[ ...ว่าไงมิน ] เสียงที่ตอบรับหลังจากที่รอสายเกือบยี่สิบวินาทีกระตุ้นให้จัสมินที่กำลังรอคอยแบบใจจดจ่อสะดุ้งเล็กน้อย
"ยุ่งอยู่รึเปล่าคะ"
[ นิดหน่อยน่ะ มีอะไรรึเปล่า ]
"มินเห็นเสี่ยเงียบไปน่ะค่ะก็เลยโทรหา เสี่ย...มีอะไรจะบอกมินไหมคะ"
[ ทำไมเธอถึงพูดแปลกไป มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า ]
"มินต่างหากที่ต้องถามคำนี้ มีเรื่องอะไรที่มินไม่รู้รึเปล่าคะ" น้ำเสียงและคำถามที่แปลกไปส่งผลให้คนในสายชะงักเล็กน้อย
[ ฉันไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้เลยนะ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังคิดบางอย่างไปเอง ]
คิดไปเอง?
จัสมินทวนคำนั้นในใจพลางหลุดเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
"ใบหยกส่งรูปที่เสี่ยคุกเข่าแล้วยื่นดอกไม้ให้ใครก็ไม่รู้มาให้มินดูค่ะ เสี่ยมีอะไรจะอธิบายเกี่ยวกับภาพนี้ไหมคะ บอกตรงๆ นะว่ามินไม่โอเคเลย"
[ ว่าไงนะ ใบหยกส่งรูปของฉันไปให้เธอ? ]
"ใช่ค่ะ มันเลยเป็นมินที่อยากถามว่าเสี่ยมีเรื่องอะไรอยากคุยกับมินรึเปล่าไงคะ" น้ำเสียงที่ถามสั่นเครือขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ห่างจากจุดที่จัสมินยืนคุยโทรศัพท์ ชายหนุ่มที่เป็นกระบอกเสียงในการเร่งเร้าให้คนตัวเล็กไม่ทำตัวโง่ ยืนสูบบุหรี่มองอยู่เงียบๆ
"มายืนทำไมตรงนี้วะ เล่นหายกันมาทั้งสองคน" แมทธิวหงุดหงิดเล็กน้อย
แค่ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์แป๊บเดียวกลับเข้ามาอีกครั้งปรากฏว่าคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะหายไปด้วยกันทั้งคู่
มาเห็นอีกทีก็ตอนที่เพื่อนของเขายืนแอบมองผู้หญิงคุยโทรศัพท์
"ไอ้หุ่นยนต์ใส่ถ่าน อย่าบอกนะว่ามึงชอบพีอาร์คนนั้น?" แมทธิวชี้ไปยังจัสมิน ทว่าไอ้หุ่นยนต์ใส่ถ่านเพื่อนรักของเขามันก็ยังไม่สะทกสะท้าน
ไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา
"ไปรอกูที่โต๊ะเถอะ อย่าลืมขอแก้วใบใหม่ให้กูด้วย"
"เออ รอบคอบไม่เคยเปลี่ยนเลยนะมึง กูถามอะไรไปไม่คิดจะตอบ ยังมีหน้ามาใช้กูต่อเฉยเลย ไอ้เวรเอ๊ย" แมทธิวสบถยาวก่อนจะก้าวขาถอยห่าง
ถึงตอนนี้สิ่งที่อยากรู้จะยังไม่ทันได้กระจ่าง เชื่อเถอะ หากในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายเขาก็ต้องรู้ทุกเรื่องอยู่ดี
"จะไปดูแลผมต่อรึเปล่า" ลภัสทิ้งบุหรี่พลางใช้เท้าขยี้ สายตาไม่ได้มองคนที่เป็นคู่สนทนาเลยแม้แต่น้อย
"ขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงต้องให้พีอาร์คนอื่นไปดูแลคุณแทน ฉันมีธุระน่ะค่ะ"
"งั้นเหรอ คุณกับเขาปรับความเข้าใจกันแล้ว?" จัสมินเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำถามอย่างตรงไปตรงมา เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนั้นที่มองเธออยู่เหมือนกัน
"ดีจังเลยนะที่คุณเชื่อคำพูดของคนอื่นมากขนาดนั้น เชื่อมากกว่าภาพที่เห็นด้วยตาของตัวเองซะอีก"
"หากภาพที่ฉันเห็นด้วยตาของตัวเองมันถูกส่งต่อจากผู้ที่ไม่หวังดี หรือถ้าจะเรียกว่าจากผู้ที่เกลียดฉันก็คงได้ คุณคิดว่าฉันควรเชื่องั้นเหรอคะ"
"คุณควรเชื่อเซ้นส์ของตัวเองต่างหากล่ะ"
"คุณเป็นใครคะ คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ทำไมฉันถึงมีความรู้สึกว่าคุณ..."
