ตอนที่ 1 ไม่เห็นด้วย
กับข้าวหลายอย่างถูกนำมาวางเมื่อใกล้จะถึงมื้อเย็น หน้าที่ของ 'พัทธมน หรือ เอย' ที่ต้องไปตามลูกชายคนเล็กของบ้านอย่าง 'ปรม' มาทานข้าว
หญิงสาวเข้าไปช่วยยกอาหารในครัวออกมาตั้งโต๊ะเรียบร้อย วิ่งขึ้นบนบ้านไปเรียกเพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ในวัยเดียวกัน อีกทั้งเรายังเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและห้องเรียนเดียวกัน
ทั้งพัทธมนและปรมนั้นเรียนอยู่ปีสอง สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งติดอันดับในไทย พัทธมนที่มาเติบโตในบ้านหลังนี้ก็ได้อภิสิทธิ์จากคุณท่านและคุณหญิงช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียน
ตอบแทนที่แม่ของพัทธมนเคยทำงานที่นี่มานาน เป็นแม่บ้านเก่าแก่แถมยังทำงานดี พอมีลูกสาวก็ได้ช่วยผลัดเปลี่ยนเลี้ยงดูจนเกิดเอ็นดูเพราะคนทั้งคู่ไม่มีลูกสาว หวังจะมีอีกคนก็กลัวจะได้ผู้ชาย จะให้ไปทำตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ทั้งคู่ก็ไม่ประสงค์
สงสัยฟ้าจะส่งให้พวกเธอมีเพียงลูกชายสองคน แล้วส่งหลานสาวในวัยเดียวกันกับลูกชายคนเล็กมาเกิด ทั้งคุณหญิงปรานีและคุณประณพจึงรักและเอ็นดูพัทธมนไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ของตัวเอง
ยิ่งวันที่พ่อของพัทธมนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และแม่ของพัทธมนก็มาเสียด้วยโรคความดัน ท่านได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลลูกให้เป็นอย่างดี เข้าปีที่สิบเก้าแล้วจนเด็กน้อยวัยแบเบาะวันนั้นโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เป็นลูกสาวสุดที่รักอีกคนของบ้าน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เคาะประตูเสร็จพัทธมนถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเลยเพราะฝั่งของปรมนั้นไม่ชอบให้เธอทำตัวเหมือนไม่สนิทสนมกับเขา หากเป็นเพื่อนกันจริงต่างฝ่ายต้องต่างเดินเข้าห้องของกันและกันได้สบายอยู่แล้ว
ภายในห้องมีความเงียบ ทว่าแสงไฟและเครื่องปรับอากาศยังคงทำงาน ทำให้พัทธมนเดาได้ว่าเจ้าของห้องยังคงอยู่ในนี้ แต่อาจจะอยู่ในห้องน้ำ
พัทธมนเดินไปเคาะเรียกที่หน้าประตูห้องน้ำ หากอยู่ในนี้และกำลังอาบน้ำจะได้รีบๆ ออกมากินข้าวเดี๋ยวคนอื่นรอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณเล็กอยู่ในนี้มั้ยคะ ลงไปกินข้าวกันค่ะ" ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพื่อนของปรมและคนบ้านนี้รักและเอ็นดูเธอแค่ไหนก็ตาม แต่เธอยังให้เกียรติไม่ทำตัวตีเสมอ
เงียบ ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับเลยทำเอาพัทธมนงง
อะไรของเขากัน ไม่อยู่ด้านล่างของบ้านก็ต้องอยู่ด้านบน เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องยังเปิดอยู่ก็ต้องอยู่ในนี้..แต่ทำไมถึงไม่ได้ยิน หรือว่า..
พัทธมนแอบคิดไม่ดีกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับเพื่อนจึงได้จับที่ลูกบิดประตูก็ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อก ก่อนจะค่อยๆ ชะเง้อมองเข้าไปด้านในเพราะเธอเองก็กลัวอีกฝ่ายจะโป๊เหมือนกัน
แต่..เธอเห็นเท้ายาวที่ถูกอ่างจากุชชี่สีขาวนวลบังเอาไว้ เดาทิศทางได้ว่าอีกฝ่ายนอนราบอยู่บนพื้นจึงทำให้พัทธมนตกใจ!
รีบเปิดประตูอ้าออกกว้างเข้าไปดูใกล้ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าปรมเป็นลมหรือลื่นล้ม
เห็นคนที่สวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวนอนนิ่งในท่านอนหงายทำเอาพัธมนตกใจ
"คุณเล็ก!" หญิงสาวรีบไปนั่งลงข้างๆ แล้วเขย่าอีกฝ่ายแรงๆ ให้เขาตื่น
"คุณเล็กเป็นอะไรคะคุณเล็ก!" พัทธมนทั้งจะร้องไห้ ทั้งทำอะไรไม่ถูก เธอแนบหูลงไปกับอกของเขาเพื่อฟังชีพจรเต้น ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงทุกอย่างยังคงเป็นปกติดี?
ค่อยๆ ผละออกก่อนจะเห็นอีกคนอมยิ้มทั้งที่หลับตา กำปั้นฟาดลงที่หน้าอกอีกฝ่ายเน้นๆ! ทำเอาคนที่แกล้งนอนคาดไม่ถึงว่าพัทธมนจะทำแบบนี้สะดุ้งเพราะเจ็บ
"โอ๊ยเอย!" ปรมตัวงอเอามือกุมหน้าอกของตัวเอง
"เล่นอะไรคะ เอยตกใจหมดเลย" พัทธมนกระหน่ำทุบตีเขาซ้ำ ยิ่งเห็นเขาหัวเราะมายิ่งน่าหมั่นไส้นัก
"โอ๊ยๆ ฮ่าๆ" ปรมทั้งเจ็บทั้งขำที่ได้แกล้ง เขาชอบแกล้งเพื่อนตัวเล็กมากเพราะพัทธมนขี้แกล้งนี่นา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรพัทธมนไม่เคยตามเขาทันสักครั้ง
@ห้องอาหาร
"ตาเล็กกับเจ้าเอยยังไม่ลงมาเหรอ" คุณปรานีถามแม่ครัวที่ยืนอยู่ในนี้เมื่อยังไม่เห็นปรมลงมา ส่วนลูกชายคนโตโทรมาบอกว่ารถติดให้ทานก่อนได้เลย
"เอยไปตามแล้วนะคะคุณหญิง แต่ก็นานแล้วทำไมยังไม่ลงมาก็ไม่ทราบค่ะ" แม่บ้านวัยสี่สิบบอกคุณผู้หญิงของบ้าน
"อ้าวตาใหญ่ มาพอดีๆ" คนเป็นแม่ทักคนที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านด้วยท่าทางเร่งรีบ
'ปรเมศวร์' เป็นลูกชายคนโตวัยสามสิบปี สูงร้อยแปดสิบสี่เซนติเมตร เป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าระเบียบและจริงจังกับงาน เรียกได้ว่าอนาคตคือคนที่จะสามารถสานต่อกับพ่อตัวเองได้
ตอนนี้ลูกชายกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงาน ขณะที่คนเป็นพ่อดำรงตำแหน่งประธานบริษัทในวัยห้าสิบสามปี
"แล้วเล็กล่ะครับแม่" เมื่อเห็นทั้งพ่อและแม่นั่งอยู่ในนี้แล้ว ขาดแต่ลูกชายคนเล็กของบ้านจึงถามหาน้องชาย
"เอยไปตามแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ทำไมยังไม่ลงมากัน"
"งั้นเดี๋ยวผมไปดูให้ จะเอาของขึ้นไปเก็บพอดี" ด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว น้อยคนนักที่จะได้เดินเข้าห้องของปรเมศวร์
ชายหนุ่มเดินไปทางห้องนอนของน้องชายก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากทางห้องน้ำจึงเดินไปดู
ด้วยความที่ประตูห้องน้ำไม่ได้ล็อกทำให้ปรเมศวร์ยืนดูอยู่หน้าห้องน้ำ
"จะเลิกมั้ยคะ จะเลิกแกล้งเอยอีกมั้ยคะ" พัทธมนพยายามจะกระหน่ำทุบตีอีกฝ่าย แต่คนในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวพยายามกอดรัดตัวหญิงสาวเอาไว้จากทางด้านหลังไม่ให้พัทธมนหันมาทำร้ายเขาได้
"เล็ก" น้ำเสียงทรงพลังถึงแม้จะเอ่ยขึ้นเพียงสั้นๆ แต่กลับทำให้คนทั้งคู่ในห้องน้ำต่างพากันหยุดชะงักแล้วหันมามอง
ก่อนที่เล็กจะค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากคนตัวเล็ก พัทธมนก็รีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่
แว็บหนึ่งเธอเห็นสายตาของเขาตำหนิมา รังสีแห่งความน่ากลัวเกิดขึ้นเพียงเขาพูดแค่นั้น
ปรเมศวร์ไม่ใช่คนที่เธอจะเข้าไปสุงสิงหรือเฉียดเข้าใกล้ได้อย่างปรมเพราะอีกฝ่ายนั้นดูน่ากลัวสำหรับเธอ ในเมื่อเขายังไม่ชอบที่จะสนทนากับเธอทั้งที่เราอยู่บ้านเดียวกัน เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปใกล้ชิดเขาให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด
"พี่ใหญ่มีอะไรครับ" เป็นเล็กที่เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายออกจากห้องน้ำเพื่อจะไปแต่งตัวด้านนอก ขณะเดียวกันพัทธมนก็รีบตามออกมาแล้วเปิดประตูห้องเดินออกมาเลย
"พี่ไม่เห็นด้วยนะเล็ก" ปรเมศวร์ตำหนิน้องชาย ด้วยความที่อายุห่างกันมากถึงสิบเอ็ดปีปรเมศวร์ก็ไม่ต่างจากพ่อคนหนึ่ง
"ไม่เห็นด้วยเรื่องอะไรเหรอครับ" ขณะที่ถามเขาหยิบกางเกงขาสั้นมาสวม ก่อนจะตามด้วยเสื้อยืดสีขาวแล้วเดินไปตากผ้าเช็ดตัวนอกระเบียงแล้วกลับเข้ามา
"เอยเป็นผู้หญิง ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นกับเอย"
"กอดน่ะเหรอครับ" เขาเลิกคิ้วถามผู้เป็นพี่ชายอย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
"ใช่" จะอะไรซะอีก แม้กระทั่งพัทธมนเดินเข้าออกห้องแห่งนี้ได้ตามอำเภอใจเขาก็ไม่ชอบ พัทธมนเป็นผู้หญิงมันสมควรแล้วเหรอที่จะเข้ามาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสอง
"แต่เอยเป็นเพื่อนผมนะครับพี่ใหญ่ เราแค่เล่นสนุกๆ กันเอง ปกติผมชอบแกล้งเอย แล้วเอยก็ขี้ตกใจก็เลยเอาคืนผม แต่ผมไม่ให้เอยเอาคืนมันเลยเกิดภาพแบบนั้น"
"แต่เราก็รู้"
"มาตามผมไปทานข้าวไม่ใช่เหรอครับ งั้นผมไปแล้วนะ" ปรมยิ้มแฉ่งตบเข้าที่ต้นแขนพี่ชายเบาๆ อย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายกำลังจะบ่นชุดใหญ่จึงรีบเผ่นออกไปก่อน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ชายเขาชอบตำหนิลักษณะนี้ เรื่องอื่นไม่มีเลย