บัวเป็นบุตรสาวของคหบดีผู้ร่ำรวยในอยุธยา หญิงสาวมีชายคนรักนามว่าพงศ์ ได้ผูกสมัครรักใคร่กันตั้งแต่ยังเยาว์วัย เธอมาถึงยังที่นัดหมายนานแล้ว แต่เห็นเขาทอดสายตามองแม่น้ำลำคลองอย่างเพลินตา จึงถือโอกาสแอบมองอีกฝ่ายเสียเลย แม่น้ำสายแห่งนี้เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านบ้านของเธอและบ้านของเขา บ้านของเขาอยู่ตรงข้ามกับวัด ส่วนบ้านของเธออยู่ บริเวณใกล้ๆ กับวัดเก่าแก่ของที่นี่ ที่ท่าน้ำหน้าวัดแห่งนี้เป็นที่นัดหมายและพบเจอกันเป็นประจำ เธอชอบทำบุญและเขาก็ชอบทำบุญด้วยเช่นกัน เจดีย์ที่ทำด้วยทองคำ สะท้อนแสงกับพระอาทิตย์มีประกายระยิบระยับในน้ำ
“พี่พงศ์” เสียงหวานที่เอ่ยเรียกมาจากทางด้านหลังทำให้พงศ์หันไปมองแล้วเผยยิ้มกว้าง
หญิงสาวใบหน้าผุดผาดที่เอ่ยเรียกคือคู่หมั้นและคนรักที่รู้จักกันมาแต่เล็กแต่น้อย บิดามารดาของเขาเป็นเพื่อนกับบิดามารดาของเธอเธอสวมผ้าโจงกระเบน บนศีรษะมีผ้าคาดผมสีเดียวกับเสื้อระบายลูกไม้สีชมพูอ่อน ปลายแขนเสื้อเป็นชั้นๆ ยาวถึงข้อมือมีผ้าสไบพาดไหล่รอบตัว ในมือถือกระเป๋าใบเล็กงดงามตามสมัยนิยม ส่วนสาวใช้คนสนิทนามว่าสาลี่ยืนอยู่ใกล้ๆ หลังจากหุบร่มที่กางให้เจ้านายสาว
“แม่บัว” เขาก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะกุมมือของเธอเอาไว้อย่างทะนุถนอม สายตานั้นมองด้วยความรักใคร่และหวงแหน เธอดึงมือออกอย่างขัดเขินสะเทิ้นอาย เขายอมปล่อยอย่างแสนเสียดาย คิดถึงเธอเหลือเกิน ไม่ได้เห็นหน้าหลายวัน
“เข็มกลัดที่พี่ให้ แม่บัวใช้แล้วรึ” พงศ์มองเข็มกลัดที่เขาซื้อให้เธอเมื่อหลายวันก่อน ติดอยู่ตรงหัวไหล่กับผ้าสไบซึ่งปล่อยหย่อนลงมา แล้วรวบชายสไบไว้ข้างตัว
“สวยมากค่ะพี่พงศ์” เธอไหว้เขาอย่างอ่อนช้อยเป็นการขอบคุณกับของขวัญและของกำนัลที่เขามักซื้อติดไม้ติดมือมาฝาก เมื่อไปค้าขาย
“แม่บัวชอบพี่ก็ดีใจ นี่ของฝากจากทางใต้” เขามอบของฝากอีกชิ้นให้เธอ
“อะไรหรือคะ”เธอเอ่ยถาม ยกมือไหว้เขาอย่างอ่อนช้อยก่อนยื่นมือไปรับ
“เปิดดูสิ” บัวรับของที่เขาให้มาเปิดดู
“เครื่องประดับและของเล็กๆ น้อยๆ พี่คิดว่าแม่บัวคงชอบ” เธอเปิดดูก็เห็นเครื่องประดับเป็นต่างหูมุก สร้อยไข่มุก สร้อยข้อมือมุกเข้าชุดกัน ผ้าสไบสีต่างๆ และที่คาดผมหลายชิ้นอยู่ด้านใน
“สวยจังเลยค่ะ” เธอไหว้เขาอีกครั้ง พงศ์ยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาวคนรักและคู่หมั้นแต่เยาว์วัยของเขา สิ่งใดที่เธอชอบเขามักจะหามากำนัลไม่เคยขาด เพราะนั่นคือความสุขของเขาด้วย ที่ได้เห็นคนที่รักมีความสุข
“ดีใจที่แม่บัวชอบ”เขามองเธอไม่วาง ดวงตาเต็มไปด้วยความรักความเสน่หา
“ของที่พี่พงศ์ให้ บัวชอบทุกอย่างค่ะ เพราะเป็นของของพี่พงศ์” เธอพูดกินนัย คนฟังยิ้มกว้างขวาง หัวใจพองโต
“ชื่นใจ”
“พี่พงศ์มานานแล้วรึคะ”บัวเอ่ยถามเสียงอ่อนหวาน รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา อาจเพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ และรักมากเหลือเกิน
“พี่เพิ่งมาถึงครับ”พงศ์อินทร์ตอบกลับอย่างสุภาพ เขามองเธอด้วยแววตารักใคร่อยู่เสมอ
“ฉันนึกว่ามาสายเสียอีก กว่าจะหลบพี่ชัยมาได้”
“พ่อชัยตามมาตอแยแม่บัวอีกแล้วรึ” พงศ์ไม่ใคร่จะสบายใจนักเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชัยนั้นเป็นชายหนุ่มที่มาชอบพอบัว อีกฝ่ายเป็นนักเลง ชอบข่มเหงรังแกคนอื่น เขานึกหวั่นว่าหญิงสาวคนรักจะถูกหักหาญน้ำใจเอาได้
“ใช่ค่ะ ฉันพยายามหลบพี่ชัยแล้ว แต่บางครั้งก็ไม่พ้น”
“พี่จะรีบให้คุณหญิงแม่จัดการเรื่องของเราให้เร็วที่สุด ต่อไปเราจะได้อยู่ด้วยกัน พี่จะได้ดูแลแม่บัวอย่างใกล้ชิด พี่กลัวเหลือเกินว่าไอ้ชัย มันจะทำเรื่องไม่ดีกับแม่บัว”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันจะระวังตัวให้มาก” บัวบอกอีกฝ่ายให้คลายใจชัยเป็นลูกผู้รากมากดี แถมยังมีเงินทองฐานะ เป็นธรรมดาที่จะเบ่งและอวดบารมีไปเสียทั่ว เพราะมารดาตามใจเหลือเกิน ครั้นนึกถึงบิดาของชัยนั้น ท่านก็เป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ยุติธรรมนัก เธอนับถือท่านเพราะท่านเป็นเพื่อนกับบิดามารดาของเธอ แต่เมื่อหลายปีก่อน ท่านมาด่วนจากไปเสียก่อน คราวนี้ก็ไม่มีคนห้ามปรามลูกชายเมื่อทำผิด เพราะคนเป็นแม่นั้นให้ท้ายลูกเหลือเกิน
บัวมองชายคนรักด้วยสายตาชื่นชม เขาจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาและผิวพรรณดี เป็นที่หมายปองของสาวๆ พงศ์อยู่ในชุดตามสมัยนิยม เสื้อราชประแตนและนุ่งผ้าโจงกระเบนเขาเป็นชายร่างสูงสง่าภูมิฐานเป็นลูกชายคนโตของพระยาพันศักดิ์และคุณหญิงจันทร์ เขามีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ชอบงานศิลปะ มีฝีมือในการวาดภาพเป็นที่ประจักษ์ พงศ์นั้นเป็นหนุ่มรูปงามสมชายชาตรี สาวๆ ในเมืองจึงแอบพึงพอใจเขาเป็นอันมาก หลังจากเรียนจบก็เข้ารับราชการทหารรับใช้แผ่นดิน
“ยังไงพี่ก็เป็นห่วงแม่บัว กลัวคนพาลอย่างพ่อชัยจะรังแกเอา”
“พี่พงศ์อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ ฉันดูแลตัวเองได้จริงๆ ยังไงพี่ชัยก็คงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับฉันหรอกค่ะ วันนี้พี่พงศ์บอกว่าจะวาดรูปฉันไม่ใช่รึคะ” บัวเปลี่ยนเรื่องเสียเพราะไม่อยากให้เขาเป็นกังวล
