ตอนที่ 6

2451 คำ
"ร้านไหนอร่อยแป้งรู้ไหมพอดีเฮียไม่ค่อยได้กินแถวนี้" นานๆทีจะมากินแต่มันก็ไม่แปลกในเมื่อเขาพึ่งมาทำงานจริงจังเองแล้วแถวออฟฟิศเนี่ยก็ร้านอาหารเยอะไปหมด อยากกินคนข้างตัวแทนข้าวจัง! "ไปร้านนั้นค่ะอาหารอร่อยมาก" เธอชี้ไปทางร้านอาหารที่คนเยอะพอสมควรแล้วกดโทรศัพท์ไปจองคิวกับเจ้าของร้านที่ครั้งหนึ่งเราเคยสนิทกันมากพอสมควร "อ่อ...เฮียเลี้ยงเองแป้งคิดว่าเมนูไหนอร่อยก็สั่งมาเลยนะ" แค่เห็นเธอหยิบโทรศัพท์มากดข้อความก็พอจะเดาว่ารู้จักกับที่ร้านแต่ที่น่าสนใจที่แววตากับรอยยิ้มมุมปากนี่สิ ไม่แน่ใจว่าอาหารอร่อยหรือเจ้าของร้านอร่อยกันแน่! เขาไม่ได้โง่พอจะอ่านสีหน้าแววตาเธอไม่ออกแต่ถึงอย่างนั้นก็ตีหน้าแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรแล้วเลือกเล่นตามเกมของเธอไปก่อนแล้วกัน เมื่อก่อนเขาเคยได้ยินนะว่าผู้หญิงร้ายผู้ชายรักแต่ตอนนี้กลับต้องมาคิดใหม่เพราะดูท่าแล้วเราน่าจะร้ายไม่ต่างกันเลยทั้งคู่ ใครรู้สึกก่อนคนนั้นแพ้! ไม่นานเราก็มาถึงร้านอาหารที่แป้งบอกและเขายังคงแกล้งโง่ทำเหมือนคนไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้วนั่งมองเธอกวาดสายตาสอดส่องไปทั่วทั้งร้านเหมือนกับว่ากำลังเช็คว่ามีใครสนใจอยู่บ้างและแน่นอนว่าหลายคนสนใจในตัวเธอถึงขนาดแอบมองโดยไม่สนใจเลยว่าเธอมากับใคร "น้องแป้งไม่ได้เจอกันนานเลยนะคิดว่าจะลืมกันแล้วซะอีก แล้วนี่ใครเหรอครับ?" "นึกว่าไม่อยู่ร้านซะอีก นี่เฮียฟีฟ่าค่ะเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันส่วนนี่พี่ภพเป็นเจ้าของร้าน" เธอยิ้มกริ่มแอบมองปฏิกิริยาของเฮียฟีฟ่าว่าจะหึงหวงไหมแต่เขายื่นมือไปจับมือทักทายทำความรู้สึกเหมือนไม่รู้สึกอะไรในขณะที่พี่ภพแทบจะเรียกว่าฝืนยิ้มด้วยซ้ำ เฮียฟีฟ่าจะดูไม่ออกว่าเธอกับพี่เป็นอะไรกัน ...แต่เขาไม่ใช่คนโง่นะ! "กินข้าวด้วยกันสิครับ" "คงดูไม่ดีเท่าไรที่ผมจะนั่งทานด้วย ตามสบายครับ" ฟีฟ่ายิ้มมุมปากแอบสะใจที่เห็นแววตาผิดหวังของแป้งแสดงออกมาและแววตาอาลัยอาวรณ์แฝงด้วยความไม่พอใจของภพ เขารู้หรอกน่าว่าเกมง่ายๆแบบนี้คืออะไรแล้วก็รู้ว่าควรทำตัวยังไงถึงจะปั่นประสาทคนที่ชอบเล่นกับใจคนอื่น แป้งรู้ว่าเขาสนใจเธอมากในขณะเดียวกันไอ้เจ้าของร้านก็คงเป็นหนึ่งในคนในความลับของเธอ เขาจะทำให้เธอสับสนแล้วสงสัยในความรู้สึกที่มีจนอึดอัดแล้วเข้าหาเขาเอง เธอเป็นคาสโนวี่ย่อมต้องการเป็นที่หนึ่งในขณะที่ตัวเองมีที่สองที่สามไว้คอยปลอบใจเสมอส่วนเขาก็เป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่เคยขาดเหลือเรื่องผู้หญิง เธอแค่ต้องการเอาชนะแค่นั้น! "เฮียฟีฟ่าดูปรกติจังเลยนะคะแต่ทำงานวันแรกคงจะเหนื่อยแย่เลย" เธอเอือมมือไปกุมมือใหญ่ไว้แล้วมองด้วยความสงสัยในแววตาไม่ต่างนักล่าแต่กลับยอมอยู่นิ่งเฉยทั้งที่มีคนสนใจเหยื่อของตัวเองอยู่ "ก็ไม่มีอะไรยากนี่ แป้งละเหนื่อยไหมพรุ่งนี้ไปไหนรึเปล่า?" บางทีเขาก็เดินตามเกมของเธอบ้างก็ดียังไงซะแป้งก็ไม่ทางรอดจากเงื้อมือได้หรอก "ไม่มั่นใจค่ะ" "งั้น...พรุ่งนี้ตื่นสายได้ใช่ไหม?" "เฮียฟีฟ่าถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่าคะ?" "พอดีพรุ่งนี้เฮียก็ว่างอยากจะไปเที่ยวคาเฟ่ของแป้งไง เฮียอยากรู้จักแป้งกว่านี้" "งั้นก็เต็มใจค่ะ" “เฮียจะเจอแป้งที่นั่นใช่ไหม?” “คงแล้วแต่ดวงมั้งคะ” เขาดึงมือออกแล้วหันมาสนใจอาหารที่รสชาติก็ธรรมดาทั่วไปแต่ร้านตกแต่งได้ดีเฉยๆคนเลยเยอะขนาดนี้ มีบางครั้งที่เห็นไอ้เจ้าของร้านยืนแอบมองห่างๆด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ปนโกรธแค้นแต่ถึงอย่างนั้นก็แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรแล้วเอาใจเธอด้วยการตักกับข้าวให้ เขาจะมอมเมาเธอด้วยความรักแล้วยั่วผู้ชายคนอื่นให้มันหึงหวงจนตบะแตกจนแป้งทนไม่ไหวยอมตัดจบทุกคนเพื่อมาเริ่มต้นกับเขาคนเดียว แป้งนั่งกินอาหารไปพูดคุยเรื่องต่างๆในชีวิตด้วยน้ำเสียงหวานมีบางครั้งที่เราเผลอสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจและก็มีอีกหลายครั้งที่ปลายรองเท้าส้นสูงแตะขาคล้ายว่าเรียกร้องความสนใจ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนเจ้าชู้มารักกัน? หลังจากทำงานเหนื่อยทั้งวันตกเย็นก็แวะเข้าร้านแต่งรถเป็นคนเกือบสุดท้ายซึ่งเพื่อนแต่ละคนหนีเมียมาทั้งนั้นยกเว้นไอ้น่านคนหนึ่งนะเพราะมันไม่มีไงละ ชานกำลังจะหมั้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากับคู่หมั้นที่มันแม่งเคยปากดีว่าไม่มีทางยอมทำตามคำสั่งปู่แต่สุดท้ายคลั่งรักเป็นไอ้โบ้นี่ไงแถมประสาทแดกวันละสิบรอบเพราะหึงได้มั้ง แปลกนะที่อยู่กับเพื่อนแล้วไอ้ชานมันแม่งมีเหตุผลที่สุดแต่พออยู่กับเมียดันหาเหตุผลไม่ได้ใช้แต่อารมณ์จนเหมือนว่าเป็นคนละคนกันเลย ความรักเปลี่ยนเพื่อนที่เป็นคนใจเย็นประดุจน้ำแข็งขั่วโลกให้ร้อนรนได้ ในขณะไอ้ว่านมีเมียแบบคลั่งรักไม่ต่างกันแต่อยู่กับเมียมันใจเย็นไงทะเลาะกันก็แทบไม่มีต่างกับตอนอยู่กับเพื่อน ความรักนี่มันน่ากลัวจริงๆ "สรุปคนเมื่อคืนมึงจะเอาให้ได้ใช่ป่ะพ่อแม่ห้ามก็ไม่สนงี้เหรอวะ?" ชานถามเพื่อนที่ระบายลงในไลน์กลุ่มเมื่อตอนบ่ายแถมยังสมคบคิดกับคนที่ตอแหลเก่งที่สุดในกลุ่มให้ช่วยเรื่องนี้ "ก็กูอยากได้" แทบไม่มีอะไรเลยที่เขาอยากได้แล้วจะพลาดโดยเฉพาะผู้หญิงที่จัดว่ามีให้เลือกเหลือเฟือแต่แบบนั้นมันง่ายและน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขาไง "รักคนไม่เคยพอระวังเจ็บหนักนะมึง กูเตือนไว้ก่อน!" ว่านเตือนเบาๆจากประสบการณ์ตัวเองที่เผชิญมาปีครึ่งกว่าจะมีวันนี้พูดได้เลยว่าสาหัสมาก "กูไม่มีทางเจ็บคนเดียวแน่ไอ้ว่าน ถ้าแป้งทำกูเจ็บก็ต้องมีคนที่เจ็บกว่า!" ตรรกะความรักของคนอื่นเป็นยังไงเขาไม่รู้หรอกนะแต่สำหรับเขาแล้วมันคือไฟที่ให้ความอบอุ่นและแผดเผาเราในเวลาเดียวกัน "ถ้ามึงเป็นคนทำให้แป้งเจ็บละ?" ว่านถามกลับอยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ไม่สนห่าเหวอะไรจะตอบยังไง "กูไม่ผิดแค่นั้นเอง" ถึงเขาจะไม่มีเหตุผลแต่เขาไม่เคยผิด "เลวนะมึงไอ้สัตว์" ว่านด่าเบาๆ "ดีนะที่กูมีเพื่อนเหี้ยๆอย่างพวกมึงที่เลวกว่า!" แถวบ้านเขาว่าเรียกศีลเสมอกันแล้วคนอย่างพวกมันน่ะน่ากลัวกว่าเขาเยอะมากกว่าหลายเท่า "สรุปไอ้น่านจะลงแข่งให้กูแทนไอ้โต๊ดใช่ไหม?" "เห้ยน่าน!" "ไอ้เหี้ยน่าน!!" "มึงจะแหกปากอะไรนักหนาวะกูพูดคำไหนก็คำนั้นดิวะ แม่ง!" น่านตอบกลับด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้วยกแก้วกระดกก่อนจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้องนอกต่อ "มันทะเลาะกับคุณเลขาคนสวยอีกแล้วเหรอวะ?" ชานหันมาถามด้วยความงงที่สุดเพราะตอนออกมาพร้อมกันยังอารมณ์ดีอยู่เลยแต่ดูตอนนี้สิทำท่าเหมือนพร้อมจะฆ่าคนงั้นแหละ "ถ้าเป็นกูนะป่านนี้ได้เป็นเมียแล้ว!" ฟีฟ่าบ่นแล้วรับแก้วจากเพื่อนมากดื่มเพิ่ม ไม่รู้สิว่าทำไมยิ่งดื่มยิ่งรู้สึกว่าภาพในร้านอาหารเมื่อช่วงกลางวันถึงซ้อนทับเข้ามาชัดเจนมากขึ้นแล้วคำเตือนของว่านก็ล่องลอยเข้าในหัวสมองให้ต้องคิดหนัก วันนี้แป้งจงใจพาเขาไปที่นั่นเพื่ออวดเหรอหรือว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาไม่อยากจะมีความรักแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าอยากให้เธอรักแล้วยอมเป็นของเขาคนเดียว ทำไมถึงสลัดแป้งออกจากใจไม่ได้เลยวะ! เริ่มได้กลิ่นความเจ็บจางๆแล้ว เขากดโทรศัพท์ดูข้อความเผื่อว่าเธอจะส่งมาชวนไปเที่ยวหรืออยากจะออกไปกับเขาในคืนนี้แต่ก็ว่างเปล่า เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตแล้วละที่ใจง่ายได้ขนาดนี้เพียงแค่เผลอไปสบตาก็รู้สึกคล้ายว่าจะหลงทั้งที่เราเจอกันไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ สิ่งที่มันเกิดขึ้นในตอนนี้คงจะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่แน่เพราะเรามันคนประเภทคล้ายกันแล้วถ้าจะมีใครเจ็บคนนั้นก็คงเป็นเขาเองแหละ เธอรู้ว่าเขามันคนเจ้าชู้ ติดปาร์ตี้และไม่เคยหยุดที่ใครแต่เขาก็รู้ว่าเธอแค่คุยเล่นๆแค่อยากได้ความสนใจเท่านั้นเอง เธอหว่านเสน่ห์ไปเรื่อยมายั่วมาหยอกเย้าจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วเขาไม่มีทางให้รู้เด็ดขาดว่ารู้สึกยังไงกันแน่จนกว่าเขาจะได้เธอมาทั้งตัวทั้งใจก่อน เขาเห็นจุดจบของเราตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำแล้วทำไมถึงไม่หยุดห่ะ ถ้าเรารักกันอะไรที่ไม่เคยเป็นปัญหามันก็จะกลายเป็นปัญหาทันทีแล้วใครรู้สึกมากกว่าคนนั้นก็ย่อมเจ็บกว่ามากซึ่งเขาไม่อยากจะเดาอนาคตที่ยังมาไม่ถึงแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นตัวสำรองใครด้วย เขารักตัวเองมากเกินกว่าจะยอมเจ็บแบบนั้น! ในขณะเดียวกันแป้งนั่งกินอาหารเย็นกับเพื่อนสนิทที่ทำหน้าที่ได้เหมือนคนรักทุกอย่างติดเพียงแต่ว่าเราไม่ใช่คนรักแค่นั้นเอง มันเป็นความบังเอิญที่เกิดจากความตั้งใจของเธอที่มาเพื่อหวังว่าเราจะได้เจอกันแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดไปเลยสักนิดแต่ในขณะที่นั่งกินข้าวกับผู้ชายอีกคนสมองกลับนึกถึงผู้ชายอีกคน ทำไมต้องคิดถึงเฮียฟีฟ่าด้วย! เธอไม่อยากจะเป็นของเล่นใครแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านับตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าไปเมื่อสองปีก่อนเขาคือคนที่แรกเขย่าหัวใจให้สั่นสะท้านอีกครั้งเพียงแค่สบตาก็อยากได้มาครอบครองเป็นของเธอคนเดียว วันนี้เฮียฟีฟ่าไม่มีท่าทีหึงหวงเลยสักนิดทั้งที่คนฉลาดอย่างเขาน่าจะรู้ว่าที่ร้านอาหารนั้นคือใครเป็นอะไรกับเธอมาก่อน ...เขาทำให้เธอสับสนมาก! "ทะเลาะกับใครอีกละถึงมาที่นี่ได้?" "เปล่า คือ...เหนื่อยเฉยๆ" "แน่ใจเหรอ?" "อืม คืนนี้จะไปเที่ยวต่อกับเราไปด้วยกันไหม?" "เอาดิ! เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว" "แต่ไม่เอากันนะพอดีว่า…" "มีคนที่รักแล้วเหรอแป้ง?" "ทำไมถึงถามแบบนี้ละ?" "สายตาแกบอกอย่างนั้นแล้วที่มาหาฉันเนี่ยคงเพราะไอ้นั่นไม่สนใจใช่ไหม มันเป็นแบบนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ?" "ถ้าแกไม่ใช่เพื่อนก็คงดีสิ" คงจะดีไม่น้อยเลยถ้ารู้สึกถึงความรักแบบนั้นกับคนตรงหน้าแต่ถึงยังไงเราก็คือเพื่อน "เพื่อน? คนที่เป็นทุกอย่างให้แกต่างหากแล้วแกก็แค่ไม่รักเท่านั้นเอง" เป็นคนที่แป้งสามารถมาหาได้ทุกเมื่อแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอ้อมแขนนี้ก็พร้อมจะโอบกอดปลอบโยนเสมอ เขาเป็นเพื่อนที่รู้จักกันทุกสัดส่วนของร่างกายเธอ เคยสอดประสานโยกเข้าหาจนเหงื่อท่วมตัวจนรุ่งสางถึงมันจะนานมาแล้วก็ตามแต่นั่นมันทำให้คำว่าเพื่อนสั่นคล่อนแล้วเขาไม่เก่งเท่าแป้งที่ไม่เคยรู้สึกอะไรเลยจนวันที่ตัดสินใจหยุดก่อนจะถลำลึกไปมากกว่านี้แล้วตีตัวออกห่างเพื่อกลับมาอยู่ในจุดเริ่มต้นคำว่าเพื่อนอีกครั้ง ตอนนั้นเธอแค่ต้องการเซ็กซ์เพื่อหักลบความเจ็บออกไปซึ่งเขามันคิดไปไกลเกินพอเธอหายเจ็บแล้วคำว่าเพื่อนก็ยังถูกยกมาวางคั้นแล้วขีดเส้นใต้สีแดงให้ชัดว่ามีสิทธิ์ได้แค่ไหนโดยที่ไม่เคยปริปากบ่นเลยสักคำแค่เธอรู้สึกดีขึ้นก็พอ ...แล้วเขาละ? "ตั้งแต่เลิกกับพี่พอร์ชไปฉันก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย แกรู้ป่ะว่าฉันเห็นอนาคตออกได้เลยว่ามันต้องเจ็บกว่าที่เคยเป็นแน่แต่ฉันหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย" ในที่สุดก็เป็นเธอที่สารภาพออกไปอย่างสุดจะทนแล้วยิ่งคิดถึงมากขึ้น "รักมันขนาดนั้นเลยเหรอ?" แล้วเพื่อนคนนี้จะไปช่วยอะไรได้ละวะ "ไม่รู้ว่ามันใช่ความรักรึเปล่า" ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่สามารถรับมือได้แล้วความรู้สึกต้องการมันเริ่มทำให้อึดอัดมากเพราะเขาใจเย็นคล้ายว่ากำลังทำสงครามประสาทอยู่ เธอยังจำวันที่เขาเดินเข้ามาในห้องประชุมวันนั้นได้ดีเลยว่ารู้สึกยังไง เฮียฟีฟ่าหล่อมากกว่าในรูปที่เห็นแล้วยังมีเสน่ห์แพรวพราวกับแววตาแข็งกร้าวคู่นั้นเล่นเอาใจกระตุกวูบวาบให้ต้องกลัวว่าจะเผลอยกใจให้เขาไป เธอแทบไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าประชุมเรื่องอะไรบ้างเพราะจุดสนใจเดียวของเธอนั่นคือเขา ในช่วงเที่ยงวันนั้นที่เลี้ยงต้อนรับก็เป็นเธอเองแหละที่จงใจเว้นพื้นที่ว่างข้างตัวไว้รอเพราะมั่นใจว่าเขาจะมานั่งด้วยแน่อย่างน้อยก็คุยกันเรื่องงาน เธอรู้สึกเหมือนว่ากำลังพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากหลุมเสน่ห์แสนร้ายของเขาแต่กลับถูกฉุดรั้งมากยิ่งขึ้นจนไม่รู้ว่าหาทางออกในเรื่องนี้ยังไง เขาได้เธอไปตั้งแต่วันนั้นที่ห้องประชุมแล้ว!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม