ชีวิตเธอหากจะเปรียบเป็นนางฟ้าตกสวรรค์หรือหงส์ปีกหักก็คงไม่เกินจริง จากชีวิตคุณหนูบ้านรวย ไฮโซคนดัง แค่เพียงไม่กี่เดือนเธอแทบจะไม่เหลืออะไรเลย
คุณพ่อของเธอเป็นนักการเมืองใหญ่ ถูกยึดทรัพย์ และท่านชิงฆ่าตัวตายตั้งแต่คดียังไม่ตัดสิน ส่วนคุณแม่ก็ด่วนจากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก
หลังจากเธอเดินเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่หลายต่อหลายเดือน สุดท้ายเพื่อรักษาบริษัทฟูดดีไซน์ของตนเอง เธอต้องหาเงินมาซื้อหุ้นอีกครึ่งหนึ่งของผู้เป็นพ่อ ก่อนที่บริษัทจะกลายเป็นของคนอื่น
ผู้ใหญ่ใจดีอย่างนั้นหรือ คนมากมายเสนอช่วยซื้อหุ้นยี่สิบล้านให้เธอ ใช่ คนใจดีหลายต่อหลายคน แต่สิ่งที่พวกเขาอยากได้ไม่ต่างอะไรกัน เขาอยากได้เธอ อยากได้ร่างกายของเธอไปบำเรอกามเท่านั้น
เรื่องราวของเขาและเธอ มันนานมาแล้วถึงสิบสองปี เขาจะยังจำเธอได้หรือ เงินไม่ใช่น้อย ๆ เขาจะช่วยเธอหรือเปล่า
เขาจะช่วยเธอได้ไหม
สิบสองปีที่ห่างหายกันไป นานขนาดนี้ เขาจะยังจำเธอได้ไหม ลลิตามองเบอร์โทรศัพท์ของคนใจร้าย เบอร์โทรเดิมที่เคยติดต่อกัน และไม่ได้ติดต่อมานานหลายปี
วันนี้เธอจะลองโทรหาอีกครั้ง หวังว่าครั้งนี้จะโทรติดอย่างที่วันก่อนเธอลองโทรหา แต่รีบวางสายไปเสียก่อนที่เจ้าของโทรศัพท์จะรับสาย
ลลิตาจำได้ดีว่าเขาเคยรักเคยหลงเธอแค่ไหนในวันนั้นที่ผ่านมาถึงสิบสองปี ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอยู่ในวัยสิบแปด มาถึงตอนนี้อายุสามสิบ เขายังจะอยากคุยกับเธออยู่ไหม
“ยังไงก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เอาละลิตา” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเอง ไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ ไม่อย่างนั้นบริษัทที่เธอสร้างมากับมือคงตกไปเป็นของคนอื่น
หญิงสาวฟังเสียงรอสายอยู่นาน ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย หรือเขาจะเปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้ว ลลิตามองรูปผู้ชายในเว็บไซต์ เขาเปลี่ยนไปบ้างจากสิบสองปีที่แล้ว
แต่ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงชัดเจนเหมือนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เจอกัน
‘พี่รักเธอ’
แต่หลังจากไปเรียนต่อ เขาก็หายจากชีวิตเธอ ไม่มีการบอกเลิก ไม่มีการส่งข่าว สิบเอ็ดปีเลยนะ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เรียกสติของหญิงสาวกลับมาที่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ที่เธอบันทึกไว้
“สวัสดี” เสียงเข้มดังมาตามสาย ในกระแสเสียงดูเย็นชาเหมือนครั้งนั้น
“สวัสดีค่ะ ลิตานะคะ” ลลิตาเอ่ยสวัสดี หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกหลากหลายจนเธอไม่สามารถนิยามได้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร
“อือ” เสียงตอบรับเพียงแค่นั้นจากปลายสาย แต่แค่เพียงเท่านั้นก็ทำหัวใจเธอเต้นแรงมากกว่าทุกครั้งที่หัวใจดวงนี้จะเคยเต้นมา เสียงที่ไม่เคยได้ยินใกล้ขนาดนี้ในรอบสิบสองปี เธอควรจะเรียกเขาว่าอย่างไรดี เรียก ‘พี่คีย์’ อย่างก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่านะ หรือคำนั้นจะไม่เหมาะกับสถานะของเธอและเขาในตอนนี้
“คุณภาคีใช่ไหมคะ” เสียงของลลิตาบ่งบอกว่าเธอกำลังประหม่า
“แล้วคุณโทรหาใคร” เมื่อเธอเรียก ‘คุณ’ มา เขาก็ ‘คุณ’ กลับ ก็ดี ห่างเหินกันดี
“เอ่อ ฉันอยากขอพบคุณ จะได้ไหมคะ” ลลิตากัดฟันพูดออกไป จะมีใครหน้าด้านเท่ากับเธออีกไหม หน้าด้านขอพบกับแฟนเก่า แฟนเก่าที่เลิกกันมาสิบเอ็ดปี
“ก็เข้ามาเจอที่ทำงาน” ภาคีตอบ ในน้ำเสียงยากจะคาดเดาว่าความรู้สึกของเขาเป็นเช่นไร
“ถ้าขอไปเจอคุณที่คอนโดจะได้ไหมคะ” ข้อตกลงของเธอกับเขาค่อนข้างยากลำบาก และเธอเองก็ไม่อยากเปิดเผย
“คอนโดมันค่อนข้างส่วนตัวเกินไป” เสียงทุ้มตอบออกมา แค่คำพูดเรียบ ๆ ทำไมถึงทำให้เธอหน้าชาไปทั้งแถบได้นะ
“เอ่อ เรื่องที่จะคุยมันค่อนข้างส่วนตัว คุณพอจะให้เวลาสักนิดได้ไหม เอ่อ ฉันจะรบกวนไม่นาน” ลลิตาเอ่ยถามกล้า ๆ กลัว ๆ
“เดี๋ยวส่งโลเคชันไปให้ รออยู่ตรงล็อบบี้แล้วกัน” ภาคีตอบกลับมาตามสาย เธออยากคุยกับเขาเรื่องอะไร เลิกกันไปตั้งสิบเอ็ดปีแล้ว
“ได้ค่ะ ฉันจะรีบไป”
“ไม่ต้อง ฉันน่าจะไปถึงตอนสองทุ่ม เธอค่อยมา” คำเรียกขานเปลี่ยนจาก‘คุณ’ เป็น ‘เธอ’ มันดีขึ้นหรือแย่ลง อันนี้เธอก็ไม่แน่ใจว่าแบบไหนสนิทสนมมากกว่ากัน
“ค่ะ ขอบคุณ” ตอบรับแล้ว ลลิตาไม่รู้จะพูดคำไหนต่อ ได้แต่นิ่งเงียบ เผื่อว่าเขาจะพูดอะไรบ้าง
“เท่านี้ใช่ไหม”
“เอ่อ ใช่ค่ะ” เธอละล่ำละลักตอบเพราะเกิดจากความไม่มั่นใจ ความเป็นผู้หญิงมั่นใจไม่รู้หายไปไหนหมด เมื่อได้ยินเสียงของเขา ความมั่นใจที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะในใจรู้ดีว่าเขาและเธออยู่ในสถานะใหม่แล้ว
“เย็นชาจัง แบบนี้เขาจะช่วยไหมนะ” ลลิตาบ่นพึมพำอย่างไม่แน่ใจนัก แม้ไม่อยากขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ก็ไม่รู้ว่านอกจากเขาแล้วจะพึ่งพาใครได้อีก
นึกถึงเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอยังเป็นไฮโซคนดังลูกนักการเมืองใหญ่อยู่เลย เวลาผ่านไปไม่กี่เดือน ทำไมทุกอย่างจึงแปรเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
จากคดีฉาวที่นักการเมืองชื่อดังรับสินบนและฉ้อโกงประชาชน การต่อสู้เรื่องคดีความ ผ่านไปแค่สองเดือน พ่อเธอก็ชิงฆ่าตัวตายในคุก ความเศร้าใจทั้งหมดยังไม่ทันจะจางหายก็มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นอีก เพราะบริษัทของเธอมีชื่อพ่อถือหุ้นอยู่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ศาลสั่งให้ยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดและนำเงินมาคืนเจ้าหนี้ ทุกอย่างที่เคยมีก็ไม่เหลือแล้ว เธอเหลือแค่บริษัทนี้และคอนโดที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
แฟนหนุ่มน่ะเหรอ หึ! ผู้ชายที่ตามขายขนมจีบ ผู้ชายที่คบอยู่เพียงไม่กี่เดือน พอรู้ข่าวเรื่องพ่อเธอ ทุกคนต่างก็หนีหน้าหายหัวไปเลย บางครั้งการที่เราตกต่ำก็ทำให้ได้เห็นธาตุแท้ของคน แต่ช่างมันเถอะ เธอจะมองว่ามันเป็นเรื่องดีที่ได้คัดคนไม่จริงใจออกจากชีวิต
เมื่อปลอบใจตัวเองแล้ว ลลิตาก็ตัดสินใจแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยสดใสอย่างที่ภาคีชอบ อย่างน้อยเขาอาจจะหลงรูปของเธอบ้าง แม้จะไม่สวยใสเหมือนเมื่อครั้งวัยสิบแปด แต่ก็มั่นใจว่าเธอสวย สวยด้วยมือหมอ อีกทั้งวิตามิน โบท็อกซ์ ก็อย่างว่า จะแค่ดื่มน้ำ กินอาหารให้ครบห้าหมู่จะสวยได้เหรอ แบบนั้นคลินิกเสริมความงามคงเจ๊งกันหมดแล้ว