“สัญญาก่อนว่าจะรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี หลีกเลี่ยงเสียให้ห่างจากพ่อชัย คนพาลอย่างนั้นไม่ควรเข้าใกล้” เขาคงต้องเร่งให้มารดาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย ในเมื่อเขาเรียนจบแล้ว เข้ารับราชการแล้ว หาใช่เด็กที่ยังรับผิดชอบอะไรไม่ได้ดังเช่นสมัยก่อน
“ฉันสัญญาจ้ะ พี่พงศ์อย่ากังวลให้มากนักเลย คุณพ่อกับบ่าวไพร่ของฉันก็ยังอยู่ ไม่มีใครยอมให้พี่ชัยมาทำอะไรฉันได้หรอกค่ะ”
“ถึงกระนั้นพี่ก็ยังไม่โล่งใจแม้แต่น้อย ขอให้พี่สะสางงานทุกอย่างให้เสร็จสิ้นเสียก่อน แล้วจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ฉันจะรอพี่นะคะ ยังไงก็ไม่ปันใจให้ใครหรือยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เป็นแน่ค่ะ” บัวให้สัญญาอย่างมั่นเหมาะ เธอนึกไปถึงตอนที่บิดาของชัยยังไม่สิ้น ก็ยังปรามลูกชายคนโตได้อยู่ แต่พอท่านสิ้นไปแล้ว ชัยก็ถูกมารดาตามใจ จนตอนนี้ชักหนักข้อขึ้นทุกวัน ชัยนั้นเป็นนักเลงโรงบ่อน คบคนขี้ยา พวกติดฝิ่น กินเหล้า และมีลูกน้องเป็นนักเลงหัวไม้ ใครกล้าหือก็จะโดนหนัก จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชัยนัก
“อุ๊ย!” เขารวบมือเธอเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหลังมือเบาๆ
“อายบ่าวไพร่จะแย่” เธอบอกอย่างขัดเขิน
“ที่ไหนกันล่ะ สาลี่กับเชน หนีเราสองคนไปพรอดกันอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้” เชนเป็นคนสนิทของพงศ์ และมีใจสมัครรักใคร่กับสาลี่คนสนิทของบัว
“แน่ะ! พี่พงศ์นี่เจ้าเล่ห์เหลือเกินค่ะ” เธอดึงมือหนี ก้มหน้างุดอย่างเขินอาย
“คิดถึงเหลือเกิน”เขาอยากทำมากกว่านี้ แต่รู้ดีว่าไม่เหมาะสม ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะที่ควร
“ฉันก็คิดถึงพี่พงศ์ค่ะ” เธอบอกความรู้สึกจากใจ ก้มหน้ามองมือตัวเองแล้วหน้าแดง
“พี่ไม่อยากเอาเปรียบแม่บัว เพราะพี่รักแม่บัวจากใจจริง” เขาอยากทำมากกว่าจับมือ แต่เพราะไม่อยากให้เธอเสียหายไปมากกว่านี้
“ฉันก็รักพี่พงศ์ค่ะ” เพราะรู้จักกันมานาน เธอกับเขาจึงรู้ใจกันที่สุด
“พี่อยากวาดรูปแม่บัวเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก” เขาบอกความประสงค์
“จะวาดที่ไหนคะ” เธอเอ่ยถาม รู้ดีว่าชายคนรักมีฝีมือในการวาดรูป
“ไปที่บ้านแม่บัวก็ดีนะ พี่อยากไปกราบคุณพ่อของบัวด้วย” เขาและเธอนั่งรถลากไปยังบ้านริมคลอง พงศ์เข้าไปกราบเพิ่มซึ่งเป็นบิดาของบัว และอยู่คุยกันอีกพักใหญ่ ก่อนขอตัวลงมาวาดรูปหญิงคนรัก เพิ่มซึ่งเป็นบิดาของบัวมีความนิยมชมชอบในตัวของพงศ์เป็นอันมาก ท่านเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน เพราะอีกฝ่ายไม่เคยทำอะไรให้เสียหาย แต่มีสัมมาคารวะ และให้เกียรติบุตรสาวของท่านเสมอ