บทนำ

2552 คำ
ฉันตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งจากแอพลิเคชั่นหาคู่โดยไม่ได้ตั้งใจ... ตอนแรกที่นัดเจอกัน ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะจริงจังกับความสัมพันธ์นี้หรอกนะ เพราะฉันเพิ่งคุยกับเขา...ผู้ชายที่ชื่อ ‘มอร์แกน แคมป์เบลล์’ ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์เอง ใช่ เขาเป็นชาวต่างชาติ เป็นชาวอเมริกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขามีเชื้อชาติไหนผสมอีกบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่เขาคุยกับฉันค่อนข้างถูกคอ เขาไม่เคยชวนคุยเรื่องใต้สะดือ ให้เกียรติ และไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าไรนัก นั่นทำให้ฉันสบายใจที่จะคุยกับเขา รวมถึงการออกมาเจอเขาด้วยเมื่อเขาเสนอมาว่า... ‘เราลองเจอกันสักครั้งดีไหมครับ’ เขาพิมพ์มาเป็นภาษาไทยล่ะ ตอนที่เห็นครั้งแรก ฉันแปลกใจมากทีเดียวด้วยปกติเราจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษตลอด ตอนแรกคิดว่าเขาให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นคนไทยช่วยพิมพ์ให้ แต่เปล่าเลย เขาบอกว่าเขาพิมพ์เอง มิหนำซ้ำตอนที่เราคุยโทรศัพท์กัน เขายังพูดไทยปร๋ออีก ทำให้คนที่คุยภาษาอังกฤษกับเขามาโดยตลอดต้องกลับหน้าเทปแทบไม่ทัน ความน่าสนใจของเขาในเรื่องนี้ทำให้ฉันตอบตกลงที่จะไปเจอเขา แน่ล่ะว่าฉันไม่ได้จริงจัง คิดแค่ว่าเจอหน้า กินข้าวด้วยกัน อาจจะพูดคุยกันด้วยอีกสักเล็กน้อย แล้วก็จะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน แต่...ความตั้งใจของฉันก็ผิดพลาดทั้งหมดเมื่อได้มาเจอกับเขาตัวเป็นๆ กลับกลายเป็นว่าฉันอยู่ยาวหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ฉันอยู่ยาวน่ะหรือ? เชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่าล่ะ ถ้าเชื่อ ฉันจะเล่าให้ฟังว่าตอนแรกที่ฉันเจอเขา นอกจากรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาคมคายตามประสาชาวตะวันตกแล้ว เขายังมีดวงตาที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมากอีกด้วย ดวงตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีคู่นั้นฉุดรั้งให้ฉันต้องอยู่กับเขาต่อโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ ยิ่งถูกเขาจับจ้องด้วยดวงตาคู่นั้น ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ฉันก็เต้นระทึกชนิดที่ควบคุมไม่อยู่ มันช่างเย้ายวน...และดูเว้าวอนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ทำให้ฉันคล้อยตามเขาไปได้แทบทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่เขาพูดขึ้นมาว่า... ‘ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากจะชวนคุณไปต่อ...ที่คอนโดฯ ของผม’ บอกตามตรงว่าฉันไม่ชอบผู้ชายที่หวังจะแอ้มฉันตั้งแต่เดตแรก แต่ก็อย่างที่บอก ฉันตกหลุมรักเขาไปแล้ว ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่ามันจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วครั้งชั่วคราวที่เกิดขึ้นแล้วจบลงไป ฉันก็ยังจะตอบตกลงเขาไป โดยที่เขาก็ยิ้มกว้างให้กับคำตอบของฉัน ‘ผมดีใจที่คุณยอมรับคำชวนของผมนะ...โรสแมรี่’ เป็นชื่อของฉันเวลาที่ใช้คุยกับคนต่างชาติ จริงๆ แล้วฉันมีชื่อว่า ‘รสมาลี’ ตอนที่บอกมอร์แกนว่าชื่อภาษาไทยของฉันคืออะไร เขาสนใจเป็นอย่างมาก ‘มันแปลว่าอะไร’ ‘รสแปลว่ารสชาติ ส่วนมาลีก็ดอกไม้ รวมๆ กันก็คงจะแปลว่ารสชาติของดอกไม้มั้งคะ’ ‘รสชาติของดอกไม้...ผมชอบความหมายนะ’ มอร์แกน ยิ้มกริ่ม ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนมาให้ ‘ผมชักอยากรู้แล้วสิว่าดอกไม้อย่างคุณมีรสชาติยังไง’ สายตาของเขาอาจจะเป็นการจับจ้องธรรมดาก็ได้ แต่สำหรับฉัน ฉันตีความว่ามันยั่วยวนไปแล้วล่ะ และมันก็ทำให้ฉันตามเขามาถึงคอนโดฯ ที่เขาอยู่ หลังจากนั้น...ดอกไม้ของฉันจะมีรสชาติอย่างไร มอร์แกนก็ได้รู้ในตอนนี้ ฉันถูกเขาบดจูบด้วยความกระหายทันทีที่เราเข้ามาในห้อง มอร์แกนจูบฉันพร้อมๆ กับการพาไปที่โซฟาในห้องรับแขกด้วย พอฉันทิ้งตัวลงนอนราบ เขาก็โถมกายทาบทับแล้วชำแรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของฉันจนเราทั้งสองแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เขาร้อนรุ่มเป็นอย่างมาก รีบร้อนมากด้วยเช่นกัน เพราะหลังจากที่เราจูบกันดูดดื่มอย่างนั้นเพียงไม่กี่วินาที ฝ่ามือหนาก็กำจัดเสื้อของฉันออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะเคล้นคลึงหน้าอกหยุ่นผ่านบราเซียตัวเล็กทีละน้อยจนฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา มันหนักหน่วง...และร้อนเร่าเป็นอย่างมาก ทำเอาฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาจูบจรดมาตรงส่วนไหนก็แอ่นสะท้านรับเอาความเสียวกระสันนั้นไปเสียหมด มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเขาจูบที่ปลายติ่งหูแล้วขบเม้มเบาๆ ‘มันเกะกะ ผมขอถอดออกนะ’ เขากระซิบบอก ฉันพยักหน้า ไม่ทันไร บราเซียก็ถูกกำจัดออกไป เหลือเพียงหน้าอกหน้าใจที่เผยให้เขาเห็นเต็มสองตา ฉันผินหน้าหนีเล็กน้อย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะบอกว่าหน้าอกฉันเล็ก หากแต่เมื่อเขาวางมือทาบทับลงมาแล้วเคล้นคลึงอีกครั้ง เขาก็ส่งเสียงคำรามในลำคอเบาๆ ‘อืม...’ ฉันเดาว่าเขากำลังพึงพอใจ และฉันก็อยากจะทำให้เขาพอใจมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ‘ถ้าผมจะทำอะไรที่มากไปกว่านี้ คุณจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม’ สติของฉันถูกเรียกไปอีกครั้ง ฉันมองหน้ามอร์แกนที่บัดนี้เต็มไปด้วยความเสน่หาแล้วก็ได้แต่พยักหน้า ไม่ว่า...ไม่ว่าเลย ฉันอยากให้เขาทำ เพียงเท่านั้น เขาก็โน้มใบหน้าลงมาครอบครองยอดอกของฉัน ปลายลิ้นตวัดเลียไล้สลับกับดูดดุนให้ความรู้สึกพิเศษเป็นอย่างมาก มันทั้งเสียวซ่านและจั๊กจี้ในคราวเดียว แต่พอผ่านไปสักพัก มันก็ค่อนไปทางความรู้สึกแรกมากกว่า จนฉันต้องโอบประคองศีรษะของเขาไว้ พลางส่งเสียงครางแผ่วออกมา ‘อือ...’ เสียงนั้นน่าอาย แต่กักเก็บไว้ไม่ไหวจริงๆ พยายามแล้วนะ ทว่ามันก็เล็ดลอดออกมา มอร์แกนดูท่าจะชอบให้ฉันส่งเสียงอย่างนี้ เพราะพอฉันส่งเสียง เขาก็ยิ่งตวัดเลียวนไปทั่วตุ่มไตเม็ดเล็กนั่นจนฉันอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เปล่งเสียงด้วยสุดจะทนจนได้ ทำให้เขาเร่งเร้าให้ฉันต้องการเขามากขึ้นไปใหญ่ ทั้งปลายลิ้น ทั้งริมฝีปาก และนิ้วมือ ถูกปรนเปรอมายังยอดอกของฉันจนมันชูชันแข็งขืน ฉันรู้สึกว่าที่ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด แต่แล้วส่วนที่ต้องร้อนวูบแทนใบหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นท้องน้อยแทนเมื่อฝ่ามือของเขาลูบลากไปบนนั้น ‘ผมขอถอดให้หมดเลยนะ’ ฉันไม่ปฏิเสธ อยากจะบอกเขาด้วยว่าอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องถามฉันหรอก เพราะอย่างไรเสีย ฉันก็ยอมอยู่แล้ว แต่สุภาพบุรุษ อย่างไรเสียก็เป็นสุภาพบุรุษ เขาถามก็เพื่อความมั่นใจว่าฉันยินยอมจริงๆ ฉันรู้... ซึ่งเมื่อฉันพยักหน้า กางเกงชั้นในตัวจิ๋วก็อันตรธานหายไปจากเรือนกายของฉันทันตาเห็น เขาคร่อมฉันเอาไว้ ปราดสายตาพินิจเรือนร่างพลางอมยิ้มคล้ายกับว่าจะสำรวจร่างกายฉันก่อนจะลงมือทำอะไรต่อมิอะไรต่อ เห็นสายตาของเขาอย่างนั้นแล้ว ฉันก็หลุบสายตาหนี ทำให้เขาต้องช้อนปลายคางให้ฉันหันไปสบตา ‘คุณอายเหรอ โรส’ ตอนนี้ฉันถูกเรียกว่า ‘โรส’ แล้ว มันเป็นชื่อเล่นของฉันจริงๆ นี่แหละ ส่วนฉันก็พยักหน้าอีกครั้ง...อายเขามากจริงๆ และเขาก็ทำให้ฉันอายมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาหัวเราะออกมาน้อยๆ ‘คุณน่ารักมากรู้ตัวไหม’ น่ารักอย่างไร ฉันไม่รู้หรอก รู้เพียงแต่ว่าพอสิ้นประโยคนั้น มอร์แกนก็จูบลงมาที่กลางอกของฉัน แล้วค่อยๆ พรมจูบระเรื่อยไล่ไปบนหน้าท้อง ฉันหายใจกระเพื่อมเลยทีเดียวเมื่อเขาเลียไปบริเวณแอ่งสะดือ และต้องพยายามขยับตัวหนีทันทีที่เขาจูบลงมาบนเนินสาวที่ปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีดำขลับ พอเห็นฉันขยับตัวหนี มอร์แกนก็ชะงัก เหลือบมองหน้าฉันราวกับกำลังถาม ‘เอ่อ...ฉันว่าไม่ดีมั้งคะ’ ฉันตอบไปก่อนที่เขาจะถามเสียอีก มอร์แกนหยักยิ้มขึ้นมา สาบานเลยว่าเป็นรอยยิ้มที่น่ามองที่สุด จนฉันแทบไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เขาพูด ‘ไม่มีอะไรไม่ดีระหว่างเราทั้งนั้นแหละครับ’ ‘…’ ‘ยอมให้ผมทำนะ’ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มอร์แกนขออนุญาต ฉันยกมือขึ้นปิดหน้าทั้งสองมือ อา...หน้าฉันร้อนไปหมดเลยให้ตาย... ‘โรส...ตกลงคุณจะยอมให้ผมทำไหม’ เสียงแหบห้าวดังเข้าหูมาอีก ฉันพยักหน้าเร็วๆ หลายๆ ครั้งทั้งๆ ที่ยังปิดหน้าอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วมือทั้งสองก็ถูกมอร์แกนทำให้หลุดออกไปจากใบหน้า กลายเป็นมาเกาะไหล่ของเขาแทน ขณะที่เขาแยกขาทั้งสองข้างของฉันออกจากกัน และโน้มใบหน้าลงมาจูบเบาๆ บนส่วนอ่อนไหวที่สุดของร่างกาย ฉันแอ่นสะท้าน รับมือกับความหวามไหวที่เขามอบให้แทบไม่ทัน พลันก็ค่อยๆ หายใจหอบทีละน้อยเมื่อปลายลิ้นเย็นเยียบของมอร์แกนค่อยๆ ชิมรสชาติฉันไปอย่างช้าๆ ชิม...เสียจนฉันต้องบิดเร่าด้วยความเสียวกระสัน ชิม...จนฉันต้องหวีดร้องขึ้นมาทันทีที่ความเสียวซ่าน แล่นปราดไปทั่วสรรพางค์กาย ชิม...กระทั่งฉันแทบจะไม่มีรสชาติใดๆ ให้เขาได้ชิมอีกแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดที่จะละเลงปลายลิ้นลงบนระหว่างกลางร่างกายของฉัน อีกทั้งยังสอดแทรกปลายนิ้วเข้ามากระตุ้นเร้าให้ร่างกายของฉันได้ขยับขยายรับเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ามา แล้วฉันก็เสร็จสมไปอีกครั้ง... ฉันหายใจหอบหนักมากเลยทีเดียว มอร์แกนดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ฉันสุขสมไปเพียงสองครั้ง เขายันกายขึ้นมา ยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ‘ผมอยากให้คุณสบายตัวกว่านี้’ ‘แล้วคุณจะทำอะไรคะ’ ความจริงไม่ต้องถาม ฉันก็พอจะรู้ เขาปูทางเอาไว้แล้วนี่ มอร์แกนไม่ตอบด้วย ได้แต่ถามฉัน ‘ถ้าคุณบอกว่าคุณอนุญาต ผมถึงจะบอกคุณ’ คราวนี้ทั้งขออนุญาต ทั้งเล่นแง่ ฉันเผลอทำแก้มป่องออกมาน้อยๆ เขาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าอย่างนั้น ‘เหมือนคุณไม่พอใจเลยนะ’ ‘ไม่ใช่ไม่พอใจค่ะ ฉันแค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงต้องถามทุกครั้งเลยว่าทำได้ไหม ฉันอนุญาตไหม ทำไมไม่ทำเลย’ ‘มันทำให้คุณหมดอารมณ์เหรอ’ ‘เปล่าค่ะ ฉันก็แค่คิดว่าคุณจะทำเลยก็ได้ ไม่ต้องถาม’ ‘ผมแค่อยากมั่นใจว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว แต่เป็นเรื่องของคนสองคน ผมอยากให้คุณมีความสุขด้วยเลยต้องถามทุกครั้งก่อนจะทำอะไร’ ‘…’ ‘แล้วตกลงจะยอมให้ผมทำไหมครับ’ ถึงตอนนี้แล้ว ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธอีก ได้แต่พึมพำเบาๆ ว่า ‘ค่ะ’ หลังจากนั้นก็มองตามร่างใหญ่ที่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น จนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า ฉันจ้องมอง ‘ส่วนนั้น’ ของเขาตาเป็นมันเลย มันแบบว่า...ว้าว! มาก! ก็พอรู้อยู่หรอกว่าของชายต่างชาติในโซนตะวันตกจะมีขนาดใหญ่กว่าชาวเอเชีย แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ก็อดคิดไม่ได้เลยว่ามันคงจะทำให้ฉันจุกน่าดูชม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหรอก ได้แต่มองมอร์แกนเดินไปค้นเอาถุงยางอนามัยมาสวมเพื่อป้องกัน ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อยด้วยคิดว่าเขาคงจะมีผู้หญิงมานอนด้วยหลายคนล่ะมั้ง ถึงได้เตรียมพร้อมอย่างนี้ แล้วก็สะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นเมื่อเขากลับมาแทรกกลางระหว่างขาของฉันอีกครั้ง ‘ผมไม่รู้ว่าคุณเพิ่งจะเคยกับชาวต่างชาติครั้งแรกหรือเปล่า แต่ผมจะอ่อนโยนนะ’ ถ้าอยากได้คำตอบ ฉันก็จะบอกว่าครั้งแรก ทว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยแล้ว ฉันนอนเกร็งตัวแข็ง ขณะที่มอร์แกนถูไถส่วนปลายยอดของเขาลงมาบนบริเวณปากทางที่ฉ่ำชื้น ก่อนค่อยๆ ชำแรกตัวเข้ามาทีละน้อย ฉันยังคงเกร็งอยู่ มอร์แกนโน้มตัวลงมาให้ฉันได้กอดแล้วก็กระซิบบอก ‘ค่อยๆ ผ่อนคลาย คุณจะได้ไม่เจ็บ’ ฉันทำตามที่เขาบอก มันคับแน่นไปอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วมันก็ค่อยๆ คลายเมื่อเขาโถมกายแทรกลงมาได้ทั้งหมด จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ มอบความหวามไหวไปทั่วศีรษะจรดปลายเท้าให้ฉันได้ผวากอดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม ‘มะ...มอร์แกน...อื้อ...’ ฉันหายใจหอบกระเส่า ไม่คิดเลยว่าการได้ร่วมรักกับชาวต่างชาติ...ไม่สิ กับมอร์แกนจะทำให้ฉันปั่นป่วนจนแทบคลั่งได้ถึงขนาดนี้ เขาค่อยๆ ทวีความหนักหน่วงมากขึ้นเมื่อฉันแอ่นสะโพกรับเป็นจังหวะ และไม่นาน เขาก็ทำให้ฉันไปถึงฝั่งฝันอีกครั้ง ‘รู้สึกดีไหม’ เขาจูบลงมาที่หน้าผากฉันเบาๆ กระซิบถาม ฉันไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ารู้สึกดีมาก ส่วนนั้นของฉันยังกระตุกถี่อยู่ บีบรัดเขาเสียจนลำคอของเขาแดงระเรื่อน้อยๆ ‘ถ้ารู้สึกดี ผมต่อนะ’ แล้วเขาก็ว่าออกมาอีกครั้ง ฉันไม่คิดที่จะปฏิเสธอะไรเลย ได้แต่สบตาเขาที่แฝงไปด้วยความเว้าวอนแล้วก็ยอมสยบแต่โดยดี จนกระทั่งเขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และส่งฉันไปถึงฝั่งฝันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันถึงได้รู้ว่าการไม่ปฏิเสธ เป็นอะไรที่ทำให้ฉันจมดิ่งสู่ห้วงราคะชนิดที่ยากจะถอนตัวได้ ก็สายตาของเขามันเว้าวอนนี่นา...เว้าวอนเสียจนอดไม่ได้ที่จะยอมตามใจ แม้ว่ามันจะเป็นความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ฉันก็อยากที่จะทำให้เขารู้สึกดี ถ้าเขาคิดว่าการที่ทำให้ฉันเหนื่อยชนิดง่อยเปลี้ยเสียขาแล้วรู้สึกดีล่ะก็ จะยอมให้ทำตามนั้น ฉันยอมทำตามผู้ชายที่ตกหลุมรักสายตาของเขาหมด ทุกอย่างเลยล่ะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม