10

1175 คำ
เสียงครางระส่ำที่ไม่ได้เกิดจากความกลัวแต่การกระทำของเขาทำให้สาวน้อยเกิดความเสียวซ่านปานจะขาดใจ แม้ว่าจะพยายามห้ามเสียงไม่ให้ร้องออกมา แต่ใครจะทนได้กับความเชี่ยวชาญระดับเทพในเรื่องบนเตียงอย่างเบนจามิน และต่อมาความกลัวก็กลายเป็นความสุขสม เมื่อเจ้าของใบหน้าหล่อคว้ามือของขวัญให้คล้องมือเข้ากับลำคอขอตน “อายอะไรคุณเป็นของผม มองผมสิคนสวย” เขาไม่รอให้เธอตอบรับก็ขยับสะโพกสอบเข้าหาในขณะที่ริมฝีปากหยักร้อนก็ไล่ต้อนเรียวปากบางชุ่มชื้นให้จนมุมและพร่ำจูบไปทั่วกลีบปากนุ่มนั้นไม่ยอมให้เธอเอ่ยคัดค้านเลยมิแต่น้อย เมื่อเห็นว่าเขาคุมเกมได้แล้ว แม้สาวน้อยพยายามจะปฏิเสธร่างกายเขาในช่วงแรก แต่ตอนนี้ร่างกายเธอตอบรับและเรียกร้องเขา ผนังนุ่มที่รัดรึงความแข็งกระด่างอันใหญ่โตกำลังตอดรัดจนเขาเสียวและเก็งไปหมด จนต้องกดมันให้ลึกล้ำจนสุดทาง เรียกเสียงกรี๊ดของเธอออกมา “โอ้ว! ที่รักผมขอโทษคุณเจ็บไหม” เขาจุมพิตที่หน้าผากเพื่อเป็นการปลอบขวัญและขออภัยในความเอาแต่ใจ ที่บังคับและยัดเยียดตนเองให้กับเธอมากเกินไป “ปล่อยฉันสักที” “ปล่อยแน่ แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้ไหมผมถูกใจคุณที่สุด เราเข้ากันได้ดีคุณว่าไหม” เขาทึกทักคนเดียวแล้วนึกสนุกด้วยการจับร่างบางพลิกคว่ำซึ่งเธอขัดขืนและตะเกียกตะกายที่จะลงจากเตียงแต่เพียงไม่นานเขาก็เอาชนะเธอได้จับเธอให้หันศีรษะเข้าหาหัวเตียงและกดศีรษะที่มีผมหนานุ่มกระจายเต็มแผ่นหลังให้แนบลงบนที่นอน เมื่อเธอขัดขืนเขาก็ส่งเสียงดุ “อย่าดื้อ เพราะหากคุณไม่ทำตาม ผมมีอีกหลายท่าที่จะปราบพยศคุณ” “ไอ้คนบ้า! คุณจะทำอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ยอมนะ ลงไปนะ” เธอไม่ยอมเป็นม้าให้ผู้ชายตัวสูงใหญ่อย่างเขาขี่เล่นแน่ และไม่ยอมนอนในท่าโก้งโค้งน่าเกลียดให้เขายัดเยียดความแข็งจัดอันใหญ่โตเข้ามาในกายเธอแน่ แต่นั้นคือความคิดต่อต้านภายในหัวของขวัญ แต่ความเป็นจริงด้วยกำลังอันน้อยนิดหนูน้อยอย่างเธอก็ถูกชายหนุ่มที่ร่างกายได้เปรียบกว่ามาก ล็อกไว้ในท่าที่เธอกลายเป็นนางม้าแสนพยศ และเขาคือคนที่จะปราบมาด้วยการขึ้นค่อมม้าแสนพยศและควบขี่อย่างเมามันนานนับครึ่งชั่วโมง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงความแข็งแรงที่แทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาสองข้างที่ถูกเขาจับแยก สองมือของเบนจามินเอื้อมมาคว้าเต้างามสองข้างและบีบเคล้นมันเป็นจังหวะสลับกับการที่เขากระแทกตัวเข้าหาสะโพกกลมมนที่ลอยเด่น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ พร้อมหยดน้ำตาของสาวน้อยที่ทั้งอาย และสับสน ยอมรับว่าเสียวซ่านจนแทบจะจิกหมอน แต่เมื่อสำนึกได้ว่าเธอกำลังถูกข่มขืนโดยผู้ชายแปลกหน้าความสุขจากผู้มากประสบการณ์ก็อันตธารหายไป เมื่อเธอค้านการกระทำด้วยการพยายามก่อกวนการกระทำของเขาด้วยการจะคลานหนีเขาหรือจะยอม มือสองข้างรั้งร่างบางไว้แน่น สองแขนล่ำสันกอดเอวเธอไม่ให้ไปไหน “จะหนีไปไหน” ก่อนจะลงโทษการหนีลงจากเตียงด้วยการควบขี่เธออย่างเข้มข้นทุกจังหวะที่เข้าหาเต็มไปด้วยพลังอย่างเหลือเฟือ “ฉันไม่ให้เธอไปไหน ตราบใดที่ฉันไม่ได้เป็นคนอนุญาต เธอไม่มีสิทธิ์ลงจากเตียง” เพลิงพิศวาสที่เบนจามินปลุกขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่เช้าตลอดเย็น อาการฟ้าเหลืองเป็นอย่างไร ของขวัญเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ เธอหมดสภาพไม่มีแรงแต่ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่ยังมีท่าทีสดชื่นปกติได้อยู่ ขณะนอนอยู่บนเตียงเขาก็เขยิบเข้ามาใกล้ แต่สองมือของของขวัญก็ดันเขาออกเบา ๆ “ไม่ไหวแล้ว” ของขวัญบอกและทำให้เบนจามินยิ้มกว้าง “แทนตัวเองแบบนี้น่ารักจัง ขวัญเรียกผมว่าคริสก็ได้” ในยามที่ได้กกกอดร่างนุ่มนิ่มของของขวัญแบบนี้ทำให้เบนจามินอดคิดไม่ได้ว่าตัวเธอกับเขาช่างมีแรงดึงดูดเข้าหากันรุนแรงอย่างที่ชายหนุ่มไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนหรือจะเรียกให้ง่ายว่าเขากับของขวัญปฏิกิริยาทางเคมีเข้ากันได้ดีเสียเหลือเกิน “จะดีเหรอคะ แต่ฉันว่าเราอย่าสนิทสนมกันมากกว่านี้เลยให้ฉันเรียกคุณว่าคุณเฮมเวิร์ธเหมือนเดิมดีกว่า” “ของขวัญ” เบนจามินเรียกติดจะเสียงดัง “ทำไมคะ” คราวนี้ของขวัญเชิดหน้าขึ้นไม่ยอมเขา “คุณเอาเปรียบขวัญมาตลอด ขวัญตกเป็นของคุณก็เพราะความเข้าใจผิด เหตุบังเอิญ แต่คุณก็ไม่ยอมปล่อยขวัญไป ขวัญยังมีแม่ มีงาน มีชีวิตของตัวเองแต่คุณก็ไม่ฟัง แถมคุณยังทำชีวิตขวัญพังทลาย” “พังทลาย ผมทำลายชีวิตคุณพังทลายยังไงเบบี๋” ของขวัญเม้มปากแน่น กระบอกตาร้อนผ่าว “ก็ ก็คุณข่มขืนฉัน ความสาวของฉัน พรหมจรรย์ของฉันที่ควรเก็บให้คนที่จะมาเป็นสามีเป็นคนที่ฉันเลือกแล้วที่จะยกมันให้ด้วยความเต็มใจ แต่ตอนนี้ ตอนนี้คุณทำลายมันไม่เหลือแล้ว” “เส้นใยบาง ๆ ที่ผู้หญิงเรียกมันว่าพรหมจรรย์นั่นน่ะนะ ผมไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหน ถ้าสามีในอนาคตของคุณเขาจะรักคุณจริงแล้วละก็เรื่องพรหมจรรย์นั่นมันก็ไม่เห็นสำคัญตรงไหน” “คนทุเรศ คุณนี่มัน...” “น่ารักสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะ เอาอย่างนี้ปัญหาของคุณมีอะไรบ้าง บอกผมมาให้หมด ผมจะจัดการให้เอง” “เห็นแก่ตัว เผด็จการชัด ๆ” “ผมขอน้อมรับเลยจ้ะเบบี๋” ของขวัญไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบริภาษเขาได้อีก จึงพลิกตัวหนี เม้มริมฝีปากข่มความโกรธ เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรเบนจามินก็ดูจะหน้าหนาไร้เหตุผลกว่าที่เธอคิดไว้ ขนาดเขารู้ตัวว่าทำผิดต่อเธอเขายังไม่มีจิตสำนึก ยังรั้งเธอไว้อย่างไม่มีเหตุผลได้อีก อ้อ ไม่ใช่สิคนอย่างเขาไม่ต้องมีเหตุผลอยู่แล้วเพราะที่เขารั้งเธอไว้ขณะนี้ก็ทำให้เธอคิดว่าสถานะของเธอก็ไม่ต่างอะไรกับนางบำเรอของจอมมารอย่างเขาชัด ๆ และแค่คิดโมโหเขาอยู่ มือหนาก็เลื้อยมารัดเอวคอดก่อนจะรั้งตัวเธอให้พลิกไปหาเขา เบนจามินปลุกเร้าเธออีกครั้งด้วยบทรักที่เจนจัดช่ำชอง จนของขวัญครางฮือแอ่นกายรับการปรนเปรอสวาทจากเขาอีกระลอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม