Ginx's to meet you:: CHAPTER 3 เอาใจพี่ชายที่แสนดี [100%]

2349 คำ
เขาโบกมือให้ฉันก่อนจะขึ้นลิฟต์ไป ส่วนฉันที่ได้แต่มึนงงก็ยกข้อมือซ้ายดูเวลาเกือบจะได้เวลาแล้ว จึงกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าโรงแรมตรงไปยังห้องโถงที่เวลานี้นางแบบกำลังยืนมองเจ้าของแบรนด์ต่างชาติและมีผู้จัดการคนไทยที่คอยแนะนำให้การเดินซ้อมให้ด้วย เพราะเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมดและฉันคือหนึ่งในนางแบบที่ทางเจ้าของเลือกการทำงานของฉันก็เป็นมืออาชีพมากๆ การได้มายืนจุดนี้ไม่ง่ายและไม่ยาก ฉันถึงพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง “ไนล์ พี่อยากให้ไนล์เดินก้าวเท้าสั้นกว่านี้นิดหนึ่ง น่าจะพอดีกับการเดินมาหยุดตรงหน้าเวที” “ได้ค่ะ” ฉันตอบผู้จัดการที่แนะนำการเดินให้ฉัน ซึ่งโดยปกติฉันจะเป็นคนที่เดินเร็วแต่ละคอนเซปจะไม่เหมือนกันดังนั้นการเดินแฟชั่นโชว์เป็นการเดินแบบนางแบบแถวละสามคน ดังนั้นต้องก้าวให้สั้นกว่านี้เพื่อจะได้ตรงกับเพื่อนนางแบบที่เดินต่อจากฉัน คนที่เปิดหัวคือนางแบบต่างชาติ ฉันจะเดินออกเป็นคนที่สามจะวนครบพอดี วันนี้ทั้งวันฉันให้เวลากับการซ้อมเดินแบบและพรุ่งนี้ถึงจะมาลองชุดที่ต้องเดิน การเดินแบบมันยากและเหนื่อยมากเลยนะ ทว่าฉันก็ทนเพื่อให้งานออกมาให้ดีที่สุดกระทั่งเดินจนเท้าของฉันเจ็บเล็กน้อย ด้วยเพราะต้องสวมส้นสูงกำมะหยี่สีดำส้นแหลมห้านิ้วและหัวแหลมทำให้บีบรัดนิดหน่อย ฉันก็ทนเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของนางแบบท่านอื่น “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้มาลองชุดและเดินกันใหม่ Thank you!” พวกเราปรบมือให้กันและกัน เวลานี้ก็ผ่านมารวดเร็วจนถึงเย็น ฉันเดินมานั่งที่เก้าอี้สำหรับจัดแสดงโชว์และคืนรองเท้าให้กับทางแบรนด์ซึ่งรองเท้าก็เป็นของแบรนด์ไง พอถอดมองมายังนิ้วเท้าก็พบว่าแดงเล็กน้อย แถมยังเจ็บตรงช่วงหลังเท้าด้วย ไม่เป็นไรฉันทนได้อยู่แล้ว! ไม่อยากสร้างปัญหาด้วยเรื่องแค่เล็กน้อย พอทำงานเสร็จฉันก็ถอดรองเท้าเดินในโรงแรมของคุณจิณณ์เพราะใส่รองเท้าไม่ได้ไม่งั้นมันจะเป็นหนัก งานก็ใกล้เข้ามาแล้ว การที่ฉันถือรองเท้าของตัวเองเดินเท้าเปล่าทำให้ทุกคนที่เดินผ่านไปมามองด้วยสีหน้ามึนงง ฉันขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่คุณจิณณ์ทำงานก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เพราะรอบๆ เป็นกระจกเกือบทั้งหมดเลยแถมมีคนของเขาเดินไปมา ฉันจึงถามว่าห้องของเขาไปทางไหน พอหยุดตรงหน้าประตูไม้ขัดเงาราคาแพง “ขอโทษนะคะ คุณจิณณ์อยู่ไหมคะ?” ฉันหันไปมองเลขาสาวสวยที่แต่งตัวเซ็กซี่มากมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “มองขนาดนี้ อยากมาดูใกล้ๆ ไหมคะ” “มาหาบอสมีธุระอะไรเหรอคะ แล้วไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร” หล่อนถามฉันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จนฉันขมวดคิ้วแต่ก็ฉีกยิ้มกว้างให้หล่อน “เผอิญว่าฉันเป็นน้องสาวของคุณจิณณ์น่ะค่ะ และเขาก็ให้ฉันมาพบเขาหลังจากซ้อมเดินแบบเสร็จ” “...” หล่อนทำหน้าตกใจทันที “ฉันเข้าไปหาพี่ชายของฉันได้หรือยังคะ?” “คุณจิณณ์เป็นลูกคนเดียวนี่คะ จะไปมีน้องสาวได้ยังไง” ดูก็รู้ว่าหล่อนคงจะเป็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยสินะ แลดูหวงก้างยังไงบอกไม่ถูก “คุณมั่วหรือเปล่า” “ไม่ค่ะ” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะขยับไปเท้ามือบนโต๊ะกร่อนและโน้มใบหน้าเข้าไป “ฉันเป็นน้องสาวของเขาจริงๆ” “คุณจะพูดอะไรกันแน่?” “ก็พี่น้องที่ท้องติดกันยังไงคะ” โบกมือให้หล่อนและเปิดประตูเข้าไปในห้องของคุณจิณณ์ปล่อยให้เลขาของเขายืนอึ้งไปก่อนจะห้ามไม่ให้ฉันเข้าพบเขา ห้องทำงานของคุณจิณณ์ก็เหมือนกับทางเดินที่ฉันเพิ่งผ่านมาคือเป็นกระจกทั้งหมด “มาแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถามโดยไม่มองฉันที่กำลังสำรวจห้องทำงานที่ครบครันทุกอย่าง มีห้องนอนด้วยนะแอบเห็นมีเตียงราวกับว่าเขาไม่ค่อยกลับบ้านเพราะคงนอนที่นี่ล่ะมั้ง “ทำไมต้องถอดรองเท้า” “อ๋อ พอดีซ้อมเดินหลายชั่วโมง เจ็บเท้านิดหน่อยน่ะค่ะ” ตอบเขาพลางเดินไปหยุดตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่กั้นเราสองคนอยู่ ฉันทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้และตวัดขาไขว่ห้างมองเขาที่ปิดแฟ้มเอกสารที่เซ็นเป็นเล่มสุดท้าย “ให้ฉันมาที่นี่ทำไมเหรอคะ?” “กลับด้วยกัน” จริงด้วยรถของฉันเข้าศูนย์นี่นา “คนของฉันโทรมาบอกว่ารถเธอต้องอยู่ศูนย์ไปก่อน” “ค่ะ” “ฉันต้องมาทำงานที่โรงแรม เธอจะมากับฉันก็ได้” พอเขาบอกแบบนี้ฉันก็อมยิ้มพยักหน้ารับเป็นการตกลง ก่อนจะวางรองเท้าบนพื้นและลุกขึ้นเดินอ้อมไปนั่งตักเขาโดยที่ไม่ได้ผลักไสฉัน “ทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีให้พ่อกับแม่เราสบายใจใช่ไหมคะ?” ถึงเขากับคุณจิจะไม่ค่อยคุยกันหรือมีปัญหาเรื่องอะไรฉันไม่รู้ แต่ฉันเชื่อว่าเขาคงอยากทำให้พ่อตัวเองสบายใจเหมือนกับฉันนั่นแหละ อย่างน้อยการอยู่ในด้วยกันมันจะดีมากถ้าเราสองคนได้ทำในสิ่งที่พ่อกับแม่ของเราต้องการ “ทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่แสนดีให้กับน้องสาว ไม่รู้สึกว่ามันขนลุกไปหน่อยเหรอ” คุณจิณณ์ไม่ตอบอะไรเขากลับกระตุกยิ้มพลางเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตฉันโดยทันที ซึ่งฉันก็ไม่ห้ามหรอกนะได้แต่มองเขาที่สอดมือหนาเข้าไปกอบกุมทรวงอกฉันผ่านบราเซียสีดำลูกไม้ดันทรง “เธอไม่อยากรื้อฟื้นความหลังกับฉันสักหน่อยเหรอไนล์” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “หรือลืมไปแล้วว่าฉันเด็ดแค่ไหน” ใครจะไปลืมลงกันล่ะ... เอาดุ เอาเถื่อนแบบเขาจำไปจนตายเลย! “ไม่อยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้หรือไง?” “ฐานะอะไรคะ เพราะหลังจากนี้มันไม่ใช่แค่วันไนท์ฯ แน่” ใช่ เพราะเราสองคนอยู่ในสถานะไหนเขาและฉันต่างรู้ดี เราจะมานอนกันแค่คืนเดียวหรือนอนกับคนแปลกหน้ามันไม่ได้ เราสองคนน่ะรู้จักกันในแบบที่พ่อกับแม่ของเราสองคนต้องการจะให้มันเป็นต่างหาก “แค่เซ็กซ์” คำตอบของเขาทำให้ฉันเห็นด้วยนิดหน่อยนะ “ติดใจฉันสินะคะ” “เธอเองก็ด้วย” ฉันยิ้มขำพลางโอบแขนกอดลำคอแกร่งและโน้มใบหน้าจรดจูบลงบนแก้มสาก “ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ” จริงด้วย ทำไมต้องคิดอะไรเยอะล่ะ “เราสองคนนอนด้วยกันในวันที่เราต้องการ สำหรับฉันต้องการตลอด” หื่นมาก! “ถ้าพ่อกับแม่รู้ล่ะคะ?” “ก็ทำไม่ให้รู้สิ” เขาบีบเค้นทรวงอกฉันอย่างแรงจนนิ่วหน้า “ต่อหน้าก็เป็นพี่น้อง ลับหลังก็เอากัน” “...” “เธอไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร ฉันทำให้เธอตกลงได้” ฉันขยับใบหน้ามาสบตากับเขาพลางใช้กลีบปากของตัวเองเฉียดไปมาตรงริมฝีปากแดงคล้ำทำท่าจะจูบก็ไม่จูบ “ฉันเชื่อนะว่าเธอเองก็ติดใจฉัน จนเก็บไปฝัน” รู้ดีชะมัด! เขาอ่านใจฉันได้ปะหรือเข้ามาในฝันฉันด้วยตัวเอง “ฉันอยู่ตรงหน้าเธอแล้วไนล์ จะปล่อยฉันไปง่ายๆ เหรอ?” ขยับปากทีริมฝีปากก็โดนกันไปมาจนฉันกดจูบลงบนกลีบปากเขาอย่างแนบแน่น “แค่เอากันเองนะ ไม่มีความสัมพันธ์เชิงนั้นหรอก” “ก็ดีนะคะ” เห็นด้วยตรงที่ไม่มีความสัมพันธ์ที่มากกว่านั้น “อย่ามาหลงน้องสาวคนนี้ก่อนก็แล้วกัน” “หึ” เขาบีบปลายคางฉันด้วยมือเดียวจากนั้นก็บดขยี้จูบอย่างรุนแรงจนฉันอ้าปากให้เขาได้สอดเรียวลิ้นเข้ามาจนเราสองคนร้องครวญครางไปทั่วห้องทำงานของเขา บรรจงจูบอย่างดูดดื่มก่อนที่จะถอนจูบออกไปจนฉันหอบหายใจหนัก ขณะที่มือหนายังคงฟอนเฟ้นก้อนเนื้อของฉันอย่างรุนแรง “คุณจิณณ์คะ?” ประตูห้องเปิดขึ้นโดยเป็นเลขาสาวของเขา พอเห็นภาพตรงหน้าหล่อนก็ตกใจทันที ฉันแสยะยิ้มพลางแอ่นหน้าอกให้เขาจับโดยไม่อายสายตาของหล่อนเลยแม้แต่นิด คุณจิณณ์บีบเค้นพลางมองหล่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ทำไมไม่เคาะประตูก่อนเข้า” “ขอโทษด้วยค่ะ พอดีมีเอกสารต้องเซ็นด่วน” หล่อนเดินเข้ามาพลางแฟ้มเอกสาร “ฉันเซ็นเสร็จเดี๋ยวเรียกเอง” น้ำเสียงเข้มเอ็ดหล่อนเสียงดุ “แล้วก็อย่าเอาเรื่องนี้ไปพูด” “...” “ถ้ายังอยากอยู่ดี เข้าใจ?” หล่อนเม้มริมฝีปากตัวเองพลางพยักหน้ารับกับคำสั่งของเขา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปรู้สึกสะใจเหลือเกินที่เห็นภาพของเราสองคน คุณจิณณ์ใช้มือขวาเซ็นเอกสารโดยมือซ้ายก็ไม่ยอมปล่อยจากการบีบอกฉัน “หล่อนนอนกับคุณด้วยใช่ไหมคะ” “ใช่” ตอบทันที “แต่ตอนนี้ไม่ได้นอนแล้ว” “ทำไมเหรอคะ?” “ฉันนอนกับผู้หญิงแค่ไม่กี่ครั้งก็เบื่อ” อ้าว แล้วแบบนี้จะเบื่อฉันปะเนี่ย แต่ก็ช่างเถอะ เราสองคนอยู่ที่โรงแรมของเขาแบบล้วงลับตับแตก มีแต่เขานั่นแหละที่เอาแต่ล้วงฉันเล้าโลมฉันอยู่ตลอด จนต้องบอกว่ากลับบ้านได้สักทีเพราะนี้ก็ค่ำแล้วด้วยพ่อของเขากับแม่ฉันจะรอมันจะไม่ดีสักเท่าไหร่ คุณจิณณ์ขับรถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้านฉันก็ลงจากรถเขาด้วยเท้าเปล่า อาจจะต้องทายาสักหน่อยคงจะดีขึ้นเพราะใกล้ถึงงานสำคัญแล้วด้วยฉันไม่อยากให้ตัวเองต้องเจ็บตัวหรือเป็นอะไรไปจนทำให้เกิดข่าวไม่ดีในทางลบทั้งที่ปีที่แล้วก็มีข่าวเสียหายเรื่องไปดักตบยัยมุกกับคิง กว่าจะพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะมีแฟนคลับคอยสนับสนุนเนี่ยนะ ไม่เห็นด้วยที่ฉันถูกแย่งแฟนก็ช่างมันเถอะ แย่งคนเหี้ยๆ ไปจากชีวิต ชีวิตของฉันจะได้ดีขึ้นแล้วมันก็จริงนะ “ทำไมกลับมาพร้อมกันล่ะเนี่ยพี่น้องคู่นี้” “พอดีรถของไนล์เสียตั้งแต่เมื่อเช้าน่ะค่ะ คุณจิณณ์ก็เลยอาสาไปรับไปส่งที่โรงแรม” ฉันตอบคุณจิที่เอ่ยถามพลางยิ้มหน้าบานที่เห็นเราสองคนเข้ากันได้ดีและไปไหนมาไหนกัน “ไนล์ ทำไมเท้าลูกเป็นแบบนั้นล่ะ?” “วันนี้ซ้อมเดินหนักไปหน่อยค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะ ทายาเดี๋ยวก็หาย” บอกแม่ที่มีสีหน้ากังวลขณะเอาถ้วยแกงวางบนโต๊ะและเดินมาหาฉันพลางย่อตัวลงลูบไล้ฝ่าเท้าจนฉันประคองท่านให้ลุกขึ้นยืน “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร” “ไนล์โอเคค่ะ” “ช่วงที่รถน้องเสีย แกก็ไปรับไปส่งน้องทีแล้วกันนะจิณณ์” คุณจิเอ่ยถามคุณจิณณ์ที่เดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเราสองคน “พ่อไม่ได้บังคับนะ แล้วแต่แกเลย” “อืม” อาหารบนโต๊ะที่แม่ลงมือทำเองมีแต่ของอร่อยๆ ทั้งนั้น บางอย่างแม่ก็ทำให้คุณจิณณ์ด้วยนะ ดูเหมือนแม่พยายามเอาใจเขาอย่างมากมันก็คงจะจริงนั่นแหละ แม้ว่าเขาจะตอบตกลงให้พ่อของเขาคบกับแม่ฉัน ใช่ว่าเขาจะชอบแม่ฉันไปด้วยนี่นา การแสดงออกของเขาแม้ว่าจะไม่ค่อยสบอารมณ์แต่ก็ไม่เคยทำให้แม่ฉันต้องรู้สึกไม่ดีเลยนะ ฉันลอบมองใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งกินข้าวด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนที่ฉันจะคิดอะไรแพลงๆ ขึ้นมาได้ ฝ่าเท้าของฉันเลื่อนไปหยุดตรงหน้าของเขาพลางลากไล้มันขึ้นลงจนคนตรงหน้าชะงักมือกำลังตักกับข้าว เขามองฉันที่ทำหน้าเหมือนคนไม่รู้เรื่องทั้งที่ยังคงใช้ปลายเท้าเลื่อนขึ้นไปหยุดตรงเป้ากางเกงของเขา “ถ้าน้องเดินแบบที่โรงแรม แกก็แวะไปดูน้องหน่อยสิจิณณ์” “ครับ” เขาตอบพ่อตัวเองที่มองลูกชายด้วยสีหน้ามึนงง “แกเป็นอะไร? ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “เปล่าครับ” นิ่งมาก... ขนาดโดนฉันยั่วยังคงเฉยได้ เขาเนี่ยแนบเนียนจริงๆ นะ “พ่อดีใจนะที่จิณณ์กับหนูไนล์เริ่มทำความรู้จักกันบ้างแล้ว” ฉันฉีกยิ้มให้กับคุณจิและแม่ที่บ้านหลังนี้มีแต่ผู้ชายซึ่งเป็นพ่อกับลูกที่ไม่ค่อยลงรอยกัน เวลานี้บนโต๊ะอาหารกับเต็มไปด้วยความสุขซึ่งไม่รู้ว่าคุณจิณณ์ต้องการมันหรือเปล่า แต่โดยปกติเขาจะกลับบ้านดึกไม่ค่อยอยู่ร่วมโต๊ะอาหารด้วย ตั้งแต่ฉันย้ายมาอยู่เขาก็มาร่วมโต๊ะอาหารตลอด อาจจะเพราะช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งล่ะมั้ง “ไหนๆ ก็อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน เป็นพี่น้องกันแล้วก็ดูแลกันและกันให้ดีที่สุดนะ” “ค่ะคุณจิ” ตอบรับด้วยน้ำเสียงสดใส “ไนล์จะดูแล ‘เอา’ ใจใส่พี่ชายที่แสนดีคนนี้เอง” *---------------------------------------*
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม