บทที่ 7 เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

1375 คำ
เหนือสมุทรอุ้มจอมใจไปวางบนเตียงอย่างนุ่มนวล ครั้นเห็นหญิงสาวยังระแวงอยู่ จึงผละตัวออกเพื่อเว้นระยะห่างให้อีกฝ่ายสบายใจ จากนั้นก็เข้าไปในห้องแต่งตัว มองหาเสื้อผ้าที่พอให้จะคนตัวเล็กสวมใส่ได้ ทว่ากวาดสายตามองรอบห้องแล้วกลับมีแต่เสื้อผ้าของผู้ชาย ก็ถอนหายใจ จะว่าไปแล้ววันแรกที่เขาพาจอมใจเข้ามาในห้อง เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสีหน้าและแววตาของเธอเป็นอย่างไร แต่คงหวาดกลัวเขาไม่ต่างจากตอนนี้ เพราะเขาเป็นคนซื้อเธอมาและทำเหมือนเธอเป็นแค่สิ่งของ เหนือสมุทรหยิบเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงตัวเล็กสุดที่หญิงสาวพอจะสวมใส่ได้ออกมา ก่อนเดินกลับไปหาคนที่รออยู่บนเตียง ด้านจอมใจยังคงรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อยกับการกระทำอันคาดไม่ถึงของเหนือสมุทร เธอจำได้อย่างชัดเจนถึงวันแรกที่เข้ามาในห้องของเขา วันนั้นเขาไม่ได้ให้ความสนใจเธอขนาดนี้ เขาลากเธอขึ้นเตียงเหมือนตุ๊กตายาง แต่เธออ้อนวอนเขาทั้งน้ำตาก็เลยรอดพ้นจากคืนแรกไป และด้วยความไร้เดียงสา ถึงได้ตกหลุมรักเขานับตั้งแต่นั้น เพราะหลงคิดว่าเธอพิเศษกว่าใคร เหนือสมุทรปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเท่าที่หามาได้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะเดินเข้าใกล้หญิงสาวอย่างช้า ๆ จอมใจขยับตัวถอยหลังด้วยความประหม่า “คุณ...” เหนือสมุทรชะงัก จำได้ว่าเขายังไม่ได้แนะนำตัวเอง จึงวางของใช้ลงบนเตียง “เหนือ จะเรียกแบบนั้นก็ได้” เขาคิดถึงช่วงที่จอมใจเรียกเขาเช่นนั้น เธอมักเรียกเขาด้วยเสียงหวาน ๆ และมีรอยยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันสุดท้ายที่ไล่เธอออกไป เธอก็ยังคงยิ้มให้เขาเช่นเดิม ยิ่งคิดถึงการกระทำร้ายกาจก็ยิ่งรังเกียจตัวเอง จอมใจมองคนตรงหน้าด้วยความลังเล เพราะความทรงจำกับสิ่งที่สัมผัสได้ในตอนนี้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “ค่ะ... คุณเหนือ” เสียงหวานตอบกลับแผ่วเบา วางใจลงเล็กน้อยเมื่อเขาไม่ได้มีท่าทางคุกคาม “ไปอาบน้ำแล้วค่อยนอน” ค่อยนอน? แสดงว่าเขาไม่คิดจะทำอะไรกับเธออย่างนั้นเหรอ ใบหน้าหวานช้อนมองคนตัวโตอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า หญิงสาวหยิบของที่เหนือสมุทรนำมาแล้วเดินไปยังห้องน้ำด้วยความเคยชิน เหนือสมุทรมองตามด้วยความประหลาดใจ เขาจำได้ว่าไม่ได้บอกว่าห้องน้ำอยู่ที่ใด เหตุใดจอมใจถึงเดินไปอย่างไม่ลังเล ทว่าความกังวลเหล่านั้นถูกกลบด้วยเสียงโทรศัพท์ จึงหยิบมันออกจากกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบขึ้นมาดู คิ้วเข้มขมวดเข้าเมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของใคร เพลงพิณ จะว่าไปตอนนี้เขาหมั้นหมายกับเพลงพิณแล้ว ส่วนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เลี้ยงไว้ก็เริ่มอยากแสดงตัวตน เขาจำภาพอนาคตอันแสนวุ่นวายในงานเลี้ยงของบริษัทได้ วันที่จอมใจถูกเพลงพิณกลั่นแกล้งแต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ เพราะไม่อยากมีปัญหากับบริษัทคู่ค้า ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสถานะการเงินของอีกฝ่ายมันย่ำแย่ขนาดไหน ที่หมั้นกับเขาก็เพราะต้องการใช้ชื่อเสียงของเขาอุ้มชูบริษัทตัวเอง ให้เขาร่วมหุ้นสัมปทานกลวง ๆ จนบริษัทของเขาติดร่างแหไปด้วย กว่าจะแก้ปัญหาได้ก็เกือบต้องเสียตำแหน่งประธานบริษัทไปแล้ว ทว่าคราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก ก่อนอื่นต้องจัดการเรื่องผู้หญิงทั้งหมดเสียก่อน รวมถึงเพลงพิณด้วย เหนือสมุทรตัดสายของเพลงพิณทิ้งไปอย่างไม่ไยดี จากนั้นโทรหาอนุวิตรเพื่อสั่งงาน [ครับ] “จัดการยกเลิกสปอนเซอร์ทั้งหมด ให้เงินไปคนละสิบล้านกับบ้านคนละหลัง แล้วให้เซ็นสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฉันอีก” อนุวิตรที่อยู่ปลายสายฟังคำสั่งแล้วเข้าใจทันที [ครับ] “เอาข้อมูลธนาคารของนายพิษณุ กับข่าวฉาวของเพลงพิณมาให้ฉันด้วย ฉันต้องการถอนหมั้นให้เร็วที่สุด” เหนือสมุทรสั่งเสียงเครียด [ได้ครับ] “แล้วก็ซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงมาด้วย” ชายหนุ่มตัดสายไปทันทีก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียง เขาพยายามทบทวนความทรงจำ แต่ก็ใช่ว่าจะจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเพราะเขาเป็นผู้กระทำ ผู้กระทำส่วนใหญ่ไม่เคยจดจำว่าตัวเองทำเลวทำชั่วอะไรกับใครไว้บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะกลับตัวเป็นคนดี เขาแค่ปกป้องจอมใจคนเดียวเท่านั้น จอมใจเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างระมัดระวังหลังชำระล้างร่างกายเสร็จแล้ว แต่ว่าชุดที่เหนือสมุทรนำมาให้นั้นมันหลวมเกินไป โดยเฉพาะกางเกงที่หลวมโพรกจนต้องดึงอยู่ตลอด เสื้อก็ตัวใหญ่เกินไป เมื่อเห็นเหนือสมุทรนั่งรออยู่บนเตียง หัวใจของหญิงสาวก็เต้นแรงขึ้น หรือว่าเธอจะต้องนอนกับเขาจริง ๆ เหนือสมุทรเกลียดผู้หญิงที่ชอบเรียกร้องความสนใจ บรรดาผู้หญิงของเขา เมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งล้ำเส้น เขาก็จะตัดทิ้งทันที ด้วยเหตุนี้จอมใจในอดีตจึงไม่เคยเรียกร้องหรืออ้อนวานเหนือสมุทรเลยสักครั้ง เพราะกลัวว่าเขาจะทอดทิ้งเธอเหมือนคนอื่น แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ทอดทิ้งเธอไปอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ จอมใจจึงคิดว่าควรจะเร่งเวลาขึ้นอีกสักหน่อย เรียกร้องความสนใจจากเขาให้มากขึ้น เธอจะได้กลับไปหาเด็ก ๆ ที่เธอคิดถึงโดยเร็ว “คุณเหนือคะ...” เสียงหวานเอ่ยเรียกแผ่วเบา เหนือสมุทรหันมองตามเสียง ครั้นเห็นจอมใจในชุดหลวมโพรกของตนเอง หัวใจที่เคยนิ่งสงบก็พลันกระตุกเต้นแรง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอางเติมแต่งก็ยังงดงาม จอมใจดูราวกับเด็กสาวไร้เดียงสาจนเขารู้สึกผิดบาปเมื่อคิดอกุศลกับอีกฝ่าย “จอม...” ชายหนุ่มเผลอครางชื่อของหญิงสาวด้วยความเคยชิน เมื่อรู้สึกตัวก็ลุกจากเตียงทันที “มานอนนี่สิ” จอมใจมองไปยังเตียงพลางพยักหน้า แสร้งทำเป็นเอียงอายเหมือนในอดีต ตอนนั้นเธอทั้งเขินอายในความหล่อของเขา และประหม่าเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ต้องปรนนิบัติ ทว่ามันผ่านมานานแล้ว จนเธอไม่มั่นใจว่าจะตอบสนองเขาอย่างไร้เดียงสาได้เหมือนเดิม หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลง วางมือทั้งสองลงข้างตัวแล้วเงยหน้ามองเจ้าของร่างสูงกำยำราวไม่รู้ความ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาไม่มองเธอเลยแม้แต่น้อย “คุณเหนือ... คุณจะไม่อยู่กับจอมเหรอคะ” เสียงหวานถามพลางทำเป็นใจกล้า ยื่นมือไปจับชายแขนเสื้อของเขาเบา ๆ เหนือสมุทรขบกรามแน่นอดกลั้นอารมณ์ร้อนรุ่มของตัวเอง แต่ก็นึกสงสัยว่าทำไมอยู่ ๆ จอมใจถึงได้ถามเขาแบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอหวาดกลัวเขาขนาดนั้น ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนหันมาตอบคนบนเตียง ครั้นเห็นกระดูกไหปลาร้าที่โผล่ออกมานอกคอเสื้อ ก็รีบเบนสายตาทันที “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก เหนื่อยมามากแล้ว นอนซะ พรุ่งนี้ค่อยพูดกัน” จอมใจมองนิ่ง เหนือสมุทรปฏิเสธเธอเหมือนครั้งก่อน แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ครั้งนั้นเขายอมรามือไปเพราะเบื่อที่เธอเอาแต่ร้องไห้ ส่วนครั้งนี้กลับปฏิเสธเพราะห่วงว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป นี่มันไม่ใช่แค่บางอย่างที่เปลี่ยนไป แต่เป็นตัวตนของเขาที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าเหนือสมุทรโดนผีสิงไปแล้ว มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ขนาดเรื่องที่เธอตายแล้วย้อนเวลากลับมา พูดไปใครจะเชื่อ “ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับก่อนล้มตัวนอนลง เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเหนือสมุทรคลุมผ้าห่มให้เธอ ถึงอย่างไรก็ไม่ชิน เหนือสมุทรมองเจ้าของใบหน้าหวานด้วยสายตาอ่อนโยน “ราตรีสวัสดิ์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม