และเธอไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดี ได้พบรักแท้กับคนในวงการเดียวกัน เลยตัดปัญหาโดยการปิดกั้นตัวเอง ให้มันจบๆ ไป ท้ายที่สุดก็ไม่มีผู้ชายคนไหนมาเมียงมอง หรือให้ความสนใจไยดี ในฐานะชอบพอรักใคร่แบบชายหญิงอีก
“เอ๊ะ มีการ์ดแนบมาด้วยนี่”
มือบางรีบหยิบการ์ดขนาดเล็กที่มีซองห่อหุ้มออกมา เมื่อคิดว่าสิ่งนี้คงให้ความกระจ่างแก่ตัวเองได้ แทนที่จะสนใจความสวยงามของกลุ่มดอกไม้สีแดงสด ที่ประดับประดาอย่างประณีตบรรจง
‘คิดถึงจังเลยครับ อยากเจอ อยากเห็นหน้า ถ้าไม่รังเกียจ โทรหากันได้นะครับ 081-xxx-xxxx’
หญิงสาวใจเต้นตึกๆ จนเกือบตั้งสติไม่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเจ้าของช่อดอกไม้และข้อความที่ปรากฏนี้เป็นใคร แต่อะไรบางอย่าง อาจเป็นความหวังลึกๆ ในใจกระมัง ทำให้ขนบนกายเธอลุกซู่ หน้าอกข้างซ้ายทำหน้าที่เต้นตึกๆ ตักๆ รัวเร็วกระหึ่มราวกับกลองชุด
“ไม่จริง ไม่ใช่เขาแน่ๆ”
เธอเพ้อราวกับคนไม่มีสติ ไม่อยากคาดหวังและคาดคิด ว่าเขาจะไปสืบเสาะหาว่าเธอเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน และสร้างความแปลกใจโดยการส่งช่อดอกไม้มาเยี่ยงนี้ แม้จะเคยเพียงพบหน้าสบสายตากันแค่ไม่กี่ชั่วโมงในคราวนั้น แต่ซีลีนาก็มั่นใจว่าดูคนไม่ผิด เขาไม่ใช่คนที่คิดจะทำอะไรแบบนี้เพื่อผู้หญิง ที่เขามองว่าไม่ใช่ของจริงได้หรอก
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่เอ็ดดี้”
ซีลีนาตาสว่างวาบไปนานแล้ว ตั้งแต่เปิดการ์ดออกมาอ่าน ตอนนี้ความง่วงเหงาหาวนอนไม่อยู่ในหัว มีแต่ความสงสัยใคร่รู้ ระคนประหลาดใจที่ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง
ใจหนึ่งก็อยากพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้แรด เอ๊ย รอด ว่าใครส่งเบอร์โทรศัพท์มาอ่อยให้ถึงที่ แต่อีกใจก็แบบว่า อย่าไปสนใจสิ พวกชอบแกล้งมีเยอะแยะ ส่วนอีกใจก็แอบเชียร์ว่า ขอให้เป็นเขาคนนั้นเถอะนะ คนที่ทำให้เธอนอนไม่ค่อยหลับมาแล้วหลายคืน
ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าคิดถึงเขามาก ใช่ว่าอยากจะหาเรื่องใส่ตัว แต่เธอเองก็เป็นคนมีหัวจิตหัวใจ หากจะชอบใครในวัยขนาดนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
สิ่งที่แปลกคือเจ้าของเบอร์โทรนี้ต่างหาก ที่ทำให้เธอรู้สึกอยากโทรหา ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะใช่คนที่ปรารถนาจะครอบครองทั้งตัวและหัวใจหรือไม่
ถึงแม้วันที่ได้พบหน้ากันจะผ่านพ้นไปหลายเวลา แต่เธอก็ยังรอคอยด้วยใจจดจ่อ ว่าขอให้เขาติดต่อกลับมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เราก็แกล้งบอกว่าโทรผิดก็ได้ ไม่เห็นจะยาก”
ซีลีนาปิดปากหัวเราะคิกคักกับตัวเองคนเดียว แล้วจึงจิ้มนิ้วเรียวๆ ลงบนมือถือแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ตามตัวเลขที่ปรากฏในกระดาษ อยากรู้นักว่าคนปลายสายจะว่ายังไง เมื่อเธอโทรไป
“สวัสดีครับ”
“……….”
หญิงสาวไม่กล้าพูดอะไรออกไป แน่ใจแล้วว่าน้ำเสียงมีอำนาจแบบนี้ มีแค่เขาเท่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของเธอ
“สวัสดีครับ…ฮัลโหล” เสียงทุ้มกรอกย้ำเข้มขึ้น เมื่อคนที่โทรไปไม่ได้ตอบรับคำพูดเขา
“ฮัลโหล นั่นใคร” เดาได้ว่าชายหนุ่มคงกำลังเริ่มหงุดหงิดกับคำถามที่ไม่มีคำตอบ
“เอ่อ…คือ…คนบ้า คงส่งดอกไม้ให้สาวๆ ไปทั่วเลยล่ะสิ” ซีลีนาด่าคนที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แล้วจึงกดตัดสายด้วยความโมโห ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร
ใบหน้าสวยเฉี่ยวบูดบึ้ง ทั้งยังกระฟัดกระเฟียดด้วยความขัดใจอยู่อย่างนั้น แต่ไม่ทันจะได้เปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่น เจ้าเครื่องมือสื่อสารในมือที่ตั้งสั่นไว้ ก็แสดงสายโทรเข้าให้เธอได้ร้อนๆ หนาวๆ เสียก่อน
“สวัสดีค่ะ” เสียงแข็งๆ ขัดกับใบหน้ายิ้มๆ กรอกลงไปตามสาย
“สวัสดีครับ ซินนี่”
“คุณรู้” สาวเจ้าผู้เคยมีแต่ความมาดมั่น เพ้อราวกับละเมอ เมื่ออีกฝ่ายทักทายมาได้ถูกคน แอบกลัวเหมือนกันว่าสายสาวๆ ของเขาคงพันกัน จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะครับ ตั้งแต่เกิดมา ผมเพิ่งเคยถูกผู้หญิงด่าว่า ‘คนบ้า’ ก็จากซินนี่คนเดียวนี่ล่ะครับ”
“ซินนี่ขอโทษ”
“ไม่ให้อภัยครับ…หึๆ” เสียงคนหล่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเล็ดลอดมาให้ได้ยิน ขณะที่คนฟังหุบปากฉับซ้ำยังเม้มไว้เสียแนบแน่น
ถ้าเป็นเวลาอื่น เธอคงไม่ฝืนเป็นคนพูดน้อย ราวกับตอบโต้ใครไม่เป็นแบบนี้ แต่ด้วยกลัวจะเผลอปากเสียอะไรออกไป แล้วผู้ชายในฝันจะหายวับไปกับตา เลยต้องสงวนท่าทีเอาไว้บ้าง
“ผมล้อเล่นครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะซินนี่ก็เสียมารยาทกับคุณจริงๆ นั่นแหละ” บอกเขาราวกับสำนึก แต่ความจริงแล้ว ตอแหลทั้งน้านนนนน!!! แหมๆ ก็แบบว่า ตอนนั้นเธอโมโหนี่นา เลยด่าเขาไปแบบไม่คิด ส่วนตอนนี้ อารมณ์ดีและมีความสุข อิอิ
“ช่างเถอะครับ ว่าแต่ซินนี่รู้เบอร์โทรผมได้ยังไง หรือเอามาจากนายวิทย์” เสียงเอ็ดเวิร์ดชวนสนทนาอย่างไม่มีความแปลกใจ ด้วยคิดว่าหญิงสาวคงสืบเสาะหาเรื่องราวของเขามาจากเพื่อนหนุ่มแล้วกระมัง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สร้างความฉงนให้กับซีลีนาแทน
เพราะหญิงสาวเข้าใจว่าเป็นชายหนุ่มต่างหาก ที่ส่งหมายเลขโทรศัพท์พร้อมดอกไม้ มาให้เธอถึงกองถ่าย แล้วทำไมกลับกลายเป็นเหมือนว่าเขาจะจำไม่ได้เช่นนี้
“ก็คุณเป็นคนบอกซินนี่เองนี่คะ สงสัยคงจะแจกเบอร์ให้ใครหลายคน ก็เลยหลงๆ ลืมๆ”
ซีลีนาสะบัดเสียงตอบอย่างงอนๆ ก็รู้ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรไปงอนเขาแบบนั้น แต่ว่ามันรู้สึกไม่ชอบใจนี่นา ครั้นคิดได้ว่า เขาคงมีกิ๊กมีกั๊กเยอะแยะไปทั่วบ้านทั่วเมือง
“ผมไม่เคยแจกเบอร์โทรใครครับ นอกจากจะมีคนทิ้งเบอร์ไว้ให้ ถ้าพอใจก็ค่อยโทรกลับ”
“ค่ะ งั้นดอกไม้กับเบอร์ที่ซินนี่ได้มาวันนี้ คงตกลงมาจากฟากฟ้า หรือไม่ก็ผุดขึ้นมาเองจากพื้นดิน”
“ดอกไม้อะไรหรือครับ” เสียงปลายสายแปลกใจมิใช่น้อย แต่นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแม่สาวเจ้าอารมณ์
“ไม่ต้องมาถามเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ แม้คุณจะจำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้ก็เถอะ รบกวนเพียงเท่านี้ละกันนะคะ สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวเสียมารยาทกดตัดสายไปเองอีกครั้ง พร้อมทั้งปิดเครื่องตามไปด้วยเลยทีเดียว ด้วยว่าไม่อยากเสียเวลาคุยกับคนขี้เก๊กที่ไม่ยอมรับความจริงอีกแล้ว
ดูเอาเถอะ ตัวเองเป็นคนส่งของมาแท้ๆ ทำเป็นลืมเสียได้ แล้วไหนจะการกระทำจ้วงจาบ ราวกับประกาศความเป็นเจ้าของเธอในครานั้นอีก แต่แล้วหลังจากนั้นเขาก็หายเงียบไปไม่เหลียวแลกัน ไม่ต่างกับเห็นเธอเป็นของเล่นข้างถนน คิดจะทิ้งขว้างยังไงก็ได้ เธอจะบ้าตายแล้วนะ
ทำไมเขาต้องมาทำให้เธอหวั่นไหว แล้วก็หายหัวไปให้เธอกระวนกระวายใจอยู่คนเดียวแบบนี้ด้วย มันหงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิด เข้าใจมั้ย!
“โอ๊ย! บ้า อีตาบ้า ฮึย!”
ซีลีนาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่อย่างนั้น กระทั่งอรุณศักดิ์เดินเข้ามาตามให้ไปเตรียมตัวเข้าฉาก หญิงสาวจึงได้ปรับอารมณ์คุกรุ่น และเก็บสีหน้าเซ็งๆ ไว้ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่นักแสดงที่ดีของตน…