พงศ์เก่งช่างเอาใจ รู้ว่าว่าที่พ่อตาชอบอะไรก็มักหามากำนัลอยู่เสมอ ทั้งยังคุยกันอย่างถูกคอ ก็อยากได้พงศ์มาเป็นเขยเพราะมีคุณสมบัติเพียบพร้อมและเหมาะสมคู่ควรกับบุตรสาวของตน ครอบครัวของพงศ์เป็นพระน้ำพระยา ฐานะร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองมากมาย เป็นคนดีมีน้ำใจ เป็นที่นับหน้าถือตา รูปร่างหน้าตานั้นก็หล่อเหลา อีกทั้งยังสุภาพเรียบร้อย แต่ก็เข้มแข็งองอาจสมชายชาตรียามเมื่อต้องทำงานรับใช้บ้านเมือง
“แม่บัวมานั่งตรงนี้นะ พี่จะวาดรูปแม่บัวตรงนี้” เขาประคองเธอนั่งที่ศาลาท่าน้ำ ด้านหลังเป็นภาพผืนน้ำทอดตัวเป็นสายและเห็นบ้านเรือนของผู้คนอยู่ตามลำคลอง เธอกับเขาเล่นน้ำในคลองมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ที่นี่จึงเป็นความทรงจำที่แสนงดงาม
“แสงกำลังดี ทุกอย่างสวยไปหมด แต่สวยสู้แม่บัวไม่ได้”
“ดูสิคะ พี่พงศ์น่ะปากหวาน” เธอว่าแล้วก้มหน้างุดอย่างเขินอาย
“เงยหน้าหน่อยสิครับ” เขาเริ่มต้นการวาดภาพด้วยความตั้งใจ
“ภาพนี้พี่วาดเสร็จพี่จะเก็บไว้ในห้องนอน”บัวยิ้มหวานให้คนรัก ทอดสายตามองขณะที่เขากำลังตวัดพูกันเพื่อวาดภาพเธออย่างตั้งใจ
“แหวนของพี่พงศ์สวยจังเลยนะคะ”
“แหวนพลอยนิลครับ เป็นแหวนเก่าแก่ของเจ้าคุณพ่อ คุณหญิงแม่ของพี่มอบเมื่อให้เมื่อหลายวันก่อน”
“สวยจังเลยค่ะ”
“ตาพงศ์ ตื่นหรือยังลูก วันนี้มีนัดกับคุณหญิงเครือมาศนะลูก” พงศ์อินทร์ผวาขึ้นมาสุดตัว เขาฝันไปเหรอนี่!!!
ใบหน้าหล่อเหลาและสุขุมก้มมองแหวนพลอยนิลที่เขาเพิ่งได้มาเป็นเจ้าของ เป็นมรดกตกทอดของตระกูลที่เขาจะให้ลูกชายคนโต เขาค่อยๆ ลูบไล้หัวแหวนเบาๆ เลิกคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ในฝันเขาเห็นตัวเองแต่งชุดโบราณ สวมแหวนวงนี้ กับหญิงสาวใบหน้าหวานหยดย้อยที่เขารู้สึกรักเธอเหลือเกิน
“ตื่นแล้วครับคุณแม่” เขารีบขานรับมารดา ก่อนถอนหายใจเล็กน้อยๆ ท่านลงทุนมาปลุกเขาด้วยตัวเองแบบนี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกเช่นเคย
พงศ์อินทร์ สรทรรศน์ ชายหนุ่มวัย 27 ปี บุตรชายคนโตของคุณหญิงดาเรศ สรทรรศน์ ความโสดของเขาทำให้สาวๆ หลายคนคลั่งไคล้ หมายปองอยากได้มาเป็นสามีและพ่อของลูก เพราะฐานะที่มั่นคง รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ชาติตระกูลที่ดี ความเป็นสุภาพบุรุษและรักครอบครัว เขาจึงเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์และน่าใฝ่หา
เหล่าบรรดาคุณหญิงคุณนายผู้มีอันจะกินจริงๆ หรือไม่จริง จึงอยากประเคนลูกสาวให้ถึงปากหนุ่มหล่อ ร่ำรวย จิตใจดีคนนี้
“ตาพงศ์เองก็อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะคะ ดิฉันอยากจะให้เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงดีๆ จะได้มีทายาทสืบสกุล”
คุณหญิงดาเรศพูดคุยโต้ตอบกับคุณหญิงเครือมาศ ข้างกายมีบุตรสาวหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา หล่อนแอบมองพงศ์อินทร์อย่างขัดเขิน กิริยามารยาทดูเรียบร้อยอ่อนหวานน่าทะนุถนอม เหมาะสมดีพร้อมไปด้วยความเป็นกุลสตรีไทย ทั้งมีฐานะชาติตระกูลที่คู่ควร จะได้ช่วยส่งเสริมกันและกัน
“ยายหนูสารินของดิฉันก็ได้เวลาที่จะออกเรือนแล้วล่ะคะ มีผู้ชายหลายคนอยากผูกสมัครรักใคร่ แต่ยายหนูสารินของดิฉันเรียบร้อย เป็นกุลสตรี จึงไม่เคยคบหากับผู้ชายคนไหนให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือด่างพร้อย ยายหนูสารินเก่งทั้งการบ้านการเรือน เล่นดนตรีก็เก่ง ทำอาหารก็เก่ง รสมือนั้นรับรองว่าใครได้ลองแล้วจะต้องติดใจ ยิ่งงานนอกบ้านนั้นหายห่วง พาไปออกงานก็ไม่ต้องอายใคร” คุณหญิงเครือมาศยกยอปอปั้นสาริน บุตรสาวของตัวเองเสียไม่หยุดปาก เรื่องต่างๆ ที่พูดไปจะทำได้หรือไม่ได้นั้น ช่างหัวมัน!!!ขอให้ได้แต่งงานกันเสียก่อน ค่อยว่ากันอีกทีก็ยังได้
สารินแอบมองพงศ์อินทร์แล้วนึกนิยมชมชอบ ชายหนุ่มเป็นหนุ่มหล่อเหลาที่ดูดีทุกระเบียบนิ้ว ทั้งยังสุภาพเรียบร้อย เครื่องหน้าของเขารับกันอย่างเหมาะสม ใบหน้าเรียวได้รูป คางมีรอยผ่าเล็กน้อย ริมฝีปากหยักหนา จมูกโด่งเป็นสัน สายตานั้นอ่อนโยนดูใจเย็น คิ้วเข้มรับกับหน้าผากกว้างขวางบ่งบอกถึงความฉลาดหลักแหลม สุขุมนุ่มลึก เขาเป็นคนพูดจาสุภาพเรียบร้อย อยู่ใกล้แล้วอบอุ่นใจ เขาเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ที่เพียงแค่ยิ้มบางเบาก็ทำให้หัวใจของเธอแทบละลาย อยากจะพลีกายพลีใจลงไปแทบเท้า
“จริงเหรอครับนี่!!!” พชรทะลุกว้างปล้องขึ้นมาจู่ๆ เขาก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ พร้อมกับนั่งลงใกล้ๆ กับพี่ชายคนเดียว สีหน้าทะเล้นของเขาทำให้คุณหญิงดาเรศมีลางสังหรณ์แปลกๆ ว่าวันนี้การดูตัวคงล่มเป็นแน่ ในขณะที่พงศ์อินทร์นั้นยิ้มอ่อนโยนให้น้องชายคนเดียวที่มาได้ทันเวลาพอดิบพอดี เพราะเขาช่างอึดอัดกับสองแม่ลูกตรงหน้าเสียเหลือเกิน ครั้นจะตัดรอนเสียก็เกรงใจมารดาผู้ให้กำเนิดที่นิยมชมชอบสารินเสียหนักหนา
“โอ๊ย! ร้อนจริงๆ เลยครับคุณแม่ พี่พงศ์” พชรบ่นว่าร้อนก่อนจะยกน้ำส้มของสารินขึ้นดื่มจนหมดแก้วแก้กระหาย ไม่วายยักคิ้วให้หญิงสาวตรงหน้าอย่างกวนๆ สารินหน้าแดงจัด แต่สาเหตุของความหน้าแดงนั้น มีพชรเท่านั้นที่รู้ว่าเพราะอะไร!!!
“ตายแล้ว!” คุณหญิงเครือมาศยกมือขึ้นทาบอก มองกิริยามารยาทของแขกผู้มาใหม่อย่างตกตะลึง ถ้าไม่ติดว่าเป็นบุตรชายอีกคนของคุณหญิงดาเรศ ว่าที่แม่สามีในอนาคตของบุตรสาว เธอจะไม่ทนให้อีกฝ่ายทำกิริยาแบบนี้เป็นแน่ เครือมาศนึกในใจว่าดาเรศนั้นอยากได้สะใภ้ดีมีมารยาท แต่ไม่รู้จักอบรมสั่งสอนบุตรชายคนเล็กเสียบ้าง ว่าสมบัติผู้ดีเขาทำกันอย่างไรช่างไร้มารยาทเสียนี่กระไร คว้าแก้วน้ำส้มของคนอื่นไปดื่มหน้าตาเฉย เหมือนพวกตายอกตายอยาก กิริยามารยาทก็ทะลึ่งตึงตัง ไม่เห็นเหมือนคนเป็นพี่เลยสักนิด
“ขอโทษด้วยนะคะ นี่ตาพด ลูกชายคนเล็กของดิฉันเองค่ะ” คุณหญิงดาเรศหันไปทำตาขุ่นเขียวใส่บุตรชายคนเล็ก อีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียน
“ลูกชายคนเล็กที่มีข่าวกับผู้หญิงบ่อยๆ น่ะเหรอคะ” คุณหญิงเครือมาศเอ่ยถาม นึกไม่ชอบใจพชรอยู่มาก ในขณะที่สารินหน้าซีดเผือดสลับแดง ในวงสนทนานั้นคิดว่าหญิงสาวไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำกิริยาไม่เหมาะสม มีเพียงหญิงสาวเท่านั้นที่รู้ว่ามันไม่ใช่ เธออยากลุกหนีจากโต๊ะไปเสียเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ติดว่าจะเสียมารยาท
“เขามาได้ยังไงนะ!!!” สารินตะโกนอยู่ในใจ ตกใจตั้งแต่ที่เขาเรียกคุณหญิงดาเรศว่าแม่!!! แถมมารดาของเธอยังรู้จักกับพชร แต่เธอกลับไม่รู้จัก อาจเพราะเธอไปอยู่เมืองนอกเสียนานนั่นเอง
“อ้าว... นี่ว่าที่พี่สะใภ้ของผมเหรอครับ เอ๊ะ! แต่เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนเอ่ย” พชรทำเสียงเจ้าชู้ตามประสา มองสำรวจหน้าตาหญิงสาวเหมือนคลับคล้ายคลับคลา สารินหลบหน้าหลบตาเป็นพัลวัน ในขณะที่อีกฝ่ายจ้องมองด้วยท่าทีกวนๆ ตามสไตล์ของเขา
“เราไม่เคยเจอกันหรอกค่ะ” เธออยากมุดโต๊ะหนีจริงๆ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน เค้าบอกว่าโลกกลม เธอคิดว่ามันจริงก็วันนี้แหละ
“อ๋อ... ผมจำคุณได้แล้ว คุณสารินนี่เอง เราเจอกันที่ผับคืนก่อน จำผมได้ไหมครับ ผมพชรไง” พชรร้องอย่างดีอกดีใจ คุณหญิงดาเรศอ้าปากค้าง หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ!!!
“ลูกชายของคุณหญิงดาเรศนี่พูดจาเลอะเทอะนะคะ ยายหนูสารินเรียบร้อย อยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือน จะไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ได้ยังไงกัน” คุณหญิงเครือมาศแทบนั่งไม่ติดเมื่อลูกชายคนเล็กของคุณหญิงดาเรศทักทายบุตรสาวของตนแบบนั้น
“เหรอครับ สงสัยผมคงจำคนผิดแน่ๆ เลย” พชรแกล้งว่า... ลากเสียงยานคานจนคนที่รู้ตัวเองดี อึกๆ อักๆ อยากขอตัวกลับเต็มที สายตาของเขาแพรวพราวยิ่งนัก เมื่อคืนก่อนเธอคิดว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์เอามากๆ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเขา... น่ากลัวเอามากๆ เชียวล่ะ
“ใช่ค่ะ จำคนผิดแน่ๆ เลยค่ะ”สารินแทบสำลักตายกลางโต๊ะอาหาร รีบสนับสนุนคำพูดของเขาแทบไม่ทัน