สิ้นเสียงของธรรทรเขาก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสระแล้วจูงมือน้อยๆ ของเธอเข้าไปส่งให้กับกรรชัย เธอวิ่งขึ้นไปด้านบนโดยไม่ได้เหลียวหลังกลับมามองเขาอีกเลย แล้วเขาก็เดินจากไปอย่างช้าๆ โดยไม่หันกลับมามองด้านหลังอีก เพราะไม่อยากให้เธอต้องรับรู้และได้เห็นน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างเขาที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่มีวันเหือดแห้ง
เทียมหทัยยืนมองร่างที่เดินจากเธอไปอย่างช้าๆ อยู่ระเบียงที่เดิม และมองร่างเขาเดินจากไปจนใกล้จะพ้นประตูบ้าน แล้วเขาก็หันกลับมามองเธออีกครั้งประหนึ่งจะจดจำภาพๆ นี้เอาไว้ในความทรงจำของเขาตลอดไป
“ลาก่อนนะ! คนดีของพี่”
ประโยคดังมาจากในใจเขา แล้วเขาก็หันกลับไปจนร่างลับประตูไปในที่สุด ทิ้งให้คนที่ยืนมองนั้นร้องไห้ฟูมฟายจนเหลือที่จะประมาณความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้ กรรชัยกับพรรณีเดินเข้ามาหาเธอที่ระเบียงและโอบกอดด้วยความสงสาร
“ร้องเถอะลูกพ่อ ถ้ามันจะทำให้ขิมลืมความเจ็บปวดไปได้ ร้องให้มันพอวันนี้ แล้วขิมก็จะได้พบกับวันข้างหน้าที่สดใสกว่าเดิมนะลูกรักของพ่อ”
เขาพูดด้วยความสงสาร
“สักวันขิมคงจะได้พบคนที่ขิมรัก คนที่เขาเหมาะกับขิมนะลูกแม่” พรรณีเข้ามาปลอบและโอบกอดเธอไว้อีกข้างหนึ่ง
“ขิมไม่เหลือหัวใจให้ใครอีกแล้วค่ะคุณแม่ ขิมรักเขา รักมาก รักจนไม่มีหัวใจให้ใครได้อีกแล้ว” เธอบอกและร้องไห้ในอ้อมกอดของพรรณีและกรรชัยอย่างไม่ปิดบังอะไรเลย
“ภาบอกแล้วว่าสักวันมันจะต้องทำเรื่องงามหน้า แล้วเป็นไงล่ะคะพี่ภัค เห็นกำพืดมันหรือยังคะ มันก็คงจะไม่ต่างอะไรไปจากแม่มันหรอกนะ ที่ถูกผู้ชายมาไข่ทิ้งเอาไว้แล้วก็ไม่รับผิดชอบ ถึงได้ไปคลอดมันแล้วทิ้งไว้ไงคะ”
ภาวิณีวิภาคเทียมหทัย หลังจากที่กลับจากบ้านพี่ชาย
“พี่สมน้ำหน้าพี่กรรกับพี่ณีเหลือเกิน คุณแม่ด้วย แหม! หลานในไส้ตัวเองแท้ๆ ยังรักน้อยกว่ามันอีก ทีนี้ก็คงจะได้ตาสว่างกันซักที” ภัคคินีเห็นด้วยกับน้องสาว
“มีเรื่องอะไรคุณ ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นเรื่องหนูขิมอีกล่ะสิ เมื่อไหร่จะเลิกว่าเขาสักทีนะคุณนี่ ยายภาด้วย! .พี่ล่ะไม่เข้าใจจริงๆ เลย”
สรรผู้เป็นสามีภัคคินีที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต้องละสายตามาหาภรรยาและภาวิณี
“ก็จะไม่ให้ว่าได้ยังไงคะ ก็มันทำงามหน้ามั้ยล่ะ!ที่ลากคุณธรรทรออกมาจากห้องส่งตัวเอาไปนอนกกทั้งคืน แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่มีอะไรเกินเลย จ้างให้ภัคก็ไม่เชื่อ” ภัคคินีบอกสามี
“หนูขิมน่ะเหรอที่ทำแบบนั้น เรื่องมันเป็นยังไงคุณช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย”
สรรถามย้ำเพราะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน และภัคคินีก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีฟังโดยละเอียด
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง แล้วคุณกับยายภาก็เลยเหมาเอาตามความคิดของตัวเองสินะ” เขาสรุปในที่สุด
“พี่สรรอย่ามาว่าภากับพี่ภัคนะคะ เรื่องนี้ไปบอกใครร้อยทั้งร้อยก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ จะมีก็แต่คุณแม่ พี่กรร และพี่ณีเท่านั้นล่ะที่เชื่อมัน” ภาวิณีบ่น
“ก็ในเมื่อคุณธรรทรเขาสัญญาด้วยเกียรติของเขาแล้ว จะให้คุณแม่ท่านไม่เชื่อหรือยังไงล่ะยายภา” สรรแย้ง
“ผู้ชายที่ไหนเขาจะมาบอกคะว่าทำอะไรบ้าง แล้วอีกอย่างเมียเขาที่เหมาะสมกับเขาก็มีอยู่ทนโท่ สงสัยคุณธรรทรคงจะปู้ยี่ปู้ยำมันจนหนำใจแล้วล่ะสิไม่ว่า นี่คอยดูนะถ้าท้องโย้มาแล้วหาใครรับผิดชอบไม่ได้ ภาจะสมน้ำหน้าคุณแม่ให้ดู” ภาวิณีไม่ยอมหยุด
“ใช่ทียายวิกับยายสุหลานในไส้แท้ๆ คุณแม่ยังไม่เคยจะรักเท่ามันเลย นี่ไปเรียนเมืองนอกตั้งนาน ก็ไม่ยอมจะไปเยี่ยมเลย แล้วทีนังขิมนะ มีอะไรก็ประเคนให้มันเข้าไป สงสัยพี่จะต้องรีบให้ยายวิกับยายสุรีบเรียนแล้วกลับมาดีกว่า ไม่อย่างนั้นสมบัติคุณแม่ได้ไปอยู่กับมันหมดแน่ๆ เลย ตาปลายก็อีกคนไม่รู้ทำไมไม่ยอมมาก็ไม่รู้”ภัคคินีวิตกเสียยกใหญ่
“ตาปลายก็คงจะไม่อยากจะเห็นหน้ามันน่ะสิ นี่สงสัยถ้าตาปลายรู้เข้าคงจะเกลียดมันมากยิ่งกว่าเดิมอีกแน่ๆ เลย เดี๋ยวคืนนี้นะภาจะโทรไปเล่าให้ยายวิกับตาปลายฟัง” ภาวิณีรีบเสนอ
“พอได้แล้วล่ะทั้งสองคนเลย สงสารหนูขิมเขาบ้าง ไม่รู้อะไรนักหนานะ ทำไมไม่ยอมญาติดีกับเขาเลย ผมก็เห็นว่าแกเป็นเด็กดีจะตายไป ขยันทำงานช่วยพี่กรรออก ดูอย่างลูกเรากับยายวิสิ อายุก็ไม่ได้ห่างจากยัยขิมสักเท่าไหร่เลย ยังไม่เป็นโล้เป็นพายกับเขาเลย คุณน่ะจะต้องสอนลูกบ้างนะ อย่าว่าแต่คุณแม่ไม่รักเลย ผมเป็นพ่อเองยังไม่สบายใจเลย ถ้าได้ครึ่งหนูขิมนะ คุณไม่ต้องไปอะไรหรอกแค่นี้คุณแม่ท่านก็รักตายแล้ว ก็รู้ๆ อยู่ว่าคุณแม่กับพี่กรรเขาชอบคนขยัน ยังไม่รู้จักจะสอนลูกอีก ยายภาด้วย ไม่เอาแล้วผมไปออกรอบดีกว่า”
เขาพูดและลุกเดินไปยังรถที่มีคนรถเตรียมอุปกรณ์ไว้รอแล้ว
“ดูคุณสรรสิยายภา พี่นี่หมั่นไส้จริงๆ เลย ไม่รู้ไปปกป้องอะไรมันนักหนา ถ้ายายสุได้ยินคงจะน้อยใจแน่ๆ เลย นี่อุตส่าห์ตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆ แล้วจะเอามาอวดพ่อ” ภัคคินีบ่น
“อย่าไปสนใจพี่สรรเลยค่ะพี่ภัค แกก็เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว พี่ยังไม่ชินอีกหรือคะ”
ภาวิณีปลอบใจพี่สาว เพราะเห็นพฤติกรรมของพี่เขยแบบนี้มาโดยตลอด แต่ทั้งสองก็รักกันดีจึงไม่ได้สร้างปัญหาให้ครอบครัวแต่อย่างใด และมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเธอและพิชัยผู้เป็นสามีสักเท่าไหร่เลย รายนั้นก็จะคอยห้ามเธอต่างๆ นานาไม่ให้ว่าร้ายเทียมหทัย แต่ภาวิณีก็ทำไม่ได้สักที ก็คงเป็นเพราะคนมันไม่กินเส้นกันตั้งแต่แรกเห็นนั่นเอง