9 ป่วย

1251 คำ
“เดี๋ยวมันจะดีขึ้น...เด็กดี เธอจะชอบมันเชื่อฉัน” เขากระซิบเบา ๆ ปลอบใจหญิงสาว รู้ว่านี่คงเป็นครั้งแรกของเธอ ยังไงก็ต้องเจ็บปวด แต่จะให้เขาหยุดก็เป็นไปไม่ได้ อาหารอันโอชามาจ่ออยู่ตรงปากแล้ว ไม่กลืนกินเขาก็โง่เต็มทน ปิ่นรักพยักหน้าเบา ๆ ความปวดร้าวตรงจุดกึ่งกลางความเป็นหญิงทำให้เธอน้ำตาซึม ตอนนี้เธอไม่ใช่นางสาวปิ่นรักอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นของผู้ชายคนนี้เต็มตัว น้ำตาไหลไม่หยุดเจ็บปวดทั้งกายและใจ แต่ก็ถอยหลังไม่ได้เพราะนี่คือสิ่งที่เธอเลือกเอง หญิงสาวขยับตัวเบาๆ ด้วยความอึดอัด คับแน่น และเจ็บ จนอยากให้เขาลุกออกไปสักที ราวกับได้รับสัญญาณปฐวีก็ถอนตัวออกช้า ๆ ก่อนจะกดย้ำเข้าไปใหม่ ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนหญิงสาวเริ่มส่งเสียงคราง ปฐวีก็เพิ่มความเร็วขึ้น แรงขึ้น ก่อนจะกระแทกเข้าหาถี่ยิบด้วยความลืมตัว มือใหญ่จับสะโพกผายเอาไว้แน่น กระแทกรัวเร็วจนคนใต้ร่างกระเด็นกระดอน หน้าอกอวบอิ่มเด้งตามจังหวะกระแทก ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปดูดเลีย โจมตีหญิงสาวจนแทบจะขาดใจด้วยความกระสันเสียว ใบหน้าสาวแดงก่ำ ลมหายใจหอบแรง ร่างบิดเกร็งกระตุกหลายครั้ง ก่อนจะกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อเห็นว่าเธอเสร็จสมไปแล้ว เขาก็เร่งความเร็วขึ้น กระแทกเข้าหาถี่ยิบ หญิงสาวยังไม่ทันพักเหนื่อยก็ส่งเสียงร้องครางออกมาอีก มือเรียวยกขึ้นโอบกอดเขาแน่น เล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังหนาอย่างต้องการระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทะยาน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกึกก้องไปทั้งห้อง ก่อนจะได้ยินเสียงร้องคำรามและเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมของชายหญิงดังประสานกันระงม ประตูห้องค่อย ๆ แง้มปิดลงอย่างเบามือ หน้าจอโทรศัพท์กดบันทึกคลิปวิดีโอที่ถ่ายได้เกือบครึ่งชั่วโมง มือกำโทรศัพท์แน่นจนแทบจะแหลกคามือ ก่อนร่างนั้นจะหมุนตัวและเดินออกจากหน้าห้องไปอย่างรวดเร็ว ปิ่นรักหันหลังให้ปฐวีทันทีที่เขาขยับออกจากตัวเธอ สายตามองหาชุดนอนที่จะสวม ก่อนจะเห็นว่ามันถูกทิ้งกระจัดกระจายบนพื้นห้องราวกับเศษผ้า เธอขยับตัวช้า ๆ ด้วยความเจ็บปวดร้าวไปทั้งตัว ขาก้าวลงจากเตียงช้า ๆ ทั้งสั่นและไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะพยุงตัวไม่ได้ เธอต้องออกไปจากห้องนี้ ในเมื่อทุกอย่างมันจบแล้ว “ว๊าย!!” “จะไปไหน?” “ปิ่นจะกลับห้อง” “แค่ครั้งเดียว...คิดว่าจะออกไปจากห้องนี้ได้เหรอ” “อะ...อะไรคะ ก็..” หญิงสาวอึกอักพูดไม่ออก ในเมื่อทุกอย่างมันจบแล้ว เธอก็ควรจะกลับห้องของตัวเอง “คืนนี้เธอต้องอยู่ที่นี่ และไม่มีสิทธิ์ออกไปจากห้องนี้ จนกว่าฉันจะสั่ง” “แต่ปิ่นไม่ไหวแล้วนะคะ น้าวี...ปล่อยปิ่นไปเถอะ” หญิงสาวก้มหน้าหลบตา “ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องรับผิดชอบ ถ้ามันยังไม่อิ่ม เธอก็ต้องทำจนกว่ามันจะสงบ” เขาจับมือเธอไปวางแหมะลงบนแก่นกายที่ทั้งร้อนผ่าวและใหญ่โตแข็งแกร่ง ไม่มีท่าทีว่าจะยอมสงบง่ายๆ เธอชักมือออกอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว มิน่าเธอถึงเจ็บปางตายราวกับร่างกำลังฉีกขาด “น้าวี!!” นี่เธอเหนื่อยจนแทบจะขาดใจ แต่เขายังไม่พอ คิดจะนอนกับเธออีก ใครมันจะไปทนไหว ปิ่นรักยังไม่ทันตอบปฏิเสธ ปฐวีก็ก้มลงมาจูบ ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวบดขยี้ลงมาอย่างหนักหน่วงราวกับจะกระชากวิญญาณ ไม่นานร่างหญิงสาวก็อ่อนระทวยในอ้อมแขนเขา เมื่อเริ่มต้นอีกครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ มือใหม่หัดรักอย่างปิ่นรักก็คงได้แต่ยอม และโอนอ่อนผ่อนตามเขาจนกว่าอีกฝ่ายจะเลิกรา กว่าจะหมดฤทธิ์ยา และปฐวียอมปล่อยมือจากเธอก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่เรียบร้อย ร่างกายหญิงสาวหมดเรี่ยวแรงแขนขายกไม่ขึ้น โดยเฉพาะจุดกึ่งกลางเจ็บร้าวจนแทบขยับไม่ได้ เหนื่อยที่สุดในชีวิต ดวงตาปรือค่อยๆ ปิดลงช้าๆ ไม่รู้ตัวว่าได้เผลอหลับไปในอ้อมอกของปฐวี และนอนซุก อยู่แบบนั้นทั้งคืน “ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นหลายครั้ง แต่ภายในห้องยังคงเงียบสนิทไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใด ๆ พลอยขวัญจึงผลักประตูเปิดเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง และลึก ๆ ก็อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าหลานสาวเป็นยังไงบ้าง รู้สึกยังไงหลังจากต้องเข้าห้องหอกับน้าเขย ภายในห้องนอนมีแสงสว่างสลัวจากภายนอกสาดเข้ามา ทำให้มองเห็นร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง พลอยขวัญเดินตรงเข้าไปดู ก่อนจะเห็นหลานสาวนอนหลับสนิทอยู่บนที่นอน “ปิ่น...ปิ่น” พลอยขวัญส่งเสียงเรียกหลานสาว แต่อีกฝ่ายยังคงนอนนิ่ง ไม่รับรู้การมาของน้าสาว “ปิ่น วันนี้แกไม่ไปมหาวิทยาลัยเหรอ ไหนบอกว่ายัง...เอ๊ะ!..” มือสัมผัสถูกลำแขนร้อนผ่าวราวกับไฟ ก่อนปิ่นรักจะงัวเงียตื่นขึ้นมา “น้าพลอย” น้ำเสียงแหบแห้งครางออกมาแผ่วเบา ร่างกายอ่อนเพลียจนไม่สามารถขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้ จึงได้แต่หลับตาลงช้า ๆ เมื่อรู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิด “แกไม่สบายเหรอ” พลอยขวัญนั่งลงบนขอบเตียง ยกมือขึ้นอังหน้าผากหลานสาว ไอร้อนระอุสัมผัสกับหลังมือ “ยัยปิ่นทำไมตัวร้อนขนาดนี้!” น้ำเสียงตกอกตกใจของน้าสาว เรียกให้ปิ่นรักลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อือ ปิ่นปวดหัวค่ะ วันนี้คงไปมหาวิทยาลัยไม่ไหว” “แล้วทำไมไม่บอกแม่บ้าน ดูสิมานอนป่วยอยู่คนเดียว นี่ถ้าฉันไม่ขึ้นมาดูว่าแกหายไปไหนทำไมไม่ลงไปกินข้าว ก็คงจะนอนเน่าอยู่คนเดียว” “ปิ่นคิดว่าเดี๋ยวนอนสักพักก็น่าจะดีขึ้น แล้วจะลุกไปกินข้าวกินยา แต่มันหนักหัวไม่ไหว” หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหน้าเบา ๆ แขนไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะยกไม่ขึ้น “งั้นก็ลุกมากินข้าวกินยา เดี๋ยวฉันสั่งแม่บ้านเอาขึ้นมาให้” “ขอบคุณค่ะน้าพลอย” “เอ๊ะ!...นั่นรอยอะไร” พลอยขวัญขยับเข้าไปใกล้หลานสาว มือกระชากคอเสื้อยืดดึงลงมาจนเห็นรอยช้ำเป็นจุดหลายจุด ไม่เพียงบริเวณคอเท่านั้น แต่ยังหายเข้าไปด้านในเสื้อ คนที่ผ่านอะไรมาอย่างพลอยขวัญไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคืออะไร “ระ...รอยอะไรคะ” ปิ่นรักก้มลงมองตามสายตาของน้าสาว แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วก็แทบขาวเป็นกระดาษ มือสั่นระริกรีบยกขึ้นมาปิดคอเสื้อด้วยความอับอายสายตาของน้าสาวที่กำลังจ้องเขม็งอยู่ “ช่างมันเถอะ แกก็นอนพักละกันฉันไม่กวนแล้ว” “ค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม