เท้าบอบบางที่อยู่ตรงขาตัวเอง เป็นเท้าที่ขาวเนียนที่สุด เท่าที่เคยเห็นมา เล็บสีชมพูใสที่มีสติกเกอร์อันเล็กติดเอาไ้ว้บนเล็บ ดูน่ารัก เหมาะกับตัว
" พี่ไม่ได้ทำแบบนี้ให้ทุกคน " เค้าบอกย้ำอีกครั้ง แล้วมองหน้าเธอ ที่เริ่มแดงก่ำ ด้วยความอาย
" พี่ขอเบอร์โทร หนูบุษ ได้ไหม "
เค้ายื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เอี่ยมออกมาจากกระเป๋ากางเกง โทรศัพท์เครื่องแรก ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ราคาไม่กี่พันบาทแต่ก็มากสำหรับ เค้า หลังจากสองพ่อลูก คุยกันแล้วว่า จะอยู่ห่างกัน เครื่องติดต่อสื่อสาร จึงเป็นสิ่งจำเป็น
" เบอร์ส่วนตัวของบุษ ห้ามให้ใครนะคะ "
เธอรับโทรศัพท์มา แล้วกดเบอร์ของเธอ ลงไป ก่อนจะกดโทรออก แล้วเค้า ก็พยักหน้า รัวๆ
" ของหวงพี่เลยนะ พี่จะไปให้ใครได้ " เค้ารับโทรศัพท์มาจากเธอ แล้วเปิดโหมดกล้องถ่ายรูป ขึ้นมา
" จะเป็นอะไรไหม ถ้าพี่จะขอถ่ายรูป สักรูป "
รูปสักรูป บานปลายไปสิบกว่ารูป เค้าถ่ายแทบจะทุกมุม ของเธอ แล้วยิ้มกว้างอย่างมีความสุข จนกระทั่ง ได้ยินเสียงใครบางคน เดินมา บทสนทนา จึงต้องจบลง คนที่เดินมา ก็คือ แม่บ้าน ที่มาหยิบของในครัว เมื่อเห็นคุณหนูนั่งทานขนมปัง อยู่เพียงลำพัง ก็ส่ายหน้า
คุณนายที่นั่งเคียงข้างสามี ไม่มีใครชวนคุย ก็ดื่ม แก้วต่อแก้ว ไม่กี่นาที ก็ถูกประคองเข้าไปในบ้านก่อนจะส่งไปถึงห้องนอน ส่วนท่าน ก็ดื่มจนหน้า แดงก่ำ หมดแล้ว เสียงพูดคุยกับลูกน้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ นักดนตรีก็เล่นเพลงสนุกสนาน จนลืมไปเลยว่า งานนี้ จัดเพื่อใคร
กว่าที่งานเลี้ยงจะจบลงก็เกือบจะตีสอง ทีมงานที่ถูกจ้างมาในวันนี้ กำลังเร่งมือจัดเก็บโต๊ะและเครื่องไฟที่ใช้ในงาน แม่บ้านและหัวหน้าช่าง มองบ้านหลังใหญ่ ที่ปิดประเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกำชับคนงานให้เก็บของทุกอย่าง แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
โคมไฟอันเล็ก เปิดส่องสว่าง ในห้องนอน เสียงคุยโทรศัพท์ตั้งแต่สี่ทุ่ม ลากยาวมาจนถึง ตีสองกว่า เข้าไปแล้ว คนที่เพิ่งมีโทรศัพท์มือถือ นั่งตบยุง อยู่หลังบ้าน มองดูท้องฟ้า แล้วยิ้มกว้าง
" หนูบุษ ง่วงไหมครับ "
โทรศัพท์ที่เริ่มร้อนทำให้เค้าถามด้วยความเป็นห่วง
" ง่วงแล้วค่ะ " เธอตอบเค้าตามตรง
" ถ้าอย่างนั้น หนูบุษนอนนะครับ พี่ก็จะไปนอนแล้ว " เค้าได้ยินเสียงเตือนว่า แบตจะหมดแล้วด้วย
" พรุ่งนี้พี่มีงานที่ร้านค้า อาจจะไม่ได้โทรหา ถ้าเลิกงานแล้ว พี่โทรหานะครับ "
" ได้ค่ะ ฝันดีนะคะ พี่นน "
คนที่ไม่เคยคิดฝันอะไร พยักหน้า แล้วยิ้มกว้างรับ กับคำพูดของเธอ เค้าจะฝันดีแน่นอน คืนนี้
เสียงปรบมือของนักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนดังขึ้นที่หน้าเสาธง ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นตัวแทน มอบทุนการศึกษาที่มีผู้ใหญ่ใจดี ให้การสนับสนุน เงินทุน สำหรับค่าเทอม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ตลอดระยะเวลา ในการเรียน ที่วิทยาลัยในต่างจังหวัด มีมูลค่าหลายหมื่นบาท จ่ายทีเดียว ในวันนี้ โดยที่มีผู้เป็นพ่อ มารับทุนนี้ ด้วยกัน
ผู้อำนวยการกล่าวแสดงความยินดี กับลูกศิษย์ของตัวเอง ที่ได้รับโอกาสที่ดี เช่นนี้ เงินทุนการศึกษาที่ท่านนายอำเภอมอบให้ โดยไม่ออกชื่อ ออกหน้า ยิ่งทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนนับถือท่านมากขึ้น ท่านบอกสั้นๆ ว่า ไม่อยากให้มีการเกรงอกเกรงใจอะไร กันมากไปกว่านี้ พ่อของชานน ก็เป็นลูกน้องที่ทำงานมานาน อยากให้เด็ก มีอนาคต โดยที่ไม่ต้องมีบุญคุณอะไร มาตอบแทนกัน
สมุดบัญชี และ เอทีเอ็ม ที่สองพ่อลูก พากันไปเปิด เอาไว้ สำหรับฝากเงินก้อนนี้ เอาไว้ใช้ เพื่อการเรียน ส่วนค่าใช้จ่าย ระหว่างนี้ พ่อก็ยังพอจะดูแล ลูกได้ อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ก็จะส่งเสียให้ตามกำลัง เพราะความหวัง อยากจะให้ลูกชาย สนใจเรียน ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
" พ่อ จะส่งให้เอ็งอีกเดือนละสองพัน เอาไว้ใช้จ่าย "
นักการภารโรงที่รับเงินเดือน เก้าพันห้าทุกเดือน บอกกับลูกชาย ระหว่างเดินกลับมาที่บ้านด้วยกัน
" พ่อ ไม่ต้อง " เพราะกลัวว่าพ่อจะไม่มีเงินใช้จ่าย ในแต่ละวัน ทำให้ลูกชายปฎิเสธเสียงแข็ง
" เอาเถอะ เอาไป อย่างน้อย เอ็งเรียนจบ พ่อก็จะได้ภูมิใจ ว่าพ่อ มีส่วนช่วยให้เอ็ง เรียนจบ "
เพราะมีกันเพียงสองคน เงินค่าใช้จ่ายที่มาจากเงินเดือน อาจจะไม่มากมาย แต่ก็ยังมีให้ลูกบ้าง เท่านั้นเอง
เงินสดหลายหมื่นบาทที่อยู่ในกล่องขนม ถูกนำออกมานับ แล้วแยกใส่กระเป๋าเป้เอาไว้ เงินออม ที่เก็บมาตลอด สามปี เป็นเงินที่ผู้เป็นแม่ให้ไว้กับเธอ แต่ละสัปดาห์ เงินสามพัน มากเกินพอ สำหรับเด็ก มอปลาย มันรวมไปถึง ค่าปิดปาก เรื่อง ขาไพ่ของแม่ ในยามที่คุณพ่อ ออกไปทำงานด้วย
แม่บ้านพับเสื้อผ้า ชุดนักศึกษาลงกระเป๋าให้คุณหนู เสื้อผ้าที่เอาไว้ใส่เล่น และชุดนอน อยู่ในกระเป๋าอีกใบ หนังสือ และอุปกรณ์การเรียน บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส พรุ่งนี้เธอจะย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์ข้างมหาวิทยาลัย ที่ผู้เป็นแม่ เตรียมเอาไว้ให้แล้ว
" ขนมกับอาหารแห้ง ป้าเตรียมให้คุณหนูไปเผื่อนะคะ กลางคืน อย่าออกไปไหน นะคะ มันอันตราย "
แม่บ้านบอกกับคุณหนู แล้วมองใบหน้าสวยหวาน ที่น้ำตาคลอหน่วย อยู่ในดวงตา
" ค่ะ บุษจะเลิกเรียนแล้วกลับหอเลย ไม่ไปเที่ยวแน่นอน "
เธอบอกกับป้าแม่บ้าน แล้วเก็บกุญแจรถเก๋ง ใส่กระเป๋าสะพาย
ของรางวัลอีกอย่างที่ได้มา คือ รถเก๋งสีชมพูหวานคันเล็ก ที่ผู้เป็นพ่อ มอบให้ รถสไลด์คันใหญ่มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับ นำรถป้ายแดง มาส่งถึงที่ ใครต่อใคร ต่างชื่นชม ที่คุณพ่อ รักและเอาใจใส่ลูกสาวคนเดียว อย่างเต็มที่ แต่แท้ที่จริง คุณพ่อของเธอ ยังไม่เคย นั่งรถของเธอ สักครั้ง
ลุงคนขับรถ พาเธอไปเรียนขับรถ พร้อมกับทำใบขับขี่ ก่อนจะพาเธอ และ ป้าแม่บ้าน ขับรถไปต่างอำเภอด้วยกัน จากที่นั่งตัวเกร็งในวันแรก ก็เริ่ม ผ่อนคลายขึ้น ตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือน เธอขับรถ เฉลี่ยวันละ 50 กิโล ทุกวัน เพื่อฝึกฝน ตัวเอง โดยที่ คุณพ่อคุณแม่ ไม่เคยมานั่งรถเลยสักครั้ง
" แม่ ไม่โอนเงินเข้าบัญชีนะบุษ ทุกสัปดาห์ ถ้าว่าง ก็ขับรถกลับมาเอาเงินที่บ้าน ถ้าไม่ว่างติดธุระ ก็มาสัปดาห์ถัดไป
แต่แม่ไม่โอนเงินให้ "
ลูกสาวที่พยายามเข้าใจ ว่าทำไม แม่ถึงไม่ยอม โอนเงินให้เธอ ก็เพราะอยากให้เธอ มาหาที่บ้าน เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอะไร ไปมากกว่านี้
" คุณพ่อเค้าสั่งให้เปิดบัญชี แล้วใช่ไหม "
" ค่ะ "
เธอนำเงินหลักหมื่นบาท ไปฝากและทำเอทีเอ็มเอาไว้ ใช้สำหรับ การซื้อของออนไลน์เหมือนที่เพื่อนๆเค้าทำกัน
" ถ้าเป็นไปได้ ใช้เงินสด ดีที่สุด มีเงินที่ตัวกี่หมื่น "
เธอบอกจำนวนที่น้อยกว่าที่มีอยู่ครึ่งหนึ่ง
" เดี๋ยวแม่เพิ่มให้ เอาไปติดตัวเอาไว้ใช้ เผื่อว่าเดือนนี้ จะยังไม่ต้องกลับมาบ้าน "
" ค่ะ คุณแม่ "
รถกะบะคันใหญ่และรถเก๋งสีชมพูคันเล็ก ขับตามกันออกมา จากบ้านในช่วงบ่าย
ที่เป็นเพียงไม่กี่ครั้ง ที่เธอ ได้เดินทางข้ามจังหวัด
นกน้อยที่ชื่อ บุษกร กำลังจะบินออกจากกรง ไปสู่รังใหม่ รังเล็กที่จะมีเธอ เพียงผู้เดียวแต่เธอไม่รู้เลยว่า กรงที่เคยอยู่ เมื่อไม่มีนกตัวน้อยแล้วกรงนั้น จะถูกทำลายด้วยฝีมือ เจ้าของ ในเวลา เพียงไม่นาน และตั้งแต่ออกมาจากบ้านพักหลังนั้น เธอก็ไม่เคย ได้กลับไปอีกเลย