บทที่ 8 ทฤษฎีความน่าจะเป็น

1397 คำ
‘วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันนอนกับเธอ ฉันไม่ต้องการเธออีกต่อไปแล้ว’ เฮือก! จอมใจเบิกตาโพลงหลังตกอยู่ในห้วงฝันร้าย ฝันร้ายที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมันอีกครั้ง ดวงตากลมโตกวาดมองรอบข้างด้วยความสับสน เมื่อเห็นว่ายังอยู่ในห้องพักของเหนือสมุทรดังเดิม ไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นเหรอ มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ ทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ยิ่งเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพังก็ยิ่งประหลาดใจ เหนือสมุทรไม่ได้นอนกับเธอ อีกทั้งยังทำท่าราวกังวลว่าเธอจะกลัวเขา ถึงได้เว้นระยะห่างถึงเพียงนั้น ซึ่งมันผิดปกติ คนอย่างเขาน่ะหรือที่จะเห็นใจผู้หญิงต้อยต่ำแบบเธอ จอมใจถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะลุกนั่งขึ้นแล้วเหยียดแขนขาไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีกล่องกระดาษมากมายวางซ้อนกันไว้ตรงข้างเตียง หญิงสาวเอียงคอด้วยความสงสัย จากนั้นลุกเดินเข้าใกล้ก่อนที่นัยน์ตากวางจะฉายความประหลาดใจออกมา เธอลองเปิดกล่องที่อยู่ด้านบนสุดออก นี่มัน...เสื้อผ้า? จอมใจหยิบชุดออกมาจากกล่องก็พบว่าเป็นเดรสยาวสายเดี่ยวสีขาวไม่รัดรูป หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่เหนือสมุทรรู้รสนิยมของเธอ พลางคิดว่ามันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญ จึงลองเปิดกล่องถัดไป ทว่ายิ่งเปิดก็ยิ่งสับสน ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับส่วนใหญ่ล้วนเป็นในแบบที่เธอชอบทั้งสิ้น คนตัวเล็กจมลงสู่ห่วงความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเธอเผลอคิดว่าเขาก็ย้อนเวลากลับมาเช่นกัน “จะเป็นไปได้ยังไง” เสียงหวานครางเบา ๆ แต่มันก็ไม่มีอะไรมารองรับการกระทำที่เปลี่ยนไปของเขาเช่นกันนอกจากทฤษฎีนี้ หนทางเดียวที่จะหาคำตอบได้ คือต้องพิสูจน์ความจริง ทว่าอยู่ ๆ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทำให้คนตัวเล็กหันไปมองด้านหลังด้วยความตกใจ “คุณเหนือ...” เหนือสมุทรเห็นจอมใจตื่นแล้วก็ประหลาดใจ เขาตั้งใจว่าจะเข้ามาปลุกเธอ ให้เธอได้รู้สึกถึงความอ่อนโยนจากเขา จะได้ไว้วางใจเขามากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าจะต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว “ไปอาบน้ำสิ ฉันเตรียมอาหารเช้าเอาไว้แล้ว” เขาสั่งน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะรู้สึกว่าควรใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่านี้ จอมใจฟังแล้วก็ยิ่งตกใจ ความจริงคนที่เตรียมอาหารเช้าควรเป็นเธอต่างหาก ไม่ใช่เขา “ค่ะ...” กระนั้นก็ยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี หญิงสาวสุ่มหยิบชุดแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยความสับสน ไม่นานหญิงสาวก็กลับมาอีกครั้งด้วยชุดเดรสสายเดี่ยวตัวยาวสีขาวที่เห็นในครั้งแรก เธอเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงกำยำด้วยความลังเล หญิงสาวรู้สึกเกร็งเมื่อเหนือสมุทรสังเกตเห็น ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทว่าการกระทำของเขากลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง เหนือสมุทรจูงมือจอมใจมานั่งที่โต๊ะกินอาหาร จากนั้นเดินไปตักข้าวต้มปลาใส่ถ้วยแล้วนำกลับมาวางไว้ตรงหน้าหญิงสาว จอมใจมองการกระทำของเขาด้วยความหวาดระแวง ครั้นเผลอสบสายตาเข้าก็รีบหลบตา เลี่ยงมามองอาหารบนโต๊ะแทน “ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร มีอาหารที่แพ้หรือเปล่า” เสียงทุ้มถาม หากเป็นตัวเธอในอดีตคงรู้สึกกดดันไม่น้อยที่อยู่ๆ ก็ได้รับการเอาใจใส่ แม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอแพ้ทั้งปลาและอาหารทะเล ทว่าตอนนี้ต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจให้ได้ จะต้องทำให้เขาเบื่อหน่ายให้เร็วที่สุด “จอมแพ้ปลากับอาหารทะเลค่ะ อาหารพวกนี้จอมคงกินไม่ได้” อาหารตรงหน้าเธอมีทั้งข้าวต้มปลา และอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมันเป็นอาหารที่เหนือสมุทรชอบกิน ไม่ใช่เธอ หวนคิดแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอเป็นคนโปรดของเขาก็จริง แต่เขาคงโปรดปราณเธอเฉพาะเรื่องบนเตียงเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด ไม่รู้แม้กระทั่งเธอกินอะไรไม่ได้บ้าง เหนือสมุทรได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเหมือนทำความผิดครั้งใหญ่หลวงเข้าเสียแล้ว เขาจำได้ว่าจอมใจไม่เคยบอกว่าเธอแพ้อาหาร ทุกครั้งที่ร่วมมื้ออาหารก็ไม่เห็นเธอแสดงสีหน้ากังวลออกมา หรือบางทีอาจจะแสดงความกังวลออกมาแล้ว แต่เป็นเขาต่างหากที่ไม่เคยสังเกตเลยสักครั้ง ชายหนุ่มขบกรามแน่นด้วยความละอายใจ ก่อนหยิบจานอาหารทั้งหมดโยนลงถังขยะอย่างไม่ลังเล เคยได้ยินมาก่อนว่าแม้แต่ละอองเล็ก ๆ ของไอความร้อนจากอาหาร ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ร่างสูงคุกเข่าลงตรงหน้าคนตัวเล็กแล้วถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “จอมใจ ตอนนี้มีอาการแพ้หรือเปล่า ไปโรงพยาบาลไหม” จอมใจตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเหนือสมุทรโยนจานลงถังขยะ เธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะเอาใจใส่ขนาดนี้ โดยเฉพาะสีหน้าเป็นกังวลราวกับกำลังเผชิญเรื่องคอขาดบาดตาย เขาเคยมีสีหน้าแบบนี้ด้วยเหรอ จอมใจส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่ค่ะ” หญิงสาวตอบ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงขึ้นหลังสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากเขา หากตอนนั้นเขาเป็นห่วงเธอเช่นนี้บ้าง เธอคงหลงรักและคลั่งไคล้เขายิ่งกว่าเดิม แตกต่างจากตอนนี้ที่มีแต่ความระแวง ระแวงว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ถึงได้ทำดีกับเธอเช่นนี้ เหนือสมุทรเม้มปาก ยังคงไม่วางใจ พลางคิดว่าหลังจากนี้เขาควรจะใส่ใจจอมใจให้มากขึ้น “ยังไงก็ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเถอะ” จอมใจขมวดคิ้ว เข้าใจไปอีกทาง “คุณเหนือคิดว่าจอมติดโรคเหรอคะ” เหนือสมุทรเห็นอีกฝ่ายแสดงความไม่พอใจผ่านน้ำเสียงก็รีบอธิบาย “ไม่ใช่ ฉันแค่อยาก...” ดูแลเธอ แต่คำ ๆ นี้กลับติดอยู่ในลำคอ ตั้งแต่เกิดมาเหนือสมุทรไม่เคยเป็นห่วงใครมาก่อน เขายึดตัวเองเป็นที่ตั้ง พ่อของเขาสั่งสอนว่าหากมีจุดอ่อนในใจก็ต้องกำจัดทิ้ง ไม่อย่างนั้นจะถูกจับไปเล่นงานได้ ทว่าตอนนี้จอมใจคือจุดอ่อนเดียวของเขาซึ่งเขาจะไม่มีวันกำจัดเธอไป “วันนี้ตรวจร่างกายซะ ถ้าไม่ไปโรงพยาบาลกับฉัน ฉันจะเรียกหมอมาตรวจที่นี่” เขาสั่งเสียงเข้ม จอมใจหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ หากเป็นในอดีตเธอคงไม่กล้าขัดคำสั่งของเขา กลับกันแล้วยิ่งต้องรีบไปพิสูจน์เพื่อไม่ให้เขารังเกียจ หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงน้อยใจ “จอมไม่ได้ติดโรคจริง ๆ นะคะ ถึงจอมจะมาจากซ่อง แต่ก็ถูกหลอกมาขาย จอมรู้ว่าคุณเหนือซื้อตัวจอมมาแพงมาก ๆ ถ้าคุณเหนือไม่ไว้ใจ จอมยินดีตรวจค่ะ” เหนือสมุทรเห็นหญิงสาวน้ำตารื้นก็จับมือของเธอเอาไว้แล้วปลอบโยน “ไม่ต้องตรวจก็ได้ ฉันไม่บังคับแล้ว อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” “แต่คุณเหนือคิดว่าจอมอาจจะมีโรคก็ได้นี่คะ” คนตัวเล็กช้อนมองด้วยสายตาเว้าวอน ซึ่งมันเป็นสายตาที่เหนือสมุทรไม่ชอบเป็นอย่างมาก เวลาเธอมองเขาแบบนี้ทีไร เขาก็จะออกไปหาผู้หญิงคนอื่นทุกที “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยสักครั้ง! จอมใจ ฉันเชื่อเธอ” เหนือสมุทรกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จอมใจนิ่งไปด้วยความสับสน ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ล่ะ เขาควรจะมองเธอด้วยสายตาเบื่อหน่าย ไม่ใช่กระวนกระวายแบบนี้ ตัวตนของเหนือสมุทรในตอนนี้ทำให้จอมใจคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้ย้อนเวลา แต่อาจจะโดนสับเปลี่ยนวิญญาณก็ได้ เหนือสมุทรไม่มีทางยอมให้เธอเอาแต่ใจแบบนี้แน่ คุณเป็นใครกันคะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม