วิศวะขย้ำรัก
(Engineer'nTaboo)
EPISODE10
“พี่นั่งตรงนี้ก่อนค่ะ ห้องอาจจะแคบไปหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้” เจ้าของร่างเล็กพูดขึ้น ทำให้พันไมล์เดินไปนั่งลงที่โต๊ะเล็ก ๆ ซึ่งมีเก้าอี้วางอยู่สองตัว
ชายหนุ่มกวาดมองห้องพักสีครีมขนาดไม่น่าจะถึงหกเมตร ข้าวของพื้นฐานหลัก ๆ ในห้องน่าจะเป็นของที่ทางหอพักมีไว้ให้สำหรับนักศึกษา ส่วนที่เหลือคงจะเป็นของที่เธอขนมาเอง ชั้นนี้เป็นห้องพักติดแอร์แต่ไม่มีห้องนอนแยก ทำให้ราคาลดหลั่นลงมาจากชั้นที่มีห้องแยก และนั่นทำให้พันไมล์มองเห็นเตียงนอนสีฟ้าสดใสลายดอกซากุระ ที่บนหัวเตียงมีตุ๊กตาหมีเน่า ๆ วางอยู่
“พอดีว่าห้องนี้มันมีแอร์แล้วราคาก็ไม่แรงด้วย หนูว่ามันประหยัดดีเลยเช่าชั้นนี้ จริงสิ! เย็นป่านนี้แล้วพี่น่าจะหิว เดี๋ยวหนูทำอะไรง่าย ๆ ให้พี่กินก่อนกลับก็แล้วกันนะคะ ถือว่าเป็นการขอบคุณที่พี่มาส่ง” เจ้าของร่างเล็กว่า ยังไม่ทันที่พันไมล์จะตอบอะไร เธอก็เดินตัวปลิวไปทางระเบียงหลังห้องเสียแล้ว
“ให้ตาย...จะไม่ฟังคำตอบกันก่อนรึไง” พันไมล์พึมพำ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นถุงบางอย่างบนโต๊ะ บนถุงมีลายสกรีนเป็นข้อความชื่อร้านขายยา เขาจึงอดหยิบมันมาเปิดดูไม่ได้
“ยาคุม?”
ภายในถุงยามีกล่องยาคุมฉุกเฉินซึ่งยาภายในกล่องถูกกินหมดแล้ว และมียาลดไข้หนึ่งแผงที่กินไปหกเม็ด เมื่ออ่านบิลที่อยู่ในถุง พันไมล์ก็พบวันเวลาในบิลมันคือวันที่เธอออกไปจากโรงแรมจิ้งหรีดนั่น พอออกมาก็คงหายากินป้องกันตัวเองเลยสินะ แต่ท่าทางที่กินแค่ยาลดไข้แล้วยังป่วยอยู่ สภาพส่วนนั้นมันอาจจะมีปัญหารึเปล่า แต่เขาจะถามเธอได้ยังไง
“ท่าทางเธอจะจำฉันไม่ได้สินะ” ชายหนุ่มพึมพำแล้ววางถุงยาไว้ที่เดิม
จากที่ฟังเธอพูดเจื้อยแจ้วขนาดนั้น ท่าทางของเธอเหมือนเด็กที่มาจากบ้านนอกไม่มีผิด บอกว่ามาอยู่ที่เขต MDL เพื่อหาความทรงจำดี ๆ ของชีวิตวัยรุ่น มันเป็นอะไรที่น่าขำดี ก่อนมาที่นี่ชีวิตเธอมันคงวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์สินะสาวน้อย
“เสร็จแล้วค่ะ กำลังร้อน ๆ เลย” ซินที่เดินถือถาดมื้อเย็นออกมาวางให้เขา และเธอบนโต๊ะ ทำให้พันไมล์ได้แต่มองของกินตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“นี่มัน...” เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยสิ่งที่เธอทำมา
“บะหมี่ไงคะ แต่ว่าหนูใส่ทั้งไข่ หมูสับ แล้วก็ผักกาดขาวลงไปด้วย น่ากินขึ้นเยอะใช่ไหมล่ะ หนูใส่ไข่ให้พี่สองฟองเลยนะ อัดฉีดสุด ๆ พี่กินได้เลยค่ะ” ซินเอ่ยอย่างกระตือรือร้นที่จะนำเสนอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เธอปรุงให้เขา ทำให้พันไมล์ได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย ว่าแต่ไอ้ของแบบนี้มันกินได้จริงเหรอ เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็เหลือบสายตาไปมองชามของเธอซึ่งหน้าตามันก็ดูคล้าย ๆ กัน
“เธอ...” เขากำลังจะเอ่ย ก็เห็นว่าแม่ตัวจิ๋วคีบบะหมี่ขึ้นเป่าแล้วก็งับเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ไปแล้ว
“กินเลยค่ะ หรือว่าพี่กินเผ็ดหนูมีพริกป่นเพิ่มให้ได้นะ” เธอเห็นว่าเขายังไม่ยอมกิน จึงถามขึ้น
“ไม่เป็นไร” พันไมล์ว่า แล้วจัดการถอดแมสก์ที่สวมอยู่ออกวางข้างชามบะหมี่
แคร๊ง! พลันช้อนในมือของซินก็ถึงกับร่วงหลุดไปดื้อ ๆ ดวงตากลมโตของเธอที่มองจ้องหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งตรงข้ามราวกับต้องมนต์สะกด ทำให้พันไมล์ที่กำลังจะลองชิมบะหมี่ต้องเงยหน้ามามองเธอ
“ทำไม?” เขาถามขึ้น
“ฮะ? อ๋อ...พอดีหนูเพิ่งเห็นหน้าพี่ พี่นี่เหมือน...เหมือนพวกดาราเลยเนอะ หน้าใสจัง” เธอเอ่ยราวชื่นชม แล้วมองหน้าหล่อ ๆ ของเขาเสียตาแป๋ว
“เหอะ! กินเถอะ” พันไมล์แค่นเสียงใส่ ไอ้หน้าตาบ๊องแบ๊วที่เธอแสดงออกมันเหมือนหนูแฮมเตอร์ตอนตกใจจะตาย
“พี่คงไม่ได้เป็นดาราใช่ไหม ได้ยินเขาว่าที่มหา’ลัยของเรามีพวกดาราเน็ตไอดอลมาเรียนกันเยอะนี่นา” ซินยังไม่หายสงสัย ทำไมเขาถึงได้ดูดีขนาดนี้ล่ะ ตัวก็สูง หน้าตาก็ดี ผิวก็ขาว ตัวก็หอม พี่เขาดูมีเสน่ห์ไปหมดเลยแฮะ ท่าทางเขาจะต้องเป็นหนุ่มฮอตในมหา’ลัยคนหนึ่งเลยสินะ ทรงแบบนี้สาว ๆ คงตามกรี๊ดเป็นพรวน
“มัวแต่พูดบะหมี่เธอจะอืดก่อน” พันไมล์ว่า ทำให้สาวน้อยขยับยิ้มเจื่อน แล้วก้มหน้าก้มตาจัดการบะหมี่ในชาม บางครั้งก็มีเหลือบมองดูเขาบ้างว่าเขากินบ้างไหม ก็เห็นว่าเขาทำเหมือนกลัว ๆ แต่ก็ลองชิม ๆ ดู สุดท้ายเขาก็ยอมตักกินไปเงียบ ๆ
ทั้งสองใช้เวลาไม่นานนักบะหมี่ในชามก็อันตรธานหายไปไม่เหลือน้ำซุปสักหยด ซินจึงขยับยิ้มแล้วเลื่อนแก้วน้ำให้เขา ก่อนจะจัดแจงเก็บชามบะหมี่ไปไว้ที่ซิงค์ล้างจาน
“หนูทำอร่อยใช่ไหมล่ะ พี่กินซะเกลี้ยงเลย” เธอเดินกลับมาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างพอใจที่เห็นเขากินจนหมด
“อาจจะหิว” พันไมล์ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าบะหมี่ธรรมดา ๆ แบบนั้นมันเรียกว่าของอร่อยรึเปล่า บางทีที่เขากินหมดเพราะอาจจะหิวที่ยังไม่ได้กินมื้อเย็นก็ได้
“โห! คนอุตส่าห์ใส่ไข่ให้ตั้งสองฟอง แต่ก็ช่างเถอะค่ะ นี่ก็ค่ำแล้ว หนูว่าพี่รีบกลับเถอะ” เธอเอ่ยขึ้น เพราะคิดว่าคงไม่มีเหตุผลอะไรจะให้เขาอยู่ในห้องพักส่วนตัวของเธอต่อแล้ว แค่นี้เธอก็คิดว่ามันมากเกินไปแล้วล่ะ สำหรับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันวันแรก
“อืม”
พันไมล์ครางรับสั้น ๆ แล้วคว้าแมสก์ยัดใส่กระเป๋ากางเกง กิจกรรมหาพี่น้องบัดดี้จบแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องใส่มันอีก และเมื่อเห็นว่าเขาเดินกลับไปที่ประตูซินจึงเดินตามไปเพื่อจะล็อคห้อง ทว่าจู่ ๆ เขาก็หันกลับมาซะอย่างนั้น
“อะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม
“เธอควรระวังตัวให้มากกว่านี้ อย่าเที่ยวให้ผู้ชายเข้าห้องง่าย ๆ” พันไมล์พูดขึ้น ทำให้เธอได้แต่ทำหน้าจ๋อย
“หนูรู้ค่ะ แต่ว่า...หนึ่งเราเรียนที่เดียวกัน สองพี่เป็นรุ่นพี่ในคณะของหนู สามพี่เป็นพี่บัดดี้ของหนู สี่พี่อุตส่าห์เฝ้าหนูที่ห้องพยาบาล และห้าถ้าพี่คิดไม่ดีก็ถือว่าหนูโคตรซวยเลยค่ะ” เธอเอ่ยยืดยาวเช่นเคย ทำให้พันไมล์ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“หนูคิดว่าพี่ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก หนูคิดแบบนั้นจริง ๆ นะ แล้วที่พี่พูดมาหนูจะจำไว้ค่ะ” เธอเอ่ย แววตาที่มองสบตาเขาดูไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย
“อืม” พันไมล์รับคำเธอแค่นั้น เพราะเหนื่อยจะพูดต่อ
“อ้อ! พรุ่งนี้เจอกันนะคะ หนูจะรีบกินยารีบนอนพัก จะได้ไปรับน้องไหวค่ะ” เธอชะโงกหน้ามาตะโกนบอกไล่หลังคนที่เดินออกมา ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องคืน
“เจอกันเนี่ยนะ เหอะ!” พันไมล์ได้แต่พึมพำ แล้วเดินไปยังลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง
ณ บ้านตระกูลลินน์ พันไมล์ที่เลี้ยวรถเข้ามาจอดในลานจอดเดินตรงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่ใคร ๆ มักเรียกมันว่าคฤหาสน์มาเฟีย ทว่าพอเดินมาถึงกลางโถงเขาก็ต้องพบกับความว่างเปล่าเมื่อคนที่บอกว่าจะกลับมาถึงวันนี้ดันยังไม่มาเสียอย่างนั้น
“ไหนว่าคุณย่ามาถึงวันนี้ล่ะครับ” เมื่อเห็นพี่ดาวแม่บ้านเดินมาพอดีพันไมล์จึงถามขึ้น
“ยังไม่มาค่ะ คุณท่านเลื่อนวันออกไป เพราะว่าคุณเมลยังไม่อยากกลับค่ะ พรุ่งนี้เลยมีแค่คุณรันกับคุณพะแนงที่ทางนั้นแจ้งว่าจะล่วงหน้ากลับมาก่อนค่ะ” พี่ดาวรายงาน ทำให้พันไมล์ได้แต่พยักหน้ารับ เขารึอุตส่าห์แวะมา ที่ไหนได้ไม่มีใครอยู่สักคน
“ถ้างั้นผม...แหวะ!” พันไมล์ที่กำลังจะเอ่ยจู่ ๆ ก็อาเจียนออกมาจนป้าเดือนที่กำลังถือถาดน้ำผลไม้มาให้ถึงกับตกใจรีบร้อนเข้ามาดูอาการ
“ตายจริงคุณไมล์ไปกินอะไรแปลก ๆ มาคะ ทำไมถึงอ้วกแบบนี้ล่ะ ดาวไปเอาน้ำกับกระโถนมาให้คุณไมล์บ้วนปากเร็ว” ป้าเดือนได้แต่ใจเสีย เพราะรู้ว่าชายหนุ่มค่อนข้างธาตุอ่อนเหมือนผู้เป็นพ่อ จึงมักจะกินอะไรแปลก ๆ ไม่ค่อยได้ ถ้ากินเข้าไปก็จะไม่สบายท้อง มีอาการท้องเสีย ไม่ก็อาเจียนออกมาคืน
“ผมโอเคครับ แค่ไม่สบายท้องเฉย ๆ” พันไมล์เอ่ย เขาไม่น่ากินบะหมี่นั่นเลย
“พาคุณไมล์ไปนั่งก่อนเถอะป้า เดี๋ยวฉันจะเช็ดพื้นตรงนี้” ดาวที่นำน้ำและกระโถนมาให้ชายหนุ่มบ้วนปากเอ่ยขึ้น ก่อนจะกลับไปเอาอุปกรณ์มาทำความสะอาดพื้น ซึ่งป้าเดือนก็ได้เหลือบไปมองสิ่งที่พันไมล์อาเจียนออกมา ก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ
“วันนี้คิดยังไงถึงไปกินบะหมี่ล่ะคะ กินทีไรก็ปวดท้อง ถ้าคุณพะแนงรู้เข้าจะโดนดุเอานะคะ นั่งรอป้าตรงนี้เดี๋ยวป้าไปทำข้าวต้มมาให้ จะได้กินยานะคะ” ป้าเดือนว่า สุดท้ายก็อดบ่น ๆ ชายหนุ่มไม่ได้
“ขอบคุณครับ ยังไงป้าเดือนก็อย่าบอกคุณแม่นะครับ” เขาเอ่ย แล้วทำหน้าอ้อน ๆ ทำให้คนแก่ได้แต่อมยิ้มอย่างเอ็นดูเพราะรู้ทัน แหงล่ะ! ทุกครั้งที่พันไมล์ปวดท้อง คนเป็นแม่มักจะเคี่ยวเข็นให้เขากินแต่อาหารจืด ๆ แถมยังให้เอาไปกินที่มหา’ลัยอีกต่างหาก ขืนต้องหิ้วของที่แม่จัดให้ไปกินทุกวัน มีหวังชีวิตพันไมล์คงจืดชืดตามแน่ ๆ