EPISODE – 01 / 3

3434 คำ
“นี่หล่อน ด่าใคร คิดจะหาเรื่องเหรอ เมาแล้วเรื้อนเหมือนหมาแบบนี้ อยากโดนตบให้หายสร่างเมามั้ยยะ” เอาแล้วไง หนึ่งในผู้หญิงที่นั่งโต๊ะข้างๆ ที่ยัยเดียร์ร้องด่าเมื่อกี้เดินสาวเท้าเข้ามาอย่างเอาเรื่อง “อ้าว ชะนีมีนอ อยากกลับไปฉีดโบท็อกซ์ใหม่เหรอคะ เพื่อนฉันเมาไม่เห็นไง” “…” “ไม่เคยได้ยินสุภาษิต อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมาหรือไงยะ” นุชชี่ด่ากราดให้ผู้หญิงพวกนั้น “อีตุ๊ดควาย หุบปากเหม็นๆ แกไปเลย ฉันไม่ได้หาเรื่องแก ฉันถามยัยขี้เมาตรงนั้น” หล่อนชี้นิ้วมายังนาเดียร์ ผู้ก่อสงครามและตอนนี้หลับไปแล้ว “สงสัยวันนี้จะได้กินเลือดแรดแถวนี้แล้วล่ะโว๊ย”นุชชี่เริ่มจะเลือดขึ้นหน้า ‘ตุ๊ดควาย’ เป็นคำต้องห้ามของยัยนุชชี่เชียวนะ “กรี้ดดดดด ใครแรดยะ อีตุ๊ด” ผู้หญิงคนที่กำลังจะมีเรื่องกับพวกเรากรีดร้องเสียงแหลมขึ้น เพี้ยะ!! เพี้ยะ!! เพี้ยะ!! นุชชี่เป็นพวกไม่ค่อยชอบพูด นางเลยเดินเข้าไปตบหน้าผู้หญิงที่ด่าเธอว่าตุ๊ดควายไปสามที และตอนนี้เพื่อนเธอเจ็ดคนก็รีบลุกจากโต๊ะมาสมทบ “เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้นน่ะ หยุดเลยนะห้ามตีกันในคลับ” มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมาแต่ไกล เขารีบวิ่งฝ่าวงล้อมเข้ามาหยุดยัยนุชชี่กับกลุ่มผู้หญิงคนนั้นไว้ “อย่าเสือ..ก” ยัยนุชชี่ยังพูดไม่ทันจบก็ “กรี้ดหล่ออ่า หล่อมาก” -_-‘ ให้ตายสิ ยัยนี่เห็นผู้เป็นไม่ได้นะยะ เปลี่ยนอารมณ์เร็วจริง “อ้าว เฮ้ยยัยปากจัด” สักพักผู้ชายคนเดิมก็ร้องอุทานขึ้น สายตาเขามองจ้องยัยเดียร์ที่นอนหลับตะแคงหน้าฟุบลงที่โต๊ะ “เอ่อ... รู้จักเพื่อนฉันเหรอคะ” มันอดสงสัยไม่ได้ ฉันเลยถามเขา “หึ รู้จักดีเลยล่ะ ยัยแสบปากจัด นาเดียร์” เขาพูดพร้อมกับแค่นยิ้ม นี่สองคนนี้ไปรู้จักกันตอนไหน? ทำไมแก้มใสไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวได้เห็นดีแน่ยัยเดียร์ แอบซุกผู้ชายไว้ใช่ไหม ได้โอกาสแก้มใสสอบสวนคืนแล้ว “แล้วนี่ทำอะไรกัน” ผู้ชายคนเมื่อกี้ถามต่อ “ก็ยัยบ้าที่เมาเป็นหมาขี้เรื้อนตรงนั้น มาด่าพวกเรา เฮียไททันต้องจัดการให้พวกเรานะคะ” คนที่ถูกนุชชี่ตบเอ่ยบอกไป “หมาขี้เรื้อนบ้านแกสิ อีซิลิโคนก๊อป” นุชชี่ใช้น้ำเสียงโมโหว่าให้ผู้หญิงคนนั้น ฉันก็โกรธนะ ทำไมต้องใช้คำรุนแรงแบบนั้นด้วย ยัยเดียร์ไม่ได้ตั้งใจว่าพวกเธอสักหน่อย “พอๆ คงแค่เรื่องเข้าใจผิด เฮียขอละกัน แยกย้ายกันเถอะนะ คลับเฮียห้ามมีเรื่องทุกคนไม่รู้?!” เหมือนจะเป็นคำถาม แต่น่าจะเป็นประโยคคำสั่งมากกว่า “ฝากไว้ก่อนเหอะ อีตุ๊ด” ก่อนจะไปพวกนั้นยังไม่วายด่าฝากฝังไว้ “ รีบมาเอาคืนนะยะ ซิลิโคนก๊อปแบบแกฝากไว้นานมันจะหมดอายุได้” “กรี้ดดด!!!!” และนั่นก็เป็นเสียงสุดท้ายของคนกลุ่มนั้น เฮ้อ!! จบสักที “เอ่อ ขอบคุณนะคะที่ช่วยพูดให้” ฉันหันมาขอบคุณผู้ชายที่เข้ามาไกล่เกลี่ย “ไม่เป็นไรครับ คลับเฮีย เฮียก็ต้องดูแล” อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเจ้าของคลับ มิน่าพวกนั้นถึงดูเกรงๆ “ยังไงแก้มก็ขอโทษแทนเพื่อนๆ ด้วยนะคะ ที่สร้างเรื่องให้วุ่นวาย” ฉันเอ่ยขอโทษเขาออกไป เพราะพวกเราผิดจริงๆ “ช่างเถอะ แล้วนี่จะอยู่ต่อหรือกลับเลย เฮียจะได้ให้คนพาไปส่ง” “นอกจากหล่อดั่งเทพบุตรแล้ว ยังน้ำใจงามอีกสเปคนุชชี่เลยฮร้า” นุชชี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตาเยิ้มหวาน ไม่รู้จินตนาการไปถึงไหนตอนที่มองเจ้าของคลับ แต่ฉันก็คิดเหมือนกับยัยนุชชี่นะ เขาหล่อจริงๆ นั่นแหละ “กลับเลยแล้วกันค่ะ เดี๋ยวขอเช็คบิลเลยแล้วกันนะคะ” ฉันบอกความประสงค์ให้เจ้าของคลับฟัง “ฉัน ไททัน นะ” จู่ๆ เขาก็แนะนำตัวขึ้นมา หือ ชื่ออย่างเท่อะ “นุชชี่ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” อิตุ๊ดตัดหน้าค่ะ ฉันกำลังจะอ้าปากแนะนำตัว ยัยนี่ก็ชิงตัดหน้าซะก่อน เห็นหล่อๆ ไม่ได้เลยนะยะ คิดจะเก็บเรียบเลยสิท่า “ครับ... แล้วคุณ” เฮียไททันตอบนุชชี่คำเดียว แล้วเบนหน้ามามองฉัน “แก้มใสค่ะ เรียกแก้มเฉยๆ ก็ได้” “แก้มใส น่ารักจัง จีบได้ป่ะ” นี่ไม่ใช่เสียงไททันค่ะ แต่เป็นผู้ชายอีกคนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ดูๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน “เอ่อ คือ” ฉันได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ เพราะตั้งรับไม่ทันกับประโยคนี้ “ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้เฮงซวย” เดียร์ที่นอนเมาคอพับโพล่งด่าใครสักคน “เอ่อ ขอโทษนะคะ เพื่อนฉันคงไม่ได้ด่าพวกคุณ” ฉันยิ้มแหยๆ ส่งให้พวกเฮียไททันไปเพราะกลัวเขาจะคิดว่ายัยเดียร์ว่าให้ “ไม่หรอกครับ ด่าเฮียเต็มๆ” เฮียไททันพูดแบบนี้แสดงว่ารู้จักกันจริงงั้นเหรอ แล้วทำไมยัยเดียร์ต้องด่าเฮียไททันด้วย คอยดูเถอะสร่างเมาเมื่อไหร่ แม่จะจับซักไซร้ให้หมดเปลือกเลย “งั้นพวกเราขอตัวนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้อีกครั้ง” ฉันบอกลาเฮียไททันและเพื่อนอีกคนของเขา ก่อนจะเดินออกมา เหมือนจะเห็นอีกคนยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายกะล่อนๆ ที่ขอจีบฉันเมื่อกี้ พอมองเห็นเขาแล้วทำให้ฉันคิดถึงโซลขึ้นมาทันที ท่าทางเขาเหมือนกันมาก นิ่งๆ ดูเย็นชาและเยือกเย็น @KM-Flowers ภายในร้านดอกไม้ที่มีดอกไม้สดมากมายหลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ในตู้กระจกห้องเก็บอุณหภูมิ แทนที่บรรยากาศภายในร้านจะอบอุ่น หอมกรุ่นไปด้วยหมู่มวลดอกไม้แต่เปล่าเลย... เพราะตอนนี้เจ้าของร้านเคเอ็มฟลาวเวอร์อย่างแก้มใสคนนี้กำลัง... กริ๊งงงง... กริ๊งงงง ไม่รู้ว่าเสียงโทรศัพท์ของทางร้านดังกี่รอบแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันเปิดร้านมา และทุกครั้งที่ฉันรับสายก็ต้องหูชากลับมาทุกที “สะ สวั...” [นี่เธอ ฉันสั่งดอกป๊อปปี้นะ แล้วทำไมถึงส่งดอกลิลลี่มาล่ะ แบบนี้ฉันจะใช้ทันงานได้ไงฮะ ทำไมถึงทำงานไม่เรียบร้อยแบบนี้ เสียแรงที่ไว้ใจ] เห้อ!! ฉันได้แต่ถอนหายใจ เฮือกแล้วเฮือกเล่า วันนี้ทั้งวันฉันทำงานพลาดตั้งแต่ออเดอร์แรกจนล่าสุดสายนี้ ให้ทำไงได้ จิตใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย มันล่องลอยไปหมด คิดถึงแต่ผู้ชายใจร้าย นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว เขาไม่ยอมติดต่อมาหาฉันเลย โทรไปก็ไม่ติด ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า พอยิ่งคิดมากน้ำตาก็พาลจะไหล ไม่ใช่ว่าเขาได้ครั้งแรกฉันไปแล้วเลยเบื่อหรอกนะ ไม่ๆ โซลไม่ใช่คนแบบนั้นฉันเชื่อใจเขา “แก้มต้องขอโทษมากๆ เลยนะคะ วันนี้แก้มไม่ค่อยสบาย เลยเบลอนิดหน่อย เดี๋ยวแก้มให้คนส่งดอกไม้ไปให้ใหม่นะคะ” ฉันแก้ตัวแบบนี้ทั้งวันเลยนะ บอกตรงๆ มันไม่มีคำแก้ตัวอื่นเลย เพราะฉันคิดไม่ออกจริงๆ จะให้บอกลูกค้าว่าเพราะมัวแต่คิดเรื่องแฟนเลยทำให้ส่งดอกไม้ไปผิดงั้นเหรอ ร้านฉันได้เจ๊งพอดี แต่ลูกค้าฉันก็น่ารักนะ ทุกคนเขาก็โอเคอาจจะมีหงุดหงิดและโกรธในทีแรก แต่ก็เพราะว่าฉันเพิ่งทำงานพลาดครั้งแรก พวกเขาเลยให้อภัย โล่งอกไปที ตื่อดึง ไลน์!! หลังจากวางสายลูกค้ากำลังจะไปจัดดอกป๊อปปี้ที่ฉันส่งผิดไปให้ เสียงไลน์จากมือถือฉันก็ดังขึ้น ไม่อยากเปิดอ่านเลยแฮะ เพราะคงไม่ใช่คนที่ฉันคิดถึง? Seoul Love : อยู่ไหน ฮึกๆ แทบน้ำตาร่วง หลังจากที่เปิดอ่านไลน์แล้วเห็นว่าใครส่งมา Kamsai Love : หายไปไหนมา รู้มั้ยว่าแก้มเป็นห่วง Seoul Love : …. โซลเปิดอ่านแต่ไม่ยอมตอบคำถามฉัน Kamsai Love : แก้มอยู่ร้าน จะมาหาเหรอ? Seoul Love : …. เหมือนเดิม โซลอ่านแล้วแต่ไม่ตอบ ต้องการอะไรกันแน่ เล่นอะไรอยู่หายไปตั้งนาน ไลน์มาหา พอคนเขาคุยด้วยก็ไม่ยอมตอบอะไรมาเลย ครั้งนี้ฉันจะโกรธจริงๆ แล้วนะ จังหวะที่ฉันกำลังจะส่งข้อความกลับไปหาเขาแบบงอนๆ เขาก็ตอบกลับมาแบบสั้นๆ แต่เล่นเอาฉันยิ้มออกเลยล่ะ Seoul Love : อีก 20 นาทีถึง เตรียมปิดร้านด้วย เดี๋ยวไปรับ ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ฉันดีใจหัวใจแทบวาย จะได้เจอหน้าเขาแล้วในรอบหลายวันที่ผ่านมา ดีแล้วแก้มใสที่แกยังเชื่อมั่นผู้ชายคนนี้ ก็โซลน่ะไม่เคยทำให้แกผิดหวังอยู่แล้วนี่ ไม่รอช้าฉันรีบจัดช่อดอกป๊อปปี้แล้วก็ให้เด็กที่ร้านเอาไปส่งให้ลูกค้าคนเมื่อกี้ จากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จ ก็สั่งเด็กคนงานที่เหลือให้เฝ้าร้านแล้วก็ปิดร้านตามเวลาปกติเพราะฉันคงไม่เข้ามาแล้ว ปี้นๆ ฉันยืนรอโซลที่หน้าร้านไม่นาน รถปอร์เช่สีน้ำตาลไหม้เงาวับก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน โซลเลื่อนกระจกฝั่งคนนั่งลงแล้วพยักหน้าเป็นเชิงสั่งให้ฉันขึ้นรถ เฮ้อ!! จะมีมุมหวานกับเขามั่งไม่ได้เลยใช่ไหม จะลงมาทักทายแล้วเปิดประตูให้ฉันเหมือนเจ้าหญิงหรือนางเอกนิยายหน่อยไม่ได้เลยหรือไง ฉันได้แต่คิดน้อยใจแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที “จะพากะ แก้ม ไปไหนเหรอ” ฉันได้แต่เอื้อนเอ่ยคำพูดท้ายประโยคอย่างแผ่วเบา เมื่อหันมาเจอแววตาเย็นชาคู่นั้น เฮือก!! ฉันสูดอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด สายตาแบบนี้อีกแล้ว สายตาดุกร้าวและเย็นชา พักหลังๆ ฉันเห็นบ่อยมากๆ เลยนะ โซลที่อบอุ่นหายไปไหนแล้ว ฉันไม่ค่อยรู้สึกถึงความอบอุ่นจากโซลมาเกือบจะเดือนแล้วนะ ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่กับโซลเวอร์ชั่นนี้เลย “คลับ” เขาตอบกลับมาสั้นๆ แล้วก็เหยียบคันเร่งรถมุ่งไปข้างหน้า คลับงั้นเหรอ? คลับไหน? นี่มันเพิ่งจะหกโมงเย็นเองนะคลับที่ไหนจะเปิดกันเล่า ฉันก็แค่คิดล่ะ ไม่กล้าถามออกไปหรอก ก็ดูรังสีความเยือกเย็นที่แผ่ออกมาสิ บอกเลยแอร์ในรถที่ว่าเย็น ความเยือกเย็นจากตัวเขาที่แผ่ออกมามีมากกว่าเท่าตัว ฉันนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิก แม้แต่หายใจแรงๆ ฉันยังทำไม่ได้ ไม่นานเขาก็ขับรถเลี้ยวเข้าสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นคลับที่เขาบอกว่าจะพามาก่อนหน้านี้ แต่นี่มัน... ทีเอสคลับ​ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ​ นี่เป็นคลับที่เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันมาเที่ยวกับยัยนุชชี่และยัยเดียร์ แล้วก็ดันสร้างเรื่องไว้ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้มาเหยียบอีกเลย ให้ตายเหอะ ใครจะไปกล้าเข้าไปล่ะ ถึงมันจะผ่านมานานแล้วก็เถอะฉันกลัวคนจะจำฉันได้อยู่ “ลงไป จะล็อกรถ” นั่นคือคำสั่งใช่ไหมน้ำเสียงเรียบแต่ดุมาก ฉันไม่กล้าขัดใจเขารีบก้าวเท้าลงจากรถแล้วไปยืนรอข้างๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาเข้าไปในคลับเลยหรือว่ายังไง เลยยืนรอมันตรงนี้ก่อนแล้วกัน โซลล็อกรถเสร็จก็เดินมาจูงมือฉัน ลากเข้าไปด้านในคลับที่ตอนนี้ พนักงานเริ่มจะจัดร้านกันอยู่ เดี๋ยวนะ!! แล้วทำไมโซลถึงเข้านอกออกในคลับนี้ได้ง่ายๆ เลยล่ะ “โซล” ฉันเรียกเขา ทำให้โซลใช้หางตามองมาอย่างเรียบๆ แล้วยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไร’ แต่สองขายังก้าวต่อไปเรื่อยๆ “เราเข้าไปแบบนี้ เจ้าของร้านเขาจะไม่ว่าอะไรเหรอ ดูเหมือนร้านจะยังไม่เปิดนะแก้มว่า...อึก” ฉันยังพูดออกไปไม่จบดี แววตาเย็นชาของบุคคลที่ฉันถามก็ตวัดกลับมามองแทบจะทันที ทำให้ต้องกลืนคำพูดทุกอย่างที่จะเอื้อนเอ่ยลงไปในลำคอแทน “พูดมาก เข้าได้แล้วกัน” เขาตอบแบบหงุดหงิด ลากฉันขึ้นไปชั้นสองของคลับ “รอตรงนี้ก่อน ฉันไปหาเฮียแป๊บ” โซลลากฉันมานั่งที่โซฟามุมหนึ่งบนชั้นสอง แล้วก็เดินขึ้นไปบนชั้นสามอีกที ดูเหมือนโซลจะรู้จักกับคนที่นี่ดีนะ แลดูเส้นใหญ่ เพราะตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา พนักงานทุกคนที่เจอโซลต่างก็ก้มหัวให้ทุกคน ตั้งแต่คบกับโซล ฉันก็ไม่รู้เรื่องส่วนตัวอะไรเขามากหรอก รู้แค่ชื่อเขา อายุ คอนโดที่เขาพักอยู่ แต่ไม่ค่อยจะให้ฉันไปหาเท่าไหร่ เขาบอกแค่ว่า ถ้าอยากเจอเขาจะมาหาฉันเอง ไม่อยากให้ฉันขับรถไปไกลมันอันตราย หลังจากนั่งรอที่โซฟาบนชั้นสองไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินถือผลไม้และเครื่องดื่มมาให้ “เฮียโซลบอกให้ทานรอไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเฮียแกคุยธุระเสร็จจะลงมาหา” เขาน่าจะเป็นบาร์เทนเดอร์ประจำคลับแห่งนี้ล่ะมั้ง การแต่งกายด้วยเสื้อสีขาวมีเสื้อกั๊กสีดำทับอีกชั้น ผูกโบว์ดำที่คอ หน้าตาเด็กอยู่เลยนะ สิบแปดหรือยังเนี่ย? “พี่สาวมีอะไรหรือเปล่าครับ เห็นจ้องหน้าผมนานแล้ว” ยิ้มเก่งชะมัด รอยยิ้มดูสดใสขี้เล่นมาก “อ้อ ปะเปล่า” ฉันได้แต่ยิ้มแหยๆ ตอบกลับไป น่าขายหน้าชะมัดเลยยัยแก้มใส “ฮ่าๆๆ” จู่ๆ เด็กคนนั้นก็หัวเราะออกมา สงสัยฉันจะทำตัวตลกให้ขายหน้าตัวเองอีกแล้วสินะ “เฮ้ยๆ พี่สาวเป็นไรครับ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย” เขาถามฉันกลับมา ตอนนี้ฉันรู้สึกอายยังไงไม่รู้ โดนเด็กจับได้ว่าจ้องหน้าเขาจังๆ แบบนี้ “ผมชื่อ เอ็กซ์ นะฮะ” เด็กคนนั้นแนะนำตัวกับฉัน “กะ แก้มใสจ้ะ” เพื่อไม่ให้เสียมารยาทฉันเลยบอกชื่อตัวเองออกไป “หึ หายไปไม่ถึงสิบนาที กำลังหาคนใหม่อยู่เหรอ” เสียงโซลดังขึ้น ดึงให้สายตาของฉันกับเอ็กซ์หันไปมองขวับพร้อมกันทันที “โด่ว เฮียโซลก็ปากหมาผมแค่เอาผลไม้มาให้พี่สาวแค่นั้นเอง” เอ็กซ์บอกออกไป แต่ดูสีหน้าเขาไม่สะทกสะท้านกับสายตาเย็นชาที่จ้องเขาอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ป้าบ! โซลตบหัวเอ็กซ์ไปหนึ่งที หลังจากที่เขาพูดจบคำเมื่อกี้ สงสัยจะหมั่นไส้ที่โดนเด็กปีนเกลียว แต่ดูท่าเอ็กซ์จะชอบใจนะ หน้าเขาไม่ได้บ่งบอกว่ากลัวโซลเลยแม้แต่น้อย “ลามปามดูรุ่นด้วย ถ้าจะปีนเกลียวก็เลิกเรียกเฮียไปเลยไอ้เอ็กซ์” “โด่เฮีย ผมก็แค่ล้อเล่นเองน่าผมน่ะรักเฮียจะตายชัก” “คิๆ” ฉันเผลอหลุดหัวเราะออกมา เพิ่งเห็นมุมนี้ของโซลเป็นครั้งแรกน่ะ เมื่อกี้เหมือนเขาจะโหด แต่ฉันรับรู้ถึงความรักและเอ็นดูเอ็กซ์จากโซล คงจะสนิทกันน่าดู “ขำอะไร เดี๋ยวเจอดี” ฉันรีบหุบยิ้มแทบจะทันที เย็นชาเชียวนะสายตาน่ะ ช่วยมองฉันด้วยแววตาอบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เลยหรือไงกัน ฉันคิดถึงแววตาอบอุ่นคู่นั้นนะโซล “แล้วคุยธุระเสร็จแล้วเหรอ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง “อื้ม จะกลับเลยไหมหรือจะอยู่ก่อน” โซลถามความเห็นจากฉัน เอาไงดีนะ ถ้าบอกว่ากลับ เขาจะพาฉันกลับคอนโดแล้วก็ขอตัวกลับเหมือนกันใช่ไหม แบบว่ากลับไปแล้วก็ติดต่อไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้ จังหวะที่ฉันกำลังรบรากับความคิดแปลกแยกนั้นอยู่ ก็มีเสียงหนึ่งฟังดูคุ้นๆ ทักขึ้น “อ้าว นึกว่าไอ้เสือควงสาวที่ไหนมา ที่แท้ก็เพื่อนยัยปากจัด” ฉันมองตามต้นทางของเสียงนั้นแทบจะทันที “คุณ” นี่มันคนที่ช่วยฉันเคลียร์เรื่องที่ยัยเดียร์ก่อไว้ในคลับเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่ “รู้จักกัน?” โซลโพล่งถามออกมา แต่สายตาไม่ได้มองฉัน เขากำลังมองคนที่เพิ่งมาใหม่ “อื้มใช่ อาทิตย์ก่อนมาเที่ยวคลับแล้วมีเรื่อง” ผู้ชายคนนั้นตอบโซล “มีเรื่อง?” โซลใช้หางตาดุๆ มองมาทางฉัน “เฮ้ย ไม่มีไรมาก แค่เพื่อนยัยนี่เมาแล้วพ่นไฟด่าเขาไปทั่วแค่นั้น” เฮียไททันรีบบอกความจริงวันนั้นให้โซลฟัง แล้วหันมาถามฉันต่อ “แล้วนี่ จำเฮียได้มั้ย... เฮียไททันไง” “จำได้ค่ะ เฮียไททัน เจ้าของคลับ” ฉันตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ “หึ แรด” “มึงว่าอะไรนะ เมื่อกี้เฮียฟังไม่ค่อยชัด” โซลพูดอะไรสักอย่างออกมาเบาๆ เหมือนเขาแค่พูดกับตัวเองทำให้เฮียไททันหันไปถามน้ำเสียงชวนสงสัย “เปล่า ไม่มีอะไร แล้วลงมาทำไม ไหนตอนแรกบอกจะเคลียร์งานต่อ” โซลเหมือนเปลี่ยนเรื่องแล้วถามเฮียไททันแทน “ตอนแรกก็ว่าจะเคลียร์ต่อ แต่มีเด็กบอกว่าลูกพี่พวกมันควงสาวมา เลยลงมาดู นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพื่อนยัยปากจัดนั่น” เฮียไททันน่าจะพูดถึงยัยเดียร์ เพราะวันที่มีเรื่องเขาก็เรียกยัยเดียร์แบบนั้น “ขี้เสือก!!” โซลพูดแล้วตวัดสายตาดุปนเยือกเย็นมองไปรอบๆ พนักงานหลายคนที่กำลังสนใจพวกเราอยู่ รีบลนลานกลับไปทำงานกันขาแทบขวิด “แฟนเหรอ แปลกใจไม่เคยคิดว่าเสือล่าแต้มแบบมึงจะคบใครเป็น” เหมือนเฮียไททันจะพูดแซะโซลนะฉันว่า “ถามดูสิ... นี่ ฉันกับเธอเราเป็นอะไรกัน” ประโยคแรกโซลพูดกับไททัน แล้วก็หันมาสะกิดไหล่ฉันพร้อมกับพูดประโยคท้าย “เอ่อ คือเรา...” ฉันตั้งตัวไม่ทันเลยพูดติดๆ ขัดๆ “ได้ข่าวเฮียถามคุณมึงนะไอ้เสือ” เฮียไททันคงเห็นสีหน้าเหลอหลาของฉัน เขาเลยหันไปพูดกับโซลเป็นเชิงว่านิดๆ “ก็ตามนั้น” “มึงช่วยชัดเจนหน่อย” เฮียไททันว่าให้พร้อมทั้งตบบ่าโซลเบาๆ ใช่ ช่วยชัดเจนหน่อยได้ไหม แล้วนี่ฉันเป็นอะไรแค่เขาไม่ยอมพูดคำว่า ‘แฟน’ หรือ ‘กำลังคบกันอยู่’ ออกมา ทำไมถึงรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้เลย “แล้วนี่คบกันนานยัง” เฮียไททันเบนหน้าหันมาคุยกับฉัน คงเบื่อที่จะซักถามคนเย็นชาแบบโซลแล้วมั้ง “อาชีพใหม่มึงเหรอเฮีย” โซลพูดออกมาเบาๆ เหมือนจะเป็นระฆังช่วยฉันเลยล่ะ เพราะฉันไม่รู้จะตอบเฮียไททันกลับไปยังไงเหมือนกัน มันรู้สึกเขินๆ น่ะ และนี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันได้รู้จักเพื่อนคนแรกของโซล “เออ มึงก็รู้เฮียชอบกินเผือก เผือกมันส์ๆ ใครจะไม่ชอบวะ” “เหอะ!!” โซลแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับยกเครื่องดื่มที่เอ็กซ์ยกมาให้ฉันก่อนหน้ามานั่งดื่มแบบชิวๆ “เออๆ เฮียไม่กวนแล้วเผื่ออยากสวีทกัน ได้เผือกแค่นี้ก็อิ่มไปถึงเย็นแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคนสวย” พูดจบเฮียไททันก็เดินกลับขึ้นไปชั้นสาม พอเฮียไททันไม่อยู่บรรยากาศมันดูขะมุกขะมัวยังไงไม่รู้ฉันเลยเลือกที่จะถามออกไป “โซลพาแก้มมาที่นี่ทำไมเหรอ” “มาคุยธุระกับเฮียหน่อย ไม่ได้เข้าคลับนานเผื่อเฮียมันมีไรให้ช่วย” “…?..” ฉันขมวดคิ้วทำหน้างงกับคำพูดของโซลนิดๆ “ไม่ได้บอกเหรอ ว่าคลับนี้ฉันกับเฮียไททันเป็นหุ้นส่วนกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม