มือเธอปัดเปะไปโดนอะไรบางอย่างคล้ายผ้าเนื้อนิ่มๆ ที่ท่อนกายส่วนล่างของเขา เธอก็แอบเปิดตาดูนิดหน่อยก็เห็นว่าโชคยังดีที่เขาใส่บอกเซอร์บางๆ ตัวเดียวติดตัวอยู่ก็ถอนหายใจโล่งอกก่อนจะลืมตามาต่อสู้กับเขาได้เต็มตา
เธอกลิ้งตัวหนีร่างสูงที่ล้มตัวลงมาทับได้อย่างหวุดหวิดแต่ความเร็วของเธอก็ไม่เร็วพอที่จะหนีแขนที่ตวัดมา เขาจึงคว้าตัวเธอเข้าไปในอ้อมกอดได้ เมื่อร่างทั้งสองแนบชิดกันสนิทไออุ่นจากเขาก็แผ่ซ่านเข้าสู่ตัวเธอให้หายทรมานกับความเย็น อมาวดีหยุดนิ่งไปชั่วขณะเพราะรู้สึกอุ่นอุ่นทั้งกายและหัวใจ
ร่างกายที่สั่นเทาของเธอจึงค่อยคลายสงบนิ่งลงไป...
“เพราะกลัวว่าคุณจะหนาวตายหรอกนะ ไม่อย่างนั้นไม่กอดให้เสียมือหรอก คนอะไรมีแต่กระดูก หน้าอกก็แบนราบติดซี่โครงจนไม่รู้สึกว่ามี” ถ้อยคำพึมพำของเขาทำให้เธอชะงัก อมาวดีครางฮึ่มก่อนจะดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขาสุดแรงเกิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อเขาเกี่ยวเธอไว้ด้วยขาทั้งสองข้างแม้แต่แขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกใช้กักกันเธอไว้
“ปล่อยนะ อย่ามาแตะฉัน ไอ้คนบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” อมาวดีทั้งกัดทั้งจิกทั้งตีเขาแต่ก็เหมือนว่ามันไม่ได้สะกิดให้เขาระคายผิวแม้แต่น้อย
ภาคินพลิกตัวมานอนทาบทับเธอไว้ร่างใหญ่นั่นกดร่างกายเธอไว้แทบบี้แบนทำให้เธอขยับกายไปทางไหนก็ไม่ได้เลย...
“ดิ้นอีกสิ ดิ้นแรงๆ ผมชอบ”
“ชอบบ้าอะไรล่ะ ไอ้คนซาดิสม์ชอบรังแกชาวบ้าน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“ก็ชอบให้ดิ้นมากๆ น่ะสิจะได้ปลุกปั่นอารมณ์ผมให้หื่นขึ้นมาพอที่จะปล้ำคุณให้หายแค้นได้ ดิ้นอีกสิอมาวดี อา... ดีชะมัด” เสียงบอกเหมือนกับคนบ้ากามเข้าขั้นโรคจิตของเขาทำให้อมาวดีหยุดดิ้นนอนทำหน้าแหยๆ ภายใต้ร่างกึ่งเปลือยของเขาอัตโนมัติ
“อ้าวเลิกดิ้นทำไม กำลังดีเลยนะ”
“ไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ แมวตัวไหนกันที่บอกว่ารังเกียจจนไม่อยากแตะ แล้วมากอดฉันอย่างนี้ทำไม นึกพิศวาสฉันขึ้นมาหรือไง” เธอพยายามพูดยั่วให้เขาโกรธจะได้ออกจากตัวเธอไปไกลๆ
แต่ภาคินกลับหัวเราะไม่นำพา... ก่อนจะตอกกลับมาให้เธอหน้าหงายเถียงแทบไม่ออก
“แล้วหมา เอ๊ย แมวตัวไหนล่ะที่บอกว่ารังเกียจเตียงผมแต่ก็แอบย่องขึ้นมาหน้าไม่อาย ผมถือว่าคุณให้ท่าก่อนผมเลยตอบสนองให้แล้วยังไม่พอใจเหรอ หรืออยากได้มากกว่านี้ ผมจัดให้” เขาบอกก่อนจะซุกไซร้ใบหน้าลงไปที่ซอกคอของเธออย่างรวดเร็วราวงูฉก เขาสูดดมเอาความหอมหวานพร้อมกับมือที่ไต่ไปตามร่างกายเธอจนทั่ว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนอมาวดีตั้งตัวไม่ทัน
“กรี๊ดดด ปล่อยฉะ... ฉะ ฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้คนไม่รักษาคำพูด กรี๊ดดด” อมาวดีร้องลั่น ถ้อยคำที่ด่าทอเขานั้นติดๆ ขัดๆ เพราะเธอมัวแต่เบี่ยงซอกคอหนีใบหน้าที่ซุกไซร้อยู่และเสียจังหวะการพูดเพราะความรู้สึกจั๊กจี๋แปลกๆ ที่พุ่งวาบเข้ามา เธอจะหายหนาวตายก็จริงแต่เขากำลังจะทำให้เธอใจขาดตายแทน
“หยุดเดี๋ยวนี้ กรี๊ดอยู่ได้ คนฟังหูจะแตกแล้ว” เขาดุเธอเสียงดังลั่น แต่อมาวดีไม่เคยยอมฟังเขาอยู่แล้ว เธอทำอย่างที่เคยบอกเขาไว้ก่อนนอนแล้วว่าถ้าเขาจะเข้ามาแตะต้องตัวเธอเขาต้องเจออะไรบ้าง มือเล็กๆ ตบเขาจนหน้าหงาย ยิ่งมือเขาเลื้อยลามมาที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญของลูกผู้หญิงทั้งส่วนบนและล่างเธอก็กรีดเสียงแหลมให้เขาแก้วหูพังกันไปข้าง
“โว้ยยย... ผมทนไม่ไหวกับเสียงสิบแปดหลอดของคุณแล้วนะ” เขาลุกขึ้นนั่งคร่อมเธอแล้วเอามืออุดปากเธอไว้ อมาวดีดิ้นหนักกว่าเดิม เสียงกรี๊ดของเธอหายไปในลำคอเพราะมันออกมาสู่ภายนอกไม่ได้ เธอทำได้เพียงพยายามฟาดขาและแขนตัวเองประทุษร้ายเขาให้ได้มากที่สุด
เขาเห็นว่าเขามีกำลังมากกว่าแล้วจะมาข่มเหงเธอ แต่เธอก็ขอสู้ใจขาดดิ้น
“โอ๊ย... แม่คุณ ผมเจ็บนะเตะมาได้ไง พ่อแม่ไม่เคยสั่งสอนหรือไงว่าอย่ายกขาใส่ผู้ชาย ยิ่งเป็นผัวยิ่งต้องเคารพ” เขาร้องลั่นแข่งเธอแต่อมาวดีก็ยังไม่ยอมแพ้
“โอย... บอกกันแล้วไม่ฟังอย่างนี้ก็เตรียมตัวรับกรรมได้เลย”
ภาคินถอยลงมานั่งขัดสมาธิกับพื้นเตียงนิ่งๆ ก่อนจะคว้าคนที่ตัวเล็กกว่ามากอย่างอมาวดีมานอนพาดตัก แม้ว่าเธอจะดิ้นหนีเพียงใดเขาก็ใช้ความแข็งแรงของร่างกายที่มีเหนือกว่ายึดร่างเธอไว้กับตักเขาไว้ได้
“บอกไม่เชื่อสอนไม่ฟังนักใช่มั้ย” เขาฟาดฝ่ามือมาที่ก้นของเธอเสียงดังเพี๊ยะ... เขาไม่ได้ออมมือแม้แต่น้อยความเจ็บปวดจึงบังเกิดขึ้นอย่างมหาศาล อมาวดีกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที
“ยังอีก ยังกรี๊ดอีก เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ากรี๊ด รำคาญ” ภาคินลงฝ่ามือเป็นครั้งที่สองโดยไม่ออมแรงเช่นเคยเพราะเขาทั้งอยากสั่งสอนทั้งเข่นเขี้ยวอยากบีบคนแสนดื้อที่ดิ้นสุดแรงอยู่บนตักเขาให้แหลกคามือ
“ไอ้บ้า ไอ้เลว แกทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ไอ้หน้าตัวเมียรังแกผู้หญิง ไปเอากระโปรงแม่แกมาสวมไป๊” เพราะความเจ็บปวดทำให้อมาวดีด่าเขาไม่ยั้งทั้งด่าไปสะอื้นไห้ไป... เธออยากทำร้ายเขาตอบกลับแต่ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงสาดคำพูดร้อนแรงใส่ ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะมันทำให้ภาคินเลือดขึ้นหน้าจนหน้าร้อนไปหมด
“ปากเสีย... อย่างนี้มันต้องเอาให้เข็ด” ฝ่ามือหนาของเขาฟาดไม่ยั้ง เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อดังลั่นห้องพร้อมกับเสียงกรี๊ดร้องเสียงร่ำไห้ของคนโดนกระทำ
“คราวนี้จะยอมมั้ย จะดื้ออีกรึเปล่า” เขาฟาดฝ่ามือไปด่าไปจนนับแทบไม่ทันว่าฟาดไปกี่ครั้งแล้ว
“แกจะฆ่าฉันหรือไงไอ้เลว ตีมาได้ไงแรงอย่างนี้ ปล่อยฉันนะฉันจะฟ้องพ่อฉัน จะฟ้องพี่ฉันให้จับแกเข้าคุกหัวโต ฮือๆ”
“คงจะมีใครช่วยคุณได้หรอกนะ ในเมื่อคุณก้าวลงนรกนี้มาเอง”
“นรกอย่างแกน่ะสิไอ้นรก หยุดตีฉันนะไอ้บ้า”
“ยังไม่ยอมอีกใช่มั้ย จะพูดไม่เพราะอย่างนี้อีกมั้ย” เขาฟาดต่ออีกจนคนที่นอนสะอื้นไห้อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้นหยุดดิ้นรน
“ฉะ... ฉันยอมแล้ว ฮือๆ ไอ้บ้า อือๆ...” อมาวดีตะเกียกตะกายลงจากตักเขาพร้อมทั้งร้องสะอื้นตัวสั่นตัวโยน เขาเห็นว่าเธอทำท่าจะสิ้นฤทธิ์แล้วจึงไม่จัดการเอาโทษเธอซ้ำอีกที่เธอยังปากเก่งเรียกเขาว่าไอ้บ้าอยู่
“พระ พรุ่งนี้ฉันจะไม่นอนห้องเฮ็งซวยกับกะ แก” ภาคินทำท่าเงื้อมมือขู่จะฟาดเธออีก อมาวดีรีบถอยกรูดหนีเปลี่ยนคำพูดใหม่ทันที
“ฉันจะไม่นอนห้องนี้กับคุณพรุ่งนี้ฉะ ฉัน... ฮือๆ จะหากุญแจให้ได้... หะ หาไม่ได้ฉันก็จะงัดห้อง ไม่นอนห้องนี้อีกเด็ดขาดฮือๆ ”
เธอพูดไปสะอื้นไปจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์
“ไม่ได้... ต่อจากนี้ไปคุณต้องนอนห้องเดียวกับผมแล้วก็ต้องเชื่อฟังผม ถ้ายังดื้ออีกก็จะโดนแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย”
“มะ ไม่นะ ฉันไม่เอาฉันไม่นอนห้องเดียวกับคนบ้าๆ อย่างคุณหรอก” เธอส่ายหัวเผลอลูบตรงตำแหน่งที่ถูกลงโทษอย่างเผลอตัว
“ว่ายังไงนะอมาวดี” เขาคำรามเสียงน่ากลัว อมาวดีถอยกรูดจนแทบตกเตียง เขาคว้าเธอเข้ามาใกล้อีกครั้ง คราวนี้อมาวดีร้องวี้ดผลักเขาหนีอย่างเสียขวัญ
“อย่า อย่านะ ฉันกลัวแล้ว ฉันนอนห้องนี้ก็ได้” อมาวดีร้องบอกเสียงหลง ภาคินซ่อนรอยยิ้มพึงใจไว้ใต้ใบหน้าดุของเขา
เขาว่าอยู่แล้วว่าอมาวดีจะดื้อได้สักกี่น้ำกันเชียว...
“ดี ว่านอนสอนง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักน่าไว้ชีวิตหน่อย” เขาวางร่างที่ยังดิ้นไม่หยุดนั้นลง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้มิดคอแล้วคลุมเเน่นจนหญิงสาวไอแค่กๆ
“นอนซะ จำไว้ว่าอย่าดื้อกับผม ไม่อย่างนั้นผมจะขังคุณไว้ที่เกาะนี้เพื่อดัดสันดานตลอดไปไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยเชียว”
ไม่มีเอาการตอบรับใดๆ นอกจากเปลือกตาที่ชื้นไปด้วยน้ำตาหลับลงอย่างเสียขวัญ อาการสะอื้นตัวโยนนั้นยังคงอยู่ไม่หายไปง่ายๆ ภาคินเพิ่มแอร์ขึ้นเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะแล้วขยับเข้าไปใกล้เธอแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ คว้าคนที่นอนกลั้นสะอื้นอยู่มากอดไว้ จนคนที่กำลังจะบังคับให้ตัวเองหลับต้องร้องฮือออกมา
“ชู่ส์ บอกแล้วไงว่าให้เงียบๆ เดี๋ยวโดนอีกหรอก นอนซะ” เขาบอกน้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับที่เพิ่งตะโกนด่าทอเธอเมื่อครู่นัก อมาวดีจึงค่อยหยุดดิ้นหนี
เธอจ้องดวงตาของเขาไม่เห็นแววอาฆาตมาดร้ายฉายออกมาจึงยอมหลับตาลงใหม่ไม่ดิ้นจากอ้อมกอดเขาอีก เพราะเธอเหนื่อย... เธอเจ็บเกินกว่าจะทัดทานเขาแล้วในวันนี้
ภาคินกระชับร่างบางมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะหลับตาหลง.... แต่เขาก็ยังไม่วายบ่นให้อมาวดีได้คันหัวใจอีกครั้ง
“กว่าจะนอนได้แต่ละทีต้องใช้แรงตั้งเยอะ ถ้าอยู่กับคุณครบเดือนสงสัยกล้ามขึ้นโดยไม่ต้องเล่นฟิตเนสแหงๆ ”