"ไม่ต้องสนหรอกว่าผมเป็นใคร ผมเป็นแค่คนที่มีความประสงค์ดี ไม่อยากเห็นใครโดนหลอกก็แค่นั้นเอง" ลภัสจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยพลางยกยิ้มที่มุมปาก
จัสมินเลิกต่อปากต่อคำ และเลือกที่จะปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันที
"เกิดอะไรขึ้นวะ ใครจะมาหลอกผู้หญิงคนนั้น มึงรู้จักเขางั้นเหรอ หรือมึงรู้อะไรมา"
"กูบอกมึงว่าไง?"
"ก็รู้ว่าให้กูไปรอที่โต๊ะ แต่ต่อมความอยากรู้ของกูมันดันทำงานขึ้นมาซะก่อนไง" ลภัสเพียงแต่ปรายตามองก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับเข้าไปด้านในตามเดิม
.
.
.
รถสปอร์ตคันหรูเลื่อนเข้ามาจอดหน้าผับในเวลาที่กำหนดเอาไว้พอดีเป๊ะ
เสี่ยแบล็คก้าวขาลงมาจากรถ ไม่ลืมที่จะยิ้มให้คนตัวเล็กที่มองการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ตลอดเวลา
จัสมินไม่รู้หรอกว่าเขาเร่งความเร็วในการมาที่นี่มากแค่ไหน และเหตุผลที่เขาต้องมา มันก็มีเพียงเหตุผลเดียวคือเขาไม่มีวันปล่อยเธอไป
"ฉันกลับมาหาเธอแล้ว เธอคงไม่คิดว่าฉันกำลังนอกใจเธอแบบที่คนอื่นกำลังปั่นหัวใช่ไหม" หนุ่มหล่อใช้น้ำเสียงอ่อนโยน เขายังคงจำได้ดีเสมอว่าผู้หญิงของเขาชอบเวลาที่เขาใช้น้ำเสียงแบบไหน
"มินจะเชื่อความรู้สึกของตัวเองค่ะ"
"ขอโทษที่ฉันไม่ได้บอกเธอตรงๆ แต่ฉันมั่นใจว่าฉันเคลียร์ได้"
"เสี่ยหมายความว่า?"
"ผู้หญิงคนนั้นที่เธอเห็น เป็นแค่คนที่ผู้ใหญ่ต้องการให้ฉันแต่งงานด้วย ที่ฉันต้องไปคุกเข่าแล้วทำเหมือนง้อผู้หญิงคนนั้น เพราะฉันไม่ต้องการให้แม่ของฉันมายุ่งกับเธอ"
"แม่ของเสี่ยจะมาไล่มินออกไปจากชีวิตของเสี่ยงั้นเหรอคะ"
"ใช่ เขารู้ว่าเราคบกัน ฉันก็เลยอยากได้เวลาเพื่อที่จะใช้เคลียร์ทุกอย่าง ฉันรักเธอนะมิน เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันเลือก ฉันสัญญาว่าฉันจะตัดผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิต เพื่อเธอ" ไฮโซหนุ่มดีกรีเจ้าของผับรั้งร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมกอด
ใบหยกที่ริอ่านมาปั่นหัวคนของเขา เขาไม่เอาไว้แน่ ถึงยังไงเขาก็จะไม่มีวันปล่อยจัสมินไป
"ฉันไม่มีวันทิ้งเธอ ฉันรักเธอนะมิน"
นี่คือความเป็นจริงที่เขามั่นใจ แต่หากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถปล่อยมือจากสาวไฮโซอย่างเอ๋ยได้
เขาก็จะเก็บไว้ทั้งสองคน!
เขาไม่มีวันปล่อยจัสมินไปอย่างแน่นอน
"เสี่ยยังจำวันที่จีบมินได้ไหมคะ" เสี่ยแบล็คพยักหน้ารับ
"เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันจีบนะ ฉันจำทุกอย่างได้ไม่เคยลืม"
"คำว่ารักสำหรับมินมันมีเหตุผลของมันนะคะ มินรู้ดีว่าเพราะอะไรมินถึงรักเสี่ย"
"ฉันรู้ว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ฉันจะไม่มีวันทำลายความเชื่อใจของเธอ"
"อย่าทำลายความเชื่อใจของมิน มินขอแค่นั้นก็พอค่ะ"
"แน่นอน ฉันให้เธอได้แน่นอน" จัสมินระบายรอยยิ้มให้เปื้อนอยู่บนใบหน้า
หากเขาไม่เคยเป็นเทพบุตรที่ก้าวขาเข้ามาช่วยเธอในช่วงเวลาที่เธอลำบากและเสียขวัญ หากเขาไม่พยายามทำแบบนั้นเสมอมา เธอคงแค่ชอบเขา ไม่ใช่รักเขาแบบนี้
"คืนนี้ฉันอยู่กับเธอไม่ได้แล้ว ฉันต้องเคลียร์กับคุณแม่ให้เข้าใจ ฉันจะทำให้เขายอมรับเรื่องที่เราจะคบกันให้ได้"
"หมายความว่าคืนนี้ไม่ใช่วันของเรา"
"ฉันต้องเคลียร์กับคุณแม่ก่อนจะพาเธอไปเปิดตัวกับเขา จากนั้นจะได้ไม่มีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเราได้อีกต่อไป" ครู่หนึ่งที่จัสมินเงียบไปจากนั้นก็เลือกที่จะพยักหน้าออกมา
"ก็ได้ค่ะ มินเป็นกำลังใจให้เสี่ยนะ"
"ครับ รอฉันก่อนนะ สัญญาว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป" เสี่ยแบล็คกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนหนักๆ
ยังยืนยันว่าจัสมินเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาให้ความสนใจ
"วันนี้มินขอกลับบ้านเลยได้ไหมคะ ลูกค้าวุ่นวายกับมินมากเลย มินไม่โอเคเพราะเสี่ยไม่อยู่ตรงนี้ด้วยแหละ"
"ได้สิ ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ"
"อย่าเลยค่ะ มินต้องแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับไปให้ริกเตอร์ด้วย"
"งั้นเหรอ ตามใจเธอนะ"
"เสี่ยไปเถอะค่ะ ว่างเมื่อไหร่ค่อยโทรหามิน"
"เธอไม่เคยงี่เง่าและไม่เคยทำให้ฉันหนักใจเลยจริงๆ" จัสมินกดยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็โบกไม้โบกมือเพื่อเป็นการจากลา
สุดท้ายการจากลาในครั้งนี้มันจะเป็นการลาเฉพาะตอนนี้หรือลาตลอดไป ให้ถึงตอนที่เธอตามเขาไปและได้เห็นทุกอย่างด้วยตาของตัวเองก่อน
เธอจะตัดสินใจเด็ดขาดแน่นอน
"พี่คะ ตามรถคันนั้นไปค่ะ ตามห่างๆ นะคะ อย่าให้เขารู้ตัว"
------