ตอนที่ 4

1420 คำ
EP4 :   ร้อยแก้วก้มลงมองชุดเดรสรัดรูปสีแดงเพลิงที่เจ้นุชให้บัวคำนำมาให้ใส่ที่ห้องด้วยความไม่สบายใจ หล่อนไม่เคยใส่ชุดแบบนี้มาก่อน ทำให้รู้สึกประหม่าอย่างที่สุด             มือเล็กยกขึ้นขยับแว่นตาหนาบนใบหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อกฤษดาเดินเข้ามาหา             “มายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะนังแก้ว นู่น เข้าไปช่วยกันเสิร์ฟอาหารข้างใน”             ร้อยแก้วที่ยืนอยู่ด้านนอกยิ้มหน้าเจื่อน “น้ากฤษจ๊ะ ฉันขอเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหมจ๊ะ คือชุดนี้มัน...”             “นี่มันชุดฟอร์มของพนักงานเสิร์ฟ จะเปลี่ยนได้ยังไงกันล่ะ นู่นเห็นไหม ทุกคนเขาก็ใส่กันทั้งนั้นแหละ” กฤษดาพูดขึ้นอย่างรำคาญ พลางมองหน้าของร้อยแก้ว             “แล้วแว่นตาน่ะ ไม่ใส่จะได้ไหม มันดูเกะกะมาก”             “เอ่อ... ถ้าไม่ใส่แก้วมองไม่เห็นจ้ะ”             หล่อนเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของกฤษดา แต่ไม่นานมันก็จางหายไป             “ก็ตามใจ งั้นรีบตามเข้ามาล่ะ แขกมานานแล้ว”             “จ้ะ”             ร่างของกฤษดาเดินหายเข้าไปภายในส่วนที่จัดเป็นที่รับรองลูกค้าแล้ว แต่ร้อยแก้วยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ ซึ่งเรื่องที่ทำให้เป็นกังวลก็หนีไม่พ้นชุดที่สวมใส่นั่นเอง             “นังแก้ว... ยืนเซ่ออยู่ได้ เข้ามาสิ” กฤษดาโผล่หน้าออกมาเรียกอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ร้อยแก้วต้องสลัดทุกความทุกข์ทิ้งไปชั่วคราว             “จ้ะ น้ากฤษ”             หล่อนรีบก้าวเท้าเข้าไปภายในส่วนที่จัดเอาไว้รับลูกค้ากระเป๋าหนัก สาวๆ ในชุดแบบเดียวกับหล่อนเดินยกถาดอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มกันกวัดไกว หล่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟ             “น้าสาคะ เจ้ให้แก้วมาช่วย... เสิร์ฟแทนพี่น้ำฝนค่ะ”             มาริสาที่กำลังยืนสั่งงานสาวเสิร์ฟคนอื่นอยู่หันกลับมามองหล่อนและอมยิ้ม             “เธอไปเสิร์ฟห้องสิบ ไปได้แล้ว”             “ค่ะ หัวหน้า” แล้วสาวเสิร์ฟคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้าหล่อนก็เดินจากไป มาริสาจึงหันมาคุยกับหล่อนแทน “หุ่นดีเหมือนกันนี่ร้อยแก้ว” สายตาของมาริสาที่ตวัดมองเรือนร่างของหล่อนตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ทำให้หล่อนรู้สึกอับอายไม่น้อย “เอ่อ...” “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ฉันได้รับคำสั่งมาจากเจ้นุชแล้ว เดี๋ยวเธอไปเอาเครื่องดื่มตรงนู้นนะ เอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้าห้องเก้า” ร้อยแก้วมองตามนิ้วเรียวของมาริสาไป ก็พบว่ามีเครื่องดื่มถูกเตรียมใส่ถาดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว “แค่เสิร์ฟใช่ไหมคะ น้าสา” “ใช่ เสร็จแล้วก็ออกมาหาฉันที่นี่” หญิงสาวลอบเป่าปากอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบเดินไปอุ้มถาดเครื่องดื่มขึ้นไว้ในอ้อมแขน “งั้นเดี๋ยวแก้วมาค่ะ” “เดินดีๆ ล่ะ อย่าซุ่มซ่ามทำถาดร่วง เข้าใจไหม” “ค่ะ น้าสา” หล่อนเดินจากมาก่อน จึงไม่ทันได้เห็นสายตาที่มีเลศนัยของคู่สนทนา “ห้องเก้า... มันห้องไหนนะ” เพราะไม่เคยย่างกายเข้ามาในส่วนนี้มาก่อน ทำให้ร้อยแก้วไม่ชำนาญทางนัก หล่อนเดินมองเลขห้องอยู่ตั้งนาน แต่ก็ยังหาห้องเป้าหมายไม่พบ “พี่คะ ห้องเก้าอยู่ตรงไหนคะ” สาวเสิร์ฟที่หล่อนเอ่ยถามหยุดเดิน และมองหน้าหล่อนแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “หน้าตาอัปลักษณ์แบบนี้ เจ้เอามาเป็นเด็กเสิร์ฟได้ยังไงกันเนี่ย” ร้อยแก้วทำได้แค่ฝืนยิ้มให้กับคำดูแคลนของผู้หญิงสวยตรงหน้าเท่านั้น “เอ่อ... รบกวนพี่คนสวยบอกทางไปห้องเก้าให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” พอถูกเรียกว่าพี่คนสวย คู่สนทนาก็อมยิ้มออกมา และก็พูดกับหล่อนดีขึ้น “ห้องเก้าคือห้องวีไอพี อยู่ชั้นสองนู่น ขอบใจนะที่เรียกฉันว่าพี่คนสวย” “ขอบคุณค่ะพี่คนสวย” “เธอนี่มันปากหวานขัดกับหน้าตาจริงๆ” ร้อยแก้วฝืนยิ้มและรอจนกว่าคู่สนทนาเดินจากไป หล่อนจึงเดินตรงไปที่บันได เพื่อขึ้นไปชั้นสอง ใช้เวลาเพียงไม่นาน หล่อนมาหยุดที่หน้าห้องหมายเลขเก้า ซึ่งเป็นห้องรับรองแขกห้องเดียวที่อยู่บนชั้นนี้ หล่อนมองบานประตูไม้อย่างลังเล ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู “ขออนุญาตเสิร์ฟเครื่องดื่มค่ะ” “เข้ามา” เมื่อมีเสียงอนุญาตดังออกมาจากคนภายในห้องรับรอง มือเล็กสั่นเทาจึงค่อยๆ ดันบานประตูเข้าไปด้านใน บรรยากาศภายในห้องรับรองหรูค่อนข้างสลัว และมีเสียงเพลงสากลเปิดคลอแผ่วเบาพอฟังได้ยิน บนโต๊ะกระจกเตี้ยหน้าโซฟาตัวยาวมีแก้วเครื่องดื่มที่ผ่านการดื่มแล้วอยู่สองสามแก้ว “วางไว้ตรงนั้นแหละ แล้วก็ออกไปได้แล้ว” ผู้ชายตัวใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีออกทึมๆ ออกปากไล่ทันทีที่หล่อนวางแก้วเครื่องดื่มบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว หล่อนควรจะออกไปจากที่นี่ แต่สายตาไม่รักดีกลับจ้องเป๋งไปที่เขาคนนั้น แม้จะมองผ่านความสลัวไม่ชัดเจนนัก แต่พลังอำนาจแห่งเพศชายกลับรุนแรงจนหล่อนตื่นตกใจ ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้เลนส์แว่นหนาเบิกกว้าง กลีบปากอวบอิ่มเผยอ ดวงใจสาวเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลมหายใจก็ติดแหง็กอยู่แค่ลำคอทันที เมื่อดวงตาคมกริบของเขาตวัดจ้องมา เสมือนพื้นใต้ร่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กายสาวปั่นป่วนราวกับมีพายุร้ายซ่อนตัวอยู่ พลังอำนาจของผู้ชายที่ไม่เคยประสบพบหน้ามาก่อนคนนี้ช่างรุนแรงต่อหล่อนนัก มันทำลายล้างกำแพงที่เพียรพยายามสร้างเอาไว้ป้องกันบุรุษเพศให้พังทลายลงยับเยิน ไม่... นี่มันอะไรกัน ทำไม... ทำไมหล่อนถึงได้รู้สึกหวั่นไหวรุนแรงกับผู้ชายคนนี้นัก และทำไม... ทำไมต้องตัวสั่น มือสั่น และหัวใจสั่นด้วย เพราะอะไรกัน ร้อยแก้วเม้มปากอิ่มแน่น พยายามบังคับตัวเองให้ลุกขึ้น และก้าวออกไปจากห้องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเสน่ห์ของเขาจะสะกดหล่อนเอาไว้อย่างแน่นหนา หล่อนขยับตัวไม่ได้ แม้แต่จะหายใจยังทำได้ยากเย็นเลย “มองฉันทำไมนัก ไม่เคยเห็นคนดื่มเหล้าหรือไง” จนกระทั่งถูกน้ำเสียงหงุดหงิดของผู้ชายตรงหน้าซัดเข้าใส่นั่นแหละ หล่อนถึงได้สติ “เอ่อ... ดิฉัน... ขอตัวค่ะ” “ก็ไปสิ แล้วไม่ต้องเข้ามารบกวนฉันอีกนะ” “ค่ะ...” หล่อนตอบรับ พร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นยืน แต่เพราะเสน่ห์ล้างผลาญของผู้ชายตรงหน้า เรี่ยวแรงจางหายทำให้หล่อนเซถลาและล้มใส่ตัวของเขา “อ๊ะ...” ตักของผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก หน้าอกของเขาก็กว้างเมื่อหล่อนซบหน้าลงไป อ้อมแขนทรงพลังในเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่พับขึ้นมาถึงข้อศอกก็เต็มไปด้วยเรี่ยวแรง เขาตวัดรวบร่างของหล่อนเอาไว้ตามสัญชาตญาณ “ขะ.. ขอโทษค่ะ” ดวงตาของเขาเป็นสีเขียวมรกต หรืออาจจะเป็นสีอื่นก็เป็นได้ เพราะแสงสว่างภายในห้องนี้มีไม่เพียงพอ ร้อยแก้วหอบหายใจระรัวจนหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตเกินโตกระเพื่อม ริมฝีปากแห้งปาก เมื่อไม่อาจจะแกะสายตาของตนเองออกจากใบหน้าหล่อราวกับเทพบุตรของลูกค้าหนุ่มได้ “ไม่ต้องมาอ่อย คืนนี้ฉันไม่ต้องการผู้หญิง” แล้วเขาก็ผลักหล่อนออกห่างด้วยกิริยารังเกียจ และนั่นก็ทำให้แก้มนวลของหล่อนแดงก่ำด้วยความอับอาย “ดิฉัน... ไม่ได้อ่อยค่ะ แต่ดิฉันล้มจริงๆ” เขามองหล่อน และยิ้มหยัน “ลูกไม้แบบนี้ของผู้หญิงแบบพวกเธอ ฉันเจอะเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นไม่ต้องแก้ตัว” “แต่ดิฉัน... ไม่ได้แก้ตัวนะคะ” “ออกไปให้พ้น ฉันจะดื่มเหล้า” และบุรุษผู้มีใบหน้าหล่อราวกับเทพบุตรก็ไม่คิดจะมองมาที่หล่อนอีกเลย เขาก้มหน้าก้มตาดื่มแอลกอฮอล์บนโต๊ะอย่างเอาเป็นเอาตาย หล่อนจำต้องปลีกตัวออกมาเงียบๆ ก่อนจะหยุดยืนพิงกับบานประตูไม้เพื่อทำจิตใจของตัวเองให้สงบ “ทำไมหัวใจเราถึงเต้นแรงแบบนี้นะ” มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง และสองพวงแก้มนวลยังคงแดงระเรื่อ  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม