EP5 :
“ขอโทษนะครับที่ผมไปห้องน้ำเสียนานเลย พอดีท้องเสียน่ะครับ” นายตำรวจยศใหญ่ผู้ร่วมโต๊ะกับจาคอฟกล่าวขอโทษขอโพยเมื่อกลับมาถึง
“ตามสบายเลยครับ ผมดื่มคนเดียวได้”
“ให้ผมเรียกน้องๆ มานั่งดื่มเป็นเพื่อนไหมครับ”
จาคอฟส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เขาต้องการดื่มมากกว่า ดื่มให้สาสมกับความอกหักที่กำลังเล่นงานอยู่
ฝันหวานกับแบรนเดอร์มีครอบครัวที่มีความสุขกันไปแล้ว ซึ่งเขาก็ดีใจกับหญิงสาวด้วย แม้ว่าลึกๆ ในอกจะเจ็บปวดเพราะแอบรักฝันหวานอยู่ก็ตาม
“ผมอยากดื่มอย่างเดียวครับ”
“แต่น้องๆ ที่นี่สวยสะเด็ดเลยนะครับ” สุรศักดิ์นำเสนอ เพราะต้องการให้จาคอฟช่วยซื้อที่ดินที่ตนเองเป็นนายหน้าอยู่ เพราะหากจาคอฟตอบตกลง เขาจะได้ค่านายหน้าหลายสิบล้านเลยทีเดียว
“ที่ผมเคยเจอ สวยกว่านี้เยอะแยะครับ” จาคอฟจ้องหน้าสุรศักดิ์เมื่อตอบออกมา
“อ๋อ งั้นก็แล้วแต่คุณเจคเลยครับ”
สุรศักดิ์ยิ้มบางๆ มองผู้ชายรูปหล่อตรงหน้าที่ดื่มเอาดื่มเอาอย่างหมั่นไส้ นี่ถ้าไม่ใช่ลูกค้า เขาคงไม่เสียเวลามาเทคแคร์แบบนี้หรอก
จาคอฟนั่งดื่มไปเรื่อยๆ แก้วแล้วแก้วเล่าจนเมามาย สุรศักดิ์จึงกระซิบถามอีกครั้ง
“คุณเจค... สนใจผู้หญิงขึ้นมาหรือยังครับ”
ดวงตาสีเขียวมรกตของจาคอฟที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ตวัดขึ้นมองหน้าคนถาม เขาอมยิ้มน้อยๆ
“คุณสุรศักดิ์นี่ก็แปลกนะครับ คะยั้นคะยอให้ผมลากอีตัวที่นี่ขึ้นเตียงตลอดเลย”
“ผมก็แค่อยากให้คุณเจคมีความสุขนะครับ”
จาคอฟหัวเราะเมามาย “ผมไม่ชอบนอนกับอีตัว น่าขยะแขยง ดีไม่ดีติดโรคเปล่าๆ”
“ผมให้เจ้นุชคัดอย่างดีให้กับคุณเจคเลยครับ รับรองว่าสดๆ ซิงๆ แน่นอน”
จาคอฟมองหน้าคู่สนทนาแล้วหัวเราะเยาะ “อีตัวที่ไหนจะซิง คุณก็พูดน่าตลกนะคุณสุรศักดิ์”
“แต่ที่นี่มีครับ แค่คุณเจคบอกมาคำเดียว ผมจะจัดให้โดยด่วน รับรองเลยว่า เด็ดดวงแน่นอนครับ”
ยิ่งฟังคู่สนทนาอวดอ้างสรรพคุณของอีตัวที่นี่ จาคอฟก็ยิ่งขบขัน แต่เพราะแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเพิ่มปริมาณขึ้นมาก ทำให้เขารู้สึกต้องการปลดปล่อยขึ้นมา
“งั้นก็จัดมาเลย ผมกำลังอยาก”
“ผมรอฟังคำนี้จากคุณเจคมานานแล้ว งั้นเดี๋ยวผมไปจัดการให้นะครับ” ใบหน้าของสุรศักดิ์เบ่งบานด้วยความยินดีปรีดา เขารีบลุกขึ้นทันที
จาคอฟระบายยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของคู่สนทนา
“ไม่ต้องรีบครับ ผมรอได้”
“ครับๆ เดี๋ยวผมมาครับ”
แล้วคู่สนทนาก็รีบถลาออกไปจากห้องรับรองหรู จาคอฟเอนกายใหญ่โตพิงกับพนักโซฟานุ่ม มือใหญ่เอื้อมไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาเทลงคอจนเกลี้ยง
บางทีการได้ปลดปล่อยเซ็กซ์กับอีตัวสักคนหนึ่ง อาจจะทำให้เขาลืมเรื่องอกหักไปเลยก็ได้ จาคอฟยิ้มเยาะที่มุมปาก ขณะกระดกเหล้าลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า
“เจ้นุช เด็กที่ผมให้เตรียมเอาไว้อยู่ไหน คุณเจคอยากได้แล้ว”
สุรศักดิ์รีบถามเจ้าของซ่องทันที
เจ้นุชยิ้มกว้าง ก่อนจะปรายตามองไปยังร่างของร้อยแก้วที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“นั่นไงล่ะ เด็กคนนั้นน่ะ”
สุรศักดิ์มองตามไป พร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ตา และโวยวายกับเจ้นุชซุ่มเสียงไม่พอใจ
“เด็กคนนั้นเนี้ยนะ!”
“ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ สดมาก ไม่เคยรับแขกมาก่อนเลยค่ะ”
สุรศักดิ์ยกมือขึ้นลูบต้นคอของตนเองอย่างโมโห “ก็หน้าตาอัปลักษณ์แบบนั้น แขกที่ไหนจะเอาลง นี่ผมให้คุณเตรียมนางฟ้าเอาไว้ให้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเอาคนขี้เหร่แบบนี้มาให้ผม หรือว่าอยากจะลองดีกับผม เจ้นุช”
“ท่านใจเย็นๆ ก่อนสิคะ”
“จะให้ผมใจเย็นได้ยังไง ในเมื่อคุณเตรียมเด็กหน้าตายังกับผีเอาไว้ให้ผมน่ะ” สุรศักดิ์ยังโวยวายไม่หยุด
“นั่นเพราะเด็กคนนั้นยังไม่ยอมถอดรูปเงาะยังไงล่ะคะ”
“รูปเงาะบ้าบออะไรของเจ้ นี่ไปหาเด็กมาใหม่เลยนะ ถ้าเอานังนี่เข้าไปให้คุณเจคนะ มีหวังคุณเจคเปลี่ยนใจไม่ซื้อที่ดินที่ผมเสนอขายอย่างแน่นอน”
“ท่านเข้าไปรอในห้องรับรองนะคะ แล้วไม่เกินสิบนาที ฉันจะพานางฟ้าแสนบริสุทธิ์ไปรอลูกค้าของท่านบนเตียงค่ะ”
“นี่ผมจะเชื่อใจเจ้ได้ใช่ไหมเนี่ย”
“เชื่อได้สิคะ รับรองว่าทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี และลูกค้าของท่านต้องชอบเด็กของเจ้แน่นอนค่ะ”
คำยืนยันหนักแน่นจากเจ้าของซ่องที่คร่ำหวอดในธุรกิจน้ำกามมานานหลายสิบปีทำให้สุรศักดิ์ยอมเชื่อใจ
“โอเค แต่อย่าทำให้งานผมพังล่ะ ไม่อย่างนั้นผมเล่นงานเจ้เละแน่”
“ไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ มีแต่ท่านจะต้องให้ทิปเจ้ต่างหาก”
“ให้มันจริงเถอะ”
สุรศักดิ์ยังไม่ไว้ใจนัก แต่ก็ไม่มีทางเลือก จำต้องเดินกลับไปยังห้องรับรองที่จาคอฟรออยู่
เมื่อคู่สนทนาเดินจากไปแล้ว เจ้นุชก็ส่งสัญญาณให้กับมาริสาเพื่อให้ทำตามแผนการที่นัดแนะเอาไว้
“แก้ว... มานี่หน่อยสิ”
ร้อยแก้วที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่รีบเดินมาหามาริสา
“พี่สามีอะไรจะให้แก้วทำเหรอคะ”
มาริสาระบายยิ้ม ก่อนจะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มให้กับเด็กสาวตรงหน้า
“เดี๋ยวพี่จะให้แก้วเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ห้องพักชั้นสามนะ”
ห้องพักชั้นสาม หล่อนรู้ดีว่ามันคือห้องที่ลูกค้าใช้บรรเลงสวาทกับพนักงานเสิร์ฟที่ถูกใจ ดังนั้นหล่อนจึงหน้าซีดเผือด และส่ายหน้าไปมา
“แก้ว... แก้วไม่อยากไปเลยค่ะพี่สา”
“แค่เอาไปให้เฉยๆ แล้วก็กลับห้องไปเลย ไม่ต้องเข้ามาในนี้แล้ว”
ร้อยแก้วหูผึ่งเมื่อได้ยินว่ากำลังจะได้เลิกงานที่ตนเองไม่พิสมัยจะทำนี้แล้ว
“แก้วไม่ต้องกลับมาเสิร์ฟแล้วเหรอคะ”
“ใช่”
มาริสาเห็นร้อยแก้วฉีกยิ้มอย่างดีใจก็อดสงสารไม่ได้ แต่มันเป็นคำสั่งที่หล่อนต้องทำ
“อ้าวนี่ ดื่มน้ำสักหน่อย ตั้งแต่เข้ามาช่วยเสิร์ฟ แก้วยังไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรเลยนี่”
แก้วน้ำส้มถูกเลื่อนมาตรงหน้าของร้อยแก้ว “เอ่อ... เอาไว้แก้วไปดื่มที่ห้องก็ได้ค่ะ ยังไงก็จะเลิกงานอยู่แล้ว”
“พี่ชงให้แล้ว อย่าให้เสียของสิ ดื่มไปเถอะ”
ร้อยแก้วเกรงใจจึงต้องยื่นมือไปจับแก้วน้ำส้มเย็นๆ ที่มาริสาส่งมาให้อย่างไม่มีทางเลือก
“ขอบคุณค่ะพี่สา”
“ไม่เป็นไร ดื่มสิ เอาให้หมดแก้วเลยนะ พี่ตั้งใจชงเลย”
“เอ่อ... ค่ะพี่สา”
แก้วน้ำส้มตรงหน้าถูกหล่อนเทหายเข้าไปในลำคอจนหมดทุกหยด และก็อดที่จะแลบลิ้นออกมาเลียขอบปากไม่ได้
“อร่อยล่ะสิ” มาริสาเอ่ยถาม
“ใช่ค่ะ อร่อยมากค่ะ ขอบคุณพี่สานะคะ”
“ไม่เป็นไร เอานี่ ไปเสิร์ฟที่ห้องพักแขกชั้นสามนะ”
ถาดเครื่องดื่มที่มีขวดเหล้าและเหยือกน้ำแข็งถูกเลื่อนมาตรงหน้าของหล่อน
“เอ่อ... แล้วห้องไหนคะพี่สา”
“ห้องที่เปิดประตูไว้น่ะ”
“ค่ะ...”
หล่อนตอบรับสั้นๆ ขณะประคองถาดใส่เครื่องดื่มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“งั้นแก้วไปนะคะ”
“ขอให้โชคดีนะแก้ว”
หล่อนยิ้มให้กับคำอวยพรของมาริสา ขณะประคองถาดใส่อ้อมแขนเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
แค่เอาเครื่องดื่มนี้ไปเสิร์ฟ หล่อนก็จะได้กลับห้องพักแล้ว และพรุ่งนี้มิ่งหล้าก็จะพาหล่อนออกไปจากที่นี่ ชีวิตที่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงของหล่อนกำลังจะจบลงแล้ว
“สู้ๆ ร้อยแก้ว... อีกอึดใจเดียวเอง”
หญิงสาวยิ้มให้กำลังใจตัวเอง ขณะก้าวขึ้นบันไดไปทีละขึ้น เพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องพักชั้นสามตามคำสั่งของมาริสา
ขณะที่ร้อยแก้วเดินหายไปแล้วนั้น เจ้นุชก็รีบเดินเข้ามาหามาริสา และถามถึงแผนการ
“นังแก้วมันดื่มหมดแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะเจ้”
“แล้วยาที่ลื้อใส่ไปน่ะอีกนานไหมว่ามันจะออกฤทธิ์” เจ้นุชยังคงกังวลใจ
“น่าจะออกฤทธิ์ตอนที่น้องแก้วขึ้นไปถึงห้องนั้นพอดีแหละค่ะ”
เจ้นุชระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหันไปสั่งบัวคำที่ตนเองเรียกมาใช้งานในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
“ค่ะเจ้” บัวคำถูกกวักมือเรียกก็รีบเดินเข้ามาหา
“ลื้อตามนังแก้วขึ้นไปชั้นสามนะ แล้วก็ทำตามที่อั๊วสั่งเอาไว้ ทำให้เร็วๆ ด้วยล่ะ ก่อนแขกจะขึ้นไป”
“ได้ค่ะเจ้”
“งั้นก็รีบขึ้นไปได้แล้ว เร็วเข้า”
บัวคำตอบรับก่อนจะรีบวิ่งไปทำตามคำสั่งของเจ้นุชอย่างรวดเร็ว
มาริสาถอนใจออกมา ก่อนจะพูดขึ้นกับเจ้นุช “ฉันรู้สึกไม่ดีเลยเจ้ สงสารน้องแก้วน่ะ”
“อั๊วก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้สักหน่อย แต่อั๊วจำเป็น ลื้อก็รู้นี่ ช่างๆ มันเถอะ ยังไงนังแก้วมันก็อยู่ในซ่องของอั๊วมานาน มันก็ต้องตอบแทนบุญคุณอั๊วบ้าง”
มาริสาถอนใจออกมาแผ่วเบา และก็ไม่อาจจะโต้แย้งอะไรเจ้นุชได้อีก ทำได้แค่เพียงภาวนาให้ร้อยแก้วไม่ตายคามือลูกค้าเท่านั้น