ก๊อกก๊อกก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำให้นลินวิภาสะดุ้งตื่น ชีวิตปรกติของเธอไม่เคยได้ยินเสียงปลุกเพราะว่าอยู่เพียงลำพังที่คอนโดมีเนียมกลางเมือง ซ้ำการถูกปลุกยังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้พบเจอเนื่องจากทำงานฟรีแลนซ์ที่บ้าน เธอนึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ปรกติของตัวเองแล้วก็เบิกตากว้าง มองเพดานห้องที่ไม่คุ้นชินอย่างนิ่งอึ้ง
และสิ่งที่ผิดปรกติกว่าก็คือมีคนลุกขึ้นจากเตียงเดียวกับเธอในสภาพที่เรียกว่าเกือบเปลือย เขาเอื้อมไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วหันมาให้เธอมองเห็นได้เต็มตาพร้อมๆ กับตอนที่ประตูห้องถูกเปิดออก
นลินวิภาได้แต่อึ้ง รู้สึกเหมือนช็อกจนตัวแข็งทื่อไปหมด เธอมองคนที่กระชับเสื้อคลุมเข้าด้วยกันจุดแรกที่เห็นคือช่วงอกเปลือยเปล่าขาวจัดที่ถูกสาบเสื้อปิดเลยไปบนใบหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วประสานสายตากับดวงตาที่ทอดมองมานิ่งๆ โดยไม่สนอาการตื่นตระหนกของเธอแล้วก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน พอก้มมองตัวเองใต้ผ้าห่มเธอพบว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว
แย่แล้ว!
"นายมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง โฮป" อาคินเปิดปากเป็นคนแรก
โฮปงั้นหรือ...
ดวงตาของนลินวิภาเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดหวั่น ทอดสายตามองไปยังโฮปผู้ชายที่ดูดีไร้ที่ติ ตอนที่เผลอจ้องเขาตอนเขากระชับสาบเสื้อคลุมเข้ากันแล้วหันมามองเธอนั้นทำให้หัวใจเธอกระตุกวาบทั้งความตกใจระคนกับหัวใจไหววูบไปเพราะออร่าบางอย่างที่เปล่งประกายจากความเป็นเขา
"เมื่อคืนเห็นพี่มัวแต่ยุ่งเพราะเด็กพี่อยู่ คงไม่มีเวลาจัดการผู้ร้ายปากแข็งแถวนี้ ผมว่างเลยมาช่วย" เขายักไหล่ในตอนที่ตอบ
"เมื่อคืนนายส่งไอ้บ้านี่มาข่มขืนฉันเหรอ" นลินวิภาถามอาคินที่ยืนจ้องหน้าโฮปเหมือนสื่อสารกันทางสายตา
อาคินจ้องเธอเขม็ง ใบหน้าครึ้มทะมึนของเขาเหมือนลดอุณหภูมิห้องเย็นไปหนึ่งระดับ ส่วนโฮปนั้นหรือเหมือนคนโดนด่าแล้วไม่สำนึกชัดๆ เพราะทำหน้านิ่งเหมือนไม่แยแสราวกับไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลยกับสิ่งที่ทำไป
อาคินหันกลับมามองนลินวิภา
"เมื่อคืนเธอไม่ยอมบอกเรื่องไอ้ทิน ฉันก็แค่วางแผนจัดคนมาช่วยให้เธอเปิดปากง่ายขึ้น แต่โฮปมันจัดการเร็วกว่าที่สั่งไปหน่อย" เหมือนอาคินอารมณ์ดีขึ้นเมื่อนลินวิภาโวยวาย "เธอคงรู้ว่าฉันไม่ได้ขู่เล่นๆ เพราะอย่างนั้นฉันถามอะไรก็ตอบมา ก่อนที่ฉันจะใช้ไม้แข็งกว่านี้"
"ฉันไม่มีอะไรจะตอบ พวกนายออกไปจากห้องนี้ก่อน ฉันจะแต่งตัว"
แม้อยากจะร้องไห้ฟูมฟาย แต่ตอนนี้เธอก็ต้องเข้มแข็งและไล่ผู้ชายสองคนนี้ออกไปก่อน เพราะการนั่งเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วคุยกับผู้ชายสองคนในห้องนอนมันไม่ดีสักเท่าไหร่...
"อีกสิบนาที ฉันจะเข้ามาถามเธออีกครั้ง ถ้ายังไม่ตอบเห็นดีกันแน่" อาคินบอกแล้วก็เดินออกไป
เหลือคนตัวโตที่ยืนเหมือนกับเป็นนายแบบหน้าปกนิตยสารอยู่ในห้อง แล้วนลินวิภาก็หันไปตวาดแว้ด
"นายก็ออกไปด้วย"
เขามองเธออยู่ก่อนแล้ว นอกจากจะรู้สึกวูบวาบแปลกๆ เหมือนไฟลวกทั่วตัวในยามที่เขาจ้องแล้วเธอก็นึกอยากจะข่วนหน้าเขาเพราะความโมโหโกรธากับสิ่งที่เพิ่งรับรู้ว่าเขาทำกับเธอ
"พูดกับผู้มีพระคุณดีๆ หน่อย" เสียงเขาเตือนเธอเหมือนดุๆ
"นายพูดบ้าอะไร"
"ดูดีๆ สิ มีส่วนไหนในตัวคุณที่บุบสลายบ้าง" เขาบอกเธอ ทำให้นลินวิภาคิดออกว่านอกจากเสื้อผ้าที่หายไป เธอไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไร พอเธอทำหน้าครุ่นคิดเขาก็เฉลยให้ฟัง "เมื่อกี้มันก็แค่การจัดฉากให้พี่อาคินเห็นว่าผมลงมือแล้ว แทนที่จะให้ลูกน้องคนอื่นที่อยู่ในตึกนี้เป็นสิบๆ คนมาช่วยจัดการ แต่เป็นผมคนเดียวมันดีกับคุณมากกว่าไม่ใช่เหรอ"
คำพูดของเขาทำให้เธอคิดถึงคำขู่ของอาคินเมื่อวาน จึงเอ่ยถามคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนมาช่วยตรงๆ
"ทำอย่างนี้ ต้องการอะไร"
"ต้องการอะไรงั้นเหรอ" โฮปทำท่าคิด แล้วก็ยักไหล่ "พี่อาคินจับตัวคุณมาแล้วจะใช้วิธีสอบสวนที่โหดไป ผมไม่เห็นด้วย แต่ห้ามไม่ได้ก็เลยอาสามาเป็นคนลงมือเอง เผื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้"
นลินวิภาจ้องหน้าเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งและค่อนไปทางเชื่อมากกว่าเพราะสัญชาตญาณบอกเช่นนั้น
คนที่เธอไม่คาดหวัง กลับเป็นความหวังของเธอในยามนี้
"ขอบคุณนะที่นายไม่เห็นด้วยเพราะสิ่งที่เขาทำมันป่าเถื่อนมากจริงๆ" นลินวิภาไตร่ตรองในหัวแต่ก็ยังพูดขอบคุณไปพร้อมกันๆ ก่อนจะเงยหน้ามาถามเขา"แล้วว่าแต่นายเป็นอะไรกับนายอาคิน"
คราวนี้คนตรงหน้าเธอคิดนานอยู่พอควรกว่าจะได้คำตอบ
"เป็นคนที่เหนือกว่าลูกน้องของเขา แต่เป็นคนที่ออกคำสั่งเขาไม่ได้"
"เป็นผู้ช่วยงั้นเหรอ"
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้"
หญิงสาวพยักหน้าบอกว่าเข้าใจแล้ว แม้จะไม่ได้เชื่อใจเต็มร้อยแต่ส่วนหนึ่งก็คิดว่ามันอาจจะเป็นความจริงและเป็นเรื่องดีที่ในกลุ่มของฝ่ายตรงข้ามนั้นมีคนหนึ่งที่เข้าข้างเธอและคอยช่วยเหลือ
"ผมจะออกไปหาพี่อาคิน คุณจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกัน อ้อ... ต่อหน้าพี่อาคินคุณควรเกลียดผมให้เต็มที่ เขาจะได้ให้ผมเป็นคนจัดการเรื่องคุณต่อไป แสดงให้ดีด้วยล่ะ"
หญิงสาวมองตามคนตัวสูงที่เดินออกไป เธอไม่เข้าใจเหตุผลที่เขาอยากช่วยเธอจริงๆ หรอก คำว่าสงสารก็เป็นไปไม่ได้แน่นอนเพราะว่าเขาเป็นพวกเดียวกับอาคิน
แต่ในเมื่อโฮปยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอก็จะคว้าเอาไว้ เพราะหากปล่อยไปก็ไม่ต่างจากทิ้งตัวดิ่งลงเหวดังนั้นหลักยึดเดียวที่มีตอนนี้ เธอก็จะคว้าไว้ให้แน่น...