“คอนโดเอ็กซ์” ไม่ทันจะต้องถามคนข้างหลังก็พูดขึ้นมาเสียดื้อๆเออดีเหมือนกันเพราะผมก็อยู่ที่นี่ซึ่งผมก็ไม่ต้องเสียเวลา
หลังจากที่มาถึงผมก็ขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถที่ประจำทันที
“ที่จริงส่งหน้าคอนโดก็ได้นะ” เธอพูดขึ้นพร้อมกับลงจากรถ
ส่วนผมก็หยิบถุงยาที่หิ้วอยู่หน้ารถและเดินตามคนตรงหน้ามาที่ลิฟต์ทันที
“ตามมาทำไมเนี่ย” เธอถามผมขึ้นทันทีเมื่อผมเดินตามเธอไปยังลิฟต์
“ให้กูมาส่งไม่มีน้ำใจทำแผลให้กูหรอ” ผมถามขึ้นใจจริงก็อยากจะกลับห้องไปนอนพัก แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็นิดนึงแล้วกัน
ส่วนผมเองไม่ใช่ผู้ชายที่พูดเพราะหรืออะไรผมก็พูดจาหมาๆแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละแต่คนเดียวที่จะได้ยกเป็นข้อยกเว้นสำหรับผมนั่นก็คือม๊า
“เห็นว่ามาส่งหรอกนะยอมให้ขึ้นมาพักก่อนก็ได้” เข้าทางสิครับ และอย่างที่จะบอกผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมีเหยื่ออยู่ตรงหน้าก็ไม่แปลกที่จะคว้าไว้
เมื่อเข้ามาในลิฟต์คนตรงหน้าผมก็กดไปยังชั้นยี่สิบห้าเมื่อลิฟต์เปิดออกเธอก็เป็นฝ่ายเดินนำไปที่ห้องของเธอและเมื่อเข้ามาในห้องทำผมตกตะลึงไม่น้อยเพราะใครจะคิดว่าผู้หญิงหน้าตาสวยตรงหน้าผมจะมีโทนสีห้องแบบดำเทาแบบนี้
“ห้องน้ำอยู่นู่นไปล้างหน้าล้างตัวก่อนเลือดเต็มไปหมด” ผมเดินมายังห้องน้ำอย่างว่าง่ายเอาจริงตอนนี้ไม่ได้รู้สึกปวดแผลเท่าไหร่เพียงแต่มันแค่ตึงๆมึนๆมากกว่าอาจจะมีความรู้สึกจี๊ดๆบ้างแต่ก็พอทนได้
หลังจากผมออกจากห้องน้ำร่างบางเจ้าของใบหน้าสวยก็ส่งผ้าผืนเล็กให้ผมเช็ดหน้าเช็ดตาและเช็ดหัวพร้อมกับผมที่เดินตามเธอมายังโซฟากลางห้อง
“นั่งลงจะทำแผลให้” ผมนั่งลงอย่างว่าง่ายส่วนร่างบางที่เห็นแบบนั้นก็แทรกตัวลงมาอยู่ระหว่างขาของผม
ท่านี้มันโคตรได้ล่อแหลมพอสมควรและเกิดอารมณ์ได้ง่าย
เธอค่อยๆเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลจากนั้นก็นำมาเเตะๆลงที่แผล
“โอ้ย ! ” ผมสะดุ้งขึ้นทันทีที่สำลีเเตะลงความรู้สึกแรกที่ได้รับคือความแสบ
จำได้ว่าตอนโดนไอ้เหี้ยกรณ์ตีไม่ได้แสบขนาดนี้เลย
“มือหนักฉิบหาย” ผมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ฉันได้ยิน” ร่างบางพูดขึ้นพร้อมกับเเตะสำลีลงที่แผลผมใหม่อีกครั้งแต่ครั้งนี้รับรู้ได้ถึงความเบามือจากนั้นเธอก็ใส่ยาและปิดแผลให้ผม
ผมว่าแผลผมก็ไม่ได้ใหญ่แต่มันแค่เป็นทางยาวตามไม้เบสบอลและไม่ได้ลึกมาก
“เสร็จก็กลับไปได้แล้ว” ร่างบางพูดอีกครั้งผมจึงใช้จังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกจากระหว่างขาผมดึงเธอให้นั่งลงบนตัก
“จะทำอะไร” ร่างบางมองหน้าผมพร้อมกับถามขึ้น
“ไม่ได้อ่อยกูรึไง” ผมถามออกไปทันทีเพราะในใจตอนนี้คิดเข้าข้างตัวเองไปแล้ว
“หลงตัวเองเถอะหน้าตาอย่างนายมีอะไรให้อ่อย” ร่างบางพูดพร้อมกับทำท่าจะลุกผมเลยจัดการเปลี่ยนท่าโดยจับร่างบางให้นอนลงส่วนผมก็ค่อมเธอเอาไว้
“นี่ ! ลุกไปเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงแสดถึงความไม่พอใจดังขึ้นทันที ส่วนผมก็ไม่ได้สนใจเสียงแหลมๆของเธอ
ผมไล่สำรวจใบหน้าของเธอจัดว่าเป็นคนที่สวย สวยมากเลยทีเดียว
“กูไม่ลุกและกูจะบอกอะไรให้ต่อไว้ใจแค่ไหนก็ไม่ควรให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักเข้าห้องแบบนี้” ผมพูดขึ้นทันทีเพราะถ้าไม่ใช่ผมตอนนี้เธออาจจะโดนข่มขืนไปแล้วก็ได้
ใจง่ายไว้ใจคนง่ายยอมให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักเข้าห้องได้ไง
“แค่สงสารกลัวเลือดไหลหมดตัว”
“แล้วไม่กลัว” ผมถามขึ้นอีกครั้ง
“อย่างนายมีอะไรให้กลัว” เธอพูดตอบกลับมาทันทีมันเลยทำให้ผมจับใบหน้าของให้เธอเชิ่ดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆทาบปากลงไปบนอวัยวะเดียวกัน
“อื้อ อ่อย” เธอเม้นปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นเข้าไปเชยชิมความหวานในปากของเธอ
“เปิดปาก” ผมพูดขึ้นอีกครั้งแต่เหมือนเธอจะไม่ฟัง ผลักผมจนล้มลงจากตัวเธอ
“มาจูบฉันทำไมเนี่ยเป็นบ้ารึไง” เธอง้างมือขึ้นทำท่าจะฟาดลงมาทางผมแต่ผมกลับคว้ามือเธอไว้ก่อน
“กูชื่อเถื่อนเรียกกูว่าเถื่อน” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
“ชื่อเถื่อนไม่พอการกระทำยังเถื่อนสมชื่อ” เธอพูดขึ้นทันที ซึ่งอันนี้ไม่เถียงเพราะการกระทำกับชื่อของผมมันสอดคล้องกันจริงๆ
“ให้กูลองทำอะไรเถื่อนๆกว่านี้ไหมละบางทีมึงอาจจะชอบก็ได้นะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งทำให้ใบหน้าสวยของเธอตอนนี้ที่กำลังตกใจกลีบกลายเป็นว่ามันน่ารักมาก
“นี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะไม่งั้นฉันจะโทรแจ้ง รปภ.” เธอพูดขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา
“พูดสิแล้วจะยอมออก ต่อให้เรียก รปภ. ก็ทำอะไรกูไม่ได้เพราะกูจะบอกว่าผัวเมียทะเลาะกัน” ผมพูดขึ้นพร้อมมองเธอนิ่งๆ น่าแกล้งฉิบหายเลยโว้ย
“พูดอะไรรีบบอกแล้วไปสักที” เธอถามกลับทันควัน
“คิดเองสิถ้าไม่พูดกูก็ไม่ออกนอนกับมึงนี่แหละท่าจะดี” ผมพูดขึ้นอีกครั้งทำเอาใบหน้าสวยของเธอดูตกใจกว่าเดิม
“ถะ...เถื่อนกลับไปก่อนได้มั้ยข้าวเจ้าขอ” เธอพูดออกมาเสียงไม่ดังนั แต่มันก็ทำให้ผมได้ยินทั้งประโยคยิ่งน้ำเสียงเสียงอ้อนๆแบบนี้ลูกของภายใต้กลางเกงมันเหมือนจะขึ้นเลยวะ
ว่าแต่ชื่อข้าวเจ้าหรอน่ากินสัสๆ อยากกินข้าวเจ้าโว้ย
“เออกลับก็ได้” จากนั้นผมก็เดินยิ้มแป้นออกจากห้องของเธอตรงไปที่ห้องผมที่อยู่ชั้นบน
ผมกดลิฟต์ไปที่ชั้นสามสิบเป็นชั้นบนสุดของคอนโดแห่งนี้และชั้นบนสุดก็มีเพียงสองห้องเท่านั้นคือห้องของผมและพี่ชาย