รวมเรื่องสั้นสุดโรมานซ์

เรื่องที่ 23 ปิดเทอมครั้งนั้นฉันเสียตัว (1/2)

เรื่องที่ฉันจะเล่ามันเกิดตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นปีสองในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนของมหาวิทยาลัย ฉันตามเพื่อนสนิทไปเที่ยวที่บ้านตามคำเชิญ มีกำหนดว่าจะพักอยู่ด้วยหนึ่งสัปดาห์ และมันเป็นช่วงเวลาในความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืม

“เยียร์ นี่พี่กั้ง พี่ชายของเราเอง” กุ้งแนะนำให้ฉันรู้จักกับพี่ชายของเขา

ใบหน้าที่ดูดีราวกับดาราจีน ผิวคมเข้มทำให้ฉันแทบละสายตาจากเขาไม่ได้

เขารับไหว้ฉันตามมารยาทแล้วทำหน้าที่ขับรถพาเราทั้งสองมุ่งหน้าไปยังจังหวัดแถบตะวันออกที่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของสองพี่น้องคู่นี้

กุ้งชวนฉันคุยไปตลอดทาง เธอนั่งด้านหน้ากับพี่กั้งและหันมาคุยกับฉันอยู่ไม่หยุด ส่วนเขาเองก็ลอบมองฉันผ่านกระจกมองหลัง ไม่รู้ว่าเขารำคาญหรือว่าคิดอย่างไร สีหน้าเรียบเฉยนั้นทำให้รู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก

“จะแวะปั๊มไหม ถ้าไม่แวะพี่จะยิงยาวเลย”

“แวะค่ะ” กุ้งตอบแล้วหันมายิ้มให้กับฉัน

เราสองคนลงไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับขึ้นรถไป แล้วพี่กั้งก็ใช้ให้กุ้งลงไปซื้อกาแฟให้เขา กุ้งจะชวนฉันไปด้วยแต่เขาห้ามเอาไว้ก่อน เพราะเกรงว่าไปสองคนแล้วจะไปนาน กุ้งจึงต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้

“มีแฟนหรือยัง” อยู่ๆ พี่กั้งก็ถามฉันขึ้นมาอย่างนั้น

“ยังค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้หน่อยๆ ขัดเขินเล็กน้อยที่ต้องสนทนากันโดยไม่มีกุ้งอยู่ด้วย

“ดีแล้ว” เขาพูดแค่นั้นก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

สักพักกุ้งก็กลับมา เราจึงเริ่มเดินทางกันอีกครั้งและถึงจุดหมายในตอนบ่ายแก่ๆ โดยที่พ่อแม่ของกุ้งต้อนรับฉันอย่างอบอุ่นทำให้ฉันรู้สึกว่าการอยู่ที่นี่คงไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด

**********************

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้วพ่อกับแม่ของกุ้งก็เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะท่านต้องออกไปกรีดยางในตอนเช้ามืด ฉันกับกุ้งพลอยต้องรีบเข้านอนเหมือนกันเพราะไม่อยากรบกวนเวลานอนของท่าน

เรานอนเล่นโทรศัพท์เงียบๆ คนละมุมจนฉันเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ราวๆ ตีสองที่กุ้งลุกไปเข้าห้องน้ำ พอกุ้งกลับเข้ามานอนต่อฉันก็ลุกเข้าห้องน้ำบ้าง

ตอนที่เปิดประตูออกมาก็พบว่าพี่กั้งยืนรอเข้าห้องน้ำอยู่ เขายิ้มให้ฉันแล้วมองชุดนอนลายการ์ตูนที่ฉันใส่

“รอแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวพี่ออกมาคุยด้วย” เขาบอกฉันแล้วเข้าไปทำธุระในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาด้วยใบหน้าที่ดูสดชื่นขึ้น

“พ่อกับแม่ออกไปกรีดยางแล้วเหรอคะ” ฉันถามเขาแก้เก้อ

“ใช่” เขาตอบแล้วมองหน้าฉันลังเลอยู่สักพักจึงพูดขึ้นมาตรงๆ

“เอากันไหม” เขาถามฉันขึ้นมาแล้วมองหน้าฉันเหมือนว่ารอคำตอบ

“ไม่ค่ะ” ฉันปฏิเสธออกไป อยากโกรธเข้าแต่กลับไม่โกรธ มันเขินเสียมากกว่า

จริงๆ กุ้งเอารูปพี่ชายเขาให้ฉันดูตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ฉันยอมรับว่าเขาดูดีเป็นอย่างมาก และยิ่งมาเห็นตัวจริงของเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจ แต่มันคงเร็วไปสำหรับเรื่องแบบนั้น

“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ พี่จะให้โอกาสเยียร์คิดดีๆ หากเยียร์ปฏิเสธโอกาสนี้ เยียร์จะไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ และพี่ก็จะไม่ถามเยียร์อีกเป็นครั้งที่สอง” เขาพูดออกมาเสียงเรียบ

ฉันไม่เข้าใจว่ามันเป็นนาทีทองที่ฉันต้องรีบคว้าไว้ขนาดนั้นเหลือ ทำไมพูดอย่างกับว่าหากฉันไม่ตอบตกลงแล้วจะพลาดไป ในใจก็ลังเล อยากได้มันก็อยากได้แหละแต่เรื่องแบบนี้มันควรเกิดจากความรักของทั้งสองฝ่ายไม่ใช่แค่ความใคร่เพียงอย่างเดียว

“ไม่เป็นไรค่ะ เยียร์ขอสละสิทธิ์” ฉันบอกแล้วหันหลังจะเข้าห้องไป แต่พี่กั้งเข้ามากอดเอาไว้จากด้านหลังเสียก่อน

“ปล่อยเยียร์นะไม่งั้นจะร้องให้กุ้งตื่นจริงๆ ด้วย” ฉันบอกเขาเมื่อตอนนี้มือของเขาข้างหนึ่งกอดฉันไว้ อีกข้างลูบไล้สะโพกแล้วเบียดแกนกายแข็งแกร่งถูไถจากด้านหลัง

“พี่ไม่ปล่อยหรอก พี่ชอบเยียร์ตั้งแต่แรกเห็นเลยรู้ไหม เป็นของพี่เถอะนะ” เขาพูดล้วงล้วงมือเข้าไปในกางเกงชุดนอน

ฉันพยายามดึงมือเขาออกไปแต่ปลายนิ้วที่กดจุดกระสันทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างประหลาด

“ถ้าเยียร์ไม่ชอบคงร้องไปนานแล้ว แต่คงลังเลอยู่สินะ”

ฉันไม่ตอบเพราะเขาเดาถูก ฉันลังเลอยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่น และประทับใจรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอยู่แล้ว แต่ว่าอีกใจก็อยากถนอมความสาวเอาไว้ และอยากให้มันเกิดจากความรัก

เขาไม่รอให้ฉันคิดนาน พี่กั้งดันตัวฉันไปที่ผนังแล้วหันหน้าฉันมาสบตากับเขา ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากแล้วโน้มหน้าลงมาจูบ พร้อมๆ กับมือที่ล้วงขยี้ที่จุดกระสันเพื่อกระตุ้นความปรารถนา

ฉันยกมือขึ้นคล้องคอเขาแล้วเผยอปากรับปลายลิ้นนุ่มชื้นเข้ามาในโพรงปาก ความรู้สึกอุ่นซ่านและความสุขจากปลายนิ้วทำให้ฉันตัดสินใจเลือกที่จะยอมเขา

พี่กั้งผละจูบออกแล้วจูงมือฉันให้ตามไปที่ห้องนอนของเขาแล้วถอดชุดนอนของฉันออกไปกองรวมกับเสื้อผ้าของเขาแล้วพาไปนอนที่เตียง

เขาแยกขาฉันออกแล้วจัดการใช้ลิ้นสำรวจมันไปทั่ว ฉันนอนบิดตัวครางด้วยความพอใจ รู้สึกเสียวและขนลุกเกรียวไปทั้งร่างไม่อยากให้เขาหยุดการกระทำในตอนนี้

“อมให้พี่หน่อยสิ”

เขาบอกฉันแล้วจับแท่งลำนั้นขึ้นมาจ่อที่ปาก ฉันไม่เคยทำมาก่อนแต่เพราะอารมณ์มันพาไปและหนังเอวีที่เคยดูผ่านตาจึงพอรู้ว่าต้องทำอะไรจึงจับแท่งร้อนนั้นไว้แล้วใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ

หลังจากนั้นก็อมเข้าไปในปาก พี่กั้งครางออกมาเสียงเบาในลำคอแล้วซอยเข้ามาในปากจนฉันต้องโก่งคอรับโดยอัตโนมัติ แล้วดันตัวเขาออกไป

เขายิ้มให้ฉันที่นั่งมองเขาด้วยความตื่นเต้นปนกำหนัดแล้วเดินไปสวมใส่เครื่องป้องกันเดินตรงมาหาฉันแล้วกดลงไปกับเตียง

“พี่จะเริ่มแล้วนะ”

“ทำไมอยากเอาเยียร์คะ”

“พี่ชอบเยียร์ ชอบตั้งแต่เห็นรูปที่กุ้งส่งให้ดู กุ้งบอกว่าเยียร์เองก็เคยชมว่าพี่ถูกใจเยียร์ ไม่รู้จริงหรือเปล่าแต่พี่คิดว่าจริง เพราะตอนนี้เยียร์ไม่ขัดขืนพี่สักนิด” เขาบอกเหตุผลของตัวเองแล้วดันอาวุธเข้าไปจนสุด

ฉันจิกผ้าปูแล้วกัดฟันแน่นเพราะมันเป็นครั้งแรกของฉัน พี่กั้งโน้มหน้าลงมาจูบฉันแล้วควงสะโพกเบาๆ ฉันกอดเขาเอาไว้แน่นแอ่นสะโพกเข้าหาทำให้เขาเริ่มขยับสะโพกซอยเข้ามาเบาๆ แล้วยกหน้ามองสบตากับฉัน

“พี่ชอบเยียร์นะ ชอบจริงๆ คบกันนะ”

ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเป็นประโยคบอกรักของเขาหรือว่าพูดกระตุ้นความกำหนัด แต่เรื่องที่เขาบอกว่าเห็นรูปฉันแล้วตกหลุมรัก ฉันเชื่อว่าเป็นแบบนั้น เพราะฉันเองก็ชอบเขาแค่เห็นรูปถ่ายเช่นกัน

พี่กั้งซอยเข้ามาถี่ๆ สลับกับบดควงเบาๆ มือทั้งสองขยำหน้าอกฉันอย่างเมามันแล้วมองหน้าฉันอย่างเร้าอารมณ์ เขาก้มลงมาไซ้ซอกคอของฉันอีกครั้งแล้วเลียที่ลำคอจนฉันขนลุกเกรียวไปทั่วร่างเอามือสอดใต้แผ่นหลังของฉันแล้วโถมแรงกระแทกเข้ามาถี่ๆ เพื่อทำเวลาก่อนที่กุ้งจะตื่นมาเห็น

ฉันกัดฟันครางในลำคอด้วยความเสียว แอ่นรับการเข้ามาด้วยความกำหนัดขั้นสุด ความรู้สึกมันเหมือนว่ากำลังจะถึงจุดหมายแล้วทุบหลังเขาเพื่อเร่งให้ทำแรงๆ ขึ้น ทำให้พี่กั้งซุกหน้าที่ซอกคอฉันแล้วเร่งกระแทกเข้ามาสุดแรง

ปลายหักหยักเกาะเกี่ยวภายในแล้วจังหวะกระแทกนั้นถูกจุดกระสันจนฉันรู้สึกเสียวมากๆ แล้วเปลี่ยนจากที่ทุบเป็นจิกแผ่นหลังเขาแล้วเกร็งสะโพกแล้วแน่น พี่กั้งคงรู้ว่าฉันกำลังจะถึงเส้นชัย จึงเร่งกระแทกเข้าไปเต็มแรงแล้วเราทั้งคู่ก็ถึงจุดหมายไปพร้อมกัน

ฉันกำลังจะใส่เสื้อผ้ากลับแต่ว่าพี่กั้งดึงมือฉันเอาไว้ก่อน

“อย่าพึ่งสิ พี่ยังไม่พอเลย”

“ไม่ได้หรอกค่ะ กุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำบ่อย เอาไว้คืนพรุ่งนี้นะคะ” ฉันบอกเขาแล้วพี่กั้งก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ ส่วนฉันเองก็เขินมากที่ตัวเองเป็นฝ่ายนัดหมายเขาอย่างนั้น

“พี่คิดไม่ผิดใช่ไหม เยียร์เองก็ชอบพี่” เขาถามฉันแล้วดึงเข้ามากอดเอาไว้

“ค่ะ เยียร์ก็ชอบพี่กั้งตั้งแต่เห็นรูปถ่ายที่กุ้งเอาให้ดูแล้ว” ฉันสารภาพเขากลับทำให้พี่กั้งดีใจเป็นอย่างมาก

**********************

ในตอนเช้าพ่อกับแม่ของกุ้งกลับมาทานอาหารเช้าที่ซื้อมาจากตลาดแล้วออกไปทำงานอีกครั้ง กุ้งบอกว่าพ่อกับแม่ทำงานตั้งแต่ช่วงตีหนึ่งตีสองจนถึงตอนบ่ายของทุกวัน เข้ามาพักที่บ้านเป็นช่วงๆ แล้วก็ออกไปทำงานอีกตามประสาชาวสวนยาง

ดังนั้นจึงไม่มีเวลาทำอาหารทานเอง กับข้าวส่วนใหญ่จึงเป็นกับข้าวถุงจากตลาด ซึ่งฉันเองก็เข้าใจเพราะที่บ้านของฉันก็ทานกับข้าวถุงเช่นกัน

ในตอนสายพี่กั้งทำหน้าที่พาพวกเราไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดก่อนที่จะพาไปนั่งทานอาหารทะเลที่ชายหาดแห่งหนึ่ง

“ซื้อกินเองถูกกว่าก็จริง แต่ขี้เกียจทำ สู้กินที่ร้านดีกว่าไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องล้างถ้วยแถมอร่อยอีกด้วยนะ” กุ้งบอกฉันแล้วยื่นกุ้งให้ฉันหนึ่งตัว ฉันแกะเปลือกกุ้งแล้วทานอย่างเอร็ดอร่อยและสบตากับพี่กั้งเป็นระยะ

“เมื่อคืนนี้หลับสบายไหม” เขาถามฉันเป็นนัยถึงเรื่องนั้น

“หลับสบายดีค่ะ” ฉันตอบแล้วอมยิ้มให้เขาเล็กน้อย มีหน่วงๆ ที่สะโพกบ้างเวลาเดินแต่นั่นก็ไม่ได้หนักหนาอะไร

“แล้ววันนี้พี่กั้งว่างเหรอคะทำไมถึงได้พาพวกเราออกมาเที่ยวแบบนี้” ฉันชวนเขาคุยต่อ

“จริงๆ พี่ก็ต้องออกไปสวนยางกับพ่อแม่เป็นบางวันนั่นแหละ แต่ช่วงนี้มีแขกมาบ้านก็ต้องดูแลแขกหน่อยเดี๋ยวกุ้งจะบ่นให้พี่เอา”

“พี่กั้งทำงานอะไรเหรอคะ”

“พี่ทำงานเป็นช่างภาพฟรีแลนด์น่ะ ว่างก็เข้าสวนมีงานก็ทำงานของตัวเอง บางทีต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดด้วย” เขาบอกแล้วแกะปูตรงหน้าให้กับฉัน ทำให้กุ้งถึงกับหน้างอแล้วตัดพ้อพี่ชาย

“ทีน้องไม่แกะให้”

“ก็เธอแกะเป็นนี่ อีกอย่างเยียร์ก็เป็นแขก”

ฉันมองสองพี่น้องตอบโต้กันแล้วนึกอิจฉากุ้งที่มีพี่ชายอย่างเขา แล้วพี่กั้งก็หันมายิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขา

เมื่อเราทานอาหารเสร็จพี่กั้งก็พาขับรถไปชมรอบเมืองก่อนที่จะแวะตลาดซื้ออาหารเย็นเข้าไปไว้ที่บ้าน

รอจนถึงตอนเย็นแม่ของกุ้งก็เอาอาหารไปอุ่นในครัวแล้วเริ่มตั้งโต๊ะทานอาหารตั้งแต่ตอนเย็น

“ชีวิตต่างจังหวัดจะเงียบเหงาหน่อยนะเยียร์ ไม่ค่อยมีสีสันอะไรหรอก มืดก็เริ่มนอนกันแล้ว” แม่ของกุ้งหันมาพูดกับฉัน

“เยียร์เข้าใจค่ะ” ฉันบอกท่านแล้วหันไปยิ้มให้กับกุ้ง

“ทานเยอะๆ นะเยียร์ นี่ห่อหมกร้านดัง เจ้านี้อร่อย” พี่กั้งบอกฉันแล้วตักห่อหมกให้ทาน

“ขอบคุณค่ะ พี่กั้งก็ทานเยอะๆ นะคะ” ฉันตักอาหารคืนให้แก่เขา

“สองคนนี้สนิทกันเร็วจังเลยนะคะปกติเยียร์ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันก็ยังไม่ค่อยจะพูดด้วยเลย พี่กั้งเองก็เหมือนกันปกติเงียบเชียวจะพูดแต่ละทีก็เหมือนดอกพิกุลจะร่วงออกมาจากปาก แต่ช่วงนี้พูดมากพูดบ่อยจังเลยนะคะ”

“หรืออยากให้พี่หยิ่งใส่แขก” เขาหันไปบอกกุ้งที่จับผิดเรา

ทำให้กุ้งต้องเงียบลงแล้วยิ้มแห้งๆ ให้กับพี่ชาย

“ไปแซวพี่เขา นี่ถ้ากั้งกับเยียร์คุยกันถูกคอแบบนี้ก็ดีนะ แม่ว่ามาเป็นลูกสะใภ้แม่ไหมล่ะ” แม่ของกุ้งถามทำให้ฉันอดอมยิ้มไม่ได้ที่ท่านเองก็แอบแซวเราเช่นกัน

พี่กั้งเองก็อมยิ้มน้อยๆ ไม่ได้พูดอะไรแล้วทานอาหารเย็นตรงหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ก็ดีนะเยียร์ พี่กั้งยังไม่มีแฟน จะว่าไปตั้งแต่เลิกกับแฟนคนก่อนผ่านมาสามปีแล้วมั้งยังไม่สนใจใครเลย” กุ้งพยายามพูดเชียร์พี่กั้งให้กับฉัน

ฉันกับพี่กั้งมองหน้ากัน ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้สถานะลับๆ ของเรา จึงต่างคนต่างเงียบแล้วยิ้มไปตามน้ำ

“อย่าไปพูดแบบนั้น เยียร์จะอึดอัดเปล่าๆ” พ่อของกุ้งตัดบทสนทนาขึ้นมาแล้วยิ้มให้กับฉัน

“ขอโทษด้วยนะเยียร์ที่กุ้งกับแม่เขาพูดอะไรแบบนั้นให้เราอึดอัด”

“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ เยียร์ไม่ได้อึดอัดอะไรเลย” ฉันบอกอย่างสุภาพแล้วยิ้มให้กับท่าน แล้วปรายตามองพี่กั้งที่อมยิ้มอยู่อย่างชอบใจ

**********************