ในคืนนั้นตัวจี๊ดก็ไม่กลับไปที่คอนโดของธนัส ซึ่งชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรนแต่ยังทำเก๊กขรึมไม่โทรศัพท์ไปง้อ เพราะไม่อยากให้เธอได้ใจ ก็รู้อยู่ว่าเขาไม่ชอบให้แต่งตัวโป๊ แต่งตัวสวยไม่มีใครว่าหรอกแต่ถ้าทำให้ตัวเองโป๊จนเห็นสัดส่วน เขาเองก็ไม่ชอบเช่นกัน
"โธ่เว้ย เอายังไงดีวะเนี่ย"
'ใจเย็นๆ ไอ้ธนัส ยัยจี๊ดมันก็แค่โกรธ อีกเดี๋ยวก็คงจะรีบกลับมาง้อแทบไม่ทัน เพราะฉะนั้นทำใจให้สบาย'
เมื่อชายหนุ่มคิดแบบนั้นจึงตัดใจไม่โทรศัพท์ไปง้อเธอ อย่างน้อยก็รอให้หญิงสาวใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง
ทางด้านของตัวจี๊ดเธอนอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่ที่ห้องของตัวเอง ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ ทั้งที่คิดมาตลอดว่าเราสองคนจะเป็นคู่ชีวิตของกันและกัน แต่สุดท้ายก็ต้องจบลง มันเหมือนกับว่าเธอกำลังอ่านหนังสือที่คาดเดาตอนจบได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะคิดว่ามันจะจบในอีกแบบหนึ่ง
"ฮึก...! คอยดูเถอะธนัสจะต้องเสียใจที่ทำกับเราแบบนี้"
หลังจากวันนั้นตัวจี๊ดก็กลับไปที่บ้าน ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ได้ทำการเลสิคสายตาเพื่อเปิดโลกใบใหม่สำหรับตัวเอง การเป็นหมอต้องใช้สายตาพอสมควร การที่เธอสายตาสั้น และต้องสวมแว่นตาอยู่ตลอด มันทำให้หญิงสาวรู้สึกใช้ชีวิตลำบาก
"เมื่อไหร่หนูจะถอดแว่นได้สักทีคะ"
"อดทนอีกหน่อยลูก ให้มันหายดีแล้วจะทำอะไรก็ทำเถอะ แต่ว่าช่วงนี้หนูดูแต่งตัวสวยขึ้นนะ วันนี้ไปช้อปปิ้งกับแม่ไหม ซื้อของสวยงามบ้าง ลูกแม่ออกจะน่ารักหุ่นดี หัดดูแลตัวเองบ้างสิ"
คุณแม่ยื่นมือไปลูบผมลูกสาว จากนั้นก็ใช้หวีค่อยๆ แปรงผมให้อย่างเบามือ ตัวจี๊ดกดโทรศัพท์ดูอะไรไปพลางๆ ทว่าอดใจไม่ไหวแอบไปส่องชายหนุ่ม เมื่อเห็นเขาก็รู้สึกเสียใจ และร้องไห้ออกมาน้ำตาซึมเพราะอดทนคิดถึงไม่ไหว
"ไปแอบส่องเขาอีกแล้วเหรอ"
"ทำไมแม่ชอบจับผิดหนูจังเลย ก็บอกว่าเลิกกันแล้วไงคะไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันแล้ว"
"แต่หนูดู move on ไม่ได้นะลูก ยังแอบไปส่องเขาแบบนี้ ถ้าเขารักหนูก็ควรจะติดต่อมาบ้าง นี่ก็เป็นอาทิตย์แล้วเงียบหายไปเลย ยังมีความหวังว่าเขาจะง้ออีกเหรอ"
แม่เอ่ยเตือนสติลูกสาว เธอรู้ว่าที่ผ่านมาลูกแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งมาตั้งแต่มัธยม แอบทำขนมช็อกโกแลตไปให้ตามเทศกาลต่างๆ ตอนแรกเธอก็คิดว่าลูกแค่แอบปลื้ม แต่พอนานวันจนขึ้นมหาวิทยาลัยเธอจึงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว ดูลูกสาวจะรักเขาจริงจังมากจนแทบไม่เผื่อใจ และพอต้องจากลากันจริงๆ เธอก็ทำใจไม่ได้
"แม่ก็ว่าหนูเกินไปค่ะ หนูก็แค่อยากเห็นว่าเขามีความสุขดีหรือเปล่า ดูท่าทางก็มีความสุขดีนะคะ คอมเม้นท์หยอดกับผู้หญิงคนอื่นถ้าหน้าระรื่น หนูผิดเองแหละค่ะที่คาดหวังว่าเขาจะรู้สึกผิดที่พูดจาแรงๆใส่ และจะมาง้อหนูบ้าง จากนี้หนูจะรักตัวเองให้มากๆ จะไม่สนใจคนใจร้ายแบบนั้นอีก"
"ให้มันจริงเถอะ เดี๋ยวเขามาง้อก็ใจอ่อนอยู่ดีแหละ รักเขาอ่ะเนาะ"
"แม่!"
