"เพราะอะไรคะ"
"เพราะไม่มีใครที่ผมชอบเท่าคุณ"
คารมลีลาไม่หยอกเลยนะ ชิดชลัยยิ้มพราวหล่อนอ่านจากดวงตาของเขา
"แหม ปากหวานนะคะ"
"ปากหวานเฉพาะคนที่สนใจเท่านั้นล่ะครับ อย่างคุณช่อ"
เขามุ่งตรงมาที่หล่อนเลยล่ะพร้อมด้วยดวงตามีรอยยิ้ม
"ค่ะ" ชิดชลัยพยักหน้า
“ช่อประทับใจคุณต่อเหมือนกันนะคะ"
คำตอบทำให้เขายิ่งปลื้ม รัชนินทร์คุยกับหล่อนแบบเพลิน ด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจนเกือบชั่วโมง จึงออกจากร้าน พร้อมด้วยหล่อน
"ช่อ ขอไปส่งคุณต่อ ที่บ้านพักนะคะ เผื่อจะเจอคุณแม่ของคุณต่อ จะได้ยกมือไหว้สวัสดีท่าน"
ชิดชลัยเดินหมากเกมนี้ ทั้งรู้ว่าคุณประอรศรีไม่ถูกชะตาด้วย
ประอรศรีขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ พบว่าผู้หญิงที่เดินเข้ามากับลูกชาย จะเป็น ช่องิ้ว
ช่องิ้วหรือชิดชลัยวางสีหน้าแบบสงบเสงี่ยมเมื่อยู่ต่อหน้าคุณประอรศรีที่นัยน์ตานั้นเบิกกว้าง แทบไม่เชื่อสายตา
“นี่ครับ ม๊า ผมพาคุณช่อ มาที่บ้านเราอีก “
“พอๆ ไม่ต้องพูดกับฉันเรื่องนี้” คุณประอรศรียกมือโบกห้าม เหมือนจะเป็นลม หรือว่า ช่องิ้วจะไม่ทำตามที่หล่อนบอก
คุณประอรศรีเห็นแววตาที่ดูท้าทายจากผู้หญิงที่ไร้เกียรติคนนี้
“ไม่ต้องแล้วต่อ กลับเข้าบ้านเลย”
นางสั่งลูกชายด้วยฝีปากสั่นระริก
รัชนินทร์ตกใจ หันไปมองหน้าของชิดชลัยหรือช่องิ้วนิดหนึ่ง แต่หญิงสาวพยักหน้าให้พร้อมบอก
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เข้าไปข้างในเถอะ เชื่อคุณแม่ของคุณดีกว่า แค่แวะมาส่งคุณต่อ แล้วจะกลับ”
พอลูกชายของหล่อนเดินพ้น ประอรศรีไม่สนใจ คนที่หล่อนสนใจคือ นังช่องิ้วร่าน รัชนินทร์ไปลากเอาตัวผู้หญิงคนนี้มาที่บ้านได้ยังไง
ต้องถามผู้หญิงราคีคาวตรงหน้า นิ่งเงียบเพราะอัดอั้น คุณประอรศรีถอนหายใจอย่างแรง ชิดชลัยนั่นใบหน้าเรียบนิ่งสงบ
“เมื่อหมดธุระแล้ว ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว” เสียงเรียกของประอรศรีดังขึ้น ช่องิ้วเลยต้องหันขวับกลับมา
“คุณนาย มีอะไรจะบอกดิฉัน”
“ฉันมีแน่กับหล่อน ฮึ นังดอกงิ้วร่านผู้ชาย”
“อุ้ย ดิฉันชื่อ ช่องิ้วค่ะ ไม่ใช่ดอก”
“จะดอกหรือจะช่องิ้ว มันก็ต่างกันที่ไหนล่ะ กับแม่ผู้หญิงร่านผู้ชายไปทั่วเมืองอย่างหล่อน”
“อ้อ ต้องขอบคุณมั๊ยคะ สำหรับคำชม อุ้ยด่าหรือเปล่า ดิฉันก็รับเอามาค่ะ แต่อยากจะอ๊วกกับอาเจียนเหลือเกิน กับคนที่มองคนด้วยกันเองเฉพาะแค่เปลือก แต่ดิฉันมาทำงานค่ะ”
“ฮึ งานหรือ แล้วไอ้การที่ หล่อนเข้ามาพัวพันลูกชายฉันนี่ งานประเภทไหนยะหล่อน อ้อ หรือจะขายตัว”
ชิดชลัยหรือช่องิ้วเม้มเรียวปากแน่น ก่อนจะเย้ยและท้าทายกลับไป
“ไม่แน่หรอกค่ะ งานดีๆ เงินหนัก ซื้อง่ายขายคล่องมีผู้ชายคนไหนบ้างที่อยากจะปฏิเสธ ตอนนี้ลูกชายคุณนายกำลังหลงดิฉันจนโงหัวไม่ขึ้นเสียด้วย”
“ต๊าย นังช่องิ้ว” นางชี้นิ้วพร้อมกับริมฝีปากที่สั่นระริกเนื้อตัวเต้นแบบเต้นแร้งเต้นกาเพราะโกรธจัด
“ขอตัวก่อนนะคะไม่อยากเสียเวลาคุย”
ช่องิ้วกล่าวแล้วก้าวฉับไปที่รถ แล้วแล่นจากไปทันที
ค่ำสนิท ภูอนลเลิกงานนานแล้ว กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิด แม้ชิดชลัยกล้าแกร่งเข้มแข็ง แต่ในการที่หล่อนพัวพันชายอื่น ภาพไอ้หนุ่มคนนั้น วนเวียนในหัวสมอง คิดไม่ตก จะจัดการอย่างไรดี งานที่ใกล้ชิดผู้ชายหลายคน
ภูอนล ยอมรับได้ เพราะสงสารหล่อน อยากช่วยเหลือ ความสงสารมันเป็นบ่อเกิดของความรัก
เขาโทร.มาหล่อนอีกแล้ว ชิดชลัยรู้ว่าหล่อนทำอะไรลงไป ไม่อยากรับสายของเขา แต่เวลานี้หล่อนตัดสินใจรับ เสียงเขาดูเนือยๆ
“ชลัย” เงียบไปนาน คล้ายกับไม่มีคนตอบ แต่ก็ตอบ
“ค่ะ”
“คุณใช่มั๊ย”
“เอ้อ ค่ะ” หล่อนไม่ปฏิเสธเขา
“นี่คืองานอีกใช่ไหม”
“ต้องบอกว่าคืองานค่ะ”
“แล้วมันนานเท่าไหร่กว่าจะจบ”
“ฉันบอกไม่ได้หรอกค่ะคุณภู”
“บอกไม่ได้หรือตัวเองอยากกระโจนตัวลงไปในหลุมลึกของความมืดมนนี้อีกนาน ชลัย”
เขาถามเสียงตำหนิและไม่พอใจ
“เอ้อ” กลายเป็นหล่อนเงียบ
จากนั้นภูอนลเป็นคนตัดสายปิดสนทนา
หล่อนไม่พร้อมชี้แจงเขา คงปล่อยให้เธออารมณ์ดีก่อน
คุณศิริวรรณฉวีโทร.มาหาลูกชายในเวลาสองทุ่ม ที่โรงแรมที่พักที่เธอเดินทางมาสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจ พร้อมด้วยพนักงานบริษัทอีกสามสี่คน พรุ่งนี้ตอนใกล้บ่ายจะกลับกรุงเทพ
"แม่นอนไม่หลับ ภูยังไม่นอนใช่มั๊ยลูก"
"ครับ" เขาพยักหน้า แล้วบอกท่านอีก
"ทางนี้เรียบร้อยดีครับ"
เช้าต่อมา ในวันนี้ภูอนลตื่นสาย เมื่อคืนคุยกับมารดาก็ไม่ดึกนัก และท่านเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพช่วงบ่าย
เสียงภูอนลดังขึ้นก่อน เมื่อชิดชลัยยอมรับสาย
"ยอมรับสายแล้วใช่มั๊ย"
"ค่ะคุณไม่ใช่ยักษ์มารหรือผู้ร้ายนี่คะ ฉันไม่ได้กลัว”
“แล้วที่ไม่รับสาย”
“มีเหตุผลส่วนตัวค่ะ”
"ยักษ์หรือ นี่คงเห็นผมเป็นยักษ์มารสินะ"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ" หล่อนท้วงคำพูดเขา
"ก็แล้วทำไม" เขาถามเสียงตึง
"ก็ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ" หล่อนกลับตอบเขากวนแบบนั้น
"นี่ ผมไม่ได้ต้องการคำยียวนนะชิดชลัย"
เหมือนเขาเริ่มโกรธแล้ว แสดงชัด
แต่หล่อนกลับหัวเราะ สามารถทำให้เขาโกรธได้
"ความสำเร็จของฉันคือยั่วให้คุณโกรธได้นี่คะ ภูอนล"
"ฮึ" เขาเยาะด้วยน้ำเสียง
"หัวเราะออกมาบ้างเถอะค่ะ ยิ้มออกมาบ้าง ไม่ใช่มึนตึงอย่างนั้น"
"คุณจะให้ผมทำยังไง นัดเจอคุณเดี๋ยวนี้มั๊ย"
"โอ ไม่ค่ะ ดึกแล้ว ฉันอยู่ที่บ้าน"
เขาแค่ทดสอบอารมณ์ของหล่อนเท่านั้นเอง
"แล้วถ้าผมอยากจะไปล่ะ คุณจะออกมาพบผมได้ไหม"
เหมือนเขาดึงดันในอารมณ์
"โอ คงไม่ใช่อย่างนั้นใช่ไหมคะ ภูอนล"
หล่อนตกใจไม่น้อย กลัวว่าเขาจะเอาจริง ถ้าจะให้หล่อนมาหา อารมณ์ห่ามมุทะลุบางครั้งของเขาแบบนี้
"คุณแทบทำให้ทนไม่ได้" เขาเอ่ยออกมา
"มันหมายความว่ายังไงคะ"
"ก็อย่างที่พูด ผมขอตีตราจองคุณเอาไว้"
หล่อนยิ้ม เพราะใจของหล่อนก็เรียกร้อง ถ้าเป็นแบบนี้
"รู้ไหม ผมคิดถึงคุณแค่ไหน"
"ฉันก็คิดถึงคุณค่ะ"
แล้วเขาก็เงียบพร้อมตัดบทสนทนา
"กู๊ดไนท์นะ"
"ค่ะ กู๊ดไนท์"
ชิดชลัยตอบกลับเขาเช่นเดียวกัน
วันใหม่วันนี้ ต้องไปพบกับธวินดาอีกครั้ง หญิงสาวคนนั้นจะวางแผนการ คุยอย่างคร่าวๆ ก็สิ่งที่ชิดชลัยต้องการ เธอก็ทำผ่านมาแล้ว
ถือว่าเรื่องแค่นี้ ขี้ปะติ๋ว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ช่วงบ่ายนี้ จะเรียกเธอไปเพื่ออะไร เมื่อเจ้าของเงินต้องการแบบนี้ ชิดชลัยก็ไม่ขัด ทำอย่างนี้เพื่อ.. ธวินดาขอให้เธอไปพบที่บ้าน แม้รู้สึกเหนื่อยและเซ็ง