คริสเตียโน ซาโนรี่ หรี่ตามองเลขาหน้าห้องของตัวเองด้วยความประหลาดใจ พราวฟ้า บวรศักดิ์ ทำงานกับเขามาห้าปีเต็ม ตั้งแต่หล่อนจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ หญิงสาวเป็นคนหัวไว ทำงานคล่องแคล่ว และรู้ใจเขาเป็นที่สุด จนเขาคิดว่าจะทำงานกับเลขาคนนี้ไปจนกว่าบริษัทตัวเองจะเจ๊ง แต่จู่ๆ หล่อนก็มายื่นใบลาออก โดยให้เหตุผลว่า ‘เบื่อ’
ที่หล่อนเบื่อนี่ หล่อนเบื่องาน หรือว่าเบื่อเจ้านายอย่างเขากันแน่?
“ผมยังไม่อนุมัติหรอกนะ จนกว่าผมจะได้เหตุผลดีๆ จากการยื่นใบลาออกของคุณ พราวฟ้า”
เขาจะมารั้งหล่อนเอาไว้ทำไมกัน ในเมื่อเลขาหน้าตาเฉิ่มเชยอย่างหล่อน ก็เป็นได้แค่ทาสที่เดินตามเขาต้อย ๆ เท่านั้น ไม่เคยเลยที่เขาจะหันมามองหรือว่าใส่ใจความรู้สึกของหล่อน
เพราะอะไรน่ะเหรอที่หล่อนทำงานกับเขามายาวนานขนาดนี้ เพราะว่าหล่อนตกหลุมรักเขายังไงล่ะ หล่อนเห็นเขาตั้งแต่ตอนที่ตัวเองเพิ่งเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมปีที่สามเท่านั้น คริสเตียโน ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพิเศษที่โรงเรียน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หล่อนตั้งใจและใฝ่ฝันว่าจะต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาให้ได้ ซึ่งเวลาผ่านมาอีกหลายปีหล่อนก็ทำสำเร็จ หล่อนได้เข้าไปทำงานในบริษัทของเขา และก็โชคดีมากที่ได้ตำแหน่งเลขาหน้าห้องมาครอบครอง
หล่อนใกล้ชิดกับเขาแปดชั่วโมงต่อวัน และหล่อนก็หวั่นไหวมากๆ ลอบมองเขาทุกโอกาสที่ทำได้ แต่เขากลับไม่เคยมองมาที่หล่อนเลย ผู้หญิงมากมายสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาหาเขา มาเป็นคู่ควงของเขา โดยมีหล่อนทำหน้าที่จัดตารางเวรขึ้นเตียงให้
หล่อนก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่นี้ด้วยความเจ็บปวด และโศกเศร้า จนกระทั่งวันนี้ ความอดทนนั้นมันขาดสะบั้นลงเสียแล้ว
“พราวต้องการลาออกจริงๆ ค่ะ รบกวนเจ้านาย... อนุมัติให้ด้วยค่ะ”
“ไม่”
เขาปฏิเสธพร้อมกับเอาใบลาออกที่หล่อนเขียนทั้งน้ำตาไปฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และปาใส่ถังขยะ ก่อนจะพูดกับหล่อนอย่างไร้หัวใจ
“ไปทำงานได้แล้ว”
พราวฟ้าเม้มปากเป็นเส้นตรงด้วยความเสียใจ ก่อนจะถอยหลังออกห่างเขา และเดินออกไปจากห้องทำงานใหญ่ในที่สุด
คริสเตียโนเป่าลมออกจากปาก พยายามครุ่นคิดหาคำตอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็คิดไม่ออก
“ทำไมเธอถึงคิดจะลาออกนะ พราวฟ้า”
พราวฟ้าพยายามกัดฟันก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานการประชุมของเมื่อวานตอนเย็น เงยหน้าขึ้น เมื่อเสียงของคริสเตียโนดังขึ้น
หล่อนรีบเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะชะงักค้างไปสามสี่วินาทีเมื่อเห็นข้างกายของเจ้านายหนุ่มที่ตัวเองแอบหลงรักมาเนิ่นนานมีสาวสวยหุ่นนางแบบสุดเซ็กซี่ยืนเกาะแขนแนบสนิท
ภาพบาดตาพวกนี้ หล่อนเห็นมาตลอดหลายปี และก็พยายามทำใจให้ชินเสมอมา จากวันเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายปี แต่หล่อนก็ยังไม่อาจจะชาชินกับภาพพวกนี้ได้ ดังนั้นนี่คือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้หล่อนตัดสินใจยืนใบลาออกกับเขา
“วันนี้ผมจะไม่กลับเข้ามาแล้ว หากคุณมีงานด่วนก็โทรหาผมได้เลยตลอดเวลา”
“ค่ะ”
หล่อนรู้ดีว่าเขากำลังจะไปทำกิจกรรมอะไร แต่ก็จำต้องตีสีหน้าเรียบไร้ความรู้สึกเอาไว้ หล่อนจะยอมให้ คริสเตียโนรู้ไม่ได้ว่าตัวเองตกหลุมรักเขา
“แล้วเรื่องใบลาออกน่ะ ไม่ต้องเขียนมาแล้วนะ เพราะยังไงผมก็ไม่อนุมัติหรอก”
“แต่ว่าพราว...”
คริสเตียโนหรี่ตาแคบมองเลขาที่สวมแว่นหนาเตอะแถมแต่งตัวเชยระเบิดด้วยความเบื่อหน่าย
“ไม่มีแต่ เพราะถ้าคุณดึงดันจะลาออก คุณก็จะมีประวัติการทำงานที่ไม่ดีติดตัว รู้ใช่ไหมว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง”
นี่คริสเตียโนกำลังข่มขู่หล่อนสินะ
“แต่พราว... เอ่อ...”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่มีแต่ อยู่ทำงานกับผมต่อไป คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณครับพราวฟ้า”
“ค่ะ”
หล่อนตอบรับเสียงแผ่วเบา หัวใจเนี่ยเจ็บปวดร้าวรานเหลือเกิน
เมื่อเห็นหล่อนตอบรับแล้ว คริสเตียโนก็ไม่ได้สนใจไยดีอะไรเลขาอย่างหล่อนอีก เขาตวัดมือโอบเอวคู่ควงหน้าใหม่ของตัวเอง ก่อนจะพากันเดินหายเข้าไปในลิฟต์ตัวใหญ่
หยาดน้ำตาร่วงกราวลงมาอาบแก้ม เมื่ออยู่ตามลำพัง
นับครั้งไม่ถ้วนที่หล่อนพยายามตัดใจจากคริสเตียโน แต่ก็ทุกครั้งเลยทีเดียวที่หล่อนทำไม่ได้ การได้พบเห็นเขาที่ทำงานทุกวัน การได้สบประสานตาตากับเขายามที่รอรับคำสั่ง มันทำให้หล่อนหวั่นไหวเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าคริสเตียโนไม่เคยมองหล่อนด้วยฐานะอื่นเลยนอกจากพนักงานคนหนึ่งของเขาเท่านั้น