เล่นกับรัก :: CHAPTER 4 โลกของพี่สอง [70%]

1418 คำ
“ไอ้เหี้ยนี่! ด่ากูเฉย” ผมไถดูรูปของเคลียร์ก็แน่ชัดว่าคนที่มาถามเรื่องของผมกับเฮียไนท์ไม่ใช่เคลียร์แน่ “คนนี้ล่ะ ยัยเด็กพูดมาก แต่คนข้างๆ สวยฉิบหายเลยว่ะ” มองเฮียไนท์ที่ชะโงกหน้ามาดูไอจีของเคลียร์และจิ้มนิ้วลงไปที่รูปคู่ของเคลียร์กับเพื่อน น่าจะใช่ล่ะไม่งั้นคงไม่ถ่ายรูปสนิทสนมกันขนาดนี้ แต่ถ้าเพื่อนของเธอมาถามเรื่องของผม เคลียร์ไม่รู้เหรอว่าเพื่อนของเธอสนใจผมน่ะ แบบนี้มันจะไม่เป็นปัญหาหรือไง? “แหน่ะ มีแอบส่องไอจีสาวด้วย” “ไม่ได้ส่องแค่ดูว่าใช่คนนี้หรือเปล่า” จิ้มไปที่รูปของเคลียร์พอรู้ว่าไม่ใช่เคลียร์แต่เป็นเพื่อนของเธอ ผมก็กดปิดมือถือหันมาเตรียมตัวสำหรับทำงานต่อถึงช่วงบ่ายและค่ำจะเป็นคิวของเฮียไนท์ “เฮีย พี่สอง” ผมกับเฮียไนท์หยุดบทสนทนาไว้และหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่ยกมือไหว้เฮียไนท์พลางตัวทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้สักตรงหน้าผม “โผล่หัวมาได้ไงเนี่ยไอ้โดม” “มาให้เฮียสักเพิ่มให้หน่อย พี่สองก็ได้” ไอ้โดมเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ เหมือนกับเฮียไนท์นั่นแหละ แต่มันจะเป็นลูกของญาติฝั่งแม่ ส่วนเฮียไนท์จะเป็นฝั่งพ่ออันที่จริงไอ้โดมมันนับถือผมกับเฮียไนท์มาก “เอาตรงข้อมือเลยดีกว่า” “ลายอะไร?” “แล้วแต่พี่สองจัดมา” “เวร มึงนี่นะเวลาอยู่กับไอ้สองทำตัวเป็นเด็กไปได้” ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะลงมือสักข้อมือให้ไอ้โดมที่เลือกลายสามเหลี่ยมและมีวงกลมตรงกลางพร้อมใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว D แบบงานอาร์ตที่ผุดขึ้นมาในหัว ในเวลาสักให้ไอ้โดมประมาณยี่สิบนาทีผมก็ใช้เจลว่านหางปาดบนรอยสักที่ผิวเนื้อเป็นรอยแดงจากเข็มที่จิ้มลงไป “สมองมึงคือไวเวอร์ งานอาร์ตสุดๆ ถึงว่าลูกค้าติดกันตรึม” “พี่สองเก่งโคตร ออกแบบในหัวเองเลย ดีผมมีรอยสักไม่เหมือนใคร” มันเอ่ยชมผมพลางลุกขึ้นนั่งราวกับเคยชินสักจนชินไร้ความเจ็บปวด “ไปก่อนนะ เดี๋ยววันนี้พาสาวไปนั่งดื่มที่ผับเฮีย” “เออ” เฮียไนท์โบกมือให้ไอ้โดมที่เดินออกจากห้องสักไป ผมจึงถอดถุงมือสีดำออกและเอาเข็มที่สักเมื่อกี้ห่อทิ้งลงถังขยะเพื่อรอลูกค้ามาสักคนต่อไป “แล้วมึงจะไปไหม?” “ไม่ไปครับ ผมมีงานต้องทำต่อ” เฮียไนท์ดูเหมือนจะรำคาญผมเต็มแก่ ใช่ ใครๆ ก็รำคาญผมกันทั้งนั้นล่ะรวมไปถึงพ่อเองก็เหมือนกัน ทุกวันนี้ผมไม่กลับไปเหยียบที่บ้านเลยด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อมักจะดูถูกดูแคลนผมเรื่องงานศิลปะ บอกว่าจบมาจะทำอะไรกินจะหาอะไรทำ ผมก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้หากแต่ว่าเรื่องอนาคตผมก็ให้เป็นไปตามเส้นทางของมันนั่นแหละ ผมเคยมีความคิดอยากจะเปิดคอร์สสอนวาดภาพหรือไม่ก็รับจ้างวาดภาพ ความฝันของผมคือการได้เอาผลงานไปเปิดโชว์ให้คนทั่วไปได้เยี่ยมชม แค่นี้ผมก็มีความสุขมากแล้วจริงๆ ไม่ขออะไรมากเลยถึงแม้ชีวิตจะต้องโดดเดี่ยวเพราะเข้าสังคมไม่เก่ง หากแต่ว่าคน introvert แบบผม... เวลารักใครรักจริง ถึงจะดูเหมือนไม่ใส่ใจแต่ผมมองไปถึงรายละเอียดยิบย่อยของคนๆ นั้น ทั้งที่พยายามทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่น สุดท้ายผมกลายเป็นคนที่ทำมันพังจนไม่เหลือชิ้นดี แต่ตอนนี้โลกของผมไม่ได้มีชาอีกต่อไปแล้ว มันมีแค่ตัวเองและศิลปะเท่านั้น ผมอยู่ร้านสักและทำงานจนเกือบจะได้เวลาเลิกงานแล้ว เฮียไนท์ก็ออกไปข้างนอกจะกลับอีกทีก็ตอนถึงคิวที่ตัวเองต้องทำงานจนถึงสามทุ่มเขาถึงจะไปผับ ผมลุกขึ้นยืนเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเพื่อกลับห้อง มีงานค้างต้องทำต่อด้วยงานที่ต้องส่งอาจารย์วันเปิดเรียนคืองานศิลป์ที่ต้องวาดไปโชว์งานประจำปีของมหาลัยเนี่ยล่ะ “พี่สองอยู่ไหมคะ?” หากแต่ว่าผมก็ต้องหันไปมองทางเข้าที่ติดผ้าม่านราคาดี พลันได้ยินเสียงใครเรียกจึงเดินโผล่หน้าไปมองก็พบว่าร่างบอบบางที่สวมเสื้อครอปเอวลอยสีดำกับกางเกงยีนส์สีซีดตัวใหญ่ ยืนฉีกยิ้มกว้างให้ผม “คิดว่าพี่สองไม่อยู่” “เคลียร์” “พอดีเคลียร์แวะมาเดินห้างกับเพื่อนน่ะค่ะ ซื้อกาแฟมาให้ ลาเต้เย็นค่ะไม่รู้ว่าพี่สองจะชอบไหม” ผมขมวดคิ้วมองแก้วกาแฟลาเต้เย็นที่เธอยังคงคะยั้นคะยอให้ผมรับมันไป แน่นอนว่าไม่ให้เสียน้ำใจจึงรับไว้ เธอก็เดาใจผมถูกด้วยนะที่ผมชอบดื่มลาเต้เย็นแค่ไม่หวานมาก “เลิกงานแล้วเหรอคะ” “อืม” เธอพยักหน้ารับพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านที่มีรอยสักของลูกค้าถ่ายอัดใส่กรอบเอาไว้ “อยากสักบ้างจัง” “อย่าเลย” คำตอบของผมทำให้เคลียร์หันมาสบตาด้วยสีหน้ามึนงง “ไม่เหมาะกับเธอหรอก” “จริงเหรอคะ” “แต่ถ้าเธอชอบพี่ก็ไม่ว่า” “ถ้าเคลียร์จะสัก พี่สองสักให้เคลียร์ได้ไหมคะ?” ผมสบเข้ากับดวงตากลมโต ใบหน้าวสวยแต่งแต้มอย่างสวยงามต่างจากตอนไปมหาลัยที่ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า พอเห็นแบบนี้ก็นึกไปถึงชาที่มักจะไม่แต่งหน้าสักเท่าไหร่ บอกว่าหน้าสดทาลิปสติกนิดหน่อยก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นผู้หญิงเวลาหน้าสดก็สวยไปอีกแบบหนึ่ง “เอ่อ งั้นเคลียร์กลับก่อนนะคะ” “เดี๋ยวก่อน” เรียกรั้งร่างบอบบางไว้ก่อนที่เธอจะเดินออกจากร้าน “พี่สองมีอะไรคะ?” “พี่อยากรู้ ว่าที่เคลียร์เข้าหาพี่ มีเหตุผลอะไร” “...” “พี่ขอคุยด้วยสักสิบนาที” “ได้ค่ะ” เธอฉีกยิ้มกว้างให้กับผมเป็นยิ้มที่สว่างสดใสมาก เคลียร์เป็นผู้หญิงที่สวย เซ็กซี่มากๆ เลยนะ แน่นอนว่าถึงได้บอกว่าเราสองคนต่างกันสุดขั้ว ก็ถ้าเธอนิสัยคล้ายกับผม เป็นพวกโลกส่วนตัวสูงผมก็จะคิดว่าเราคงเข้ากันได้ง่าย หากแต่ว่าพอเห็นว่าเธอต่างกับผมมากเหมือกกับชา ก็เลยคิดว่าบางทีผมคงไม่สามารถปล่อยให้เธอเข้ามาวนเวียนในชีวิตได้ ดังนั้นอยากจะรู้เรื่องนี้ก่อน เหตุผลจริงๆ ของเคลียร์คืออะไรกันแน่ ผมขับรถมอเตอร์ไซค์โดยมีร่างเล็กนั่งซ้อนท้ายมาที่ริมแม่น้ำสะพานข้ามแม่น้ำสายใหญ่และสวยงาม เนื่องจากตอนนี้เปิดไฟระยิบระยับให้กระทับกับแม่น้ำจนเห็นหลากสีสัน ผมชอบมานั่งวาดรูปที่นี่อยู่บ่อยครั้งเพราะมันเงียบสงบ ปราศจากผู้คนที่พลุ่กพล่าน ถอดหมวกกันน็อกออกมองเคลียร์ที่กระโดดลงจากรถของผมอย่างคล่องแคล่วไม่มีท่าทีที่จะหวาดกลัวการลงรถสูงๆ เลยสักนิด “ว้าว ที่นี่สุดยอดมากเลยค่ะ” มองแผ่นหลังบอบบางที่วิ่งไปหยุดตรงราวกั้นและมองไปบนสะพานพลางฉีกยิ้มกว้างจนผมลอบมองใบหน้าสวยด้านข้าง เส้นผมสีดำปลิวไสวจนเธอต้องรวบผมมัดแบบลวกๆ ภาพนั้นเหมือนกับภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยพระเจ้า ราวกับท่านบรรจงใช้ดินสอสเกตออกมาอย่างสวยงาม “ที่ประจำของพี่สองเหรอคะ?” “พี่ชอบมานั่งวาดรูปที่นี่ มันสงบแล้วก็เงียบ” ผมสาวเท้าเดินไปยืนข้างๆ เธอพลางล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงและทอดสายตามองไปยังฝั่งตรงข้ามที่มีบ้านคนรวมไปถึงตึกราบ้านช่อง สวนสาธรณะที่มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟข้างทางเปิดสว่าง ถึงจะไกลแต่ก็พอมองเห็นว่าตรงนั้นมีอะไรบ้าง “ตกลงเคลียร์ต้องการอะไรจากพี่” [70%] *-------------------------------------------------*
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม