เล่นกับรัก :: CHAPTER 4 โลกของพี่สอง [30%]

2055 คำ
Born to be : 4 : โลกของสอง :: SXNG TALK :: ‘เราเลิกกันเถอะค่ะ’ ‘ชาเหนื่อยที่จะต้องเข้ามาในโลกของพี่สอง ชาไม่ชอบที่พี่สองเย็นชากับชาและชาไม่ชอบที่พี่สองเอาแต่หมกหมุ่นกับโลกของตัวเองจนลืมไปว่าชาเองก็มีโลกของชาเหมือนกัน’ ‘ชาเจอคนที่เข้ากันได้ดีกับชามากกว่าพี่สอง ครึ่งปีที่ชาต้องทนกับพี่ มันนานเกินไปแล้ว’ ปลายพู่กันที่กำลังละเลงอยู่บนกระดาษสีขาวต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ เมื่อหัวสมองดันประมวลความคิดไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาหลายสัปดาห์ ผมชื่อว่า ‘สอง สรทัต ถนอมสิทธิ์’ วัย 23 ปี สูง 188 ซม. เรียนมหาลัยปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาจิตกรรม ผมเป็นพวกที่มนุษย์สัมพันธ์แย่มากๆ หากแต่ว่าถ้าหากคบกับใครแล้วผมรักจริง ถึงจะดูเหมือนไม่ใส่ใจแต่ผมก็ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โฟกัสกับเธอคนนั้น ทว่าชาแฟนเก่าของผมกลับไม่คิดแบบนั้น ชาเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งคณะบริหารธุรกิจอยู่คนละมหาลัยกับผม เธอสวยและเอาแต่ใจมาก ผมจำได้ดีวันที่เธอเดินเข้ามาขอผมคบและผมก็บอกนะว่าผมเป็นคนยังไง ดังนั้นการคบหากันของเราสองคนก็เลยไปได้ดีในช่วงแรก ทว่า... แตกต่างกันตรงที่ว่าชาชอบโทรจิก โทรตามผม ข้อนี้ผมไม่ชอบมากๆ ชาไม่คิดก่อนพูดเสมอไม่สนว่าคำพูดนั้นจะทิ่มแทงและทำให้ผมจำภาพเธอแบบนั้นไปตลอด ชาต้องการอะไรต้องได้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ก็จะตามจิกผมจนผมรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่แล้ว ผมรักสงบและรักงานวาดภาพมาก เพราะศิลปะทำให้ผมจดจ่ออยู่กับมันได้นานจนหลงลืมโลกภายนอกไปได้ จากนั้นไม่นานเราสองคนก็เริ่มห่างกันไป แต่ใช่ว่าผมจะไม่ใส่ใจชานะ ผมใส่ใจเธอมากเพียงแต่ว่าเธอมองไม่เห็นและมองแต่ข้อผิดพลาดของผมซะมากกว่า สุดท้ายเราก็เลิกรากันในที่สุด เป็นการเลิกราที่ทำให้ผมเป๋ไปไม่เป็น จำต้องหมกหมุ่นอยู่กับศิลปะหวังว่ามันจะช่วยทำให้ผมลืมเรื่องของชาไป ไม่ช่วยอะไรผมเลย ทั้งที่ศิลปะการวาดภาพเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบ ทำให้ผมมีความสุขได้ทุกครั้งที่จรดปลายดินสอวาดรูปหรือจรดปลายพู่กันเพื่อละเลงสีน้ำช่วยทำให้สภาพจิตใจของผมมันรู้สึกดีขึ้น ขนาดผมไปทำงานที่ร้านสักก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลยแม้แต่นิด ทำยังไงดีสอง... ทำยังไงถึงจะลืมความเจ็บปวดนี้ไปได้นะ ติ๊ง~ เสียงข้อความจากไอจีดังขึ้นทำให้ผมหยิบมือถือสุดหรูขึ้นมาดูข้อความที่ถูกส่งมาจากใครบางคน และใครคนนั้นก็คือผู้หญิงรุ่นน้องจากคณะสถาปัตยกรรม เธอชื่อว่าเคลียร์ เป็นผู้หญิงที่สวยและฮอตมากผมรู้แค่นี้ล่ะ ‘พี่สองคะ เคลียร์เองนะ ทำอะไรอยู่คะ?’ ‘ฝันดีนะคะ’ อ่านแค่เพียงข้อความที่เด้งมาเท่านั้นผมก็ไม่ได้กดเข้าไปอ่านในแอพฯ หรอกนะ ไม่คิดจะสนใจวางมือถือลงตามเดิมผมก็หันมาวาดรูปต่อเนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดผมจะต้องไปทำงานที่ร้านสักด้วย อันที่จริงในหัวผมมีศิลปะอยู่เต็มไปหมดดังนั้นการออกแบบรอยสักในหัวก็เลยผุดขึ้นมาเยอะ ทำให้การทำงานร้านสักเป็นการรับงานเสริมอีกอย่างคือผมต้องช่วยพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องด้วยล่ะ เขาขอร้องให้ผมไปช่วยเขาเพราะไม่ไว้ใจให้ใครไปช่วยที่ร้านอะไรประมาณนี้ ซึ่งผมก็ตกลงนะยังไงซะอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำนอกจากวาดรูปก็หารายได้ไป ผมออกจากห้องที่ไว้สำหรับวาดรูปเงียบๆ คนเดียวในห้องสุดหรูในกลางเมือง คอนโดที่ผมอยู่เป็นคอนโดที่แม่เป็นคนซื้อให้เพราะผมมีปัญหากับพ่อเรื่องที่พ่อไม่เห็นด้วยที่ผมเรียนสายนี้ทั้งที่ท่านอยากให้ผมเรียนบริหารมากกว่า ดังนั้นผมก็เลยออกจากบ้านมาอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียวท่ามกลางความเงียบสงบที่ผมชอบ ออด ออด~ เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นผมจึงเดินไปเปิดประตูที่เป็นระบบแบบปิดล็อกอัตโนมัติทันทีที่ประตูปิดลง ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยดี เปิดประตูออกไปเห็นร่างสูงคุ้นตายืนโบกมือให้ผม “โย่ว เพื่อนรัก” “มาทำไม?” “จะมาชวนไปกินเหล้า” “ไม่ไป” “ยัยแป้งร่ำก็ไปนะ” ผมถอนหายใจมองไอ้ซันเพื่อนสนิทกับชื่อของแป้งร่ำเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่คนละมหาลัย สองคนนี้เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรายังเด็กๆ เล่นด้วยกันมาจนเติบโตก็มีแค่สองคนนี้ที่ผมให้เข้ามาอยู่ในโลกของผมได้ “เปิดหูเปิดตาบ้างก็ดีปะ อกหักรักคุดก็ต้องหัดสดใสบ้าง” “กูไม่ไป” “ไอ้สอง คือกูอุตส่าห์ขับรถมารับเลยนะ ไปเถอะผับเฮียไนท์” “ไม่” ตอบชัดเจนผมก็เดินตรงเข้าไปในครัวหยิบขวดน้ำมาดื่มแก้กระหาย ส่วนไอ้ซันก็ยืนทำหน้าบูดใส่ผมตรงเคาน์เตอร์บาร์ห้องครัวที่กว้างขวางสไตล์ยุโรป “จะไปก็ไปกัน ไม่ต้องมาชวนกู” “มึงเป็นแบบนี้ตลอดอะ กูพยายามช่วยมึงอยู่นะ” “ไม่ต้อง กูดูแลตัวเองได้” แค่อกหักไม่ได้กำลังจะตายสักหน่อย ทำไมทั้งไอ้ซันกับแป้งร่ำต้องห่วงผมขนาดนั้นด้วย “จริงสิ น้องเคลียร์รุ่นน้องที่คณะกู ดูเหมือนน้องเขาจะชอบมึงนะ” “กูไม่ชอบใคร” “เปิดใจนิดนึงก็ยังดีนะ อย่างน้อยมีสาวสวยมาดามใจมึงจะได้ลืมน้องชาไปได้” เพิ่งจะอกหักมาจะให้ผมพร้อมเปิดใจรับคนอื่นเข้ามาเนี่ยนะ ผมไม่ใช่ไอ้ซันนะที่สาวล้อมรอบเป็นร้อยเป็นพัน สำหรับผมถ้าเปิดใจให้ใครคนนั้นต้องพิเศษมากๆ และที่สำคัญเลยคือผมยังลืมชาไม่ได้เพราะถ้าลืมได้ผมก็ไม่มานั่งทำจิตใจของตัวเองให้กลับมาเร็ววันหรอก “น้องเคลียร์สวย ฮอตมากเลยนะในคณะน่ะ” “ไม่ก็คือไม่” ถึงจะไม่รู้ว่าจริงๆ เคลียร์ต้องการอะไรจากผมก็ตามที “มึงกลับไปได้แล้ว กูจะพักผ่อน” “มึงจะปล่อยให้ยัยแป้งร่ำรอมึงจริงดิ” “มึงก็ไปไม่ใช่” ผมคว้าต้นแขนไอ้ซันและลากมันออกไปนอกห้อง มันยังไม่ทันได้พูดอะไรผมก็ปิดประตูใส่หน้ามันทันที ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกอันที่จริงผมแค่ไม่อยากให้พวกมันมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมก็เท่านั้น ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะนะ อีกอย่างผมไม่ใช่ไปเที่ยวกลางคืนดื่มเหล้าอะไรทำนองนี้ ผมไม่ชอบแสงสีและไม่ชอบคนเยอะๆ มันค่อนข้องอึดอัด ดังนั้นถ้ามาชวนผมไปนั่งเล่นที่หอสมุด หอศิลป์หรือสวนสาธารณะยังง่ายซะกว่า เมื่อไล่ไอ้ซันออกจากห้องผมก็เข้าห้องน้ำชำระร่างกายเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหยิบมือถือมาไถดูงานศิลป์ที่ผมชื่นชอบ ไม่วายก็เลื่อนสายตาขึ้นไปมองกล่องข้อความไอจีนึกยังไงไม่รู้ผมจึงกดเข้าไปส่องไอจีของเคลียร์ที่มาติดตามผม เธอเป็นสาวที่ฮอตและสวยมากๆ เลยนะ รูปที่เธอลงมีแค่ประมาณสิบใบแต่ละใบก็คือถ่ายชุดนักศึกษาหรือชุดปกติ แต่งตัวสวยและเซ็กซี่มาก หุ่นก็ดี หน้าก็สวย... “มาส่องเธอทำไม่เนี่ยสอง” ผมรีบกดวาร์ปออกและเลือกไปส่องไอจีของชา พบว่าหัวใจของตัวเองเต้นช้าลงทันทีที่เห็นเธอมีความสุขกับแฟนใหม่ ได้ไปเที่ยว ได้กินของอร่อยๆ ได้ทำอะไรที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน พอเห็นแบบนี้ผมก็ทิ้งมือถือตัวเองลงข้างตัวแหงนหน้ามองเพดานห้อง “เมื่อไหร่พี่จะลืมเธอไปได้สักที ชา” “ทำไมเมื่อคืนมึงไม่มาแดกเหล้าที่ผับกูกับไอ้ซันวะ กูเข้าไม่เข้าใจ?” “เฮียรู้ว่าผมเป็นคนยังไง” “เออกูรู้ แต่ไอ้ซันบอกมึงเพิ่งเลิกกับแฟน น่าจะบอกกูสักนิดจะได้ช่วยหาสาวแซ่บๆ ขึ้นให้” “ผมไม่ได้ต้องการ” ตอบคนตรงหน้าที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ในห้องสักที่เปิดร้านเรียบร้อย ‘เฮียไนท์’ อายุ 27 ปี สูง 188 ซม. เป็นลูกพี่ลูกน้องผมทางฝั่งของพ่อ ง่ายๆ พ่อของเฮียไนท์คือพี่ชายของพ่อผม เฮียไนท์เปิดร้านสักโดยใช้ชื่อว่า NigthSxng เป็นชื่อของผมกับเฮียที่ร่วมลงทุนทำร้านนี้ด้วยกัน เวลาที่ผมจะมาสักก็คือช่วงที่ไม่มีเรียนหรือวิชาเรียนมีน้อย ส่วนใหญ่เฮียไนท์จะอยู่ที่นี่ประจำและทำผับด้วย “ถึงจะทำตัวแบบนี้ก็ใช่ว่าปัญหาที่มึงเจอมันจะหายไปนะไอ้สอง” “...” “มึงอกหักก็ต้องหาอะไรทำ จะได้ลืมยัยเด็กนั้นไปสักที” เฮียไนท์บ่นผมที่นั่งทำความสะอาดเครื่องไม้เครื่องมือ แน่นอนว่าเข็มที่ใช้สำหรับสักก็จะเป็นเข็มที่แกะห่อใหม่ๆ เลย ความสะอาดต้องมาที่หนึ่งและที่สำคัญร้านสักมีใบรับรองและใบอนุญาตเรียบร้อย ส่วนผมก็เรียนสักกับเฮียไนท์ที่เรียนจนเก่งชำนาญเปิดร้านได้มาสองปีกว่าแล้ว “เข้าใจกูไหมเนี่ยไอ้สอง” “อืม” “หัดออกมาจากเซฟโซนตัวเองสักนิดก็ยังดี ไม่ให้สูญเสียความเป็นตัวเองเป็นพอ มันจะไปยากอะไร” เฮียไนท์พูดง่ายแต่ทำน่ะมันยากนะ “เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง ยัยเด็กคนนั้นถึงได้ทิ้งมึงไปมีผัวใหม่” “ตอนคบกันผมก็บอกว่าผมเป็นยังไง” “มึงก็หัดเข้าไปเรียนรู้โลกของคนอื่นเขาบ้าง ขืนมึงยังเป็นแบบนี้ต่อให้มีแฟนอีกสักสิบคน เขาก็เลิกกับมึงแน่” เอาเข้าจริงไม่มีใครเข้าใจผมได้ดีเท่าตัวผมเองหรอก ผมไม่ได้อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครนี่นา “มึงเชื่อกูไอ้สอง” “...” “หลังจากนี้กูเชื่อว่ามึงต้องได้เจอกับผู้หญิงที่ยอมรับในตัวของมึงได้ มึงก็ต้องหัดเรียนรู้โลกภายนอกบ้าง” คงไม่มีวันนั้นหรอกผมยังคงลืมชาไปไม่ได้ และที่สำคัญต่อให้มีใครเข้ามาในชีวิตผมก็คงไม่อยากคบใครอีกต่อไปแล้ว อยากโสดไปนานๆ เท่าที่จะทำได้หรือบางทีผมอาจจะไม่มีใครเลยก็ได้นะ เพราะบางทีผมอาจจะเหมาะกับการอยู่คนเดียวก็ได้ “เมื่อสามวันก่อนก็มีเด็กนักศึกษาคนหนึ่งมาถามเรื่องมึงซอกแซกจนกูรำคาญ” “ใครครับ?” “ไม่รู้ เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า” เฮียไนท์ตะคอกใส่ผมพลางจิ้มก้นบุหรี่ลงที่เขี่ย “เด็กบ้า พูดมากไม่ใช่เล่น พูดๆ พูดอยู่นั่นแหละ” “เขามาถามอะไร” “ถามว่ามึงมีแฟนยัง นิสัยยังไง กูก็เลยตอบส่งเดชไป” ใครกันที่มาถามผมเรื่องนี้หรือจะเป็นเคลียร์ “สวยไหมครับ?” “สวยอยู่ แต่ท่าทางแก่นๆ ยังไงไม่รู้” แก่นๆ คงไม่ใช่เคลียร์แน่ เพราะเคลียร์สวยเซ็กซี่ก็จริงแต่นิสัยแบบนั้นผมยังไม่เคยเห็นเธอทำให้เห็นนะ คิดได้แบบนั้นผมก็หยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดเข้าไอจีเพื่อไปส่องเคลียร์อีกครั้ง “ส่องใครอะ?” “เฮียอย่ายุ่ง” [30%] *---------------------------------------------*
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม