บทที่ 5

1345 คำ
กัปตันบารอนจ้องมองหญิงสาวที่ยืนน้ำตาตกโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาถือว่าการนิ่งเงียบของหญิงสาวที่ชื่อนันท์นลินเป็นการยอมรับเงื่อนไขที่เขาเสนอไป “หมดเวลาสำหรับเธอแล้ว” กัปตันบารอนเอ่ยเสียงราบเรียบแล้วสาวเท้ายาวๆ ไปที่ประตูเคบินก่อนจะกระชากออกโดยแรง “มาร์ค ไอ้มาร์ค” เสียงตะโกนเรียกลูกน้องดังสะเทือนเลือนลั่น ไม่กี่อึดใจลูกเรือที่ถูกเรียกหาก็วิ่งหน้าตื่นมารอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องเคบิน “ครับกัปตัน” มาร์คหายใจกระหืดกระหอบ ขณะรอรับคำสั่งก็แอบชำเลืองตามองหญิงสาวที่ยืนนิ่งหวาดหวั่นอยู่ภายในห้องของกัปตัน บารอนหันไปมองหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยสั่งลูกเรือเสียงดัง “บอกลุกซ์ให้จอดเทียบท่าเดี๋ยวนี้” “ได้ครับกัปตัน” แม้จะยังงงๆ กับคำสั่งของกัปตัน แต่มาร์คก็รับคำแล้วรีบวิ่งกลับไปยังห้องบังคับเรือทันที นันท์นลินรู้สึกราวกับฟ้ากำลังจะถล่ม คำสั่งเมื่อสักครู่เป็นดังคำตัดสินประหารนักโทษอุกฉกรรจ์ เธอไม่ต้องการลงจากเรือในเวลานี้ เสี่ยพารุณต้องส่งคนออกตามหาเธอรอบๆ บริเวณใกล้เคียงแน่ ถึงเธอจะหนีเสี่ยพารุณพ้น เธอก็ไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว ครั้งนี้เธอสามารถเอาตัวให้รอดพ้นจากปากแร้งปากอีกาได้ แต่ครั้งต่อไปเธอไม่แน่ใจว่าตนเองจะเอาตัวรอดได้หรือเปล่า เธอจะไม่กลับไปหาพ่ออีกแล้ว พอกันทีสำหรับการขายตัวเพื่อล้างหนี้ให้พ่อ หญิงสาวกัดฟันแน่นขณะที่พยายามพยุงกายให้ลุกขึ้นยืน เธอเดินเขยกๆ เข้าไปหากัปตันหนุ่มเจ้าของห้อง ริมฝีปากสั่นระริกเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะเอ่ยขอร้องเสียงแผ่วเบา “เดี๋ยว! คุณ...เอ่อ...” “บารอน ดี ทีสต์ เรียกดี ทีสต์” กัปตันบารอนเอ่ยบอกติดรำคาญ แต่เมื่อเหลือบสายตามองลงไปที่เท้าเปล่าเปลือยเขาก็ต้องตกใจเล็กน้อย เลือดสีแดงสดหยดเป็นทางตามรอยเท้าที่หญิงสาวเดินมา ผ้าพันคอผืนเล็กที่พันแผลไว้เปียกชุ่มไปด้วยเลือดที่ยังไหลรินไม่ขาดสาย นันท์นลินเม้มริมฝีปากไว้แน่น มือบางสั่นเทาเล็กน้อยขณะที่ทำใจกล้าเอื้อมไปแตะต้นแขนแข็งแกร่งสีแทน และราวกับถูกกระแสไฟนับหมื่นโวลต์แล่นเข้าสู่ร่างกายหญิงสาวรีบกระชากมือกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้าวถอยร่นไปข้างหลังด้วยความตกใจ บารอนตีสีหน้างุนงงกับปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ มีผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่ต้องใช้ทั้งฝีมือความสามารถ ประสบการณ์ที่ช่ำชองในการปลุกเร้าอารมณ์เขาให้ลุกฮือขึ้นมา แต่หญิงสาวคนนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นัยน์ตากลมโตที่มองมาอย่างหวาดหวั่น เรียวปากอวบอิ่มแดงระเรื่อสั่นเทาที่ขบเม้มแน่น มือบางที่แตะต้นแขนก็สามารถทำให้เขาสะดุ้งเฮือกราวกับถูกไฟช็อต อารมณ์รักดิบเถื่อนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในถูกปลุกให้เดือดแล่นพล่านอยู่ทั่วกาย เขากัดฟันกรอดๆ นัยน์ตาสีทองลุกวาวด้วยความโกรธตนเองที่ทำราวกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งริลองรักและโมโหหญิงสาวที่ยืนทำหน้าตื่นอยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัวว่าท่าทางของเธอกำลังปลุกเร้าอารมณ์เขาอย่างหนัก นันท์นลินได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ ใบหน้าหล่อคมเข้มถมึงทึง นัยน์ตาสีแปลกๆ ลุกวาวเป็นไฟกำลังจ้องเขม็งมาก็รีบถอยกรูไปข้างหลังอีกหลายก้าว น้ำเสียงที่กำลังเอ่ยขอร้องตะกุกตะกักด้วยความหวาดหวั่น “เอ่อ...คุณบารอนคะ” “บอกว่าให้เรียก ดี ทีสต์” บารอนตวาดเสียงดังจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือกหน้าซีดเผือด “ค่ะ คุณดี ทีสต์ คุณ...อย่าส่งฉันลงที่ท่าเรือข้างหน้าเลยนะคะ” “นั่นก็ขึ้นอยู่ว่าเธอจะเล่าความจริงให้ฉันฟังหรือเปล่า” กัปตันบารอนเอ่ยขัดอย่างรำคาญ นันท์นลินเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยบอกอีกครั้ง “ฉัน...ถูกหลอกมาขายจริงๆ ค่ะ ถูกพาเข้าไปในห้องนอนของไอ้เสี่ยตัณหากลับ จากนั้นแม่บ้านใจมารก็บังคับให้ใส่ชุดนอนชุดนี้ ฉันอาศัยตอนที่ไอ้เสี่ยพารุณกับลูกน้องมันเผลอแล้วแอบหนีออกมาจากไนต์คลับ พอไอ้เสี่ยพารุณรู้ว่าฉันหนีมันก็ส่งลูกน้องออกตาม ฉันวิ่งหนีมาเรื่อยๆ จนมาถึงเรือลำนี้ พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่บนดาดฟ้าก็เลยรีบวิ่งขึ้นมาซ่อนตัวที่ห้องของคุณ” หญิงสาวได้แต่ภาวนาในใจของให้กัปตันดี ทีสต์เชื่อในสิ่งที่เธอพูดไป ถึงแม้ว่าเธอจะโกหกในตอน ต้น แต่บางช่วงบางตอนเธอก็เล่าถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น กัปตันบารอนยิ้มเยาะตรงมุมปาก ปรบมือกราวให้กับนิทานหลอกเด็กที่หญิงสาวปั้นแต่งมาเล่าให้ฟัง เท้าแข็งแกร่งสาวเท้าอย่างรวดเร็วแผ่วเบาเข้าไปหิ้วปีกหญิงสาวไว้อีกรอบ เสียงเย้ยหยันที่เอ่ยลอดไรฟันทำเอานันท์นลินหน้าซีดไร้สีเลือด “ขอบใจเธอมากที่อุตส่าห์เล่านิทานหลอกเด็กให้ฉันฟัง เธอแน่มากเลยน่ะนันท์นลิน กล้าลูบคมคนอย่างกัปตันดี ทีสต์” “เดี๋ยว! คุณดี ทีสต์จะพานลินไปไหน” หญิงสาวร้องเสียงหลงสั่นเทา เมื่อถูกลากกึ่งหิ้วปีกออกจากเคบิน “ถึงเวลาที่คนโกหกตลบตะแลงอย่างเธอจะลงจากเรือเดอะรอยัล อาดามัส ได้แล้ว” กัปตันบารอนกัดฟันตอบลากหญิงสาวขี้โกหกออกจากเคบินไปตามทางเดิน เมื่อมาถึงดาดฟ้าเขาก็โยนโครม! ไปบนพื้นที่เปียกชื้นเย็นยะเยือกโดยไม่ปรานีปราศรัย ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส รวมทั้งมาร์คและลุกซ์ต้นหนเรือที่พากันวิ่งมาบนดาดฟ้าต่างก็ตกใจเมื่อเห็นกัปตันตีสีหน้าถมึงทึงโยนหญิงสาวร่างบอบบางที่น่าสงสารลงไปกองกับพื้นเรือ เสียงผิวปากหวีดหวิว เสียงโห่แซวหยาบโลนของลูกเรือดังขึ้นมาตอนที่หญิงสาวถูกโยนไปฟุบกับพื้นเรือแล้วชุดนอนบางใสร่นขึ้นมาจนทำให้เห็นน่องขาวเนียน คอเสื้อที่ค่อนข้างลึกอวดให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มเนียนผ่องรำไร นันท์นลินตกใจกลัวสุดชีวิต เธอขยับถอยร่นจนแผ่นหลังชนกับขอบเรือ มือบางยกขึ้นมาขยุ้มคอเสื้อไว้กันสายตานับสิบคู่ที่กำลังมองด้วยความหื่นกระหาย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นน้ำตาตกใน เธอกำลังหนีเสือปะจระเข้แท้ๆ กัปตันบารอนเห็นท่าทางหวาดกลัว ริมฝีปากสั่นเทาเม้มเข้าหากันแน่นก็นึกสงสารอยู่ไม่น้อย เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกแล้วโยนให้หญิงสาวใส่เพื่อกันสิ่งสวยงามจากสายตาหื่นๆ ของลูกเรือทุกคน เธอไม่มีสิทธิ์อวดสิ่งสวยงามที่ธรรมชาติบรรจงสรรค์สร้างให้คนอื่นเห็น...นอกจากเขาคนเดียว ด้วยความที่เป็นคนใจดีขี้สงสารและมีหลานสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับหญิงสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่กับพื้นเรือทำให้ลุกซ์รีบเดินผ่านกัปตันหนุ่มแล้วเข้าไปประคองให้หญิงสาวที่น่าสงสารลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ยถามกัปตันให้หายสงสัย “เกิดอะไรขึ้นครับกัปตัน” “ส่งผู้หญิงคนนี้ลงจากเรือ” บารอนตะโกนสั่งเสียงดังทำเอาหญิงสาวหน้าซีดน้ำตารื้นขอบตาทันที “ไม่น่ะ ขอร้อง!...อย่าไล่นลินลงจากเรือเลยนะคะ อย่าส่งนลินไปตายเลย” หญิงสาวเบี่ยงกายหนีจากคนที่กำลังประคองอยู่แล้ววิ่งไปเกาะขากัปตันดี ทีสต์ไว้ เธอเงยหน้ามองกัปตันหนุ่มด้วยใบหน้าเศร้าหมอง น้ำตารื้นขอบตาที่เจ้าตัวพยายามกล้ำกลืนก้อนแข็งไว้ๆ เสียงอ้อนวอนแผ่วเบาจนลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความสงสาร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม