ฉันตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งจากแอพลิเคชั่นหาคู่โดยไม่ได้ตั้งใจ...
ตอนแรกที่นัดเจอกัน ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะจริงจังกับความสัมพันธ์นี้หรอกนะ เพราะฉันเพิ่งคุยกับเขา...ผู้ชายที่ชื่อ
‘มอร์แกน แคมป์เบลล์’ ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์เอง
ใช่ เขาเป็นชาวต่างชาติ เป็นชาวอเมริกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขามีเชื้อชาติไหนผสมอีกบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่เขาคุยกับฉันค่อนข้างถูกคอ เขาไม่เคยชวนคุยเรื่องใต้สะดือ ให้เกียรติ และไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าไรนัก นั่นทำให้ฉันสบายใจที่จะคุยกับเขา รวมถึงการออกมาเจอเขาด้วยเมื่อเขาเสนอมาว่า...
‘เราลองเจอกันสักครั้งดีไหมครับ’
เขาพิมพ์มาเป็นภาษาไทยล่ะ ตอนที่เห็นครั้งแรก ฉันแปลกใจมากทีเดียวด้วยปกติเราจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษตลอด ตอนแรกคิดว่าเขาให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นคนไทยช่วยพิมพ์ให้ แต่เปล่าเลย
เขาบอกว่าเขาพิมพ์เอง มิหนำซ้ำตอนที่เราคุยโทรศัพท์กัน เขายังพูดไทยปร๋ออีก ทำให้คนที่คุยภาษาอังกฤษกับเขามาโดยตลอดต้องกลับหน้าเทปแทบไม่ทัน
ความน่าสนใจของเขาในเรื่องนี้ทำให้ฉันตอบตกลงที่จะไปเจอเขา แน่ล่ะว่าฉันไม่ได้จริงจัง คิดแค่ว่าเจอหน้า กินข้าวด้วยกัน อาจจะพูดคุยกันด้วยอีกสักเล็กน้อย แล้วก็จะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
แต่...ความตั้งใจของฉันก็ผิดพลาดทั้งหมดเมื่อได้มาเจอกับเขาตัวเป็นๆ
กลับกลายเป็นว่าฉันอยู่ยาวหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ฉันอยู่ยาวน่ะหรือ?
เชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่าล่ะ ถ้าเชื่อ ฉันจะเล่าให้ฟังว่าตอนแรกที่ฉันเจอเขา นอกจากรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาคมคายตามประสาชาวตะวันตกแล้ว เขายังมีดวงตาที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมากอีกด้วย
ดวงตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีคู่นั้นฉุดรั้งให้ฉันต้องอยู่กับเขาต่อโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ ยิ่งถูกเขาจับจ้องด้วยดวงตาคู่นั้น ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ฉันก็เต้นระทึกชนิดที่ควบคุมไม่อยู่
มันช่างเย้ายวน...และดูเว้าวอนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ทำให้ฉันคล้อยตามเขาไปได้แทบทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่เขาพูดขึ้นมาว่า...
‘ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากจะชวนคุณไปต่อ...ที่คอนโดฯ ของผม’
บอกตามตรงว่าฉันไม่ชอบผู้ชายที่หวังจะแอ้มฉันตั้งแต่เดตแรก แต่ก็อย่างที่บอก ฉันตกหลุมรักเขาไปแล้ว ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่ามันจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วครั้งชั่วคราวที่เกิดขึ้นแล้วจบลงไป
ฉันก็ยังจะตอบตกลงเขาไป โดยที่เขาก็ยิ้มกว้างให้กับคำตอบของฉัน
‘ผมดีใจที่คุณยอมรับคำชวนของผมนะ...โรสแมรี่’
เป็นชื่อของฉันเวลาที่ใช้คุยกับคนต่างชาติ จริงๆ แล้วฉันมีชื่อว่า ‘รสมาลี’
ตอนที่บอกมอร์แกนว่าชื่อภาษาไทยของฉันคืออะไร เขาสนใจเป็นอย่างมาก
‘มันแปลว่าอะไร’
‘รสแปลว่ารสชาติ ส่วนมาลีก็ดอกไม้ รวมๆ กันก็คงจะแปลว่ารสชาติของดอกไม้มั้งคะ’
‘รสชาติของดอกไม้...ผมชอบความหมายนะ’ มอร์แกน
ยิ้มกริ่ม ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนมาให้ ‘ผมชักอยากรู้แล้วสิว่าดอกไม้อย่างคุณมีรสชาติยังไง’
สายตาของเขาอาจจะเป็นการจับจ้องธรรมดาก็ได้ แต่สำหรับฉัน ฉันตีความว่ามันยั่วยวนไปแล้วล่ะ และมันก็ทำให้ฉันตามเขามาถึงคอนโดฯ ที่เขาอยู่ หลังจากนั้น...ดอกไม้ของฉันจะมีรสชาติอย่างไร มอร์แกนก็ได้รู้ในตอนนี้
ฉันถูกเขาบดจูบด้วยความกระหายทันทีที่เราเข้ามาในห้อง มอร์แกนจูบฉันพร้อมๆ กับการพาไปที่โซฟาในห้องรับแขกด้วย พอฉันทิ้งตัวลงนอนราบ เขาก็โถมกายทาบทับแล้วชำแรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของฉันจนเราทั้งสองแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
เขาร้อนรุ่มเป็นอย่างมาก รีบร้อนมากด้วยเช่นกัน เพราะหลังจากที่เราจูบกันดูดดื่มอย่างนั้นเพียงไม่กี่วินาที ฝ่ามือหนาก็กำจัดเสื้อของฉันออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะเคล้นคลึงหน้าอกหยุ่นผ่านบราเซียตัวเล็กทีละน้อยจนฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา
มันหนักหน่วง...และร้อนเร่าเป็นอย่างมาก ทำเอาฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาจูบจรดมาตรงส่วนไหนก็แอ่นสะท้านรับเอาความเสียวกระสันนั้นไปเสียหมด มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเขาจูบที่ปลายติ่งหูแล้วขบเม้มเบาๆ
‘มันเกะกะ ผมขอถอดออกนะ’
เขากระซิบบอก ฉันพยักหน้า ไม่ทันไร บราเซียก็ถูกกำจัดออกไป เหลือเพียงหน้าอกหน้าใจที่เผยให้เขาเห็นเต็มสองตา ฉันผินหน้าหนีเล็กน้อย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะบอกว่าหน้าอกฉันเล็ก หากแต่เมื่อเขาวางมือทาบทับลงมาแล้วเคล้นคลึงอีกครั้ง เขาก็ส่งเสียงคำรามในลำคอเบาๆ
‘อืม...’
ฉันเดาว่าเขากำลังพึงพอใจ และฉันก็อยากจะทำให้เขาพอใจมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
‘ถ้าผมจะทำอะไรที่มากไปกว่านี้ คุณจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม’
สติของฉันถูกเรียกไปอีกครั้ง ฉันมองหน้ามอร์แกนที่บัดนี้เต็มไปด้วยความเสน่หาแล้วก็ได้แต่พยักหน้า
ไม่ว่า...ไม่ว่าเลย ฉันอยากให้เขาทำ
เพียงเท่านั้น เขาก็โน้มใบหน้าลงมาครอบครองยอดอกของฉัน ปลายลิ้นตวัดเลียไล้สลับกับดูดดุนให้ความรู้สึกพิเศษเป็นอย่างมาก มันทั้งเสียวซ่านและจั๊กจี้ในคราวเดียว แต่พอผ่านไปสักพัก มันก็ค่อนไปทางความรู้สึกแรกมากกว่า จนฉันต้องโอบประคองศีรษะของเขาไว้ พลางส่งเสียงครางแผ่วออกมา
‘อือ...’
เสียงนั้นน่าอาย แต่กักเก็บไว้ไม่ไหวจริงๆ พยายามแล้วนะ ทว่ามันก็เล็ดลอดออกมา มอร์แกนดูท่าจะชอบให้ฉันส่งเสียงอย่างนี้ เพราะพอฉันส่งเสียง เขาก็ยิ่งตวัดเลียวนไปทั่วตุ่มไตเม็ดเล็กนั่นจนฉันอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เปล่งเสียงด้วยสุดจะทนจนได้ ทำให้เขาเร่งเร้าให้ฉันต้องการเขามากขึ้นไปใหญ่
ทั้งปลายลิ้น ทั้งริมฝีปาก และนิ้วมือ ถูกปรนเปรอมายังยอดอกของฉันจนมันชูชันแข็งขืน ฉันรู้สึกว่าที่ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด แต่แล้วส่วนที่ต้องร้อนวูบแทนใบหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นท้องน้อยแทนเมื่อฝ่ามือของเขาลูบลากไปบนนั้น
‘ผมขอถอดให้หมดเลยนะ’
ฉันไม่ปฏิเสธ อยากจะบอกเขาด้วยว่าอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องถามฉันหรอก เพราะอย่างไรเสีย ฉันก็ยอมอยู่แล้ว
แต่สุภาพบุรุษ อย่างไรเสียก็เป็นสุภาพบุรุษ เขาถามก็เพื่อความมั่นใจว่าฉันยินยอมจริงๆ ฉันรู้...
ซึ่งเมื่อฉันพยักหน้า กางเกงชั้นในตัวจิ๋วก็อันตรธานหายไปจากเรือนกายของฉันทันตาเห็น เขาคร่อมฉันเอาไว้ ปราดสายตาพินิจเรือนร่างพลางอมยิ้มคล้ายกับว่าจะสำรวจร่างกายฉันก่อนจะลงมือทำอะไรต่อมิอะไรต่อ
เห็นสายตาของเขาอย่างนั้นแล้ว ฉันก็หลุบสายตาหนี ทำให้เขาต้องช้อนปลายคางให้ฉันหันไปสบตา
‘คุณอายเหรอ โรส’
ตอนนี้ฉันถูกเรียกว่า ‘โรส’ แล้ว มันเป็นชื่อเล่นของฉันจริงๆ
นี่แหละ ส่วนฉันก็พยักหน้าอีกครั้ง...อายเขามากจริงๆ
และเขาก็ทำให้ฉันอายมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาหัวเราะออกมาน้อยๆ
‘คุณน่ารักมากรู้ตัวไหม’
น่ารักอย่างไร ฉันไม่รู้หรอก รู้เพียงแต่ว่าพอสิ้นประโยคนั้น มอร์แกนก็จูบลงมาที่กลางอกของฉัน แล้วค่อยๆ พรมจูบระเรื่อยไล่ไปบนหน้าท้อง ฉันหายใจกระเพื่อมเลยทีเดียวเมื่อเขาเลียไปบริเวณแอ่งสะดือ และต้องพยายามขยับตัวหนีทันทีที่เขาจูบลงมาบนเนินสาวที่ปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีดำขลับ
พอเห็นฉันขยับตัวหนี มอร์แกนก็ชะงัก เหลือบมองหน้าฉันราวกับกำลังถาม
‘เอ่อ...ฉันว่าไม่ดีมั้งคะ’
ฉันตอบไปก่อนที่เขาจะถามเสียอีก มอร์แกนหยักยิ้มขึ้นมา สาบานเลยว่าเป็นรอยยิ้มที่น่ามองที่สุด จนฉันแทบไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เขาพูด
‘ไม่มีอะไรไม่ดีระหว่างเราทั้งนั้นแหละครับ’
‘…’
‘ยอมให้ผมทำนะ’
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มอร์แกนขออนุญาต ฉันยกมือขึ้นปิดหน้าทั้งสองมือ
อา...หน้าฉันร้อนไปหมดเลยให้ตาย...
‘โรส...ตกลงคุณจะยอมให้ผมทำไหม’
เสียงแหบห้าวดังเข้าหูมาอีก ฉันพยักหน้าเร็วๆ หลายๆ ครั้งทั้งๆ ที่ยังปิดหน้าอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วมือทั้งสองก็ถูกมอร์แกนทำให้หลุดออกไปจากใบหน้า กลายเป็นมาเกาะไหล่ของเขาแทน ขณะที่เขาแยกขาทั้งสองข้างของฉันออกจากกัน และโน้มใบหน้าลงมาจูบเบาๆ บนส่วนอ่อนไหวที่สุดของร่างกาย
ฉันแอ่นสะท้าน รับมือกับความหวามไหวที่เขามอบให้แทบไม่ทัน พลันก็ค่อยๆ หายใจหอบทีละน้อยเมื่อปลายลิ้นเย็นเยียบของมอร์แกนค่อยๆ ชิมรสชาติฉันไปอย่างช้าๆ
ชิม...เสียจนฉันต้องบิดเร่าด้วยความเสียวกระสัน
ชิม...จนฉันต้องหวีดร้องขึ้นมาทันทีที่ความเสียวซ่าน
แล่นปราดไปทั่วสรรพางค์กาย
ชิม...กระทั่งฉันแทบจะไม่มีรสชาติใดๆ ให้เขาได้ชิมอีกแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดที่จะละเลงปลายลิ้นลงบนระหว่างกลางร่างกายของฉัน อีกทั้งยังสอดแทรกปลายนิ้วเข้ามากระตุ้นเร้าให้ร่างกายของฉันได้ขยับขยายรับเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ามา
แล้วฉันก็เสร็จสมไปอีกครั้ง...
ฉันหายใจหอบหนักมากเลยทีเดียว มอร์แกนดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ฉันสุขสมไปเพียงสองครั้ง เขายันกายขึ้นมา ยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ
‘ผมอยากให้คุณสบายตัวกว่านี้’
‘แล้วคุณจะทำอะไรคะ’
ความจริงไม่ต้องถาม ฉันก็พอจะรู้ เขาปูทางเอาไว้แล้วนี่
มอร์แกนไม่ตอบด้วย ได้แต่ถามฉัน
‘ถ้าคุณบอกว่าคุณอนุญาต ผมถึงจะบอกคุณ’
คราวนี้ทั้งขออนุญาต ทั้งเล่นแง่ ฉันเผลอทำแก้มป่องออกมาน้อยๆ เขาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าอย่างนั้น
‘เหมือนคุณไม่พอใจเลยนะ’
‘ไม่ใช่ไม่พอใจค่ะ ฉันแค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงต้องถามทุกครั้งเลยว่าทำได้ไหม ฉันอนุญาตไหม ทำไมไม่ทำเลย’
‘มันทำให้คุณหมดอารมณ์เหรอ’
‘เปล่าค่ะ ฉันก็แค่คิดว่าคุณจะทำเลยก็ได้ ไม่ต้องถาม’
‘ผมแค่อยากมั่นใจว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว แต่เป็นเรื่องของคนสองคน ผมอยากให้คุณมีความสุขด้วยเลยต้องถามทุกครั้งก่อนจะทำอะไร’
‘…’
‘แล้วตกลงจะยอมให้ผมทำไหมครับ’
ถึงตอนนี้แล้ว ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธอีก ได้แต่พึมพำเบาๆ ว่า ‘ค่ะ’ หลังจากนั้นก็มองตามร่างใหญ่ที่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น จนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า
ฉันจ้องมอง ‘ส่วนนั้น’ ของเขาตาเป็นมันเลย มันแบบว่า...ว้าว! มาก!
ก็พอรู้อยู่หรอกว่าของชายต่างชาติในโซนตะวันตกจะมีขนาดใหญ่กว่าชาวเอเชีย แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ก็อดคิดไม่ได้เลยว่ามันคงจะทำให้ฉันจุกน่าดูชม
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหรอก ได้แต่มองมอร์แกนเดินไปค้นเอาถุงยางอนามัยมาสวมเพื่อป้องกัน ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อยด้วยคิดว่าเขาคงจะมีผู้หญิงมานอนด้วยหลายคนล่ะมั้ง ถึงได้เตรียมพร้อมอย่างนี้ แล้วก็สะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นเมื่อเขากลับมาแทรกกลางระหว่างขาของฉันอีกครั้ง
‘ผมไม่รู้ว่าคุณเพิ่งจะเคยกับชาวต่างชาติครั้งแรกหรือเปล่า แต่ผมจะอ่อนโยนนะ’
ถ้าอยากได้คำตอบ ฉันก็จะบอกว่าครั้งแรก
ทว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยแล้ว ฉันนอนเกร็งตัวแข็ง ขณะที่มอร์แกนถูไถส่วนปลายยอดของเขาลงมาบนบริเวณปากทางที่ฉ่ำชื้น ก่อนค่อยๆ ชำแรกตัวเข้ามาทีละน้อย
ฉันยังคงเกร็งอยู่ มอร์แกนโน้มตัวลงมาให้ฉันได้กอดแล้วก็กระซิบบอก
‘ค่อยๆ ผ่อนคลาย คุณจะได้ไม่เจ็บ’
ฉันทำตามที่เขาบอก มันคับแน่นไปอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วมันก็ค่อยๆ คลายเมื่อเขาโถมกายแทรกลงมาได้ทั้งหมด จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ มอบความหวามไหวไปทั่วศีรษะจรดปลายเท้าให้ฉันได้ผวากอดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม
‘มะ...มอร์แกน...อื้อ...’
ฉันหายใจหอบกระเส่า ไม่คิดเลยว่าการได้ร่วมรักกับชาวต่างชาติ...ไม่สิ กับมอร์แกนจะทำให้ฉันปั่นป่วนจนแทบคลั่งได้ถึงขนาดนี้
เขาค่อยๆ ทวีความหนักหน่วงมากขึ้นเมื่อฉันแอ่นสะโพกรับเป็นจังหวะ และไม่นาน เขาก็ทำให้ฉันไปถึงฝั่งฝันอีกครั้ง
‘รู้สึกดีไหม’
เขาจูบลงมาที่หน้าผากฉันเบาๆ กระซิบถาม ฉันไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ารู้สึกดีมาก ส่วนนั้นของฉันยังกระตุกถี่อยู่ บีบรัดเขาเสียจนลำคอของเขาแดงระเรื่อน้อยๆ
‘ถ้ารู้สึกดี ผมต่อนะ’
แล้วเขาก็ว่าออกมาอีกครั้ง ฉันไม่คิดที่จะปฏิเสธอะไรเลย
ได้แต่สบตาเขาที่แฝงไปด้วยความเว้าวอนแล้วก็ยอมสยบแต่โดยดี จนกระทั่งเขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และส่งฉันไปถึงฝั่งฝันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันถึงได้รู้ว่าการไม่ปฏิเสธ เป็นอะไรที่ทำให้ฉันจมดิ่งสู่ห้วงราคะชนิดที่ยากจะถอนตัวได้
ก็สายตาของเขามันเว้าวอนนี่นา...เว้าวอนเสียจนอดไม่ได้ที่จะยอมตามใจ แม้ว่ามันจะเป็นความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ฉันก็อยากที่จะทำให้เขารู้สึกดี
ถ้าเขาคิดว่าการที่ทำให้ฉันเหนื่อยชนิดง่อยเปลี้ยเสียขาแล้วรู้สึกดีล่ะก็ จะยอมให้ทำตามนั้น
ฉันยอมทำตามผู้ชายที่ตกหลุมรักสายตาของเขาหมด
ทุกอย่างเลยล่ะ...