บทที่ 3

1348 คำ
“แม่นมยูคิ...ได้โปรดปล่อยยูริ...ยูริจะไปช่วยคุณพ่อคุณแม่” รินรดาอ้อนวอนทั้งๆ ที่ยังคงถูกแม่นมยูคิยกมือปิดปากไว้แน่น หยาดน้ำตาแห่งความโศกเศร้าอาดูรไหลรินพร่างพรูทั่วพวงแก้ม ร่างบางระหงพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของแม่นมยูคิ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนมากเพียงใด หญิงสาวก็ยังคงถูกพันธนาการไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีไปไหนได้ “คุณหนู ยูคิขอร้องอย่าเข้าไปเลย ไอ้ยาสุโนะมันจะต้องให้ลูกน้องของมันสร้างตราบาปให้กับคุณหนูแน่ค่ะ” ใช่ว่าจะมีแค่เพียงรินรดาที่ร่ำไห้ปิ่นจะขาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่นมยูคิก็สะอึกสะอื้นร้องไห้ไม่แพ้กัน ยิ่งเห็น ยิ่งได้ยินเสียงของนายใหญ่ร้องครางลั่นเพราะความเจ็บปวด ก็ยิ่งเสียใจจนทนดูไม่ได้ กระนั้นน้ำเสียงอันน่าสะพรึงกลัวของยาสุโนะก็ดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะ “ลูกสาวมึงหายไปไหน” หัวหน้าแก๊งยาสุโนะ ที่ต้องการกวาดล้างเสี้ยนหนามไม่ให้เหลือแม้แต่เสี้ยนเดียว ตะคอกถามคนที่กำลังตกเป็นเชลย พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักลงไปบนฝ่าเท้าที่กำลังบดขยี้ลงไปบนบาดแผลของฮิคาระให้มากยิ่งขึ้น หวังให้อีกฝ่ายเจ็บปวดเจียนตายจนยอมคายความลับออกมา ทว่าคนที่รักลูกสาวยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฮิคาระและคุณกสิณาไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ต่อให้ต้องตายก็ไม่ยอมบอกว่าลูกสาวของพวกเขาหนีไปอยู่ที่ไหน “กูไม่บอก ต่อให้มึงฆ่ากูให้ตายกูก็ไม่บอก” ฮิคาระตะโกนตอบกลับเท่าที่ยังพอมีแรงอยู่ และนาทีต่อมาก็ต้องหลับตาลง เพราะไม่อาจทนมองภาพตรงหน้าได้เมื่อยาสุโนะยกกระบอกปืนไปจ่อตรงศีรษะของภรรยาคู่ชีวิต ก่อนจะลั่นไกปลิดชีวิตภรรยาที่รักของเขาทันที “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าอยู่เลย!” เปรี้ยง! “คุณแม่!” รินรดาตะโกนร่ำไห้ตัวสั่นสะท้านยิ่งกว่าถูกจับโยน หญิงสาวรู้สึกราวกับกำลังถูกเด็ดขั้วหัวใจออกไปทีละเล็กละน้อย ขณะเฝ้ามองร่างของมารดาที่ถูกยิงต่อหน้าต่อตา จากนั้นร่างของท่านก็ค่อยๆ ล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น “กสิณา!” หัวหน้าแก๊งคานาเมะผู้เคยยิ่งใหญ่ในวงการยากูซ่า โผเข้าไปสวมกอดร่างของภรรยาไว้ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้ เมื่อเห็นภรรยาล้มลงจมกองเลือดขาดใจตายตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกลูกกระสุนร้อนๆ เจาะเข้าตรงหน้าผากด้วยฝีมือการจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมของยาสุโนะ เปรี้ยง! “กรี๊ด!” ลูกกระสุนนัดที่สองซึ่งลั่นไกยิงจ่อแผ่นหลังอย่างไร้ความปราณี ทั้งๆ ที่ฮิคาระกำลังก้มลงกอดร่างอันโชกเลือดของภรรยาไว้ เรียกเสียงหวีดร้องจากปากของรินรดาและแม่นมยูคิ ที่ไม่สามารถหักห้ามความเสียใจไว้ได้อีกต่อไป และน้ำเสียงของทั้งสองคนก็ดังเล็ดลอดเข้ากระทบประสาทหูของหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่โหดเหี้ยมที่สุดอย่างยาสุโนะ ไคจิ จนได้ “ยังมีคนหนีไปได้ ตามไปกวาดล้างให้หมดเดี๋ยวนี้” ยาสุโนะตะโกนสั่ง พร้อมกับยิงปืนมาตรงทิศทางที่คิดว่าเป็นที่มาของต้นเสียงหวีดร้องเมื่อสักครู่อีกหลายนัดติดๆ กัน โดยมั่นใจว่าจะต้องมีกระสุนนัดใดนัดหนึ่งที่ลอยไปเจาะร่างของคนเหล่านี้ได้บ้าง และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อกระสุนนัดหนึ่งลอยละลิ่วฝ่าความมืดเข้ามาโดนต้นแขนของรินรดาพอดี แม้จะโดนแบบถากต้นแขน ทว่ามันก็สามารถเรียกเลือดสีแดงสดให้ไหลรินจากต้นแขนของหญิงสาวได้ทันที “คุณหนูไปเร็ว พวกมันตามมาแล้ว” แม่นมยูคิกำข้อมือเล็กกระชากร่างบางระหงให้วิ่งตามอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้เลยว่า รินรดาถูกยิงได้รับบาดเจ็บตรงต้นแขนจนเลือดไหลซึมไปหมดแล้ว “ตามฆ่าลูกของไอ้ฮิคาระให้ได้ อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้” น้ำเสียงของยาสุโนะที่ดังลอยมาในความมืด พร้อมๆ กับลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมาเป็นระยะๆ เป็นตัวผลักดันให้แม่นมยูคิพาคุณหนูวิ่งแบบไม่คิดชีวิต นางต้องพาคุณหนูหนีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของมนุษย์ใจโหดเหี้ยมพวกนี้ด้วยมือของนางเอง หากจะพึ่งมือตำรวจ และขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะกว่าตำรวจจะมาถึง นางและคุณหนูรินรดาก็อาจจะกลายเป็นศพไปแล้วก็ได้ “แม่นม...ยูริวิ่งต่อไม่ไหวแล้วค่ะ” เพราะเสียเลือดจากแผลที่ถูกยิง กอปรกับการวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ทำเอารินรดาเริ่มหมดแรงอ่อนล้าแทบจะก้าวขาไม่ไหวอีกต่อไป “คุณหนู ทนหน่อยนะคะ เกือบถึงถนนใหญ่แล้ว ทนอีกนิดเดี๋ยวเท่านั้นค่ะ” แม่นมยูคิเอ่ยปลอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็วิ่งแทบไม่ไหวเช่นเดียวกัน และนาทีต่อมาร่างบางระหงที่นางจูงมือวิ่งฝ่าความมืดหลบลูกกระสุนมาเกือบยี่สิบนาที ก็ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นดิน พร้อมกับเสียงโอดครวญเพราะเหน็ดเหนื่อย “ไม่ไหวแล้ว ยูริวิ่งไม่ไหวแล้ว แม่นมยูคิหนีไปคนเดียวเถอะค่ะ” รินรดาร้องบอกแม่นมยูคิ เมื่อรู้ว่าตัวเองหนีต่อไปไม่ไหวแล้ว นอกจากเหนื่อยแทบขาดใจแล้ว ยังปวดบาดแผลตุบๆ จนต้องร่ำไห้ออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “คุณหนูแข็งใจหน่อยนะคะ” แม่นมยูคิกระซิบบอก รีบประคองร่างบางระหงให้ลุกขึ้นยืน ขณะเดียวกันก็หันไปมองข้างหลังตัว ด้วยเกรงว่าลูกสมุนของยาสุโนะจะตามมาทันและเห็นพวกเธอเข้า รินรดาส่ายหน้าปฏิเสธ เหนื่อยล้าจนหอบหายใจรัวเร็ว น้ำเสียงที่ตอบออกมาก็ขาดกระท่อนกระแท่นฟังแทบไม่ได้ศัพท์ “ยูริไปไม่ไหวแล้ว...ทิ้งยูริไว้ที่นี่แหละ แม่นมยูคิรีบหนีไป ไม่ต้องเป็นห่วงยูริหรอกค่ะ” “ไม่ได้ ยูคิจะไม่ยอมให้คุณหนูตายเป็นอันขาด” แม่นมยูคิบอกเสียงเข้ม ประคองให้คุณหนูคนสวยที่นางยอมตายแทนได้ทุกเมื่อ ให้เข้าไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้รินรดาได้พักเหนื่อยสักครู่ “ตามหาพวกมันให้พบ อย่าให้หนีไปได้” เสียงของลูกน้องยาสุโนะที่ยังคงลอยมากับความมืด กอปรกับเสียงฝีเท้าที่ดังแว่วจวนเข้ามาใกล้ตัว ทำให้แม่นมยูคิดตัดสินใจทำในสิ่งรินรดาไม่เห็นด้วยแม้แต่นิดเดียว “คุณหนู ถ้าเราหนีไปสองคนคงไม่รอดแน่ ยูคิจะล่อพวกมันไปอีกทางให้พวกมันตามยูคิไป คุณหนูฉวยโอกาสนี้หนีไปให้ถึงถนนใหญ่ และขอความช่วยเหลือจากชาว บ้าน คุณหนูต้องหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นให้ได้ ไปหาญาติของคุณแม่คุณหนูนะคะ เขาจะช่วยเหลือคุณหนูให้พ้นจากเงื้อมมือของยาสุโนะได้” “ไม่! แม่นมยูคิอย่าทำแบบนี้ เราต้องหนีไปด้วยกัน เราต้องรอดด้วยกันนะคะ” รินรดาอ้อนวอนใบหน้างามเต็มไปด้วยความหมองเศร้า หยาดน้ำตายังเปื้อนทั่วพวงแก้มเนียน ขณะจับมือแม่นมยูคิยื้อไว้ ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำตามที่บอกมา หญิงสาวรู้ดีว่า หากแม่นมยูคิวิ่งออกไปจากที่หลบซ่อน ก็เท่ากับเป็นเป้าล่อให้ลูกน้องของยาสุโนะเลือกยิงได้ตามสบาย และนางจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาหาเธอเฉกเช่นบุพการีทั้งสอง จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม