เขาพูดออกไปทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เปิดโทรศัพท์มือถือไว้ด้วยซ้ำเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลาที่เขาได้อยู่ใกล้ๆ กับเธอสองต่อสอง ถึงแม้ว่าเขาจะต้องทรมาณกับการที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับของรัก แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้แตะต้องก็ตาม
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีขิมมีธุระจะออกไปข้างนอกพอดีกะว่าจะไม่เข้ามาในออฟฟิศแล้วค่ะ” เธอบอกไปในที่สุด เพราะมีธุระสำคัญที่จะต้องทำด้วยตัวเองซึ่งไม่อยากให้ใครรู้เลย
“ไม่ได้ครับ งั้นให้ผมตามไปเลี้ยงข้าวคุณขิมในที่ๆ คุณจะไปทำธุระก็แล้วกันนะครับ” เขาอ้อนวอนเธอ
“อ้าว! แล้วคุณกรณ์จะไม่รอคุณธรรเหรอคะ”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมฝากข้อความไปไว้ในมือถือก็ได้ครับ ก็เจ้านายผมมารับผมช้าเอง” เขาแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ เพราะไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างอีกแล้ว เพราะปกติเรื่องโกหกก็ไม่ใช่วิสัยของเขาเหมือนกัน
“เอางั้นหรือคะ แต่ที่ๆ ขิมจะไปนี่ไม่ได้น่าไปเหมือนที่ไร่นะคะ คุณจะไหวเหรอคะ”
“ถ้าคุณขิมไหวผมก็ต้องไหวสิครับ ผมลูกผู้ชายอกสามศอกนะครับคุณลืมแล้วเหรอ”
“ใช่สิคะ ขิมลืมไป งั้นก็ได้ค่ะ เก็บของแล้วก็ตามมาได้เลยค่ะ แล้วห้ามบ่นทีหลังนะคะ” เธอเก็บของพร้อมออกไปภจญภัย
“สวัสดีค่ะป้าติ๋ว วันนี้ขายของดีนะคะ ลูกค้าเต็มร้านเลยค่ะ”
เธอกล่าวทักทายหญิงวัยกลางคน ที่ง่วนอยู่กับการตักข้าวแกงให้ลูกค้าในร้านเล็กๆ ในแหล่งชุมชนแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งการที่จะมาที่นี่ได้นั้นจะต้องนั่งเรือข้ามฝากแม่น้ำเจ้าพระยามาเท่านั้น เพราะถ้าเอารถมาก็จะต้องเสียเวลาไปอ้อมอีกไกลโข
“คุณขิมเชิญนั่งก่อนค่ะ พอดีแม้วยังไม่กลับจากโรงเรียนค่ะ ป้าเลยเหลือคนเดียววันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษค่ะ”
ป้าติ๋วกล่าวพร้อมทั้งจัดหาที่นั่งให้ทั้งสอง โดยทิ้งให้ลูกค้ารอซื้อของอยู่หน้าร้านไปพลางๆ ก่อน โดยมีเธอและเขาเดินตามมาแต่โดยดี
“ขอป้าไปตักอาหารให้ลูกค้าก่อนนะคะ ให้คุณขิมคิดก่อนว่าจะทานอะไรดี วันนี้มีของโปรดคุณขิมหลายอย่างเลยค่ะ”
“ตามสบายค่ะ” เทียมหทัยตอบก่อนติ๋วจะรีบกลับไปต้อนรับลูกค้า
“ที่นี่เหรอครับที่คุณขิมจะมาทำธุระ”
เพราะสงสัยจริงๆ ว่าเทียมหทัยมาทำอะไรที่ห้องไม้สองชั้นเก่าๆ ด้านบนคงจะเป็นที่พัก ส่วนด้านล่างนั้นทำเป็นร้านข้าวแกงเล็กๆ มีโต๊ะรับลูกค้าประมาณหกโต๊ะ แต่ถึงสถานที่จะเก่าแต่ของใช้ทุกอย่างดูสะอาดและจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
ส่วนป้าที่ขายข้าวแกงก็แต่งตัวได้ตามมาตรฐานร้านอาหารใหญ่ๆ อาหารก็ถูกจัดเรียงไปไว้ในตู้กระจกขนาดย่อมพร้อมทั้งมีฝาปิดมิดชิด ทำให้อาหารดูสะอาดและน่ากินมากยิ่งขึ้นไป
บวกกับความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีของเจ้าของร้าน บ่งบอกมาว่าเป็นคนที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี และราคาอาหารนั้นเขาแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะเหลือบไปเห็นป้ายราคาติดไว้ว่าทุกอย่างถุงละสิบบาทเท่านั้นเอง
“ค่ะที่นี่ล่ะค่ะ! คุณกรณ์สงสัยอะไรหรือเปล่าคะ แล้วคุณเคยมาสถานที่แบบนี้มั้ยคะ”
“ผมไม่สงสัยอะไรครับ และสถานที่แบบนี้ผมก็เคยมาบ้างครับ เมื่อครั้งที่เคยมาบริจาคเงินให้กับชุมชนครับ.. เอ่อ! ผมหมายถึงคุณธรรทรน่ะเคยมาบริจาคเงินแล้วผมก็ตามมาด้วยครับ แต่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ จะเป็นแถวคลองเตยครับ” เขาอธิบายให้เธอเข้าใจก่อนที่จะสงสัยเขาไปมากกว่านี้
“แล้วคุณขิมมาทำอะไรแถวนี้ครับ”
“ก็มาเยี่ยมป้าติ๋วที่ขายข้าวแกงนี้ล่ะค่ะ”
“ลูกค้าซาแล้วคุณขิมจะรับอะไรดีค่ะ วันนี้มีผัดวุ้นเส้น น้ำพริกมะขามไข่เจียว ต้มข่าไก่ ของโปรดคุณขิมทั้งนั้นเลย รับเลยมั้ยคะ แล้วคุณผู้ชายจะรับอะไรดีคะ” ไม่ทันที่บทสนทนาของทั้งสองจะดำเนินต่อไปป้าติ๋วก็เข้ามาถามทั้งสองคน
“งั้นป้าติ๋วจัดที่พูดเมื่อกี้มาชุดหนึ่งแล้วก็ข้าวเปล่าสองจานค่ะ อ้อ! นี่คุณอลงกรณ์เป็นเพื่อนขิมค่ะ คุณกรณ์ค่ะนี่ป้าติ๋วค่ะ”
“สวัสดีครับคุณป้าเรียกผมว่ากรณ์เฉยๆ ก็ได้ครับ”
“สวัสดีค่ะ คุณกรณ์งั้นตามสบายนะคะ เพื่อนคุณขิมก็เหมือนเพื่อนป้าด้วย เดี๋ยวป้าตักอาหารให้ก่อน เดี๋ยวอีกหน่อยลูกสาวป้าคงจะกลับจากโรงเรียนค่ะ” เธอบอกพร้อมรีบผละไปจัดอาหารให้
“แม่หวัดดีค่ะ”
“อ้าว! แม้วกลับมาแล้วหรือลูก ไปไหว้คุณขิมแล้วก็รีบมายกอาหารไปให้คุณขิมกับเพื่อนนะลูก” ติ๋วร้องทักลูกสาวเมื่อเห็นเดินมาหน้าร้านพอดี
“ค่ะแม่” แม้วรับคำและรีบเดินตรงไปหาเทียมหทัยทันที
“คุณขิมสวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ” แม้วไหว้เทียมหทัยและกรณ์
“แม้วนี่คุณกรณ์เป็นเพื่อนของฉันนะ แล้วเป็นไงวันนี้ผลสอบออกมาเป็นยังไงบ้าง” เทียมหทัยทักเด็กวัยสิบสี่ปีที่อยู่ในชุดนักเรียนประมัธยมต้น หน้าตาน่าเอ็นดู ด้วยท่าทางที่นอบน้อมผิดจากเมื่อครั้งแรกๆ ที่เธอได้เจอสองแม่ลูกนี้ไปถนัดตา
“วันนี้แม้วสอบได้ที่หนึ่งค่ะคุณขิม”
“จริงหรือจ้ะ”
“จริงค่ะ นี่ผลการเรียนของแม้วค่ะ” เด็กสาวยกสมุดพกนักเรียนอวดเทียมหทัย
“ฉันภูมิใจตัวเธอจริงๆ จ้ะแม้ว” เธอกล่าวเพราะเห็นผลการเรียนของแม้วแล้วก็พอใจมาก
“อาหารมาแล้วค่ะ แม้วไปเอาน้ำมาให้คุณขิมกับคุณกรณ์ไป๊ลูก สงสัยจะยังไม่ได้ทานอะไรมาแน่ๆ เลยนี่ก็บ่ายมากแล้วนะ” ติ๋วบอกลูกสาวหลังจากที่ยกอาหารมาให้เพราะเห็นลูกสาวยังคุยกับเทียมหทัยอยู่
“แหม..ป้าติ๋วนี่รู้ใจจริงๆ ครับ ตอนนี้ผมกับคุณขิมของป้านี่จะทานช้างได้ทั้งตัวแล้วครับ จริงมั้ยคุณ” เขาชิงพูดเพราะหิวมากๆ แล้ว
“ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะป้า แม้วกินอะไรมาหรือยัง กินด้วยกันมั้ย คุณป้าด้วยค่ะ”
“แม้วทานมาแล้วค่ะ งั้นแม่นั่งคุยกับคุณขิมนะเดี๋ยวแม้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาขายของแทนแม่เองจ้ะ” แม้วรีบบอกพร้อมทั้งรีบวิ่งไปชั้นบน