“อา...ข้าชอบเจ้าทั้งตัวเลยอวี่เอ๋อร์” องค์ชายปีศาจเผลอตัวเรียกคนใต้ร่างอย่างสนิทสนมและร่ายมนตราปลดเวทพันธนาการออก
“อื้อ อะ อ้า องค์ชาย” เจียวอวี่ร้องครางเสียงดังลั่น เมื่อกายแกร่งด้านบนก้มลงต่ำไปชิมน้ำหวานจากโพรงร้อนใจกลางสาว ชายหนุ่มดูดดึงและใช้ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวควานหาน้ำหวาน จนร่างบางอดทนต่อความเสียวซ่านนี้ไม่ไหวจึงบิดกายแอ่นใจกลางสาวหาริมฝีปากร้อน
“องค์ชาย อื้อ อ้า” อารมณ์เสียวซ่านของหญิงสาวพุ่งทะยานไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ร่างบางกระตุกเกร็งค้างและรู้สึกเหนื่อยอ่อนแรงเหมือนถูกสูบพลังเทพไป เจียวอวี่นอนแผ่หลาอย่างลืมตัว เมื่อชายหนุ่มเห็นหญิงสาวแตะถึงขอบประตูสวรรค์แล้วจึงอยากจะสัมผัสความรู้สึกเช่นนั้นบ้าง จึงจับขาเรียวบางทั้งสองของหญิงสาวอ้ากว้างออก สอดแท่งรักร้อนลงที่ใจกลางสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหวาน
“อา ฮือ! เจ็บเพคะ อย่า! องค์ชาย อื้อ อะ อ้า!” หญิงสาวที่นอนหมดแรงถูกร่างสูงด้านบนจับขาบางอ้ากว้างออก แล้วรีบสวนแท่งยักษ์นั่นเข้ามาที่ใจกลาง ทำให้หญิงสาวเจ็บปวดเป็นอย่างมาก พยายามเอ่ยขอให้ชายหนุ่มหยุดกระทำก็ไม่เป็นผล
“ฮือ ๆ เจ็บ ปล่อยข้านะเจ้าคะ ปล่อย!” เจียวอวี่ร้องไห้ขอร้องให้องค์ชายปีศาจที่สอดประสานท่อนรักนั่นไว้ที่ใจกลางสาวเอามันออกไปเสีย
“เจ้าต้องทน อวี่เอ๋อร์ เจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า ต้องอดทนเพื่อข้า รู้หรือไม่” องค์ชายปีศาจประกาศกร้าว เร่งสอดทะยานแท่งรักร้อนใส่ใจกลางสาวอย่างไม่ออมมือหรือเบาแรง จากที่ตอนแรกหญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดอย่างทุรนทุราย พอผ่านไปนานเพียงครึ่งจิบชา ใจกลางสาวก็ปล่อยน้ำหวานออกมาหล่อเลี้ยงทำให้ลดความเจ็บปวดลงพร้อมกับมีความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่
“อา...ช่างแน่นเหลือเกินอวี่เอ๋อร์ อือ อ้า” ร่างสูงสอดประสานควบเร่งเอวสอบใส่ใจกลางสาวไม่หยุดยั้ง
“อะ อื้อ อ้า เบา ๆ เพคะ อา” หญิงสาวตัวสั่นจนหัวสั่นคลอน ทรวงอกใหญ่กระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง
“อา ข้าชอบ ข้าชอบเจ้า อวี่เอ๋อร์ อ้า” ร่างสูงเร่งสาวเอวสอบใส่ใจกลางสาวไม่หยุดยั้งจนอารมณ์รักพุ่งทะยานไปสู่สุดสูงสุดของพลังปราณ น้ำรักพ่นประสานเข้าสู่ใจกลางสาวอย่างไม่ลดละ
ในรอบสองพันปีกาลมานี้ องค์ชายปีศาจผู้ไม่เคยร่วมรักกับปีศาจหรือเทพตนใดเลยกลับต้องยอมปลดปล่อยเชื้อพันธุ์ปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งภพให้แก่เครื่องบรรณาการจากสวรรค์ที่ส่งมาประทานให้
“ฮึก ๆ ฮือ ๆ” เจียวอวี่นอนตะแคงข้างกอดผ้าห่มร้องไห้ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ผ่านไปนานกว่าหนึ่งเค่อ นางก็ยังไม่เลิกร้องไห้เสียใจที่ถูกองค์ชายปีศาจข่มเหงรังแก พรากความบริสุทธิ์ที่เพียรพยายามรักษามากว่าหนึ่งพันแปดร้อยปีไปจนหมดสิ้น ความหวังที่จะบำเพ็ญเพียรฝึกปราณยุทธ์ให้สู่ขั้นสูงสุดชั้นที่สิบให้บรรลุคงหมดหวัง
“...เสียงใครมาร้องไห้แถวนี้ น่าหนวกหู” จิ่นเหิง องค์ชายปีศาจที่นอนหลับสนิทอยู่ตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด หญิงสาวที่โดนร่างสูงด้านข้างตวาดก็พยายามกลั้นเสียงสะอึกสะอื้น แต่พยายามเท่าไรก็ไม่สำเร็จ
“เทพธิดาชั้นต่ำ เจ้าจะเลิกร้องไห้ได้หรือยัง ถ้าไม่เลิกก็ออกไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้” จิ่นเหิงที่อารมณ์ดุดันเกรี้ยวกราดออกปากไล่หญิงสาวอย่างไม่สนใจไยดี
“ฮึก ๆ” เจียวอวี่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแล้วรีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยมาคลุมสวมใส่อย่างลวก ๆ แล้วหายตัวออกจากห้องบรรทมไป
ร่างบางที่บอบช้ำทั้งกายและใจหายตัวออกมาจากห้องนอนของคนใจร้ายได้เพียงหนึ่งช่วงห้องกั้นก็ไม่สามารถฝ่าม่านมนตราขั้นสูงสุดออกไปจากวังเป่ยเปียนได้ หญิงสาวจึงเข้ามาซ่อนตัวในห้องรับรองห้องหนึ่งที่ถูกจัดเตรียมไว้ แต่ไม่รู้ว่าจัดเตรียมไว้ให้ใคร อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยองครักษ์คู่กายขององค์ชายปีศาจนามว่าหยางหลิน เจียวอวี่จึงรีบหันหลังทันที กลัวว่าชายหนุ่มจะมองเห็นร่างกึ่งเปลือยที่สภาพไม่ค่อยน่ามองนัก
“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะพระชายา กระหม่อมนำคนรับใช้มาไว้ให้เรียกใช้ ห้องนี้องค์ชายจัดเตรียมไว้ให้ เชิญพระชายาพักผ่อนได้ตามสะดวก หากขาดเหลืออะไรสามารถเรียกกระหม่อมหรือคนรับใช้ได้ตลอดเวลา” หยางหลินก้มหน้ามองพื้น ไม่บังอาจสำรวจร่างบางที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า โดยมีคนรับใช้ปีศาจผู้หญิงสองตนยืนถือชุดและอาหารเช้าอยู่ด้านข้าง
“ข้าต้องการชุดใหม่กับอาหาร ถ้าพวกเจ้าจัดเตรียมไว้แล้วก็วางไว้บนโต๊ะเถอะ ข้าจัดการเอง ขอบใจพวกเจ้ามาก” เจียวอวี่ที่ยืนหันหลังเอี้ยวหน้ามาเพียงครึ่งเสี้ยวเอ่ยบอกหยางหลินและคนรับใช้ทั้งสอง
“เพคะพระชายา” คนรับใช้สองตนวางของไว้บนโต๊ะเสร็จก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูห้อง เจียวอวี่ถอนหายใจ พอทุกคนออกไปเสร็จจึงร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตส่วนตัวไว้ไม่ให้ใครเข้ามารบกวนได้ หญิงสาวถอดชุดคลุมตัวและเดินไปที่อ่างอาบน้ำ ก้าวขาลงชำระล้างร่างกายที่แปดเปื้อนความสกปรกคาวโลกีย์ ร่างบางขัดถูร่างกายด้วยความรังเกียจ และร้องไห้ด้วยความเจ็บแค้นใจที่ไม่สามารถทำอะไรองค์ชายปีศาจน่ารังเกียจนั่นได้เลย พอสงบสติอารมณ์ได้ก็แต่งกายด้วยชุดใหม่ที่รูปทรงค่อนข้างแปลกตาและไม่มิดชิด เนื้อผ้าของเสื้อตัวนอกนั้นบางเฉียบจนแทบมองทะลุเห็นเอี๊ยมด้านในที่ไม่สามารถบดบังทรวงอกอวบอิ่มที่เบียดกันจนแทบจะล้นทะลักออกมาจากเอี๊ยมตัวบางได้
