ความรู้สึกที่แปลกไป

1241 คำ
เพนท์เฮ้าส์ ร่างสูงเดินเข้าลิฟต์ท่าทางนิ่งๆ แต่ในใจเขานั่นมันรู้สึกร้อนรนแปลกๆ เหมือนอยากพาตัวเองไปถึงห้องพักเร็วๆ เพราะในสมองตอนนี้มีแต่หน้าของยัยเด็กแสบนั่นลอยขึ้นมาเต็มไปหมด นี่เขาเป็นอะไรกัน เขาไม่เคยมีอาการอย่างนี้มาก่อนไม่ว่ากับใคร แต่ยัยเด็กหัวขโมยนั่นกลับทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้เพียงแค่พบเจอกันได้ไม่กี่วัน และไม่ใช่การพบเจอกันด้วยดีซะด้วยสิ "เหอะ! ยัยเด็กบ้าเอ๊ย" เขาสบถออกมาเบาๆ เหมือนระบายความหงุดหงิดแปลกๆ ที่เป็นอยู่ตอนนี้ "นายว่าอะไรนะครับ? " เบนจามินถามเมื่อได้ยินผู้เป็นนายพูดอะไรสักอย่างแต่เขาฟังไม่ค่อยถนัด คามินเหลือบตามองลูกน้องก่อนจะถอนหายใจพรืดใหญ่ออกมา "แกว่ายัยเด็กนั่นจะตายหรือยัง" "เอาจริงๆ ก็อาจจะตายไปแล้วนะครับ เพราะมันตั้งสามวันแล้ว" เบนจามินตอบเสียงไม่แน่ใจเขารู้สึกสงสารเด็กสาวคนนั้นแต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เพราะเธอรนหาที่เอง เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับคามิน เฮ้อ อาเมน.... "ก็ไม่แน่หรอกคนแบบยัยเด็กนั่นอาจตายยากกว่าคนปกติก็ได้” เขาพึมพำเบาๆ เพราะส่วนใหญ่คนนิสัยไม่ดีหรือนิสัยเลวมักจะตายยาก ดูอย่างพวกเขาสิไม่ได้ดีทั้งหมดแล้วก็ไม่ได้เลวไปทั้งหมดเดินทางสายกลางมาตลอดหึหึ “...” เบนจามินมองหน้านายของตัวเองเพราะดูเขาผิดแปลกไปจากเดิม แปลกจนน่าสงสัยอย่างนี้ต้องถามไอ้ราฮิมซะแล้ว เบนจามินคิดแล้วจ้อมหน้าคามิน แกร็ก... พอลูกน้องคนสนิทเปิดประตูห้องมืดคามินก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็วภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ใจเขากระตุกวูบเพราะร่างบางของยัยเด็กหัวขโมยนอนนิ่งอยู่บนเตียง ที่ข้อเท้ายังมีโซ่ตรวนล่ามเอาไว้จนข้อเท้าเล็กนั้นแดงซ้ำจากการเสียดสีของเหล็กกับผิวขาวๆ ห้องที่มีเพียงแสงสว่างจากโคมไฟกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามันช่างดูหดหู่ยิ่งนัก “นายครับ” เบนจามินเรียกเมื่อผู้เป็นนายยืนนิ่งอยู่แบบนั้น “...” “เอ่อ...นายคะ” “เอาตัวเธอออกมา” คามินพูดตัดบทก่อนที่เบนจามินจะพูดจบเขาเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องทันที ‘ทำไมเขาต้องรู้สึกจี๊ดๆ ที่ใจด้วยนะ’ เบนจามินปลดล็อกโซ่ออกจากข้อเท้าให้กับเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับยื่นมือไปตรงจมูกโด่งรั้นนั่นแต่แล้วก็ต้องโล่งอกเพราะเธอยังหายใจอยู่ไม่ได้ตายเหมือนสภาพที่เขาคิดเอาไว้ตอนเปิดประตูเข้ามาครั้งแรก เบนจามินรีบอุ้มร่างเด็กสาวออกมาข้างนอกเจอผู้เป็นนายนั่งจิบไวน์มองมาที่เขาสายตาแปลกๆ เขายืนนิ่งทำตัวไม่ถูก “นายครับผมว่าเธอดูอาการไม่ค่อยดี” บอกพร้อมกับก้มหน้าลงน้อยๆ กับสายตาที่มองมา “...” คามินยังคงเงียบเอาแต่จ้องดวงหน้าสวยที่ดูซีดเซียวไม่มีสีเลือดนั่นจนเบนจามินต้องเอ่ยเรียกเขาอีกครั้ง “นายครับ” “พาไปโรงพยาบาล” พูดจบคามินก็ลุกขึ้นเดินผ่านเบนจามินเข้าห้องไปท่าทางเฉยชา เขารีบพาเด็กสาวไปโรงพยาบาลทันทีอย่างน้อยเธอก็ยังเด็กเกินกว่าจะต้องมาตายอย่างทรมานในตอนนี้ โรงพยาบาล ระหว่างที่รอหมอตรวจเด็กสาวเบนจามินได้ต่อสายหาคู่หูอย่างราฮิมเพื่อบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังจะได้มีคนช่วยคิดอีกคนว่าจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ดีเพราะดูคามินเฉยชาจนเขาเดาไม่ออกว่าอยากจะให้เด็กสาวตายหรือยังอยากให้มีลมหายใจอยู่ “ว่าไงว่ะไอ้เบน” ราฮิมกดรับสายจากเพื่อนคู่หู ตอนนี้เขากำลังมุงหน้ากลับเพนท์เฮ้าส์เพื่อจะได้เดินทางกลับดูไบในเช้าวันพรุ่งนี้หลังจากเขาจัดการธุระให้กับคามินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ‘มึงกลับยังว่ะ’ “กำลังขับรถกลับ” ‘มึงมาหากูที่โรงพยาบาล...หน่อย’ “ใครเป็นอะไรทำไมมึงต้องไปที่นั่น?” ราฮิมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเพราะพวกเขาไม่มีทางจะเฉียดใกล้สถานที่แบบนั้นแน่ถ้าไม่ใกล้ตายกันจริงๆ แล้วตอนนี้เพื่อนเขาอยู่โรงพยาบาลสรุปแล้วใครเป็นอะไรกันแน่วะ ราฮิมคิดจนคิ้วแทบจะชนกัน ‘เอ่อน่ามึงมาก่อนแล้วจะเข้าใจทุกอย่างเอง’ “เอ่อๆ สิบนาทีถึง” พูดไปก็หักพวกมาลัยเลี้นวนถกลับไปทางเดิมเพราะโรงพยาบาลที่เบนจามินบอกเขาพึ่งจะขับเลยมาได้ไม่นานเท่าไหร่ ‘เอ่อๆ รีบมาเลยนะมึงกูเครียด’ “เอ่อ!!” ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด พูดจบก็ตัดสายทิ้งมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที ด้านเบนจามินที่ตอนนี้เขานั่งมองร่างเด็กสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงของผู้ป่วยโดยมีสายให้น้ำเกลือห้อยระโยงระยางอยู่ หน้าสวยค่อยมีสีเลือดฝาดขึ้นมาหน่อยจากตอนที่เขาพามาครั้งแรก อีกอย่างหมอได้บอกว่าเธอต้องนอนพักที่โรงพยาบาลสามวันเพื่อดูอาการเพราะร่างกายเธออ่อนเพรียจากการขาดน้ำขาดอาหารมากเกินไปถ้าช้ากว่านี้เด็กสาวอาจช็อกตายจากสภาวะร่างกายขาดน้ำได้ “ไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือโชคร้ายกันนะสาวน้อยที่เธอไม่ตาย” บ่นพึมพำกับร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง พอครบสิบนาทีไม่ขาดไม่เกินราฮิมก็เข้ามาหาเบนจามินให้ห้องพักผู้ป่วยทันที ก่อนที่เขาจะมองไปที่เตียงแล้วหันกลับไปมองเพื่อน เบนจามินถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “นายให้กูพาเด็กนั่นมาเอง” มองไปที่เตียงก่อนจะหันมองเพื่อน “แล้ว” “กูก็พามานี่ไงไอ้นี่” “ไหนบอกจะขังให้ตายยังไงวะ” เขาจำได้ว่าตอนที่เอาเด็กคนนี้เข้าไปขังคามินไม่ได้สั่งอะไรเขาคิดว่าจะขังลืมแล้วค่อยเก็บไปทิ้งทีหลังซะอีก แล้วทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละ “ไม่รู้ว่ะแต่นายคงไม่เอาถึงตายหรอกไม่อย่างนั้นจะมีท่าทีแปลกๆ ตอนที่รู้ว่าตัวเองขังลืมแม่สาวน้อยคนนี้ได้ยังไง” “แปลกยังไง?” ราฮิมสงสัยขึ้นมาทันทีก่อนที่เบนจะมินจะส่งสัญญาณให้ก่อนที่เขาทั้งคู่จะเดินออกไปคุยกันข้างนอกถึงแม้เด็กสาวจะนอนนิ่งก็เถอะ ถ้าเกิดเธอฟื้นขึ้นมาได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกันมันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งคู่คุยกันเกี่ยวกับเรื่องของเด็กสาวค่อนข้างนานจนต้องกุมขมับเพราะหาข้อสรุปของการกระทำของคามินผู้เป็นนายที่มีต่อเด็กสาวไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วจะปล่อยไปหรือยังไงพวกเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน สุดท้ายเขาสองคนเลยต้องกลับไปหาคามินเพื่อนให้คามินตัดสินใจมันจะดีกว่าที่ให้พวกเขามาคิดกันเองสองคนแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม