มาเฟียหนุ่มจ้องมองแหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยวที่เด็กสาวห้อยไว้ที่คอ จนตาไม่กะพริบเขาค่อยๆ เงยหน้ามองใบหน้าหน้าตาน่ารักของเธอ พร้อมกับอ่านป้ายชื่อที่ติดไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ
"เจสสิกา"
"คะ?"
เด็กสาวเข้าใจว่าคุณผู้บริหารหนุ่มเรียกชื่อเธอ เธอจึงขานรับตามมารยาท และเก็บสร้อยคอของเธอกลับไปในเสื้อ
เธอเอียงคอมองใบหน้าของผู้บริหารหนุ่มที่ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ดวงตาของเขาสีฟ้าคราม และดูหม่นหมอง เขาดูเย็นชา และน่ากลัว
"คุณไปชั้นไหนคะ"
ติ๊ด~
มาเฟียหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่กลับกดลิฟต์เอง เขากดไปที่ชั้นบนสุดโดยที่เด็กสาวหมุนตัวกลับมายืนกอดแฟ้มงานแน่นหันหน้าออกทางประตูลิฟต์ เธอตั้งใจจะมาฝึกงานกับเครือบริษัทเฮนเดอร์สันเพราะเป็นบริษัทที่ใหญ่โต และมั่นคง ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งอยู่ปีหนึ่งของมหาวิทยาลัย J และอายุเพียงแค่ยี่สิบปีเท่านั้นก็ตาม
เธอทำเรื่องขอมหาวิทยาลัยเป็นนักศึกษาภาคพิเศษ คือเรียนทฤษฎีหนึ่งเทอม และฝึกงานหนึ่งเทอม จนมหาวิทยาลัยยอมใจอ่อนเธอไม่ได้ใช้อิทธิพลของคุณพ่อเลยสักนิด เธอตั้งใจใช้ความสามารถของตัวเองล้วนๆ
เจสสิกาถอนหายใจออกมาหนักๆ เหมือนรู้สึกอึดอัดราวกับกำลังถูกจ้องมองจากใครบางคน แต่เธอไม่กล้าหันกลับไป ที่สำคัญเธอต้องออกลิฟต์ก่อนผู้ชายคนข้างหลังนั่นอยู่แล้วเพราะเธอจะมายื่นเอกสารฝึกงานที่นี่
ติ๊ง~
เมื่อถึงชั้นที่หมายของเธอกลับมีมือหนาของคนข้างหลังกดมันปิดลงอย่างหน้าตาเฉย เจสสิกาหันไปมองหน้าผู้บริหารหนุ่มคนนั้นด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่เธอจะพินิจพิจารณาดีๆ แล้วก็เบิกตาโตขึ้นเมื่อจำได้ว่าเขาคือออสติน เฮนเดอร์สัน ผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ และมีธุรกิจลูกอีกหลายอย่าง
"คะ... คุณออสติน"
มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองเด็กสาวเพียงนิดแล้วหักนิ้วของตัวเองเล่นจนเกิดเสียงดังกร๊อบ! จนเด็กสาวเริ่มรู้สึกหวาดหวั่น นี่เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่าเนี่ย อีตาบ้านี้เหมือนคนโรคจิตเลย เจสสิกาหมุนตัวกลับมาหมายจะกดลิฟต์ออกจากชั้นนี้ให้เร็วที่สุด
พรึ่บ!
ทว่ามือหนาของคนข้างหลังก็กักขังเธอเอาไว้ด้วยการค้ำมือไปทางข้างหน้ากับผนังลิฟต์โดยมีเจสสิกายืนกอดเอกสารแน่นหันหลัง
ลมหายใจอุ่นของเขาเป่ารดต้นคอของเธอจนน่ากลัว เขาใกล้เธอเกินไปแล้ว เธอถอนตัวตอนนี้ทันไหมนะ
"พ่อเธอ สบายดีไหมเจส"
น้ำเสียงเย็นเยือกจากคนด้านหลังทำให้เจสสิกาขนลุกเกรียวอย่างน่าประหลาดแต่ที่เธอโมโหคือคนที่ไม่เคยรู้จักกันทำไมคำถามแรกถึงได้ถามถึงพ่อคนอื่นอย่างไม่มีมารยาท
"คะ... คุณรู้จักพ่อฉันด้วยเหรอคะ"
"หึ! ฉันรู้จักพ่อเธอดีเลยแหละ"
อ่า... ถ้าเขารู้จักคุณพ่อของเธอนั่นหมายความว่าเราก็เป็นคนรู้จักกันละสิ แต่ว่านะคุณพ่อของเธอมีเพื่อนที่ดูหนุ่มขนาดนี้ด้วยเหรอ
ติ๊ง~
ลิฟต์แจ้งเตือนถึงชั้นบนสุด ทำให้ประตูลิฟต์เปิดออกกว้างมาเฟียหนุ่มในชุดสูทสีดำยังไม่ยอมเดินออกไป และเจสสิกาเองก็ไม่ยอมเดินออกไปเพราะเป้าหมายของเธอไม่ใช่ชั้นนี้
"อ่ะ!... ว้ายยยยยย!"
ร่างบางลอยละลิ่วขึ้นเหนือพื้นเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มหิ้วขึ้นพาดบ่าแกร่งเดินตรงไปที่ห้องทำงานที่เป็นส่วนตัวของเขาโดยตลอดทางมีลูกน้องยืนเรียงรายนับสิบคน
"ปล่อยนะ ปล่อยฉันนะ คุณมาอุ้มฉันทำไมคะเนี่ย ปล่อย!!"
ปึ้ง!!
เพล้งงงงง!!
เสียงประตูห้องทำงานปิดลงตามด้วยแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานของมาเฟียหนุ่มถูกปัดลงพื้นอย่างระเนระนาด เขาวางร่างบางลงบนโต๊ะทำงานแล้วถือวิสาสะแทรกกายเข้ากลางหว่างขาของเธอ
"จะ... จะทำอะไร ฉะ.... ฉันสู้นะ!"
สองมือเล็กดันแผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มให้ออกห่างเด็กสาวเริ่มหวาดกลัวกับการกระทำของชายคนนี้ ออสตินถือวิสาสะดึงแฟ้มของเธอออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี เจสสิการีบดันตัวมาเฟียหนุ่มให้ออกห่างแต่กลับถูกเขารั้งร่างของเธอเอาไว้ไม่ให้ถอยหนี
"ฉันสู้นะ คะ... คุณพ่อฉันเป็นตำรวจคุณก็รู้นี่ ถ้าคุณทำอะไรฉะ...!"
"รำคาญ!" เขารำคาญเลยตวาดเธอไปจนเสียงดังลั่นห้อง แววตาของเขาเรียบนิ่งอย่างน่ากลัว เจสสิกาสะดุ้งเฮือกตัวสั่นเพราะความกลัว นี่เธอทำอะไรผิดงั้นเหรอ ทำไมเขาถึงได้ทำกับเธออย่างนี้
"กรี๊ดดดดดดดดดดด!"
มือหนาข้างที่ว่างกระชากเสื้อนักศึกษาของเธอออกจนกระดุมหลุดลุ่ยแล้วหยิบเอาแหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยวขึ้นมาดูอย่างใกล้ชิด หึ! ไม่คิดว่าเหยื่อจะเดินเข้าถ้ำเสือง่ายขนาดนี้
"ยะ... อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันฟ้องคุณพ่อแน่ คุณพ่อฉันเป็นตำรวจนะ คะ... คุณ พะ... พ่อ ฉันเอาคุณตายแน่!"
เด็กสาวตัวน้อยกำลังขู่ราชสีห์ที่กระหายการแก้แค้นอย่างเขามันเป็นอะไรที่โคตรโง่เลย วันนี้เขาจะยังไม่กินเหยื่อ มือหนาลูบเนินอกอวบอิ่มของเธอเบาๆ แต่สายตาของเขาที่จ้องมองใบหน้าหวานของเธอมันว่างเปล่าเสียจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เขาคิดอะไรอยู่เธอไม่สามารถคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย
ระ... โรคจิต เขามันโรคจิตชัดๆ
"ฉัน ฝากของให้พ่อเธอหน่อย"
"ชะ... ช่วยปล่อยฉันลงก่อนได้ไหมคะ" ขอร้องเขาน้ำเสียงสั่นกลัว
มาเฟียหนุ่มยังใช้มือหนาลูบวนที่เนินอกอวบของเด็กสาวอยู่ไล่สายตามองเธออย่างยากจะคาดเดา
เขาผละตัวลุกขึ้นแล้วถอยห่างเมื่อเจสสิกาเป็นอิสระเธอรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยทันทีแม้ร่างกายจะยังสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว
แต่เธอจะไม่มีวันหลั่งน้ำตาแห่งความหวาดกลัวนี้ออกมาอย่างแน่นอน
เด็กสาวยื่นมือไปข้างหน้าพลางเบือนหน้าหนี เพราะเขาบอกจะฝากของขวัญไปให้คุณพ่อของเธอ เธอจึงต้องใช้มือหนึ่งกุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองไว้ ส่วนอีกมือยื่นไปข้างหน้าเพื่อรับของ
การ์ดเชิญเข้างานเลี้ยงสังสรรค์แห่งหนึ่งถูกวางลงบนมือนุ่มอย่างแผ่วเบา ส่วนตัวคนว่างน่ะเหรอเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก่อนจะเหลือบตามองเธอ
"กลับไปได้แล้ว"
"ฉะ... ฉันมาขอฝึกงานที่นี่"
"เธอได้ทำงานที่นี่ตั้งแต่ฉันเห็นหน้าเธอแล้ว" ว้าว... เด็กเส้นสินะ เพราะคุณพ่อหรือเปล่านะ แต่การรับพนักงานของเขาค่อนข้างรุนแรงไปหน่อยมั้ยเนี่ย
เจสสิกายิ้มร่าลืมเรื่องที่เขาทำกับเธอไว้จนหมดสิ้น นี่อาจจะเป็นวิธีต้อนรับหรือทักทายของเขาก็ได้เธอพอรู้มาว่าเจ้าของที่นี่มีนิสัยแปลกประหลาด เขาไม่ได้ขืนใจเธอมันก็เพียงพอแล้ว หรือว่าเขาอาจจะชื่นชอบสร้อยคอของเธอก็ได้นะเพราะเขามัวแต่จ้องมันไม่ละสายตาเลยล่ะ
"ขอบคุณนะคะ"
เด็กสาวตั้งท่าจะเดินออกไปแต่เธอก็อายเกินกว่าจะเดินออกไปด้วยสภาพแบบนี้ เธอหันมามองซ้ายมองขวาก่อนจะรวบรวมความกล้าวิ่งกลับไปหามาเฟียหนุ่มที่เอาแต่จ้องมองเธอ
"ขะ... ขอยืมเสื้อสูทของคุณได้ไหม คะ... คือเสื้อฉันคุณทำมันขาดหมดเลย"