เจียวอวี่จนใจที่จะต้องใส่ชุดที่แทบจะเปิดเผยไปหมดทั้งตัว เมื่อไม่สามารถร่ายมนตร์เสกสิ่งของอย่างที่ต้องการได้ ทำได้เพียงหายตัวไปมาได้ในเขตราชวังนี้เท่านั้น
“ไม่น่ามาที่นี่เลย ข้าควรจะหนีไปอย่างที่หลิ่งจีบอก” เจียวอวี่ตัดพ้อกับตัวเองหน้าคันฉ่อง
เวลาผ่านไปนานจนล่วงเลยถึงยามซื่อ หญิงสาวที่นอนเก็บแรงไว้ตื่นขึ้น รู้สึกอยากออกไปสูดอากาศจึงเปิดประตูเดินออกไปเรื่อย ๆ ตามทางเดิน บรรยากาศภายนอกช่างแตกต่างจากสวรรค์มากนัก มองไปทางไหนก็รู้สึกมัวหมองไม่สดใส แต่พอหญิงสาวก้าวขาเดินผ่านไปทางไหนที่มีพฤกษาและบุปผาอยู่ บริเวณนั้นก็จะสดใสขึ้นมาทันที เจียวอวี่ดีใจที่ได้เจอสวนบุปผาร้างที่ท้ายวัง ที่นี่ไม่มีใครผ่านเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว หญิงสาวจึงเกิดความคิดที่จะปรับปรุงที่นี่ใหม่
“ในเมื่อข้ากลับสวรรค์ไม่ได้ ที่นี่ก็จะเป็นเหมือนดั่งสวรรค์บ้านของข้า” เจียวอวี่กล่าวจบก็หลับตาลงเดินพลังปราณขั้นสูง ดึงพลังธาตุน้ำที่ติดตัวมาตั้งแต่ถือกำเนิดร่ายมนตราฟื้นคืนชีวิตให้แก่บุปผาและพฤกษชาติที่แห้งเหี่ยวเฉาในสวนนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในชั่วพริบตาเดียว สวนบุปผาที่รกร้างก็ฟื้นคืนชีวิตกลายเป็นสวนพฤกษชาติที่สวยงดงามเหมือนบนสวรรค์ชั้นฟ้า
ทันทีที่กลิ่นหอมของบุปผาตลบอบอวลฟุ้งไปทั่ววังเป่ยเปียน เหล่าบรรดาอสูรและปีศาจทุกตนต่างตื่นตกใจ ที่ในรอบหลายพันปีมานี้ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใด เช่นพฤกษาหรือบุปผาถือกำเนิดขึ้น จะมีเพียงแต่บุปผาปีศาจรูปร่างอัปลักษณ์มีกลิ่นเหม็นคาวเลือด กับพฤกษาปีศาจที่รูปร่างแห้งเหี่ยวแต่ชอบกินเลือดเท่านั้นที่จะดำรงอยู่ได้ “งดงามมาก” เจียวอวี่ก้มลงมองบุปผาสีขาวงดงามตรงหน้าด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
เทพธิดาสาวไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าการใช้ปราณพลังฟื้นคืนชีวิตให้แก่เหล่าพฤกษชาติจะสร้างความพิโรธให้แก่องค์ชายปีศาจได้มากมายคล้ายไปสังหารใครตายได้เพียงพริบตา จิ่นเหิงนอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ พอประสาทสัมผัสรับรู้ถึงกลิ่นหอมของบุปผาที่มาจากบริเวณสวนร้างท้ายวังก็เกิดโมโหพิโรธขึ้น ระเบิดพลังทำลายข้าวของในห้องทิ้งไปหลายอย่างทันที
“ใครมันบังอาจมาปลูกบุปผาในวังของข้า” องค์ชายรัชทายาทผู้เอาแต่ใจตน เกลียดสตรีไม่พอยังพานไม่ชอบกลิ่นบุปผาที่ชวนให้นึกถึงหญิงสาวนางหนึ่งที่ตนคร่อมขี่เมื่อคืนอย่างสุขสมไม่ได้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักเพียงนิดว่าจริง ๆ แล้วตนเองชอบกลิ่นบุปผาจากกายสาวมากแค่ไหน แต่ก็ใจแข็งปากเก่งไม่ยอมรับความจริง