ชีวิตที่ดับสูญ…4/3

1906 คำ
วันว่างของมุกกันยามาถึงหญิงสาวจึงอาสาจะพามันเดย์ไปกินไอศกรีมของโปรดที่ห้างสรรพสินค้า เนื่องจากมนต์มีนาช่วงนี้ยุ่งมากทั้งทำคลิปแต่งหน้า ไลฟ์สด ดูแลสั่งและส่งสินค้าต่าง ๆ ทั้งยังรับหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถาบันสอนพัฒนาบุคลิกภาพของทั้งคู่ด้วย มุกกันยาจึงเต็มใจที่จะช่วยดูแลลูกชายสุดที่รักของเพื่อนให้ในวันหยุดดีกว่าให้เด็กน้อยอยู่กับแม่ทั้งวัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมนต์มีนาอาจจะไม่มีเวลาทำงาน ก่อนถึงวันที่นัดหมายจะพามันเดย์ไปเที่ยวและกินไอศกรีม ชวัลดนย์ก็เป็นฝ่ายติดต่อมาหาหญิงสาวในเวลาเดิมคือประมาณสองทุ่ม เรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องงานที่เขาอยากให้เธอช่วย “สวัสดีครับคุณกลอย พอจะมีเวลาว่างมาคุยงานกับผมอีกครั้งมั้ยครับ” มุกกันยาที่เอียงคอหนีบโทรศัพท์กับหูนั่งคุยไปใช้ตะไบถูเล็บมือตัวเองไปด้วยปรับเปลี่ยนท่านั่งให้สบายกว่านี้ วางตะไบลงแล้วยืดตัวคุยกับเขาจริงจัง “อืม ช่วงนี้ยังไม่มีเวลาว่างเลยค่ะ พรุ่งนี้มีนัดไปรับมันเดย์ไปเที่ยวให้มี่ได้ทำงาน” ชายหนุ่มฟังแล้วถึงกับผุดรอยยิ้ม ตั้งแต่กลับจากชะอำเขาก็ยังไม่ได้เจอมันเดย์อีกเลย คิดถึงเด็กน้อยจะแย่ “พรุ่งนี้คุณจะไปรับมันเดย์ไปกินไอติมเหรอครับ ดีเลย ผมก็ไม่ได้เจอแกหลายวันแล้ว คิดถึงอยากเจอหน้าแกแล้วเหมือนกัน ผมขอไปกับคุณด้วยได้มั้ย” “สำหรับฉันก็ไม่มีปัญหานะคะ แต่คุณต้องขออนุญาตมี่ก่อนนะ” “ครับ ถ้าคุณมี่อนุญาตพรุ่งนี้ผมไปกับคุณนะ” มุกกันยาไม่ปฏิเสธหากชวัลดนย์จะไปกินไอศกรีมกับเธอและมันเดย์ด้วย เพราะส่วนตัวเธอกับเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และก็เห็นว่าที่ผ่านมามนต์มีนาก็ไว้ใจเขาเรื่องลูกชายมาโดยตลอด มุกกันยาเชื่อว่าชายหนุ่มเอ็นดูเด็กชายอย่างแท้จริง เวลาประมาณสิบโมงของวันต่อมาชวัลดนย์ก็ขับรถมารับมุกกันยากับมันเดย์ที่รออยู่ด้านหน้าคอนโดมิเนียมพร้อมกับมนต์มีนาที่ลงมาส่ง มันเดย์วิ่งเข้าไปกระโดดกอดคอชวัลดนย์ด้วยความดีใจตามประสาเด็ก มนต์มีนาทักทายชายหนุ่ม เขาจึงถามเธอว่า “แล้ววันนี้คุณจินไม่มาหามันเดย์เหรอครับ” มนต์มีนายิ้มอ่อนก่อนจะตอบว่า “วันนี้ไม่ใช่ตารางของเขาที่จะมาเจอลูกค่ะ อาจจะโทร. มาคุยกับลูกตอนค่ำ ๆ” “อ๋อ ครับ” ทราบแล้วชายหนุ่มจึงได้หันไปยิ้มพยักหน้าให้กับหญิงสาวอีกคนที่จะพามันเดย์ไปกินไอศกรีมก่อนจะเอ่ยว่า “งั้นเราไปกันเถอะครับคุณกลอย” “ค่ะ” ทั้งสามคนนั่งรถออกไปยังจุดหมายนั่นก็คือห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่พามันเดย์ไปประจำ ก่อนจะไปนั่งกินไอศกรีมชวัลดนย์กับมุกกันยาก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะพามันเดย์ไปเล่นที่สวนสนุกในร่ม ‘ฮาเวนแลนด์’ กันก่อน ชวัลดนย์เป็นคนตามประกบมันเดย์ตอนที่ขึ้นไปเล่นเครื่องเล่นสูง ๆ คอยระวังความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดเหมือนกับพ่อที่คอยดูแลปกป้องลูกชายอย่างไรอย่างนั้น ส่วนมุกกันยาที่ไม่สันทัดกับการเล่นเครื่องเล่นแบบเด็ก ๆ ก็ยืนมองดู คอยส่งเสียเชียร์หลานชายที่บางครั้งยังไม่กล้าปีนป่ายขึ้นที่สูง เดินตามไม่ห่างเมื่อเปลี่ยนเครื่องเล่น บ่อยครั้งที่หญิงสาวเผลอยิ้มออกมากับความน่ารักเป็นธรรมชาติของชายหนุ่มกับเด็กชายตัวน้อย จนมันเดย์เล่นจนเหนื่อยทั้งสามคนจึงพากันออกจากสนามเด็กเล่นไปกินอาหารกลางวันและต่อด้วยไอศกรีมอย่างที่ได้วางแผนกันไว้ ขณะที่นั่งกินไอศกรีมกัน ชวันดลย์เป็นคนคอยดูแลมันเดย์ที่ตักไอศกรีมกินเองได้แต่ก็เลอะบ้างตามประสาเด็กและคอยเช็ดปากให้ มุกกันยาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำมีแต่เขาที่เทกแคร์ดูแลเด็กน้อยราวกับเป็นพ่อแท้ ๆ เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันเดย์ถึงได้ติดชวันดลย์แบบนี้ หญิงสาวอดแซวไม่ได้ว่า “ดูคุณจะรักเด็กนะคะ” ตอนที่เล่นเครื่องเล่นกันอยู่ในฮาเวนแลนด์มุกกันยาเห็นชวันดลย์ช่วยอุ้มเด็กชายสองสามคนที่ต่อแถวปีนขึ้นบันไดเชือกด้วย ดูสีหน้าเขามีความสุขและสนุกเวลาที่อยู่กับเด็ก ๆ ชายหนุ่มละสายตาจากเด็กชายหันมายิ้มให้เธอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วจึงตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ผมชอบเด็กครับ อีกอย่างอาจจะเป็นเพราะถึงช่วงเวลาของผมที่ควรจะมีลูกสักคนแล้วมั้งครับ คุณรู้มั้ยว่าเพื่อน ๆ ของผมมีลูกเล็ก ๆ กันหมดแล้วเหลือผมที่ยังโสด” เขาเน้นคำว่าโสด แถมแววตายังมีประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง มุกกันยาพลอยยิ้มออกมาโดยที่ตัวเธอไม่ได้คิดอะไรไปไกล “แสดงว่าตอนนี้คุณพร้อมที่จะมีครอบครัวมีลูกแล้วใช่มั้ยคะ” ชวันดลย์หันไปมองดูความเรียบร้อยของเด็กชายอีกครั้งก่อนจะหันมายิ้มกับเธอยามตอบ “ครับ ผมก็คิดว่าผมพร้อมทุกอย่างแล้วนะ” “งั้น ถ้าสมมุติว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งจูงมือเด็กคนหนึ่งมาบอกว่ามีลูกกับคุณ คุณจะว่ายังไงคะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิด อึดใจหนึ่งเขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นกับผมก่อนอื่นก็ต้องขอพิสูจน์ก่อนนะครับว่าเด็กเป็นลูกของผมจริงรึเปล่า ถ้าเด็กเป็นลูกของผมจริงผมรับผิดชอบแน่นอน ส่วนทางด้านแม่ของเด็กก็ต้องมาคุยกัน เพราะผมไม่รู้หรอกว่าในตอนนั้นผมพลาดยังไง แล้วนิสัยใจคอของคนที่เป็นแม่ของลูกผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเป็นยังไง” “พูดแบบนี้แสดงว่าคุณก็พร้อมจะรับผิดชอบเด็กที่เป็นลูกของคุณ แต่อาจจะไม่รับผิดชอบแม่ของเด็กที่คุณเผลอพลาดทำเธอท้องแบบนั้นใช่มั้ยคะ” “ก็ไม่เชิงครับ เรื่องของแม่เด็กตรงนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะอย่างที่บอกว่าถ้าจู่ ๆ มีผู้หญิงสักคนที่ผมเคยมีความสัมพันธ์ด้วยพาเด็กมาอ้างว่าเป็นลูกของผม ทั้งที่ผมไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ผมก็คงไม่สามารถรับเธอเป็นภรรยาได้ในตอนนั้นทันทีแน่ ๆ ก่อนผมจะอายุสามสิบผมยอมรับว่าผมก็ไม่ใช่คนดีนัก ถ้าเกิดจะมีเรื่องผิดพลาดก็คงจะมีในช่วงตอนนั้น...” เขาเว้นคำพูดเพื่อหัวเราะเบา ๆ เพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่ในชีวิต “ช่วงที่ผมยังรักสนุก ปาร์ตี้หนักกับเพื่อน มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายนะครับ ผู้ชายที่มีความพร้อมทุกด้านไม่ปาร์ตี้ ไม่มีเรื่องผู้หญิงเลยผมว่าแปลกกว่าคนที่มีอีกนะครับ แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้หญิงจูงเด็กมาอ้างว่าเป็นลูกผมนะ แต่ถ้ามีจริง ๆ เด็กคนเดียวผมรับผิดชอบได้อยู่แล้ว ไม่ปฏิเสธเลยด้วย” มุกกันยาหัวเราะเบา ๆ ออกมา ก่อนจะถามออกไปอีกโดยที่ไม่ได้คาดหวังคำตอบว่าจะออกมาในรูปแบบใด “อืม ขอถามอีกได้มั้ยคะ” “ครับ คุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับผมก็ถามได้หมด ผมตอบได้ทุกเรื่อง” มุกกันยาวางท่อนแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ ผุดรอยยิ้มมุมปากยามจ้องตากับดวงตาคมที่รอฟังคำถามจากเธอ สลับกับมองหน้ามันเดย์ที่กินไอติมเลอะปากแล้วก็หัวเราะออกมา “สมมติอีกนะคะสมมุติ สมมุติว่าคุณมีคนรักแล้วก็กำลังจะแต่งงานกัน จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงปรากฏตัวขึ้นพร้อมเด็กที่เป็นลูกของคุณ แบบนี้คุณจะอธิบายกับคนรักของคุณยังไงให้เข้าใจ แล้วถ้าแม่ของเด็กเป็นคนดีไม่มีประวัติเสียหายใด ๆ ด้วย คุณจะทำยังไงกับเธอล่ะคะ” คราวนี้ชายหนุ่มคิดนานกว่าคำถามแรกเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา “เรื่องลูกถ้าเป็นลูกของผมจริง ผมก็ไม่ปฏิเสธแน่นอนอย่างที่บอกกับคุณ ส่วนเรื่องแม่ของเด็ก ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นตอนที่ผมกำลังจะแต่งงานคงต้องถามกันตรง ๆ ว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ หรือว่าอยากทำลายชีวิตคู่ของคนอื่น” “อ้าว ก็เธอเพิ่งรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนถึงได้พาลูกมาตอนนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจมาทำลายชีวิตคุณก็ได้” “เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมต่างยินยอมพร้อมใจ ผมรู้ว่าพวกเธอเป็นใคร เราตกลงกันตั้งแต่ต้น ถ้าสมมุติเกิดเรื่องผิดพลาดจนเขาท้องเขาต้องบอกผมตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่รอวันเวลาเพื่อมาฉีกหน้ากัน ถ้าเป็นแบบนี้ผมยอมรับไม่ได้” ชายหนุ่มเน้นเสียงหนักเพราะส่วนตัวก็ไม่ชอบคนที่จ้องทำลายชีวิตคนอื่น พูดมาถึงตรงนี้ความจำหนึ่งก็แวบเข้ามา จริงอยู่เขามั่นใจว่าอย่างน้อยเขาต้องรู้ก่อนว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาจะมีสัมพันธ์ด้วยนั้นเป็นใครเพราะเขาไม่ใช่คนที่มั่วไม่เลือก เขาระวังตัวเสมอ แต่...จะมีก็แค่ครั้งนั้นที่จนถึงเดี๋ยวนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แล้วถ้าหากว่าเธอเกิดท้องลูกของเขาขึ้นมาจริง ๆ เธอจะมาเรียกร้องสิทธิ์จากเขาอย่างที่มุกกันยาสมมุติหรือไม่ มุกกันยาเห็นสีหน้าเขาเข้มขรึมจึงหยุดพูดเรื่องนี้แล้วกล่าวคำขอโทษ “ฉันขอโทษนะคะถ้าทำให้คุณอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ฉันไม่น่าพูดลามปามเลย” “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ คุณอาจจะคิดว่าทำไมผมถึงยังไม่แต่งงานแล้วมีลูกเป็นของตัวเองไปเลยใช่มั้ย ทำไมถึงมาเอ็นดูมันเดย์และคอยช่วยเหลือคุณมี่” ชวัลดนย์ถามคำถามที่อยู่ในใจของเธอแทนหญิงสาวแทบทั้งหมด แล้วตอบคำถามเองด้วยว่า “ถ้าผมจะมีลูกของตัวเองจริง ๆ ผมก็รอที่จะมีกับผู้หญิงที่จะเป็นภรรยาของผมคนเดียวครับ เหตุผลก็มีแค่นี้” น้ำเสียงของเขานุ่มนวลขึ้นยามบอก แถมสายตายังประสานกับเธอแบบไม่หลบจนมุกกันยาเริ่มทำตัวไม่ถูก เสมองหน้าหลานชายก็เห็นไอศกรีมเลอะมุมปากจึงบอกให้เขารู้ “ไอติมเลอะปากมันเดย์อีกแล้วค่ะ” ^ ^ ^ ***คิดว่าคุณโชแปงเป็นดีมั้ย อิ๊ ๆ คอมเมนท์ส่งกำลังใจกันมาด้วยนะค้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม