"ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับพี่ก้อยครับ" วิษุวัตถามคนที่กลับมาเอาข้าวของส่วนตัวให้เอวิตา
"เธออยากคุยกับคุณอีฟค่ะ"
เกิดเสียงหึในลำคอของวิษุวัต
"แต่ก้อยบอกว่าคุณอีฟคงไม่อยากคุยกับเค้า เค้าเลยบอกว่าฝากขอโทษในสิ่งที่เคยทำกับคุณอีฟค่ะ"
หน้าดุดันคลายลงเล็กน้อย แล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องอาการของเอวิตาแทน จนขึ้นมาถึงชั้นบนเเล้วก็เจอป้าแตนที่เดินนำคนเข็นกระเป๋าเดินทางของวิษุวัตมาจากห้องศิวา ก้อยไหว้ป้าเเตนก่อนจะเดินแยกไปห้องเอวิตา ส่วนวิษุวัตนั้นมองกระเป๋าเดินทางแล้วยิ้มน้อยๆ ดีใจที่จะได้กลับมาอยู่ที่เดิม
"คุณโฮปให้ป้าจัดของไหมคะ หรือว่าจะกลับจีนเลย" คนตัวสูงเลิกคิ้ว ไม่รู้ว่าโดนแม่บ้านเก่าเเก่ถามเพราะรู้ว่าเขางานยุ่งและมีเวลาน้อยไม่ค่อยอยู่ไทย หรือถามเพราะว่ากำลังโกรธเขาแล้วอยากไล่หรือเปล่า
"ผมอยู่ต่อก่อนสักพักครับ"
นางพยักหน้ารับรู้และเอากระเป๋าลากไปในห้องนอนเขาทันที เขาเดินตามเข้าไปแล้วโอบร่างอวบอ้วนของหญิงที่ช่วยมารดาอุ้มชูเขามาเเต่เล็กแต่น้อย นางตีมือเขาหนหนึ่งเเล้วบ่นงึมงำว่าเขาทำร้ายจิตใจนลินวิภา ป้าเเตนนิ่งๆ ไม่ได้แสดงออกท่าทีใดๆ แต่ลึกๆ แล้วท่านเอ็นดูหญิงสาวมากมายเลยไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขาทำ
"ป้าเเตนไม่ต้องโกรธแทนเค้าหรอก ผมไม่เห็นเค้าเสียใจ น้ำตาไม่มีสักหยด สำนึกจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ที่ไม่ร้องน่ะ เสียใจกว่าร้องอีกนะคะ คนแบบนี้จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจ แล้วคงเเค้นฝังหุ่น ป้าละไม่เห็นด้วยจริงๆ ถ้าเค้าผิดก็ดุด่าว่ากล่าว ไม่ควรไปล้อเล่นกับจิตใจเค้า"
"ก็เค้าทำอีฟก่อนนี่ครับ"
"เฮ้อ ป้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วค่ะ ไหนๆ ก็ย้อนกลับคืนไปไม่ได้ ต่อไปนี้คงไม่ได้เจอกันอีกป้าจะลืมๆ แล้วเลิกบ่นคุณโฮปแล้ว แต่ยังไงก็หวังว่าหนูนิ้งคงเข้มเเข็งกว่าคุณอีฟ" นางบ่นพึมพำ แต่นั่นทำให้คนตัวโตมีสีหน้าครุ่นคิดขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนที่เขาจะตอบนาง
"ก็ถ้าใจร้ายพอที่จะทำร้ายใครสักคนได้ เค้าก็คงเข้มเเข็งพอในตอนที่โดนกระทำกลับคืนได้นะครับ"