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ตัวจี๊ดก็นั่งรถโดยคุณแม่เป็นคนขับ เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าในเวลาต่อมา วันนี้เธอจะช็อปปิ้งให้เต็มที่ และจะซื้อชุดสวยๆ มาสวมใส่โดยไม่ต้องแคร์ความรู้สึกของใคร
ทั้งสองคนจอดรถที่ลานจอดชั้น 4 จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในห้าง ซึ่งตอนนี้ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามากันแล้ว คุณแม่ และลูกสาวพากันเดินเข้าไปยังร้านแบรนด์เนมดัง หญิงสาวซื้อกระเป๋า รองเท้า แล้วก็เสื้อผ้าในแบบที่ชอบ ซึ่งแตกต่างจากที่เคยมี และคิดว่าลุคนี้ก็ดูเหมาะกับเธอมาก
"แม่ว่าหนูใส่แบบนี้สวยไหมคะ"
"สวยมากเลยค่ะ หนูแต่งตัวแบบนี้แหละดูเป็นวัยรุ่นดี รับรองเลยว่าหนุ่มๆ มารุมจีบลูกสาวของคุณแม่ตรึม ลูกสาวของแม่ทั้งเก่งทั้งฉลาดแถมยังสวยอีก ใครทิ้งไปก็โง่เต็มทนแล้ว"
คุณแม่ทำการอวยลูกสาวอย่างถึงที่สุด ก็แค่ไม่อยากให้ลูกเศร้าเสียใจกับความรักในครั้งนี้ คนเป็นแม่ทำได้เพียงแค่คอยปลอบโยน เรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ในเมื่อไปกันไม่ได้ก็ต้องแยกย้าย เธอเองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
"ไม่ต้องมาอวยหนูเลย ไปจ่ายเงินให้เลยค่ะวันนี้หนูจะเหมา"
"จ้า"
คุณแม่ยิ้มออกมาขำขันก่อนจะเดินไปชำระเงินให้ลูกสาว โดยปกติคนนี้ไม่ค่อยใช้เงินเปลืองเท่าไหร่ บางทีให้ไปก็เก็บไว้ในบัญชีไม่ใช้จ่าย ให้ไปซื้อของแพงๆ ก็ไม่ซื้อ ตัวจี๊ดคือความภูมิใจของพ่อแม่ที่สุดแล้ว
"เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูอยากกินอะไรไหม"
"นั่นสิคะหนูกำลังคิดอยู่เลย อืม..."
หญิงสาวเดินไปพลางคิดว่าตัวเองจะกินอะไรดี แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเจอกับแก๊งสาวประเภทสอง ที่กำลังตั้งบูธรับสมัครนางงามลงประกวดเวที pretty girls Thailand
"มองอะไรลูก"
"แม่ว่าหนูประกวดนางงามได้ไหมคะ"
คุณแม่เลิกคิ้วก่อนจะจ้องมองลูกสาวด้วยความสงสัย เอาจริงเธอก็ไม่ได้คิดดูขี้เหร่อะไร ผิวพรรณขาวผ่อง ใบหน้ารูปไข่สดใสไร้สิว ไหนจะมันสมองที่ฉลาดหลักแหลม ไม่มีตรงไหนที่เป็นข้อบกพร่องเลยแม้แต่นิดเดียว
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะแม่ว่าสวยออก ทำไมอยากจะประกวดนางงามหรือไงเรา ทุกวันนี้เรียนหมอยังไม่เหนื่อยพอใช่ไหม"
คุณแม่หัวเราะออกมาอย่างตลก ทุกวันนี้บ่นตลอดว่าเรียนหมอเหนื่อย และปวดหัว ยังจะหางานให้ตัวเองอีก
"ก็ช่วงนี้ปิดเทอมตั้งเกือบสามเดือน หนูว่าหาอะไรทำซะหน่อยน่าสนุกดีนะคะ จะได้เป็นการพิสูจน์ด้วยว่าหนูไม่ได้มีดีแค่สมอง"
เมื่อพูดจบหญิงสาวก็เดินเข้าไปที่บูธของเจ๊ๆ จะเทย ทั้งสามคนที่ยืนอยู่หันมามองตัวจี๊ดก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยทักทายน้ำเสียงสดใส
"สวัสดีค่ะคุณน้อง เดินเข้ามาเนี่ยจะสมัครนางงามเหรอ"
ทั้งสามคนมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ไม่ได้ดูขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่ว่าบุคลิกดูไม่ค่อยมีความมั่นใจ ถ้าเกิดจะประกวดคงต้องฝึกกันอีกเยอะ
"หนูอยากประกวดนางงามค่ะ"
"หนูลูก...จะไหวเหรอคะ เป็นนางงามจะต้องมีความมั่นอกมั่นใจ หน้าเชิดสวยเริ่ด"
"ไหวค่ะ พวกพี่ช่วยทำยังไงก็ได้ให้หนูได้ประกวดนางงามแล้วก็เข้ารอบลึกๆ ได้มงเลยยิ่งดีค่ะ แล้วถ้าเกิดว่าทำสำเร็จเงินรางวัลจากการประกวดครั้งนี้ พวกพี่เอาไปหมดเลยค่ะหนูไม่เอาแม้แต่บาทเดียว"
และเมื่อข้อเสนอของตัวจี๊ดดูจะถูกอกถูกใจแก๊งพี่จะเทย ทั้งสามคนหันไปกระซิบกระซาบกันก่อนจะยิ้มออกมา
"พูดแล้วนะว่าไม่เอาเงินสักบาท"
"ไม่เอาค่ะ ขอแค่มงกุฎแล้วก็ทำให้หนูสวยเริ่ดที่สุด ดิวไหมคะ"
"ดิวค่ะลูกสาว...!"