Ginx's to meet you :: :: CHAPTER 10 ลงโทษอย่างป่าเถื่อน [50%]

2374 คำ
Ginx’ s to meet you. [10] ลงโทษอย่างป่าเถื่อน คุณจิณณ์โน้มตัวลงมาก่อนจะกระชากชุดเดรสของฉันจนขาดวิ่นเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบน ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาบดขยี้จูบอย่างรุนแรงจนฉันเจ็บปากเล็กน้อยที่ฟันของเราสองคนกระทบกัน ฉันพยายามเบือนหน้าหนีรสสัมผัสที่ร้อนแรงของคุณจิณณ์ ทุกครั้งเขามักจะทำรุนแรงอยู่เสมอฉันก็ไม่เคยว่า ทว่าครั้งนี้มันรุนแรงจนร่างกายของฉันเจ็บปวดไปหมด ยิ่งเขาใช้มือทั้งสองฟอนเฟ้นทรวงอกบีบขยำราวกับบีบให้แรงคามือถ้าทำได้ กระทั่งเขาผละจูบออกและเปลี่ยนมาจู่โจมซอกคอของฉันที่เบือนหน้าหนีไม่ให้เขาทำมัน หากแต่ว่าร่างกายกับหัวใจดันต่อต้านกันไปหมด “เวลาโกรธ คุณชอบเป็นแบบนี้ตลอด” “...” “ใครกันที่ตวาดฉันตอนนั้น แล้วก็หายหน้าไป ไม่ใช่ว่าไปหาแฟนเก่าหรือไง?!” ฉันตวาดใส่เขาอย่างเหลืออด ทำให้คุณจิณณ์หยุดการกระทำของตัวเองและผงกใบหน้าบีบปลายคางฉันให้หันไปสบตากับเขา “เธอรู้ได้ยังไง” “แสดงว่าไปจริงสินะ” ยกยิ้มตรงมุมปาก “ไปกระแทกหล่อนไม่หนำหรือไง ถึงมากระแทกน้องสาวคนนี้ด้วย” “เงียบ” “ได้เลยค่ะ ถ้ากระแทกหล่อนไม่หนำใจก็มากระแทกฉันได้” เชิดหน้าขึ้นพลางยิ้มให้กับเขาทั้งที่รู้สึกเจ็บแปลกๆ ตรงหัวใจ ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่เนี่ย? “แต่ถ้าฉันจะไปนอนให้ใครกระแทก ก็อย่าทำเป็นหมาหวงก้างก็แล้วกัน” “...” “อย่าลืมนะคะต่อหน้าเราก็เป็นพี่น้อง ลับหลังเราเอากัน แต่อย่าลืมคุณเป็นคนบอกเองว่าจะไม่มีความสัมพันธ์เชิงนั้นและฉันก็ตกลง คุณเองก็อย่ามาหลงน้องสาวคนนี้ก่อนก็แล้วกันนะคะ” “หึ” เขากดยิ้มร้ายพลางโน้มใบหน้าลงมาใกล้ชนิดที่ว่าสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ และกลิ่นของไวน์ที่ออกจากจมูกฉันผสมปนเปและทำให้มึนเมาได้เหมือนกัน แต่เป็นการมึนเมาเซ็กซ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ต่างหาก “หัวเราะทำไมคะ? หรือไม่มั่นใจว่าจะไม่หลงฉันก่อน” “เธอฝันอยู่หรือไง ไนล์” ใบหน้าคมคายแสยะยิ้มราวกับเป็นผู้ชนะที่ถือไพ่เหนือกว่าฉันมาก มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยเมื่อไหร่ฉันจะเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือเขาบ้างนะ “เธอมากกว่าที่ควรบอกตัวเองว่าอย่ามาหลงรักพี่ชายคนนี้จะดีกว่านะ” คุณจิณณ์ยกขาของฉันวางบนโต๊ะและแยกออกกว้างเพื่อให้เขาได้มองช่องทางคับแน่นที่เวลามีน้ำหวานใสกำลังไหลเยิ้มออกมาเพียงแค่เขาเล้าโลมไม่กี่ครั้ง เวลานี้ร่างสูงยืนตัวตรงวางมือลงบนหัวเข่าของฉันหนึ่งข้างส่วนมือขวาก็ค่อยๆ สอดนิ้วเรียวเข้าไปในกลีบดอกไม้ที่บานสะพรั่งให้เขาได้ขยับรัวนิ้วอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงดังลามกไปทั่วห้องทำงานของเขาที่มืดมิดหากแต่ว่ามีแสงไฟจากด้านนอกจากตึกต่างๆ ที่ให้แสงสว่างสาดส่องเข้ามา คงไม่เห็นหรอกนะว่าเราสองคนกำลังทำอะไรอยู่ เพราะชั้นนี้ของเขาอยู่สูงเฉียดฟ้าสนิทที่ไม่มีตึกไหนสูงไปกว่านี้ได้แล้ว ฉันแอ่นตัวขึ้นเล็กน้อยมือทั้งสองจิกขอบโต๊ะทำงานที่ใหญ่โตของเขา ขณะที่เขาสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปและขยับเข้ามาเพื่อเปิดทางให้ฉันได้ชิน ไม่สิ ไม่มีทางชินอยู่แล้วยิ่งมาเจอของขนาดของเขาฉันก็แทบจะลมจับ “แฉะเร็วขนาดนี้ ยังกล้าไปนอนให้คนอื่นกระแทกก่อนฉันได้ไง?” รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเรียบนิ่ง เวลานี้เขากลับยืนมองฉันด้วยสายตาที่สมเพช ใช่ ฉันมันน่าสมเพชสำหรับเขาเสมอนั่นแหละ นิ้วก็ยังคงขยับเพื่อทำให้ฉันปลดปล่อยออกมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ คุณจิณณ์ก็โน้มลงมาใช้อุ้งปากที่ร้อนราวกับไฟครอบครองเม็ดตุ่มที่แข็งเป็นไตพลางดูดดึงและใช้ฟันขบกันจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย หากแต่ว่ากลับรู้สึกดีในเวลาเดียวกันกับเซ็กซ์ที่เขากำลังจะมอบให้ ฉันเชื่อว่านี้ไม่ใช่การช่วยกันอย่างที่เคยทำ แต่มันกำลังจะกลายเป็นเซ็กซ์ในแบบที่ฉันและเขารอคอยมานาน คุณจิณณ์ไล่จูบมาตั้งแต่ทรวงอก หน้าท้องที่หดเกร็งตามจังหวะที่เขากำลังขยับนิ้ว กระทั่งเขาคุกเข่าถอดนิ้วออกเปลี่ยนจากนิ้วเป็นปลายลิ้นสากที่กำลังดื่มกินแอ่งน้ำหวานของฉันอย่างมูมมาม ตัวของฉันบิดเกร็งขาทั้งสองยกขึ้นเล็กน้อยกับความทรมานที่เขาได้ทำในครั้งนี้ ร่างสูงผละออกจากกลางกายสาวของฉันและยืนตัวตรงจากนั้นก็ปลดเข็มขัดออกจากหูกางเกง รูดซิปลงถลกกางเกงลงไปกองตรงข้อเท้าและถอดเสื้อสูทโดยไม่ถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากตัวเพียงแต่ปลดกระดุมออกเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกับรอยสักที่ดูน่าค้นหา มือซ้ายสาวท่อนเอ็นที่ชูชันแข็งแรงพร้อมรบ “ถุงยางล่ะคะ?” ฉันรีบถามเขาก่อนจะรับรู้ถึงหัวปลายบานหยักจดจ่อมาที่ถ้ำน้ำหวานที่สามารถทำให้เขาเข้ามาได้ถนัดขึ้นเนื่องจากเบิกทางและมีน้ำหวานคอยหล่อเลี้ยงมันไว้ คุณจิณณ์กระตุกยิ้มมุมปากเขาก็ไม่สนใจคำถามของฉันกลับสอดแทรกความยาวใหญ่เข้ามาจนตัวของฉันลอยเด่นเชิดหน้าขึ้นตาเบิกโพลง “จะ เจ็บ” “วันนี้ฉันจะแตกในใส่เธอ” “!” “ลงโทษน้องสาวที่คิดขัดขืนพี่ชาย” พูดจบเขาก็ดันตัวตนเข้ามารวดเดียวจนฉันจุกท้องตัวสั่นไปหมดขณะที่คุณจิณณ์ครางออกมาลั่นห้อง เขาประคองเอวฉันให้ขยับเข้ามาใกล้ขอบโต๊ะ วางมือลงบนหัวเข่าทั้งสองข้างของฉันก่อนจะถอนตัวตนออกไปจนสุดทางและกระแทกกลับมาใหม่ ทำแบบนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง “อ้า... แน่นเป็นบ้าเลยไนล์” คุณจิณณ์ครางออกมาลั่นห้องทำงานของเขา เวลานี้เราสองคนกำลังมัวเมาไปกับเซ็กซ์ที่ห่างหายกันมานานนับร่วมปี ถ้าจะให้นับหลังจากที่วันไนท์ฯ กับเขาไปก็ปีกว่าแล้ว พอได้มามีอะไรกันต้องบอกเลยนะคะว่าคุณจิณณ์ตอนนี้เซ็กซี่ ฮอตและร้อนแรงกว่าตอนนั้นมาก อาจจะเป็นเพราะว่าความโกรธและการได้เจอเพื่อนอย่างคุณเฑียร์ที่ไม่รู้ว่าบาดหมางอะไรกัน สุดท้ายเขากลับมาลงที่ฉันอย่างหนักหน่วงและรุนแรงจนโต๊ะทำงานของเขาเคลื่อนไปตามจังหวะที่เขาใส่มาไม่ยั้ง ขนาดที่ว่าฉันเอ่ยปากบอกให้เขาหยุดเพื่อให้ฉันได้พักหายใจกับการได้ปลดปล่อยออกมา คนตัวสูงก็ไม่สนใจฉันเลยแม้แต่นิด กลับกันเขากระหน่ำกระแทกอย่างลืมเป็นลืมตายจนเกิดเสียงเนื้อดังกระทบเนื้อรุนแรงไม่ต่างจากที่เขาใส่ฉันอย่างดุเดือด “อ๊ะ! ดะ ได้โปรดหยุด” น้ำเสียงขาดห้วงของฉันบอกเขาว่าแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว ถ้าเกิดเขาไม่ยอมหยุดให้ฉันคงเกร็งค้างจนแทบจะตายคาอกของเขาเป็นแน่ ราวกับคุณจิณณ์รู้ว่าฉันไม่ไหวจริงๆ จังหวะสุดท้ายที่ฉันปลดปล่อยออกมาเขาก็กดตัวแช่ค้างเอาไว้ ปล่อยให้ฉันกระตุกเกร็งอยู่นานหลายนาที ใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มลงมาบดขยี้จูบอย่างรุนแรงไม่ต่างจากเอวสอบที่เริ่มขยับอีกครั้ง การลงโทษของเขา... ทำให้ฉันตายได้จริงนะ มันเสียวจนจะตายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ช้าหน่อยค่ะ” “ฮึ่ม เร็วใช่ไหม ได้เลยสิไนล์” “อ๊าง! มะ ไม่... ช้า” ฉันส่ายหน้าไปมาบิดตัวไปด้วยความทรมานที่เขาไม่ยอมฟังฉันเลยแม้แต่นิด คุณจิณณ์คำรามในลำคอลีลารักของเขาแสนพลิ้วไหวราวกับสายลมที่ริมทะเล ราวกับคลื่นทะเลมากมายที่สาดซัดเข้ามาในท้องน้อยของฉันทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวเอวเน้นหนักทุกช่วงจังหวะไม่มีผ่อนคลายเพื่อให้ฉันรู้สึกทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆ กัน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองปลดปล่อยไปกี่รอบ รู้แค่ว่าทุกครั้งมันเหนื่อยเจียนขาดใจ เวลานี้คุณจิณณ์ให้ฉันลุกขึ้นยืนเอนหลังพิงกับขอบกระจกยกขาฉันข้างหนึ่งขึ้นจำต้องโอบกอดลำคอแกร่งเพื่อบดคลึงริมฝีปากที่ไม่ถอนออกจากกันเลยนับตั้งแต่เขาพามาทำตรงนี้ สมองของฉันเหมือนหลุดไปในห้วงสวาทอันร้อนฉ่าที่เขาเป็นคนมอบให้ ใบหน้าของเขาห่างกันเพียงคืบหลังจากเราถอนจูบออก สายตาหลุบมองจุดเชื่อมที่กำลังขยับเข้าออกตามคนตัวสูงที่คอยควบคุมจังหวะ “เวลาไปเอากับใคร ก็ป้องกันไว้ด้วย” เขาพรมจูบตามใบหน้าฉันและเลื่อนมากระซิบที่ข้างใบหู “ไม่ต้องบอก ฉันก็รู้... อื้อ!” “ยังคิดจะไปเอากับคนอื่นอยู่สินะ” เวลาเขาโกรธอยากจะรู้ว่าเขารู้ไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน อารมณ์ดิบเถื่อนแบบนี้ฉันก็พอจะเข้าใจ แต่พอผสมปนเปไปกับความโกรธมันยิ่งทวีความรุนแรง สุดท้ายเขาก็เอามันมาลงกับฉัน... “ทีคุณยังไปเอากับแฟนเก่าได้ ทำไมฉันจะทำมะ... จุกนะคะ!” จู่ๆ เขาก็กระแทกสวนขึ้นมาอย่างแรงจนฉันตัวสั่นเทิ้ม คุณจิณณ์ไม่มองหน้าฉันกลับก้มลงไปใช้ลิ้นดุนเลียยอดอกที่ชูชันให้เขาได้ครอบครองมันอย่างเต็มใจ ร่างกายทำไมต้องตอบสนองเขาขนาดนี้ด้วย แต่สมองกลับต่อต้านเนี่ยนะ? ร่างกายไม่ตรงกับใจของจริงเลย คุณจิณณ์ถอนตัวตนออกและพลิกตัวฉันให้หันหน้ามองไปทางวิวทิวทัศน์เอามือทั้งสองทาบกับกระจกแอ่นก้นไปหาเขาทันทีอย่างรู้งาน ฝ่ามือหนาประคองเอวบางจากนั้นก็สอดแทรกเข้ามาจากด้านหลังรับรู้ถึงหน้าขาที่กระทบกับก้นงามงอนของฉัน เป็นอีกครั้งที่คุณจิณณ์กระแทกเข้ามาอย่างป่าเถื่อน ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีนอกซะจากส่งเสียงครวญครางเป็นการระบายความรู้สึกนี้ มันทั้งเจ็บ ทั้งหน่วงและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ทั้งที่น้อยใจเขาชะมัดที่ไปเอากับแฟนเก่าและมาเอากับฉันที่สถานะเป็นแค่น้องสาวของเขา ทำไมเขาทำเหมือนจับปลาสองมือด้วย? ทำไมต้องทำเหมือนหวงก้างฉันกับคุณเฑียร์? ถ้าจะบอกว่าคุณเฑียร์อันตรายก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาต้องมาทำแบบนี้กับฉันหรือเปล่า เพราะถ้าหากทำกันดีๆ ฉันก็จะไม่เสียใจเลยสักนิด แต่นี่เขา... ถึงจะคิดเรื่องบ้าๆ จำต้องสลัดมันออกไปจากสมองและแอ่นบั้นท้ายรับทุกการกระแทกของคุณจิณณ์ที่ทำต่อเนื่องราวกับว่าแรงที่มีมันไม่มีวันหมดยังไงยังงั้น สิ่งที่ฉันทำได้คือการเผยอปากครางออกมาไม่เป็นศัพท์ รับรู้ถึงเรียวขาที่เหนียวเหนอะหนะไปด้วยน้ำหวานใสของตัวเองที่ทะลักออกมาตามจังหวะที่คุณจิณณ์เข้าใส่ไม่ยั้ง กระทั่งเขากดตัวแช่ข้างเพื่อให้ฉันเกร็งกระตุกปล่อยแอ่งน้ำหวานมาอีกระลอกไม่รู้กี่ระลอก ลมหายใจของฉันขาดห้วงหากแต่ว่าคุณจิณณ์ก็ยังไม่ยอมที่จะหยุด เขาพาฉันมานอนคว่ำบนโต๊ะทำงาน จากนั้นก็กระทำกับฉันอย่างรุนแรงเป็นการร่วมรักที่เร่าร้อนราวกับไฟนรกที่พร้อมจะแผดเผาฉันให้เป็นจุล ฝ่ามือหนายึดไหล่ทั้งสองฉันไว้และโยกเอวสอบเข้ามาถี่ยิบจนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง Rrr “!” คุณจิณณ์หยุดกระแทกเข้ามาพลางมองกระเป๋าสะพายของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะ ฉันแทบจะไม่มีแรงหยิบมันด้วยซ้ำเป็นเขาที่โน้มตัวไปหยิบมันขึ้นมา ฉันที่แนบใบหน้าลงกับโต๊ะหอบหายใจเหนื่อยขณะมองร่างแกร่งที่เวลานี้ทั้งใบหน้า ร่างกายทุกสัดส่วนเต็มไปด้วยเหงื่อและอาการเหนื่อยหอบที่ออกมานิดหน่อย ต่างจากฉันที่หอบหนักจนแทบจะเป็นลม เขามองปลายสายที่โทรเข้ามาพลางยกนิ้วชี้แตะตรงริมฝีปากเพื่อให้ฉันเงียบ ทว่าใครมันจะไปเงียบกันล่ะก็เขาน่ะเล่นกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงขนาดนี้ “ชู่ว... สวัสดีครับคุณนารี” มะ แม่งั้นเหรอ?! ฉันหวังจะคว้ามือถือจากเขา หากแต่ว่าคุณจิณณ์กลับใช้มือซ้ายกดท้ายทอยฉันไว้ไม่ให้ขยับ แถมยังจ้วงแทงเข้ามาในร่องกายของฉันนับครั้งไม่ถ้วน สิ่งที่ทำได้คือการเอามือปิดปากไม่ให้เสียงครางเล็ดลอดออกไป หากแต่ว่าเสียงน่าอายก็ดังไปทั่วห้องถ้าแม่ได้ยินจะทำยังไงล่ะ “ไนล์อยู่กับผมครับ อ้า พอดีเธอไปเข้าห้องน้ำ” เขาครางใส่ปลายสายขณะที่ขยับเอวถี่กระชั้นจนฉันส่ายหน้าไปมา ไม่ให้เสียงครวญครางเล็ดลอดออกไปให้แม่ได้ยิน “อ๋อ ไนล์ออกมาพอดีเลยครับ... คุยกับแม่เธอสิ” “คะ คนเลว!” [50%] *--------------------------------*
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม