บทที่ 2: เพียงสายตาที่มีเรื่องของฉัน 2

1212 คำ
เขาบริการเป็นอย่างดีเลยล่ะ ฉันจะช่วยหยิบจับอะไร เขาก็ไล่ให้ไปนั่งอยู่เฉยๆ เลยกลายเป็นว่าฉันนั่งมองเขานิ่งๆ ขณะที่เขาสาละวนกับการแกะถุงบะหมี่เกี๊ยวน้ำทีละห่อ “ร้านนี้อร่อยมากเลยนะครับ ผมกินประจำ ไมค์กี้ก็ชอบ อยากให้คุณได้ลองกินดูบ้าง เชื่อผมได้เลยว่าจะติดใจ” เขาว่าเมื่อเลื่อนชามบะหมี่เกี๊ยวมาตรงหน้า ฉันรับตะเกียบมาแล้วก็พึมพำเบาๆ “ขอบคุณค่ะ” ใจจริงอยากจะถามเขาเหมือนกันนะว่าทำไมฝรั่งอย่างเขาถึงได้ชอบกินอาหารอย่างนี้ แต่ช่างมันเถอะ เขาเคยพูดเอาไว้นี่นาว่าเคยอยู่ไทยตั้งแต่เด็ก จะกินอาหารไทยได้ก็ไม่แปลก “กินเยอะๆ นะครับ ถ้าไม่อิ่มก็มีเติม ผมซื้อมาเผื่อไว้” เขายังคงต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี แต่จะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่หิวเลยสักนิด มีแต่ความรู้สึก...อยากกลับบ้าน? ไม่...ไม่ใช่ อยากจะจ้องหน้าเขายามเขาใช้ช้อนตักน้ำซุปเข้าปากต่างหาก ต้องยอมรับว่าอย่างไรฉันก็ตกหลุมรักเจ้าของใบหน้าคมคายคนนี้ ต่อให้รู้ว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว แต่ใจมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องวันนั้นทุกที จ้องอยู่อย่างนั้น กระทั่งมอร์แกนรู้สึกตัว เขาเหลือบมองแล้วเลิกคิ้วสูง “ไม่กินเหรอครับโรส” เอ่ยชื่อฉันออกมาด้วย ฉันได้สติแล้วรีบพยักหน้า “กินค่ะ” “งั้นก็ตักเข้าปากสิ มองผมอย่างนี้ไม่ช่วยทำให้คุณอิ่มหรอกนะ” เขาว่าติดตลก ฉันก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ให้ตาย เกลียดบรรยากาศกลืนไม่เข้า คลายไม่ออกอย่างนี้ที่สุดเลย เพื่อหนีบรรยากาศอย่างนั้น ฉันจึงก้มหน้าลงกินบะหมี่เกี๊ยวอย่างไม่มีทางเลือก อืม...อร่อยสมกับที่เขาอวดอ้างจริงๆ หรือคงเป็นเพราะฉันหิวด้วยก็ได้มั้ง ถึงได้รู้สึกว่ารสชาติมันดีอย่างนี้ “กินเยอะๆ นะครับ ไม่อิ่มก็มีเติมอีก” ฉันทำท่าทางตะกละตะกรามมากไปหรือเปล่านะ เขาถึงได้พูดขึ้นมาแบบนี้? ฉันชะงักทันใด เหลือบมองหน้าเขา ส่วนเขาก็สบตาฉันแล้วหัวเราะน้อยๆ “คุณกินท่าทางน่าอร่อยจัง” นั่นไง คงจะดูตะกละตะกรามจริงๆ ด้วย ฉันหัวเราะแห้งๆ ออกมา ยอมรับว่าเป็นการหัวเราะที่ดูโง่เง่าที่สุดเลย “เลยเวลากินข้าวมาแล้วน่ะค่ะ ฉันเลยหิว ขอโทษนะคะถ้าดูไม่สุภาพ” ฉันออกตัว ทว่ามอร์แกนกลับรีบโบกไม้โบกมือ “ไม่เลยครับ ไม่ได้ดูไม่สุภาพเลย ผมว่าออกจะน่ารักดี” น่ารัก... คำนี้คำเดียวก็ทำฉันมองหน้าเขานิ่ง เขาชมฉันใช่ไหม? ถ้าฟังไม่ผิด หูไม่ได้เพี้ยน สมองไม่ได้เบลอ ก็คงจะชมแหละ แต่...มาชมอย่างนี้มันเหมาะสมแล้วหรือ? กลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยไปเสียแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากถูกชมหรอกนะ แต่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็น... “น้ำครับ เผื่อฝืดคอ” ไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ มอร์แกนก็รินน้ำใส่แก้วแล้วเลื่อนมาให้ตรงหน้า ฉันไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี เผลอยกมือขอบคุณเขาไปเสียอย่างนั้น “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกโรส ตามสบายเถอะ ผมไม่ถือ ไม่ต้องพิธีรีตอง” เขาเรียกฉัน...อย่างสนิทสนมอีกแล้ว จะบอกได้หรือเปล่านะว่าเขาไม่ควรเรียกฉันอย่างนี้ อย่างน้อยๆ ตอนนี้ฉันก็เป็นครูผู้ช่วยของห้องลูกเขา เขาควรเรียกฉันว่าคุณครู ส่วนฉันก็ควรเรียกเขาว่าคุณพ่อ แต่...ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ไม่พูดออกไป มิหนำซ้ำยังใจเต้นตึกขึ้นมาเมื่อนึกถึงตอนที่เขาเรียกฉันอย่างสนิทสนมแบบนี้ โรส...โรสแมรี่ ฉันคิดถึงเวลาที่เขาเรียกฉันแบบนี้ แต่จะให้พูดออกไปก็ใช่เรื่อง ได้แต่มองหน้าเขาที่ระบายยิ้มส่งมาให้แล้วเม้มริมฝีปากเมื่อเขาพูดขึ้นมาอีก “กินต่อสิครับ อิ่มแล้วเหรอ” ฉันส่ายหน้า อันที่จริงไม่รู้สึกหิวแล้วด้วยซ้ำ อยากจะมองหน้าเขาเฉยๆ มากกว่า ให้ตาย...ฉันนี่มันบ้าจริงๆ “ถ้าอิ่มแล้ว ผมมีขนมอยู่ในตู้เย็นนะ เป็นพวกเบเกอร์รี่ คุณอยากกินไหม” แล้วเขาก็เชิญชวนราวกับว่าฉันเป็นเด็ก ฉันหลุดยิ้มออกมากับท่าทางใส่ใจของเขาจนได้ ทำให้มอร์แกนต้องชะงักไป แล้วก็มองหน้าฉันนิ่งๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง จนฉันประดักประเดิดขึ้นมา “มะ...มีอะไรคะ” แสร้งทำเป็นยกมือขึ้นจับใบหน้าด้วย ทำเป็นเหมือนว่ามีอะไรติดหน้าฉัน เขาถึงได้มองไม่วางตาประมาณนั้น ทั้งที่พอจะเดาได้ว่าที่เขามองเป็นเพราะสาเหตุอะไร และก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเมื่อเขาส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ผมแค่มองเพราะคิดว่าคุณสวยดีเวลายิ้ม” “...” “นึกว่าจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มคุณอีกครั้งซะแล้ว” พูดมาอย่างนี้ รู้ไหมว่ามันทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองน่ะ! พระเจ้า! เขากำลังจะทำให้ฉันลืมสิ้นทุกอย่าง ทำให้ฉันหวนนึกถึงเวลาที่มีกับเขาในวันนั้น จำได้ดีเลยทีเดียวว่าวันนั้นฉันยิ้มให้เขาบ่อยแค่ไหน และเขาก็ชมว่ารอยยิ้มของฉันสวยแค่ไหน บ้าจริง! บ้ามาก! ฉันกำลังจะตกหลุมรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ฉันนั่งตัวเกร็ง ไม่พูดไม่จา เม้มริมฝีปากแน่น ครุ่นคิดไม่ตกว่าควรจะทำอย่างไรกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ดี ที่รู้ๆ คือใบหน้าของฉันร้อนวูบไปหมด แต่มอร์แกนก็ไม่เข้าใจเลยว่าฉันรู้สึกอย่างไร เห็นฉันเงียบไป เขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “เป็นอะไรหรือเปล่าโรส คุณดูไม่ค่อยดีเลยนะ” ฉันช้อนตามอง อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าที่ดูไม่ค่อยดี เป็นเพราะเขานั่นแหละ! ทำอย่างไรดี...หรือฉันควรจะกลับตอนนี้เลย? น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ฉันรีบตั้งสติแล้วว่าเร็วๆ “ไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันแค่เหนื่อย ขอบคุณที่เลี้ยงมื้อเย็นนะคะ ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน” ทำเสียมารยาท ผุดลุกจากเก้าอี้ทันที แล้วหมุนตัวออกจากห้องครัว ตั้งใจว่าจะเดินออกไปนอกห้องโดยไม่บอกลาอะไรเขาอีกแล้ว ทว่าเดินผ่านธรณีประตูมาได้เพียงก้าวเดียว ร่างสูงก็รีบลุกตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ “เดี๋ยวสิโรส อย่าเพิ่งไป” ฉันหันไปมอง ก็พบว่าเขาขมวดคิ้วมุ่นเชียว “ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า จู่ๆ คุณก็มีท่าทีแปลกๆ” ฉันมีท่าทางแปลกจริงอย่างที่เขาว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะมาอธิบาย ขืนอยู่นานกว่านี้ ฉันได้แสดงอาการแปลกๆ ออกมามากกว่านี้แน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม