่มีไปทั่วตัวด้วยน้ำมือของเขา
เธอจะต้องหาหลักฐานให้ได้ว่ามีคนกำลังปองร้ายพ่อของเธอเพื่อให้พ่อเธอเชื่อ แต่อีกใจก็อยากบอกพ่อเธอให้รู้ตัวไว้ก่อน เจสสิกาตัดสินใจต่อสายหาพ่อของตัวเองแม้จะยังไม่มีหลักฐานแต่ก็อยากให้ท่านระวังตัวไว้ก่อน
(เจสซี่ ว่าไงลูก)
"ทำอะไรอยู่คะคุณพ่อ"
(กำลังตีกอล์ฟอยู่ครับ ลูกมีอะไรรึเปล่า แล้วสมัครฝึกงานได้มั้ยลูก)
"ดะ... ได้แล้วค่ะ"
(ดีแล้ว ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องไปลำบาก ลูกอยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ พ่อเลี้ยงได้)
"คุณพ่อคะ เจสมีเรื่องจะบอก"
(ไว้เดี๋ยวค่อยคุยนะลูก พ่อขอตีกอล์ฟก่อนแป๊บนึงนะ)
"แต่มันสำคัญมากนะคะ"
(แป๊บเดียวลูกนะครับใกล้จบเกมแล้ว) หลังจากที่วางสายกับผู้เป็นพ่อ เจสสิกากำโทรศัพท์แน่นเธอจะทำยังไงดี หรือจะหาของที่เขาอยากได้ไปให้เขา แล้วเขาอยากได้อะไรละ จริงสิ เมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกเขามองสร้อยคอของเธอไม่หยุดเขาอาจจะอยากได้มันก็ได้นะ
"หายไปไหนนะสร้อยคอฉัน"
"ป้าพรเห็นสร้อยคอที่เป็นแหวนรูปพญาเหยี่ยวของเจสไหมคะ" เธอพยายามหาทั่วตัวแต่ก็ไม่พบ ไม่รู้ไปหล่นอยู่ที่ไหน
"เห็นค่ะ"
"อยู่ที่ไหนคะ"
"เห็นอยู่ที่คอของนายฝรั่งนะคะ"