การที่วัชระเศรษฐ์ทำอะไรหลายๆ อย่างก็เป็นเพราะเขาปราณีกับลูกน้องในทีมของเขานั่นเอง หรือก็คือเธอกับเขาอยู่ทีมเดียวกันนั่นเอง
อรุณวดีพกอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านที่ไม่ได้ย้ายห้องตามใจต้องการตั้งแต่เมื่อคืน แล้วเดินตรงไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางแถวของกลุ่มคน ก่อนจะออกแรงผลักไหล่ของอีกฝ่าย อย่างต้องการหาเรื่อง
“สะใจเธอแล้วใช่ไหมที่พี่พีทเขาลืมเธอไม่ลง”
“อะไรของเธอ” บุหงาเอาตัวเข้ามาเบียดแทรกเอ่ยถามเสียงสูง ทั้งยังเอาตัวเข้ามาบังเธอไว้จากอรุณวดีอีกด้วย
“คนอื่นๆ รู้กันไหมคะว่าผู้หญิงคนนี้หน้าหนามาก เลิกกันแล้วกับผัวเก่า แต่ก็ยังไม่ยอมจบ ปากว่าตาขยิบ บอกว่าทางใครทางมัน แต่ยังตามอ่อยผัวเก่า ยังตามหึงตามหวงผัวเก่าไม่เลิก ทำไมหรอ แค้นฉันหรือไง ที่พี่พีทเขาเลือกฉัน แล้วขอหย่าจากเธอน่ะ”
อรุณวดียังหาเรื่องเธอไม่ได้อย่างที่ใจปรารถนา พนักงานรักษาความปลอดภัยและพนักงานหญิงของโรงแรมก็เข้ามาเชิญตัวออกไปเสียก่อน วัชระเศรษฐ์เดินเข้ามาสมทบแล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มีอะไรกัน”
วัชระเศรษฐ์ถามจบแล้วก็มองที่พร้อมพรแล้วก็ค่อยลากสายตาไปยังหญิงสาวที่ถูกพนักงานรักษาความปลอดที่เป็นผู้หญิงกันตัวไว้อีกทาง
พร้อมพรยังคงใจสั่นไม่หาย เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เหตุการณ์ที่มีคนมายืนชี้หน้าต่อว่าด่าทอ โดยมีคนมากมายยืนมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเรื่องราวเบื้องลึกแล้วเป็นอย่างไหนกันแน่
บุหงาดึงเธอให้เดินแยกตัวออกมาจากตรงนั้น เมื่อมีคนชี้มือมาทางเธอและเริ่มมีเสียงซุบซิบพูดคุยกัน เชื่อได้เลยว่าเป็นไปในทางไม่ดีอย่างแน่นอน
วัชระเศรษฐ์เองก็เดินตามพวกเธอออกมาด้วย
บุหงาดึงเธอให้แยกออกมาจากสายตาของคนอื่นได้แล้วก็หันไปบอกเจ้านายของตนเอง
“ฝากบอสอยู่กับเมยก่อนนะคะ บุหงาขอไปตามเรื่องจากทางนั้นก่อนค่ะ”
วัชระเศรษฐ์พยักหน้าแล้วนั่งลงข้างๆ เธอที่โต๊ะด้านหน้าระเบียงที่ยื่นออกไปตรงชายหาด พร้อมพรไม่กล้ามองสบตาใคร เธอก้มหน้าลงมองที่มือของตัวเองพร้อมกับบอกเสียงสั่น “ขอโทษด้วยนะคะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมย...”
“ขอโทษทำไม คุณไม่ใช่คนผิด” วัชระเศรษฐ์บอกเสียงเรียบ แววตาของเขาดูคมและเอาเรื่องอยู่บ้าง “อยากให้ผมช่วยไหม แค่เอ่ยปากมา ผมพร้อมจะช่วยคุณ”
“ขอบคุณนะคะ” พร้อมพรบอกเขา เธอเงยหน้าขึ้นแล้วก็สบตากับเขา เห็นแววตาที่มองสบตอบทีไรอุ่นใจทีนั้น พร้อมพรฝืนยิ้มแล้วหลุบตาลงมองที่มือของตัวเอง “บอสไม่เคยทิ้งลูกทีมเลย ขอบคุณบอสมากๆ เลยนะคะ”
วัชระเศรษฐ์มองเสี้ยวใบหน้าของเธอ เขาเปิดปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วบุหงาก็เดินไวๆ กลับเข้ามาแล้วบอกว่าเกิดปัญหาบานปลายขึ้นแล้วที่หน้าโรงแรมของเขา
อรุณวดีกำลังสร้างความวุ่นวาย นอกจากจะหน้าตาดี มีไลฟ์สไตล์หรูหราหญิงสาวสร้างภาพว่าตนเก่งเป็นผู้หญิงทำงาน อรุณวดียังมีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียหลักหมื่นปลายๆ
และเมื่อต้องเจอเหตุการณ์ไม่พึงพอใจและเสียหน้าเช่นนี้ อรุณวดีจึงเลือกการไลฟ์ลงโซเชียลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนที่ตนเองนั้นถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม กันออกจากโรงแรมเมื่อครู่นี้ โดยพยายามพูดให้ตนเป็นผู้ถูกกระทำ โป้ปดว่าตนนั้นถูกโรงแรมชื่อดังคุกคามและพยายามไล่ให้ออกไปจากโรงแรมและก็ไม่ยอมบอกเหตุผลด้วยว่าทำไม แม้จะมีลูกหาบคอมเมนต์เข้ามาถามก็ตามที
และในตอนนี้อรุณวดีกำลังยืนไลฟ์ที่ด้านหน้าของโรงแรมที่พัก พร้อมกับปั้นน้ำเป็นตัวเล่าว่าตนถูกกระทำอะไรบ้างนั้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จทั้งสิ้น ก็มีคนเดินออกมาตรงที่อรุณวดียืนอยู่
วัชระเศรษฐ์ไม่ได้ออกหน้าด้วยตัวเอง เขาคือเจ้าของกิจการ คือผู้ลงทุน ทุกอย่าง ทุกเรื่องราว ทุกการจัดการ ล้วนมีคนตามลำดับหน้าที่คอยดูแลอยู่แล้ว
ผู้จัดการโรงแรมแห่งนี้เป็นหญิงสาวหน้าตาสวยจัดคนหนึ่ง ท่าทางของหล่อนภูมิฐาน อายุราว 50 ต้นๆ หล่อนแต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มของโรงแรม กำลังตรงไปที่อรุณวดี แล้วพูดจาอย่างสุภาพกับอรุณวดีว่า “คุณคะ รบกวนหยุดไลฟ์ก่อนได้ไหมคะ แล้วมานั่งคุยด้วยกัน เพื่อหาทางแก้ปัญหากันดีกว่าค่ะ”
อรุณวดีได้ยินเช่นนั้นก็คิดด้วยหัวสมองที่บอกตัวเองมาตลอดว่าแสนจะชาญฉลาดว่าตนจะเอาอย่างไรดี แล้วจึงกดหยุดไลฟ์ไว้ชั่วขณะ เมื่อพบว่าตนเองอาจเดือดร้อนจากอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นก็เป็นได้หากยังดื้อแพ่งไลฟ์ต่อ
“ถ้าคุณยังไม่หยุดก่อกวนโรงแรมของเรา ทางผู้บริหารคงมีความเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ช้าก็เร็วนี้แล้วละคะ”
ผู้จัดการโรงแรมบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาสงบนิ่ง ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ที่ส่อว่าเป็นการยั่วยุแขกที่เข้าพักและกำลังก่อเรื่องอยู่ตรงหน้าตนในตอนนี้
กลับกลายเป็นอรุณวดีที่ยังไม่หายโมโหดี เส้นริ้วแห่งโทสะเล่นผ่านไปทั่วทั้งร่างกาย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ตนนั้นถูกพนักงานกันตัวออกจากล็อบบี้ของโรงแรม ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้ก่อเรื่อง สร้างความเสียหายอะไรให้โรงแรมเลยสักนิดเดียว
ตนก็แค่... แค่กำลังทำให้นังเมียเก่าของรัฐศาสตร์ได้รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แม่นั่นเลิกรากันไปกับรัฐศาสตร์แล้ว ก็ไม่ควรต้องมาตอแยอะไรกันอีก นี่อะไร เห็นหน้าหน่อยก็มองตาละห้อยใส่กัน ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ นึกแล้วยังโมโหอยู่เลย อรุณวดีคิดพร้อมกับหาเหตุผลให้ตัวเอง ตนนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรในโรงแรมเลยแต่กลับถูกพนักงานของโรงแรมกันออกมาจากล็อบบี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน อรุณวดีคิดแล้วก็รู้สึกรับไม่ได้ อย่างไรแล้วตนก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ
“คุณไม่พอใจการบริการ หรือไม่พอใจพื้นที่ส่วนไหนของโรงแรม สามารถแจ้งทางเราได้เลยนะคะ แต่ไม่ควรไลฟ์กล่าวหาพนักงาน กล่าวหาสถานที่ของเราโดยไม่มีมูลความจริงแบบนี้ค่ะ”