ธันย์พาเติมฝันกลับมาที่คอนโดของตัวเองในเวลาต่อมา เขาต้องการที่จะเคลียร์เรื่องทั้งหมดกับหญิงสาวและดูเหมือนว่ามันจะยิ่งบานปลายเข้าไปใหญ่
เขาแสกนนิ้วเปิดประตูห้องก่อนจะกุมมือพาหญิงสาวเข้าไปข้างใน มือเล็กพยายามดิ้นออกจากการเกาะกุมของเขาแต่ก็ไร้ผลเพราะคนตัวเล็กอย่างเธอไม่อาจต้านทานแรงคนตัวโตแบบเขาได้
"ปล่อยฝันนะเฮีย"
เขาจับหญิงสาวไปนั่งลงบนเตียงนอนสายตาดุของคนขี้หวงจ้องหน้าหญิงสาวแทบไม่กระพริบตา เติมฝันเหลือบสายตาของเขาก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทางไม่อยากเห็นคนใจร้ายแบบเขา
"ทำไมทำอะไรไม่เคยปรึกษาเฮีย รู้รึเปล่าการเป็นดารามันเหนื่อยแค่ไหน เราต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนไหนจะต้องเปลืองตัวให้คนอื่นกอดจูบอีก รู้มั้ยว่าเฮียไม่โอเคมากๆที่หนูทำแบบนี้"
"แล้วไงคะ... ฝันเป็นดารามันดีต่อเฮียนะ"
"ดีต่อเฮียยังไง"
เขาจ้องหน้าหญิงสาวอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ การที่เธอทำแบบนี้นอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อเธอมันยังส่งผลทำให้เขาเสียสติหงุดหงิดพาลไปทั่วอีก เพิ่งรู้ว่าเขาหวงเธอมากก็ตอนนี้แหละกับผู้หญิงที่คุยเขายังไม่แสดงออกขนาดนี้เลย
"เฮียจะได้มีอิสระในการจะอยู่กับใครคบกับใครก็ได้โดยที่ฝันจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายเด็ดขาด ฝันจะทำงานเยอะๆจะได้ตัดใจจากเฮียได้สักที"
เธอไม่มีอะไรต้องปิดบังความในใจของตัวเองเพราะที่ผ่านมาเธอบอกเสมอว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถรับความรู้สึกนี้ไว้ได้เพราะฉะนั้นเธอจะเป็นคนจัดการความรู้สึกบ้านี่ออกไปด้วยตัวเอง
ธันย์เริ่มมีความกังวลกับสิ่งที่เธอพูดออกมาเพราะเขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เขาอยากให้เธอยังรักและอยู่กับเขาในขณะที่เขาเองกลับเห็นแก่ตัวอยากจะมีคนอื่น
"เฮียว่าเราควรคุยเรื่องความรู้สึกพวกนี้ด้วยกัน"
"เราเคยคุยกันแล้วค่ะและเฮียเป็นคนปฏิเสธที่จะไม่รักฝันแบบชู้สาว เฮียรักฝันแบบน้องซึ่งมันก็เข้าใจได้ค่ะทุกอย่างมันผิดที่ฝันเอง ผิดที่คิดกับเฮียเกินพี่น้องก็เลยต้องเจ็บคนเดียวเหมือนตอนนี้ไง"
เธอร้องไห้ออกมาเสียงสั่นพยายามแล้วที่จะตัดใจแต่ทุกอย่างมันกลับเป็นศูนย์เพราะท่าทีหึงหวงของเขาที่มีต่อเธอ บางทีการที่เขาทำแบบนี้มันไม่ต่างจากชายหนุ่มหึงหวงคนรักทั้งที่ปากเขาก็พูดว่ามันไม่ใช่แบบนั้น
ธันย์เริ่มมีความรู้สึกแปลกกับตัวเองทั้งความรู้สึกที่หึงหวงเธอจนออกนอกหน้าไหนจะเทผู้หญิงทุกคนเพียงแค่น้องสาวคนนี้ไม่ชอบ หรือว่าจริงๆแล้วเขารักผู้หญิงตรงหน้า
"โอเค... เฮียว่าความรู้สึกของเฮียตอนนี้อาจจะต้องพิจารณาใหม่"
เขาพยายามคุมสติเกินไปนั่งลงตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเล็กเอาไว้แน่นก่อนจะมองสบตาด้วยแววตาอ่อนโยน
"เฮียไม่ชอบเลยที่ฝันคุยกับผู้ชายคนอื่น และเวลาที่ฝันหนีหน้าไม่ยอมคุยกับเฮียมันทรมานมากเลยรู้มั้ย ฝันใจร้ายกับเฮียมาก"
"เฮียรู้มั้ยว่ามันคือความรู้สึกยังไง ถ้าคนเป็นแฟนกันเค้าเรียกหึงเข้าใจป่ะ"
"ไม่รู้อ่ะแต่เฮียเป็นกับฝันคนเดียวนะ"
เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะคิดได้ว่าตัวเองควรจะคิดไตร่ตรองเรื่องนี้ใหม่เพราะมีโอกาสมากที่จะตัดสินใจผิดพลาดเพียงแค่อยากลองสิ่งใหม่ ทั้งที่สิ่งที่มีอยู่มันก็ดีมากและดีที่สุดสำหรับเขา
"ฝันให้โอกาสเฮียแก้ตัวได้มั้ยคะ"
เติมฝันเริ่มลังเลกับความอ่อนโยนของชายหนุ่มอีกครั้ง และมันทำให้หัวใจของเธอพองโตเหมือนเขากำลังสารภาพรักกับเธอยังไงอย่างนั้น
"เฮียคิดว่าตัวเองอาจจะรักฝันแต่เราโตมาด้วยกันบางครั้งความรู้สึกมันอาจจะถูกมองข้ามไปไง ขอโอกาสให้เฮียแก้ตัวได้ป่ะ"
"เฮียรักฝันเหรอคะ"
หญิงสาวเริ่มมีความหวังกับสิ่งที่รอคอยมาตลอด เธอแค่คิดว่าเขาอาจจะมองข้ามสิ่งหนึ่งเพราะแค่คิดว่าเราโตมาด้วยกัน เธอรู้ว่าเขาแอบไปหาผู้หญิงคนอื่นอยู่บ่อยครั้งในขณะที่เราเป็นคู่หมั้นกันแต่เธอก็พยายามไม่คิดอะไรเพราะความเป็นผู้ชายก็คงมีความต้องการบ้างเพราะเธอให้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกรับไม่ได้และเสียใจทุกครั้งที่เขาไปกับคนอื่นถ้าเขาอยากให้ลงกับเธอยังดีซะกว่า ยิ่งนานวันความรู้สึกของเธอมันยิ่งถลำลึกมากขึ้นไปเรื่ิอยๆในขณะที่เขาก็ไม่รู้ใจตัวเองเลยคอยแต่มองหาคนอื่นลืมว่ามีเธออยู่ตรงนี้
"เฮียรักฝันอยู่แล้ว"
"แต่เฮียรักแบบพี่น้องใช่มั้ย"
"ไม่รู้สิเฮียว่ามันไม่น่าใช่แค่พี่น้องแล้วแหละ เฮียว่าเฮียรักฝันแบบผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งนะ"
เขาคิดว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดเพราะอาการแบบนี้มันไม่ใช่อาการของพี่น้องธรรมดาทั่วไป มันคืออาการของผู้ชายคนหนึ่งหึงหวงผู้หญิงจนออกนอกหน้า
"เฮีย...."
เขามองสบตาหญิงสาวก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ เชื่อมั้ยว่าเราสองคนเกือบจะมีความสัมพันธ์แบบเกินพี่น้องหลายครั้งมากแต่ก็หยุดกันได้เพราะมีเหตุการณ์บางอย่าง ริมฝีปากหนาขยับเข้าไปใกล้คลอเคลียแก้มนวลก่อนจะจูบริมฝีปากบางอย่างดูดดื่ม เติมฝันนั่งนิ่งไม่ขยับตอบรับสัมผัสจากชายหนุ่มเป็นอย่างดีเพราะเธอเองก็รักและโหยหาเขาแทบทุกเวลา ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ก็ไม่รู้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำทำไมเธอถึงเชื่อสนิทใจว่าเขาพูดจริง
มือหนาลูบไล้ช่วงเอวลากไล้มาจนถึงสะโพก ลิ้นร้อนยังคงตวัดชิมความหวานจากริมฝีปากของเธอและยิ่งทำเขายิ่งถอนตัวไม่ขึ้นมันเป็นคำตอบได้ดีว่าเขาเอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกนั้นทั้งที่จริงๆเขารักเติมฝันเกินพี่น้องมาโดยตลอด
"เฮียรักฝันเป็นของเฮียนะ"
เขาเอ่ยออกมาเสียงกระเส่าชุดสวยค่อยๆถูกปลดกระดุมและเธอยังคงนิ่งไม่ปฏิเสธเหมือนเดิมเพราะความรักที่มีต่อเขาจึงยอมทุกอย่างไม่มีข้อแม้
เติมฝันหลับตาลงเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ ริมฝีปากร้อนซุกไซ้ตามตัวของเธออย่างหื่นกระหายก่อนจะลึกซึ้งมากเกินกว่านั้นเขาก็ต้องสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
"โธ่เว้ยใครโทรมาวะ"
เขารับโทรศัพท์ไม่ทันได้มองว่าเป็นใคร มือหนายังบีบเค้นหน้าอกของหญิงสาวเล่นแต่เสียงในสายทำให้เขาถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ
(พี่ธันย์ไม่มาหาบาร์บี้เหรอคะวันนี้ คิดถึงจัง)
เติมฝันลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย เขาเงยหน้ามองหญิงสาวก่อนจะกลืนน้ำลายดังอึก โคตรซวยเลยดั้นโทรมาถูกเวลาซะด้วย
"พี่ไม่ว่างแล้วไม่ต้องโทรมาอีกนะพี่มีคู่หมั้นแล้ว"
เขารีบกดวางสายก่อนจะยิ้มแห้งออกมา ชายหนุ่มโน้มใบหน้าไปใกล้จะจูบหญิงสาวอีกครั้งแต่ตอนนี้เติมฝันหมดอารมณ์จะสานต่อความสัมพันธ์เพราะความเจ้าชู้ของเขามันทำให้เธอไม่อยากจะยอมให้เขาสมหวัง
"ฝัน...พี่สัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงทุกคนเลย"
"ฝันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ถ้าเฮียหยุดเจ้าชู้ไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฝันอีก เมื่อก่อนฝันยอมปล่อยผ่านเพราะเห็นว่าเฮียเป็นผู้ชายมีความต้องการเหมือนคนอื่นแต่ตอนนี้มันมากเกินไปและฝันไม่สามารถรับได้อีกต่อไป ฝันไม่แคร์ว่าเฮียจะหยุดได้รึเปล่าเพราะถ้าเฮียไปนอนกับผู้หญิงพวกนั้นอีกครั้งเดียวฝันก็จะไปนอนกับผู้ชายคนอื่นเช่นกัน"
"ฝันแค่ขู่เฮียใช่มะ ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย"
เขาเริ่มกลัวคำขู่ของหญิงสาวตรงหน้าเพราะมันเด็ดขาดอย่างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน เติมฝันลุกขึ้นหยิบหมอนมาถือไว้ลากแขนชายหนุ่มออกไปนอกห้องนอนก่อนจะปาหมอนใส่เขาอย่าไม่ใยดี
"ก็มาลองดูกันว่าฝันจะทำจริงหรือแค่ขู่ คืนนี้เฮียนอนนอกห้องแล้วกันนะคะ"
พูดจบหญิงสาวก็ปิดประตูใส่ชายหนุ่มอย่างแรงก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียงกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด เธอคงใจดีเกินไปแต่แรกเขาถึงไม่เคยเห็นหัวสักครั้ง แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอมอีกแล้วถ้าเขากลับไปหาผู้หญิงพวกนั้นอีกเมื่อไหร่เธอจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู!
"ไอ้ผู้ชายเจ้าชู้ ไอ้คนเลว กรี๊ดดด"
ธันย์ก้มลงเก็บหมอนมาถือไว้ก่อนจะปาลงโซฟาอย่างหงุดหงิด นอกจากคืนนี้จะไม่ได้ปลดปล่อยต่อจากนี้ยังไม่สามารถไปลงกับใครได้อีกเพราะครั้งนี้เติมฝันยื่นคำขาดมาแล้ว
"โอ๊ยยยย กูต้องช่วยตัวเองอีกแล้วเหรอเนี่ย!"