กัดฟันกรอดด่าคุณจิณณ์ที่กระตุกยิ้มมุมปาก มือถือแนบข้างใบหูนั้นเป็นเหตุผลให้ฉันดึงมือตัวเองออก สูดลมหายใจเข้าเพื่อประคองเสียงตัวเองให้เป็นปกติที่สุด “แม่มีอะไรคะ”
(“เห็นว่าดึกแล้วไนล์ไม่โทรหา แม่เป็นห่วง แต่อยู่กับคุณจิณณ์แม่ก็สบายใจแล้ว”)
“ค่ะ อ๊ะ!” คุณจิณณ์ดันตัวตนเข้ามาสุดและกระแทกกลับเข้ามาใหม่จนฉันนิ่วหน้าไปด้วยความจุกเสียด
(“เป็นอะไรหรือเปล่าลูก”)
“เปล่าค่ะ ไนล์อาจจะให้คุณจิณณ์ไปส่งที่คอนโดเกรซ อื้อ พอดีไนล์รีบ... อ๊าง!” กดวางสายและโยนมือถือลงบนพื้นขณะที่คุณจิณณ์กระหน่ำกระแทกเข้ามาอย่างรวดเร็วและพาฉันไปถึงฝั่งฝันได้อีกครั้งไม่รู้กี่ครั้ง ไม่ได้นั่งนับ รู้แค่ว่าฉันหันไปมองเขาตาขวางกับการกระทำที่แสนเลวทรามเมื่อกี้ “คุณทำบ้าอะไร ถ้าแม่รู้เรื่อง เรื่องนี้ถึงหูพ่อคุณด้วยนะคะ!”
“จะตวาดใส่ฉันเพื่อ? เธออยากหลุดครางเองทำไมล่ะ”
“คุณนี่มัน...”
“ได้เวลาเธอโชว์แล้ว ไนล์”
คุณจิณณ์ขยับถอนตัวตนออกไปจนน้ำหวานใสของฉันไหลเยิ้มออกมาทันที เขาหมุนตัวเดินไปนั่งบนโซฟาพาดแขนทั้งสองบนที่พิงพลางตบตักราวกับบอกว่า ‘มานั่งทับมันซะดีๆ’ เพราะแบบนี้ฉันก็ถือโอกาสอยู่เหนือเขาบ้างและเป็นคนควบคุมเกม ถอดชุดเดรสออกจากทางศีรษะร่างกายเปลือยเปล่าทว่ายังคงสวมรองเท้าส้นสูงไว้ไม่ได้ถอดออก ฉันขึ้นคร่อมเขาก่อนจะโน้มใบหน้าจรดจูบบนริมฝีปากแดงคล้ำ บรรจงจูบอย่างดูดดื่มก่อนจะไล่จูบมาที่แก้มสากที่มีนวดขึ้นรำไร ไล่มาถึงซอกคอหอมของเขาฉันก็ดูดดึงสร้างรอยคิสมาร์กเอาไว้เป็นจ้ำใหญ่ๆ ดีนะที่เขาไม่ได้ทำรอยบนตัวฉันจะมีก็แค่รอยขบกัดตรงเนินอกแค่นั้น มือซ้ายสอดเข้าใต้เรือนผมหนาดกสีดำเวลานี้ชื่นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ใบหน้าหล่อคมคายแหงนหน้ามองฉันที่ตอนนี้กำลังก้มหน้ามองเขาด้วยสายตาที่ยั่วยวน ขณะที่มือขวาจับท่อนเอ็นรูดรั้งและเอามาจดจ่อตรงปากทางเข้าที่ฉ่ำแฉะของตัวเอง
“อื้อ” ฉันครางออกมาเล็กน้อยเมื่อค่อยๆ นั่งทับความยาวใหญ่ของเขาที่สอดแทรกเข้ามาจนช่องทางรักขยายกว้างตามขนาดของเขา ยามที่ฉันกดตัวนั่งลงทับตัวของฉันสั่นเล็กน้อยราวกับเหมือนมีใครเอาน้ำเย็นมาสาด มันทั้งจุกและเสียวในเวลาเดียวกัน เมื่อแช่ท่อนเอ็นอยู่ในตัวนานพอควร ดวงตาของเราก็จดจ้องมองกันและกัน ฝ่ามือซ้ายที่สวมนาฬิการาคาแพงยกขึ้นเสยผมตัวเองขึ้นเปิดรับหน้าผากที่เข้ากับใบหน้าของเขาได้อย่างดีเยี่ยม ปกติคุณจิณณ์มักจะเซตผมของตัวเองอยู่เสมอ เวลานี้เหงื่อกลับทำให้เจลที่ปาดไว้ละลายกลายเป็นว่าผมของเขาปรกใบหน้าจนถึงดวงตา ดังนั้นเขาจึงได้เลือกที่จะเสยมันขึ้นไม่ให้ปกปิดดวงตาขณะที่กำลังมองฉันควบกายแกร่งของเขา วางมือบนบ่ากว้างทั้งสองกดเล็บยาวๆ ลงบนผิวเนื้อขาวทว่าวันที่ไปทะเลกลับทำให้เขามีผิวสีแทนขึ้นมาเล็กน้อย ดูมีเสน่ห์และเซ็กซี่ขึ้นเป็นกองเลย
ฉันขยับขึ้นๆ ลงๆ ตามแรงปรารถนาโดยมีร่างสูงที่มองด้วยสีหน้าทรมานกับเกมที่ฉันเป็นคนควบคุม ไม่ช่วยฉันแม้แต่นิดราวกับปล่อยให้สัญชาตญาณนำทางให้ฉันทำให้ตัวเองเสร็จสมเอง ใบหน้าของฉันโน้มไปไล่ขบติ่งหูของเขาพลางเผยอปากเพื่อระบายลมหายใจออกมาจากทางนั้น สองแขนกอดลำคอของเขาแน่นไม่ต่างจากเขาที่ประคองเอวบางไว้บีบเค้นอย่างแรง
“อ๊ะ! จะไม่ไหวแล้ว” กระซิบบอกเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าชวนให้น่าหลงใหล คุณจิณณ์ไม่พูดอะไรเขาก็ปล่อยให้ฉันกดกระแทกอย่างรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน เนื้อตัวของฉันรุ่มร้อนเหมือนคนเป็นไข้เมื่อได้เวลาที่ตัวเองจะปลดปล่อย ร่องกายของฉันก็ตอดรัดท่อนเอ็นของเขาแน่นขึ้น... แน่นขึ้น หลังจากนั้นฉันก็กดตัวแช่ค้างเชิดหน้าขึ้นสูดปากราวกับกินของเผ็ด กระตุกเกร็งอยู่นานหลายวินาทีปลดปล่อยแอ่งน้ำหวานออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวเหนียวไปหมด หอบหายใจหนักเมื่อสบตากับคุณจิณณ์ที่เอื้อมมือมาประคองแก้มฉันและเลื่อนฝ่ามือไปด้านหลังดึงยางรัดผมของฉันออก ปล่อยให้เส้นผมสยายกลางแผ่นหลังก่อนจะกลับมาลูบไล้แก้มพลางกดจูบมาที่กลีบปากซีดเซียวที่สั่นเล็กน้อย คุณจิณณ์ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวสิ่งที่เขาแสดงออกคือการกระทำที่ตอนนี้อุ้มฉันทั้งๆ ที่จุดเชื่อมยังไม่หลุดออกจากกันเข้ามาในห้องนอนของเขา “จะเอากันในตายจริงๆ ใช่ไหมคะ?”
“...” ฉันถามเขาที่บอกให้ฉันนอนตะแคงข้างและตัวของเขาก็ขยับไปซ้อนด้านหลัง ยกขาฉันขึ้นลอยเด่นก่อนจะสอดแทรกแท่งร้อนมาจากด้านหลัง ยามที่เขาสอดใส่ทุกครั้งฉันมักจะตกใจกับขนาดที่ใหญ่โตเกินมาตรฐาน “บอกแล้วใช่ไหม จะลงโทษน้องสาวคนนี้ โทษฐานที่ไม่เชื่อฟังพี่ชาย”
มืออีกข้างที่ว่างก็เลื่อนมาบีบขย้ำทรวงอกฉันไปด้วย ก่อนจะออกแรงกระแทกเข้ามาจนฉันบิดหน้าไปด้วยความทรมาน ไม่ว่าจะกี่ท่วงท่าที่คิดว่ามันอาจจะทำให้ฉันไม่มีความสุข มันใช้ไม่ได้กับคุณจิณณ์เลยแม้แต่นิด เขากลับทำให้ฉันครวญครางออกาอย่างสุขสมเพราะเสียงครางเป็นการบ่งบอกได้อย่างดีว่าฉันมีความสุขมากแค่ไหนที่เขาทำมัน หัวใจของฉันจดจ่ออยู่กับส่วนที่ถูกแท่งเนื้อขนาดใหญ่ผลุบเข้าผลุบออก เป็นจังหวะที่หนักหน่วงและร้อนแรงเสมอ ไม่มีเลยความอ่อนโยนที่เขามอบให้มีแต่ความรุนแรงแบบป่าเถื่อนดุดันเหมือนกับหนึ่งปีก่อนก็ว่าได้ ครั้งนั้นว่ารุนแรงแล้วครั้งนี้กลับรุนแรงมากถึงพันเท่า
“Damn! woefully tight!” (แม่ง! แน่นฉิบหาย!) ร่างหนาเสียวซ่านถึงขนาดขีดสุด ถึงได้เผลอสบถคำหยาบคายออกมาอย่างทรมาน เขาซุกหน้าลงที่ลำคอของฉันพรมจูบไปทั่วเพื่อระบายความทรมานไม่ต่างจากฉันที่กดเล็บบนท่อนแขนแกร่งที่เวลานี้เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน
“อ๊ะ! ระ แรงกว่านี้” ฉันสบถออกมาให้เขาทำมันแรงกว่านี้เนื่องจากฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ พอคุณจิณณ์ได้ฟังเขาก็ขยับเอวอย่างรวดเร็วจนพาไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ ใบหน้าของฉันฟุบลงกับหมอนพลางขยุ้มผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่านเนื่องจากเขาไม่ยอมที่จะหยุดจริงๆ เขาตามมาพลิกตัวฉันให้นอนคว่ำราบไปกับเตียงนอน ประคองเอวฉันไว้ด้วยสองมือก่อนจะลูบไล้แผ่นหลังของฉันโน้มใบหน้ามาจรดจูบตรงท้ายทอย ฝ่ามือหนาบีบคางเบาๆ ให้เอียงคอตอบรับจูบได้ถนัด คุณจิณณ์จูบปิดปากฉันโดยที่เอวสอบยังคงซอยเอวเข้ามาถี่ยิบ ทำให้กระทบกับก้นงามจนเกิดเสียงลามกดังขึ้นอีกครั้งในหลายรอบที่เขากระทำกับฉันอย่างรุนแรง “อื้อ... ฮึก”
ส่ายหน้าไปมาพยายามเบือนหน้าหนีจูบของเขาเพราะว่าความเสียวถ้าไม่ได้ระบายออกมาจากทางปาก ไม่ได้ร้องครวญครางฉันจะเป็นฝ่ายที่ต้องขาดใจตายแน่ไม่ใช่เขา คุณจิณณ์เหมือนรู้ว่าฉันเริ่มจะขาดใจเขาถึงได้ถอนจูบออกไปทำให้ฉันกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ก่อนจะรับรู้ถึงข้อศอกทั้งสองข้างถึงดึงไปไขว่ไว้ด้านหลัง ตัวของฉันยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมก้นงามโด่งเด้งที่แอ่นรับทุกการกระแทกของเขา
ตับตับตับ
เสียงดังกระทบเนื้อดังเข้ามาในโสตประสาทเวลานี้มันล่วงเลยมานานแค่ไหนฉันไม่อาจรับรู้ได้ ที่รู้ๆ คือเมื่อไหร่คุณจิณณ์จะเสร็จสักที ฉันเริ่มที่จะเหนื่อยที่จะรับแล้วบอกตามตรง ศีรษะของฉันสั่นคลอนตามจังหวะกระแทกที่แสนจะหนักหน่วง กระทั่งเขากดตัวและปล่อยให้ฉันเป็นอิสระโน้มตัวลงนอนฟุบกับเตียงนอนโดยที่ยังขยับโยกบั้นท้ายโยกเข้าออกตามสัญชาตญาณ
“ดีมาก โยกแบบนั้นไนล์” คุณจิณณ์ไม่ได้ขยับช่วยเลยแม้แต่นิด กลับกันเขาดันฟาดมันลงบนผิวเนื้อก้นฉันอย่างแรงจนเจ็บแสบไปหมดทั้งสองข้าง “ต้องการพี่ชายขนาดนั้นเชียว”
“อื้ม... ค่ะ” พยักหน้ารับแบบเสียงไม่ได้ กัดปากตัวเองจนห่อเลือดโดยที่ยังคงขยับโยกเอวเดินหน้าถอยหลังก่อนจะหมุนเอวไปวงกลมทำแบบนี้อยู่นานคุณจิณณ์ก็อดรนทนไม่ไหวคว้าเอวของฉันไว้และเป็นฝ่ายซอยเอวเข้ามาถี่ยิบ ฉันเท้ามือยันตัวเองขึ้นเชิดหน้าอ้าปากค้าง หันไปมองร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตากระแทกใส่ฉันไม่ยั้ง ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจากร่างกายกำยำที่เม็ดเหงื่อชุ่มช่ำจนเสื้อเปียกอย่างเห็นได้ชัด ออกแรงกระแทกบั้นท้ายของฉันอย่างหนักหน่วงจนเริ่มปวดจุกหน้าท้องขึ้นมาเสียดื้อๆ มันรุนแรงขนาดนี้ฉันไม่เจ็บน้องสาวกับหน่วงท้องก็ให้มันรู้ไปสิ ร่างกายของฉันกระตุกเกร็งทันทีที่คุณจิณณ์กดตัวเข้ามาให้ฉันได้ปลดปล่อยน้ำหวานที่มันไม่มีวันสิ้นสุด จากนั้นเขาก็ถอนตัวตนออกไปพลิกให้นอนหงาย ฉันก็แยกขาออกอัตโนมัติมองร่างสูงที่คุกเข่าจับแท่งร้อนจดจ่อมาที่ปากทางเข้า ไม่รอให้เสียเวลาเขาก็จับมันยัดเข้ามารวดเดียวจนหน้าท้องแบนราบของฉันหดเกร็ง คุณจิณณ์โยกเอวเข้าออกทันทีไม่ให้ฉันได้พักเอื้อมมือมาบีบปลายคางฉันและกดจูบบนกลีบปากก่อนจะดูดดึงให้ฉันเผยออ้าปากออกเพื่อสอดเรียวลิ้นเข้ามาตวัดเข้ามาในโพรงปาก ฉันยกแขนทั้งสองโอบกอดลำคอแกร่งจิกนิ้วลงบนแผ่นหลังของเขาข่วนจนทั้งแขนและหลังของเขาเป็นรอยหมดแล้ว ฉันรู้ได้สิเพราะเล็บของฉันมันยาวแค่ไหน ทำไมจะไม่รู้
ฉันเลื่อนมือทั้งสองของตัวเองไปประคองเอวสอบที่ขยับซอยเอวถี่ยิบ ก่อนจะเอื้อมไปบีบก้นของเขาเพื่อระบายความเสียวซ่านขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาซุกลงที่ลำคอพรมจูบและแลบลิ้นเลียเหงื่อของฉันไปด้วย เขาผงกหน้ามามองใบหน้าหวานที่น่าจะแดงซ่านของฉัน ยั่วยวนกระตุ้นให้เขาซอยถี่และรุนแรงมากขึ้นกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจิณณ์ขยับตัวไปนั่งตัวตรงมือสองข้างจับหัวเข่าให้อ้ากว้างมากขึ้น ท้องน้อยของฉันบิดเกร็งเมื่อใกล้ถถึงจุดหมายปลายทาง
“อ๊ะ! อ๊ะ! จะไม่ไหวแล้วค่ะ” บอกเขาด้วยน้ำเสียงครางกระเส่า คุณจิณณ์ก็ยิ่งกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงก่อนที่ฉันจะแอ่นตัวขึ้นปลดปล่อยน้ำหวานออกมาพลางกระตุกเกร็งเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้หายใจหายคอดีคุณจิณณ์ก็ยกขาที่สวมรองเท้าส้นสูงพาดบ่าแล้วกระหน่ำจ้วงแทงเข้ามาทันทีโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างสูงปล่อยขาฉันลงจากบ่าพลางโน้มตัวลงมาสอดแขนเข้าใต้รักแร้เพื่อยึดไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ คุณจิณณ์ซบหน้าลงกับลำคออีกครั้ง ส่วนฉันก็โอบกอดแผ่นหลังกว้างกรีดเล็บข่วนแผ่นหลังเขาไม่รู้ว่ากี่รอยแล้ว หากแต่ว่าคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่รู้สึกได้ถึงอุณภูมิตัวของเขา ปกติก็จะร้อนอยู่แล้วแต่ทำไมตอนนี้ถึงได้... “ทำไมตัวร้อนคะ อื้ม!”
“ไม่รู้ ฮึ่ม ร้อนเพราะเธอมั้ง” คุณจิณณ์ตอบแบบขอไปที ทว่าฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะว่าเขาตัวร้อนน่ะ แต่ดูเหมือนคนตัวใหญ่จะไม่ได้สนใจอาการของตัวเองเลยสักนิด กลับกระแทกแก่นกายเข้ามาถี่คำรามต่ำแข่งกับเสียงครวญครางของฉัน ร่องกายของฉันตอดรัดตัวตนของคุณจิณณ์ที่ขยายใหญ่มากขึ้นราวกับอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้เขากำลังจะปล่อยออกมา ดวงตาของฉันหลับลงเชิดหน้าขึ้นเผยอปากเพื่อเตรียมตัวรับมันเข้ามาสินะ ดูเหมือนว่าเขาจะพูดจริงทำจริงที่บอกว่าจะลงโทษฉันแบบป่าเถื่อนน่ะ มันก็ป่าเถื่อนจริงๆ ไม่มีคำว่าอ่อนโยนในพจนานุกรมของผู้ชายที่ชื่อจิณณ์ พี่ชายที่แสนร้ายกาจของฉัน “ซี้ด! นะ ไนล์ จะแตกแล้ว... ตะ แตกแล้ว!”
“อื้อ!”
น้ำกามที่อัดอั้นเอาไว้นานกระฉูดราวกับเขื่อนแตก ตัวของฉันกระตุกเกร็งตวัดขาเกี่ยวเอวสอบเอาไว้ขณะที่ท้องน้อยรับรู้ถึงน้ำขาวขุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วท้องน้อย คุณจิณณ์กระตุกเกร็งสั่นอย่างรุนแรงก่อนจะกระแทกเอวเข้ามาจนมิดด้ามประมาณสามสี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยน้ำรักพวยพุ่งเข้ามาในถ้ำรักของฉันให้หมดทุกหยด เขาขยับใบหน้ามามองฉันหอบหายใจไม่ต่างกันเลย กระทั่งเขาเอียงองศาของใบหน้าเพื่อบดขยี้กลีบปากฉันที่รับจูบของเขาอย่างเต็มใจ
“จากนี้ถ้าไม่เชื่อฟังฉัน พี่ชายคนนี้จะแตกในใส่เธอทุกครั้งที่เธอกล้าลองดี” เขาขู่ฉันด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ พอฉันไม่ตอบอะไรเขากลับจูบมาที่เปลือกตาและลูบศีรษะฉันอีกต่างหาก “เข้าใจไหม ไนล์”
“...”
“ไม่เข้าใจเหรอ? งั้นฉันเอาอีกรอบ”
“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ” รอบเดียวก็จะตายคาอกเขาแล้ว มีต่ออีกรอบฉันคงลงโลงแล้วเผาเลย ฉันวางมือลงบนแผงอกเพื่อดันให้ร่างสูงถอนตัวตนออกไปสักที คุณจิณณ์เหมือนรู้ความต้องการเขาก็ขยับไปจับท่อนเอ็นของตัวเองก่อนจะค่อยๆ ดึงมันออกมาจากปากทางเข้าที่เวลานี้ฉันลุกขึ้นนั่งมองน้ำขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำหวานใส หันไปมองทิชชูก็หยิบมันมาทำความสะอาด ร่างสูงหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่ตรงปลายเตียงมาพันเอวก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป เห็นแผ่นหลังที่มีรอยสักลวดลายสวยงามมีรอยข่วนเยอะมาก แอบสะใจนิดๆ คุณจิณณ์กลับมาพร้อมบุหรี่ที่คาอยู่ตรงมุมปาก เขาก็เอนสะโพกพิงกับชั้นวางทีวีขนาดยักษ์ ส่วนฉันก็ถอดรองเท้าส้นสูงโยนทิ้งไปและโน้มตัวไปหยิบผ้าขนหนูมานุ่งกระโจมอกบ้าง เห็นลำคอฝั่งซ้ายมีรอยคิสมาร์กก็แอบอมยิ้มคนเดียว ไหนจะท่อนแขนทั้งสองข้างที่มีเส้นเลือดปูดโปนก็มีรอยข่วนอีกนับไม่ถ้วน
“ไปรู้จักกับไอ้เฑียร์ได้ไง?” น้ำเสียงเข้มแหบพร่าเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์
“เขาชื่นชอบฉันนี่คะ แถมส่งดอกไม้มาให้กำลังใจเสมอเวลาทำงาน”
“...” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะจ้องเขม็งมาที่ฉันซึ่งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เบือนหน้าหนีไปมองวิวทิวทัศน์ ในห้องเปิดไฟแล้วนะหลังจากที่ปิดไฟเอากันไปเมื่อกี้
“ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนกับคุณ”
“ทีนี้ก็รู้แล้ว” คีบบุหรี่ออกจากมุมปากและพ่นควันเหนือศีรษะ “จะยุ่งอีกไหม?”
“มันสิทธิ์ของฉัน” บ่นอุบ “ทีคุณยังไปเอากับแฟนเก่า ฉันยังไม่ว่าเลยนะ”
“รู้ได้ไงว่าฉันนอนกับ...” ราวกับคุณจิณณ์จะหลุดคำพูดมาเขาก็กลืนคำนั้นลงคอ “เธอไม่รู้จักนิสัยมันนะไนล์”
“เพราะแบบนี้ถึงต้องเรียนรู้ไงคะ”
“แต่ฉันรู้ว่ามันเป็นคนยังไง เธอไม่มีทางรู้เลยว่ามันคิดหรืออยากทำอะไรกับเธอบ้าง”
“เป็นห่วงหรือไงคะ?” โยนหินถามทางแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา จึงทำได้เพียงเม้มริมฝีปากตัวเอง “ชีวิตของฉัน ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไม่ต้องยุ่งหรอกค่ะก็แค่พี่น้อง ไม่ใช่ทางสายเลือดโดยตรงสักหน่อย”
“แต่พ่อฉันกับแม่เธอต้องการให้เราเป็นพี่น้อง”
“...”
“ฉันก็มีสิทธิ์ในฐานะพี่ชาย ที่จะสั่งสอนเธอถ้าเกิดขัดคำสั่งฉัน”
“เราตกลงกันแล้วนะคะว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันด้วยเรื่องส่วนตัว ก็แค่นอนกัน” ใครจะไปยอมฝ่ายเดียวกันล่ะ “หรือคุณจิณณ์เป็นแบบที่คุณเฑียร์พูดจริงๆ”
“เป็นอะไร?”
“หมาหวงก้าง” พอฉันพูดแบบนี้คนตัวสูงก็นิ่งไปทันที “ถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็ปล่อยให้ฉันทำอะไรด้วยตัวเองเถอะค่ะ เรื่องผู้ชายฉันเลือกเองได้ ดูๆ กันไปถ้าไม่ดีฉันก็จะไม่สานสัมพันธ์ต่อ”
“...” ยังคงเงียบแถมจ้องหน้าฉันนิ่งๆ ราวกับใช้ความคิด
“ฉันขอบคุณที่คุณเป็นห่วง ถึงจะไม่ได้ห่วงจริงๆ ก็เถอะ” ลุกขึ้นหวังจะเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อล้างคราบพวกนี้ออกให้หมด หากแต่ว่าคุณจิณณ์ก็คว้าต้นแขนฉันไว้ จำต้องหันไปสบตากับเขาที่เหมือนจะพูดอะไรก็ไม่พูด ราวกับกำลังเรียบเรียงคำพูดเพื่อทำให้คนฟังอย่างฉันรู้สึกดีหรือแย่ซะมากว่า
“แล้วเธอจะเสียใจไนล์ ที่ไม่เชื่อฉัน”
*---------------------------------*