ฮูหยินเฒ่าที่ได้ยินเสียงต่อว่าของเหอฉิงซวงก็ลุกขึ้นมายืนเคียงข้างหลานสาวแล้วมองไปยังหญิงสาวที่เป็นคู่พิพาทของหลานสาวด้วย
" ไม่รู้มาก่อนว่า เจ้าเมืองเหอสั่งสอนบุตรสาวได้ดีถึงเพียงนี้ เห็นทีคงต้องไปเยี่ยมเยียนสักครั้ง "
" ท่าน ท่านเป็นใครกัน จวนเจ้าเมืองของท่านพ่อข้า พวกเจ้าสามารถเข้าออกได้ตามใจชอบหรือ " เหอฉิงซวงนางไม่ค่อยได้ออกมานอกจวนนักจึงไม่รู้จักฮูหยินผู้เฒ่าเสียน ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของ บิดาของนาง หากบิดาของนางรับรู้เข้านางคงถูกลงโทษอย่างหนักเป็นแน่
" คุณหนูเหอ เจ้าไม่ควรเสียมารยาทต่อผู้ชราคนนี้ " ฮูหยินเฒ่าเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
" หึ ท่านชราแล้วยังไง ไม่ใช่ญาติอะไรของข้าสักหน่อย ทำไมข้าจะต้องสนใจท่านด้วยล่ะ "
" หึ ดี ดี นับว่าวันนี้ข้าผู้ชราได้เปิดหูเปิดตามากขึ้นแล้ว อิงเอ๋อ เจ้าเลือกเครื่องประดับได้หรือยัง ย่ามีที่อื่นจะต้องไป "
" ข้าไม่สนใจเครื่องประดับแล้วล่ะเจ้าค่ะท่านย่า " เสียนจื่ออิงเอ่ยบอกท่านย่าของตนเอง เพราะไม่อยากจะโต้เถียงกับคนตรงหน้าที่ สมองน้อยเช่นนี้ให้เสียเวลา
" เหอะ !! ไม่สนใจหรือไม่มีเงินจ่ายค่าเครื่องประดับกันแน่ กระจอก ไม่มีเงินแล้วยังจะหน้าด้านเข้ามาในร้านนี้อีก … " นางเอ่ยขึ้นพลางใช้หางตาจ้องมองเสียนจื่ออิงกับท่านย่าของนาง
" หลงจู้หวัง เดี๋ยวเจ้าส่งเครื่องประดับที่ช่างฝูทำเสร็จไปให้อิงเอ๋อเลือกก่อนนะ วันนี้ข้ามีธุระต้องไปจัดการ ต่อไปห้ามต้อนรับนางเข้ามาที่ร้านนี้อีก "
" ขอรับฮูหยินเฒ่า " หลงจู้หวังเอ่ยอย่างน้อบน้อม ก่อนจะหันไปเอ่ยตามที่ได้รับคำสั่งมาด้วย
" เชิญคุณหนูเหอ ออกจากร้านด้วยขอรับ เพราะร้านเล็กๆแห่งนี้คงไม่อาจต้อนรับท่านได้อีกต่อไปแล้ว "
" นี่เจ้า มีสิทธิ์อะไรมาไล่ข้า เจ้าก็แค่คนงานในร้านเท่านั้น แล้วนางก็แค่คนแก่ๆคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามข้าไม่ให้เข้ามาร้านนี้ " ด้วยอารมณ์โทสะที่มากล้นทำให้เหอฉิงซวงขาดสติพุ่งตัวเข้าไปกระชากแขนของเสียนจื่ออิงแทนที่จะเป็นหญิงชรา ดั่งที่นางตั้งใจในตอแรก
ตุบ !
" ว๊าย คุณหนู " ฟางลิ่งร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนถูกอีกฝ่ายกระชากแขนจนเทไปชนเข้าไปชั้นวาง นางรีบเจ้าไปพยุงคุณหนูองตนให้ลุกขึ้นมา
" อิงเอ๋อ !! มันจะมากเกินไปแล้วนะ เหอฉิงซวง " ฮูหยินเฒ่าเอ่ยเสียงดังด้วยความโกรธ ยิ่งเห็นว่าที่ฝ่ามือของหลานสาวมีบาดแผลเลือดไหล ใบหน้าฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่ร่างบางกำลังพุ่งชนชั้นวางของที่ตั้งอยู่นั้นนางฉวยโอกาสนั้นฟาดฝ่ามือใส่ชั้นวางที่มีร่องรอยชำรุดจึงทำให้ฝ่ามือของตนเองถูกบาดเลือดไหลออกมา ก่อนจะก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มร้ายเอาไว้อย่างแนบเนียน
" คุณหนู เจ็บมากไหมเจ้าคะ " แม่นมหลี่เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนเองมาเช็ดเลือดที่ไหลบนฝ่ามือของหญิงสาว
ในขณะเดียวกันผู้คนในร้านที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต่างมองหน้ากันไปมา ใช้สายตาสื่อสารกัน ก่อนจะเฝ้ารอดูเหตุการณ์ตรงหน้ากันอย่างเงียบๆ ใครบ้างจะไม่รู้ว่า ฮูหยินเฒ่าเสียนนั้นคือมารดาของ รองเจ้ากรมโยธา เสียนจื่อหยวน ผู้มีอำนาจคนหนึ่งในวังหลวง ที่ไม่อาจดูเบาได้
และหนึ่งในนั้นยังมีอนุภรรยาของเจ้าเมืองเหอ นามว่า จงเจียวมี่กับบุตรสาวของนาง ก็รวมอยู่ในกลุ่มคนด้วย นางรีบสั่งให้สาวใช้ของตนเองกลับไปแจ้งต่อสามีทันที
" ท่านแม่ พี่หญิงรอง นางจะ … " เหอฉิงลี่กำลังจะเอ่ยต่อแต่ถูกสายตาดุของมารดาจ้องมองเข้าก็เก็บคำพูดกลืนคงคอตนเองไป
เพียงไม่นานนัก เจ้าเมืองเหอก็มาถึงร้านเครื่องประตูจ้าวฮวา ท่าทีรีบร้อนหอบเหนื่อยจนต้องหยุดพักหายใจของเขาก็พอจะรู้ว่าเขารีบเร่งมาที่เพียงใด
" คารวะฮูหยินเฒ่า มิทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือขอรับ " เหอฉิงชวนเอ่ยถามแม้จะรู้จากสาวใช้ของอนุภรรยาแล้ว่วาเกิดสิ่งใดขึ้น
" เจ้าช่างเลี้ยงดูบุตรสาวได้ดีจริงๆ " ฮูหยินเฒ่าเสียนเอ่ยพร้อมสีหน้าที่เย็นชา สร้างความหนาวเหน็บในใจของเจ้าเมืองเหอไม่น้อย ด้วยเพราะความช่วยเหลือจากหญิงชราตรงหน้าที่ช่วยให้เขามีชีวิตรอด ได้ร่ำเรียนจนกระทั่งได้มีตำแหน่งหน้าที่เป็นถึงเจ้าเมืองในตอนนี้ " ฮูหยินเฒ่า เอ่อใจเย็นก่อนเถอะขอรับ เรื่องนี้เล็กน้อยนักขอรับ อย่าให้เรื่องของเด็กๆมาทำให้ท่านต้องทุกข์ใจไปด้วยเลยขอรับ " เหอฉิงชวนเอ่ยขึ้นเพราะไม่รู้ว่า หญิงสาวตรงหน้าคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเสียน และอีกฐานะซึ่งเป็นหลานสาวคนรองของอดีตราชครู จ้าวหลง หากเรื่องที่นางถูกทำร้ายในร้านเข้าหูคนตระกูลจ้าวแล้วละก็ ไม่รู้ว่าเหอฉิงชวนจะทำหน้ายังไง